บัญชามังกรเดือด - บทที่ 984 ตีกระหน่ำซ้ำเติมหมาที่ตกน้ำ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 984 ตีกระหน่ำซ้ำเติมหมาที่ตกน้ำ
หลิวชิงไม่กล้าลังเลอีกต่อไป เธอกัดฟันแล้วกระโดดตามลงไปในแม่น้ำ
เธอว่ายน้ำไม่เป็น พอเพิ่งลงไปก็จมอย่างรวดเร็วจึงต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุดด้วยความตกใจ ทำให้สำลักน้ำไปหลายที
“โครม!”
ซูเหวินเฉิงว่ายน้ำเข้ามาข้างๆเธอจับคอเธอไว้ แล้วดึงเธอขึ้นมาจากใต้น้ำอย่างสบายๆ
“แค่กๆ แค่กๆๆ”
ความรู้สึกจมน้ำหายไป หลิวชิงกอดซูเหวินเฉิงด้วยความตกใจ
เพื่ออยากจะหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอัตโนมัติิ แต่กลับไอสำลักอย่างรุนแรง
“ไม่ต้องกลัว คุณปลอดภัยแล้ว”
ซูเหวินเฉิงปลอบหลิวชิงเบาๆแล้วว่ายพาเธอไปยังฝั่งที่อยู่ตรงข้าม
หลิวชิงที่ยังตกใจไม่หายหันหน้าไปอัตโนมัติิ ก็เห็นว่ากวงโถวกำลังพาพวกนักเลงหลายคนก้มตัวเก็บก้อนหินก้อนเล็กๆจากบนพื้น
“แย่แล้ว รีบไปเร็ว พวกเขาคิดจะโยนหินกระแทกใส่เรา”
หลิวชิงรีบเตือนซูเหวินเฉิง เธอรีบจนเสียงเปลี่ยน
ซูเหวินเฉิงก็ตกใจ ไอ้พวกนี้ทำไมถึงเลวขนาดนี้!
เขาเร่งความเร็ว แกว่งข้อมืออย่างไว ในใจอยากจะว่ายพาหลิวชิงไปยังที่ที่ปลอดภัย
“จ๊อม! จ๊อม!”
หินก้อนเล็กที่ยุ่งเหยิงทยอยกระทบกับผิวน้ำ
บนฝั่งกวงโถวกับพวกลูกน้องหัวเราะกันตัวโก่ง “555 นี่เรียกว่าอะไรนะ? นี่เรียกว่าตีกระหน่ำซ้ำเติมหมาที่ตกน้ำไง!”
“เมื่อคืนข้าเตือนพวกแกแล้วว่าให้รีบไสหัวไป แต่กลับมองข้ามความหวังดี ตอนนี้เป็นไงล่ะโดนพวกข้าไล่ไปอย่างกับหมา ในใจรู้สึกชอบมากล่ะสิ?”
“ใช่ๆ กล้าไม่ฟังที่พี่กวงพูด ระวังจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้นะ!”
“ไอ้หมาตาถั่ว ไสหัวไป วิ่งหนีเหมือนกับหมาจรจัดไร้บ้าน อย่ามาเหยียบเมืองไพ่อีก!”
เสียงหัวเราะเยาะนี้ทำให้หลิวชิงสั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอตบผิวน้ำด้วยความโกรธ “รอก่อนเถอะ ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปง่ายๆแน่!”
“ความอัปยศที่ได้รับที่เมืองไพ่ในวันนี้ ฉันจะชดใช้คืนสองเท่า!”
“โอ้ว สาวน้อยคนนี้ร้อนแรงไม่เบา 555”
“พูดได้อวดดีมาก มีความสามารถก็อย่าหนีสิ อยู่ฝึกกับพวกพี่ก่อนสิจ๊ะ จะได้รู้ว่าอะไรคือศักยภาพ”
“สาวน้อย ก็อย่าหนีไปกับไอ้หนุ่มหน้าขาวสิ!”
ถ้อยคำที่หยาบคายทำให้หลิวชิงกัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธ เธอเดินทางไปทั่วมาหลายปี นับได้ว่าเคยเจอผู้คนมากมายในโลกนี้
มีเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกอัปยศสุดๆ
เมืองไพ่ ดี เธอจำไว้แล้ว!
รอตอนที่เธอกลับมา พวกสวะต่ำต้อยพวกนี้จะต้องมาคุกเข่าร้องขอชีวิตจากเธอ!
อย่าคิดจะหนีได้แม้แต่คนเดียว!
ซูเหวินเฉิงพาหลิวชิงว่ายไปถึงฝั่งในที่สุด
พวกเขาไม่กล้าหยุดอยู่อีกต่อไป รีบวิ่งไปยังตึกหลังเล็กที่ถูกไฟไหม้
พูดให้ถูกก็คือ เศษซากตึกตรงหน้า
เถ้าถ่านลอยอยู่รอบๆ สามารถมองเห็นก้อนอิฐที่พังทลายลงได้ทั่วไป
ดูรกระเกะระกะทั่วทุกหนแห่ง
ตึกสามชั้นมูลค่านับล้านถูกเผาหมดทั้งหลัง
“ไปเถอะ ไอ้สารเลวนั่นไล่ตามเราอีกแล้ว!”
ซูเหวินเฉิงลากหลิวชิงขึ้นรถ กัดฟันด่าด้วยความโกรธ “ไอ้พวกสัตว์นรก กระจกรถเราก็ถูกทุบแตกหมดแล้ว!”
“ฮวงจุ้ยหมุนสลับสับเปลี่ยนกัน รอเรากลับมาครั้งหน้า ข้าจะทำให้พวกมันคุกเข่าลงเลียใต้พื้นของเท้าของฉัน!”
ทั้งสองออกจากเมืองไพ่อย่างจนใจเช่นนี้
ในที่สุดในตอนกลางคืนก็รีบกลับไปถึงอุทยานมังกร
ฉินเทียนฟังซูเหวินเฉิงพูดอย่างเงียบๆอยู่นาน ระหว่างนั้นก็เทน้ำให้หลายแก้ว
เขาไม่รู้ว่าทำไมซูเหวินเฉิงถึงกระหายน้ำขนาดนี้ อาจเป็นเพราะตอนอยู่เมืองไพ่เขาตกใจมาก ข่มกลั้นความโกรธมาตลอดทาง จึงทำให้ไฟตับลุกโชนขึ้นส่วนบน”
“นายกลับไปชงชาดอกสายน้ำผึ้งดื่ม ให้ไฟตับหาย จะได้ไม่กระหายน้ำมาก”
ฉินเทียนกำชับ จากนั้นถึงคิดได้ว่ายังไม่เจอหลิวชิงเลย “จริงสิ หลิวชิงอยู่ที่ไหน?”
“อ๋อ ระหว่างทางเธอง่วง จึงนอนอยู่ข้างหลัง ตอนนี้น่าจะตื่นแล้ว”
ทันทีที่ซูเหวินเฉิงพูดจบ หลิวชิงก็เข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้ว
แม้ว่าเธอจะนอนหลับอยู่บนรถ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอจัดการแต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว เธอยังคงเป็นสาวออฟฟิศที่ดูสวยเป๊ะเหมือนเดิม
เมื่อเห็นฉินเทียน จู่ๆขอบตาของหลิวชิงก็แดงขึ้นมา
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆที่ตอนอยู่เมืองไพ่เธอเจอเรื่องน่าใจหายใจคว่ำมากขนาดนั้น แต่กลับไม่หลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว
แต่เมื่อตอนนี้เห็นฉินเทียนกลับรู้สึกอัดอั้นสุดๆ
หลิวชิงเม้มริมฝีปากฝืนยิ้มออกมา แต่เธอไม่ได้เสแสร้ง
การพบเจอกับความยากลำบากในการทำงานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
“กลับมาแล้วเหรอ?” ฉินเทียนรินน้ำหนึ่งแก้วส่งให้หลิวชิง “การเดินทางไปเมืองไพ่ครั้งนี้ ลำบากพวกเธอแล้ว”
“ในเมื่อทางฝั่งนั้นขับไล่อย่างรุนแรง ก็ปล่อยไปก่อน ไว้เวลาผ่านไปแล้วค่อยว่ากันใหม่”
หลิวชิงมองฉินเทียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “ปล่อยไปก่อน? คุณรู้ไหมว่าเราต้องเตรียมการ พยายามกันมานานแค่ไหนเพื่อที่จะดีลกับเมืองไพ่!”
“ถูกต้อง พี่เขย เพื่อสายทางเมืองไพ่ เราลงเงินไปแล้วเป็นจำนวนมาก” ซูเหวินเฉิงพยักหน้าตาม “รู้ถอยเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ใช่สไตล์การทำงานของพี่นี่!”
“ก็แค่เจอพวกเจ้าถิ่นไม่กี่คนไม่ใช่เหรอ นั่นเป็นเพราะพวกเราเตรียมตัวไปไม่พร้อมพอ รอเมื่อเราเตรียมนักฆ่ากลับไปคราวนี้ ให้พวกมันต้องคุกเข่าลง เรียกพวกเราว่าเป็นบรรพบุรุษ!”
ระหว่างทางกลับ ซูเหวินเฉิงอัดอั้นไปด้วยความโกรธ
เดิมทีคิดว่าเมื่อกลับมาเอาเรื่องเมืองไพ่บอกฉินเทียน จะได้รับการสนับสนุนจากเขา นำคนไปฆ่า ทุบตีพวกสวะเหล่านั้นจนคุกเข่าร้องขอความเมตตา
ยังไงซะในตอนนั้นเขาเคยได้ลิ้มลองความเก่งกาจของฉินเทียน ต้องทนทรมานไม่น้อย
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าฉินเทียนกลับเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาปล่อยเรื่องเมืองไพ่ไป
นี่เป็นเรื่องที่สามารถปล่อยวางได้เหรอ?
ความอัปยศอดสูที่ได้รับ จะต้องจะต้องใช้กำปั้นและเลือดแลกกลับมา!
อารมณ์ของฉินเทียนกลับไม่เดือดพล่านเท่ากับพวกเขาสองคน ใบหน้ายังคงสงบอยู่ตลอด
“เรื่องธุรกิจก็ต้องมีขาดทุนได้กำไร เหตุผลที่พวกเขาขับไล่เราขนาดนั้นก็คือพวกเขาไม่ต้องการแบ่งกำไรให้เรา มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคน”
“ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ฉันกับซูซูเจอกันน้อยลงเรื่อยๆ ไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้กวนใจอีก”
“เรื่องทางเมืองไพ่ให้หยุดพักชั่วคราว รอในอนาคตมีโอกาสค่อยไปขยายตลาด”
“แม้ว่าสุดท้ายจะไม่สามารถเอาตลาดภาคเหนือมาได้ ก็จะไม่เสียดายเลย”
“ในชีวิตคนเรา เงินคือสิ่งลวงตาที่สุด มีเพียงการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวถึงจะเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด จ่ายเงินออกไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก”
“พวกเธอวิ่งเต้นกันตลอดทางก็น่าจะเหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
พูดจบฉินเทียนก็หันหลังเดินไปที่ห้องนอน
เมื่อกี้หลังจากฟังรายงานของซูเหวินเฉิงจบ ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะต้องรีบไปเมืองไพ่ในชั่วข้ามคืนเพื่อสอนบทเรียนที่เปื้อนเลือดให้กับคนเหล่านั้น
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือความปลอดภัยของแม่ลูกซูซู
บริษัทซูยู่เติบโตขึ้นจากโรงงานขนาดเล็กที่เดิมมีพนักงานไม่กี่ร้อยคน สู่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมยาทางการแพทย์ เครื่องสำอาง และอสังหาริมทรัพย์
อาศัยช่วงที่ซูซูกำลังพักฟื้นและเป็นช่วงที่ชีวิตจะได้พักผ่อนเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซี่ยหมิงที่อยู่ทางภาคเหนือ ผู้ซึ่งมีแค้นต้องชำระ โหดเหี้ยมร้ายกาจ ยากที่จะไม่สงสัยว่าพวกซูเหวินเฉิงจะตกเป็นเป้าหมาย ไม่ว่าเบื้องหลังจะมีคำสั่งของเซี่ยหมิงอยู่หรือไม่ก็ตาม
ฉินเทียนแค่ต้องการเฝ้าซูซูอยู่ใกล้ๆไม่ห่าง สำหรับเรื่องอื่นๆพักไว้ก่อนชั่วคราวละกัน
“พี่เขย! เลือดลูกผู้ชายของพี่ล่ะ?”
ซูเหวินเฉิงกระวนกระวาย วิ่งตามเขาตะโกนขึ้นมาว่า “พวกเราถูกรังแกขนาดนี้ จะให้ปล่อยไปแบบนี้เหรอ?”
หลิวชิงห้ามซูเหวินเฉิง บอกให้เขาไม่ต้องพูดอะไรอีก “เรื่องจุกจิกพวกนี้เขาคร้านที่จะสนใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือการดูแลประธานซูให้ดี”