CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน - บทที่ 1044 ดาวดวงใหม่ในเต๋าแห่งดาบ

  1. Home
  2. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน
  3. บทที่ 1044 ดาวดวงใหม่ในเต๋าแห่งดาบ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 1044 ดาวดวงใหม่ในเต๋าแห่งดาบ

บทที่ 1044 ดาวดวงใหม่ในเต๋าแห่งดาบ

แสงสว่างสีเงินจางหายไป เผยให้เห็นบุคคลที่ทั้งสง่าและงดงาม

เสื้อสีขาวรัดรูปผูกไว้ที่เอว กางเกงเข้ารูปสีดำตัดเย็บอย่างดี รองเท้าส้นสูงเงางาม เส้นผมสีทองหนาเป็นลอนเล็กน้อย ถูกม้วนเป็นมวยอยู่ด้านหลังศีรษะ เผยให้เห็นรูปลักษณ์งดงามและเย็นชา

ริมฝีปากของนางแดงและชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนขาวใส รูปร่างทรวดทรงเผยให้เห็นเสน่ห์อันน่าตกตะลึง แว่นตากรอบสีดำวางอยู่บนสันจมูกที่โด่งเล็กน้อย ทำให้ทั้งตัวของนางปล่อยกลิ่นอายแข็งแกร่งของราชินีผู้รอบรู้ สูงส่ง และภาคภูมิ

การแต่งกายที่ไม่มีใครเหมือนเช่นนี้

คนผู้นี้คือเหลียงปิงไม่ผิดแน่!

เฉินซีไม่คาดคิดว่าตนจะได้พบนางอีกครั้ง และไม่คิดว่าความช่วยเหลือจากสำนักศึกษาจตุรเทพที่เสวียนอวิ๋นกล่าวถึงจะเป็นเหลียงปิง

นี่… ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้!

เฉินซีถอนหายใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่ใช่แค่เฉินซีที่ประหลาดใจ แม้แต่เสวียนอวิ๋นก็ตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเหลียงปิง เขากล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “คุณหนูใหญ่ ไฉนท่านถึงมาอยู่ที่นี่!?”

เหลียงปิงกวาดสายตามองเสวียนอวิ๋น ก่อนจะมองไปทางเฉินซี รอยยิ้มพลันปรากฏบนมุมปากสีแดงของนาง “แน่นอนว่าย่อมเป็นเพราะเขา”

“เขา?”

เสวียนอวิ๋นมองไปเฉินซี และยังคงสับสน เรื่องนี้ยากที่จะเข้าใจเล็กน้อย

เฉินซีกลับเดาอะไรบางอย่างได้ราง ๆ เขาจึงก้าวไปข้างหน้า และยื่นมือออกไป “ไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีก”

แน่นอนว่าเขายื่นมือออกไปเพื่อจับมือกับนาง

เป็นมารยาทที่สร้างความประทับใจให้กับเฉินซี ยามได้พบเหลียงปิงครั้งแรก

เหลียงปิงตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเฉินซี “ข้ารีบมาทันทีที่ได้ข่าว ดูเหมือนข้าจะไม่ได้มาสายสินะ”

การจับมือของทั้งสอง ทำให้เสวียนอวิ๋นจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ราวกับได้เห็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวบางอย่าง

ในขณะเดียวกัน อู๋ซวินที่อยู่ใกล้เคียงก็ตกตะลึงเช่นกัน ประการแรก เป็นเพราะเหลียงปิงนั้นงดงามเกินไป ประกอบกับการแต่งกายเป็นเอกลักษณ์ที่ดูสูงส่งราวกับราชินี เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัว ภาพตรงหน้างดงามเกินไป ทำให้เขาไม่กล้ามองไปมากกว่านี้

ประการที่สอง เขาก็เหมือนกับเสวียนอวิ๋น ไม่คิดว่าเฉินซีจะดูคุ้นเคยกับหญิงงามคนนี้ ทั้งความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่เลวเลย…

“ที่แท้คุณหนูใหญ่ก็รู้จักกับคุณชายเฉินซีมาก่อน ไม่แปลกใจ ไม่แปลกใจเลย!”

เสวียนอวิ๋นฟื้นจากอาการตกใจ และถอนหายใจเบา ๆ สายตาที่มองเฉินซีเปลี่ยนไป อีกทั้งยังรู้สึกว่าเฉินซีคนนี้กำลังปิดบังอะไรบางอย่าง

อู๋ซวินเห็นด้วยกับความรู้สึกนี้อย่างมาก

เหลียงปิงไม่ได้ให้คำอธิบายใด ๆ และถามเฉินซีว่า “เหตุใดเจ้าถึงเป็นที่ต้องการตัวของราชันเซียนลิ่นฮ่าว?”

เฉินซีจึงเล่าทุกสิ่งที่ตนประสบหลังจากขึ้นสู่ภพเซียนทันที

คิ้วงามของเหลียงปิงเลิกขึ้น “ต้องมีคนขอให้ราชันเซียนลิ่นฮ่าวทำสิ่งนี้อย่างแน่นอน”

เฉินซีไหวไหล่ “ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อยู่ดี”

นี่เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา เนื่องจากมหาอำนาจที่สามารถทำให้ราชันเซียนทำเช่นนี้ได้ จะต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน และจากการวิเคราะห์ของเฉินซี มีความเป็นไปได้อยู่สองฝ่ายคือ หนึ่ง ตระกูลจั่วชิว และสองคือ กองกำลังที่กวาดล้างนิกายกระบี่เก้าเรืองรองในภพเซียน

แต่ไม่ว่าจะใคร เฉินซีก็ยังไม่สามารถต้านทานได้ในตอนนี้

เขาทำได้เพียงออกจากทวีปสันติบูรพา และมุ่งหน้าไปยังสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เพื่อหาโอกาสตั้งหลักในภพเซียน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้สถานการณ์ที่เผชิญอยู่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

โอม!

ทว่าพริบตาต่อมา คลื่นความผันผวนพลันก่อตัวขึ้นในอากาศ ก่อนที่ร่างผอมสูงจะเดินออกมาจากภายใน ร่างกายที่เต็มไปด้วยกฎแห่งเซียนทองคำอันร้ายกาจอย่างไม่มีใครเทียบได้!

คนผู้นี่คือชายหนุ่มที่มีใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาสีดำสนิท เขาสวมเสื้อผ้าสีดำและสะพายดาบสีดำสนิทไว้บนหลัง กลิ่นอายเย็นเยียบ ไม่แยแส และเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ราวกับไม่มีความรู้สึกใด ๆ

เขาก็ระงับกลิ่นอายของตน และยืนอยู่ข้างเหลียงปิงเงียบ ๆ

เฉินซีไม่กล้าเมินเฉยต่ออีกฝ่าย เพราะชายหนุ่มร่างสูงที่ไม่สนใจใครผู้นี้ จะต้องเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ผ่านการต่อสู้และการเข่นฆ่ามานับครั้งไม่ถ้วนอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนทองคำ!

“นี่คือเหลียงหลัว ผู้เยี่ยมยุทธ์ในเต๋าแห่งดาบจากตระกูลเหลียงของข้า” การแนะนำของเหลียงปิงนั้นเรียบง่ายมาก แต่เมื่ออู๋ซวินได้ยินเช่นนั้น เขาก็ร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว “เหลียงหลัว! นั่นไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ในอันดับที่แปดสิบเจ็ดในเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าเมื่อสิบปีก่อนหรอกหรือ? หลังจากบรรลุสู่ขอบเขตเซียนทองคำเมื่อห้าปีก่อน เขาได้ท้าทายวิหคอมตะหยก ว่านเจี้ยนเซิง หนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะพ่ายแพ้ แต่ก็พ่ายแพ้อย่างมีเกียรติ และเป็นหนึ่งในดาวดวงใหม่ในเต๋าแห่งดาบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

เฉินซีรู้สึกตกตะลึง เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มในชุดดำ ผู้มีเส้นผมสีดำและสะพายดาบสีดำสนิทผู้นี้ จะมีอดีตอันน่าตกใจเช่นนี้

สำหรับเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าที่อู๋ซวินกล่าวถึง ย่อมไม่ใช่เทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป ดังนั้นผู้ที่สามารถติดอันดับหนึ่งหมื่นอันดับแรกได้ ย่อมเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นยอดในภพเซียน

และการที่เหลียงหลัวสามารถอยู่ในอันดับที่แปดสิบเจ็ดของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าได้ตั้งแต่สิบปีก่อน แสดงให้เห็นว่า พรสวรรค์โดยกำเนิดและการบ่มเพาะที่เขามีนั้นน่ากลัวเพียงใด

นอกจากนี้ ทันทีที่บรรลุขอบเขตเซียนทองคำ เขาก็ไปท้าทายหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าผู้ยิ่งใหญ่ วิหคอมตะหยกอย่างว่านเจี้ยนเซิง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้เหมือนกัน

และทั้งหมดนี้ ทำให้เฉินเข้าใจเกี่ยวกับการจัดอันดับของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ตอนนี้ เขาอยู่ในอันดับที่หนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปของทวีปสันติบูรพาเท่านั้น แต่ภพเซียนมีถึงสี่พันเก้าร้อยทวีป อันดับของเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะติดหนึ่งหมื่นอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้า นับประสาอะไรกับหนึ่งร้อยอันดับแรก…

เหลียงหลัวยังคงเฉยเมยต่อเสียงชื่นชมของอู๋ซวินและการจ้องมองอย่างประหลาดใจของเฉินซี ชายหนุ่มทำเพียงยืนอยู่เคียงข้างเหลียงปิงอย่างเฉยเมย ราวกับก้อนน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย และดูเหมือนนอกจากดาบที่สะพายอยู่บนหลัง ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้เขาสั่นคลอนได้

เมื่อมีเหลียงปิงและเหลียงหลัวมาร่วมทางด้วย เสวียนอวิ๋นก็มีความมั่นใจในการพาเฉินซีออกจากทวีปสันติบูรพามากขึ้น พวกเขาไม่คิดเสียเวลาอีกต่อไป ทั้งหมดขึ้นนั่งบนรถม้าสมบัติสัมฤทธิ์ของเสวียนอวิ๋น แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองรัศมีวิญญาณ

ที่น่าสนใจคือ เหลียงปิงและเหลียงหลัวเพิ่งมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติในเมืองรัศมีวิญญาณ และรู้สถานการณ์ภายในเมืองรัศมีวิญญาณ

เป็นดังที่คาดไว้ สถานการณ์ในเมืองรัศมีวิญญาณตึงเครียดเป็นอย่างมาก ทหารองครักษ์จากตำหนักราชันเซียนมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณโดยรอบค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ ที่มีแม้กระทั่งเซียนทองคำคอยเฝ้าคุ้มกันอยู่

เห็นได้ชัดว่า หากเหลียงปิงและเหลียงหลัวไม่มาช่วยพวกเขาในครั้งนี้ อาศัยเพียงพลังของเสวียนอวิ๋นผู้เดียว แม้จะใช้ชื่อของสำนักศึกษาจตุรเทพ ก็ยากเกินจะจินตนาการผลลัพธ์ได้

…

ระหว่างทาง เฉินซีได้รู้จากการสนทนากันว่า สำนักศึกษาจตุรเทพที่ตั้งอยู่ในทวีปทักษิณานั้น แท้จริงแล้วถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งตระกูลเหลียง ตระกูลหลัว ตระกูลกู่ และตระกูลอิน ซึ่งก็คือจักรพรรดิตะวันออกไท่เจิน จักรพรรดิแห่งความมืดหยวนสวิน ราชินีวิหคอมตะอินเกอ และบรรพบุรุษอสูรหลัวซาง มันจึงดำรงมาจนถึงทุกวันนี้

ยามนี้ สำนักศึกษาจตุรเทพยังคงถูกควบคุมอย่างแน่นหนาโดยสี่ตระกูลเก่าแก่ ได้แก่ตระกูลเหลียง ตระกูลหลัว ตระกูลกู่ และตระกูลอิน นี่คือเหตุผลที่เหลียงปิงเดินทางมา หลังจากเสวียนอวิ๋นขอความช่วยเหลือจากสำนักศึกษาจตุรเทพ

“เจ้าตั้งใจจะไปที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าหรอกหรือ?” เหลียงปิงตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อได้ยินความต้องการของเฉินซี “เหลือเวลาอีกเพียงปีกว่า ก่อนที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าจะเริ่มรับศิษย์รุ่นใหม่ คุณสมบัติขั้นต่ำสำหรับการสมัครคือต้องอยู่ในหนึ่งพันอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้า”

เฉินซีพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ารู้ แต่ข้ายังมีเวลาอีกตั้งปีไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่าข้าทำได้”

เหลียงปิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจ เพราะนางรู้ว่าเฉินซีเป็นผู้สืบทอดจากเขาเทพพยากรณ์ หากกล้ากล่าวเช่นนี้ ย่อมมีความมั่นใจอย่างมาก

“แล้วเจ้ามีแผนการอะไร?” เหลียงปิงถาม

“แผนการหรือ?” เฉินซีชะงัก จากนั้นส่ายศีรษะ เขามีความคิดที่เรียบง่าย คือการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อขัดเกลาความแข็งแกร่งให้มากขึ้น ก่อนจะพุ่งเข้าสู่เทียบอันดับเซียนทะยานฟ้า นอกจากนั้นเขายังไม่ได้คิดจริง ๆ

“ข้ารู้แล้วว่าจะไปที่ไหนดี” เหลียงปิงกล่าว “ไว้เราค่อยมาพูดคุยถึงเรื่องนี้กันหลังจากออกจากทวีปสันติบูรพาเถอะ ข้าเชื่อว่าด้วยพลังฝีมือของเจ้า เจ้าจะสามารถไต่อันดับของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าได้อย่างรวดเร็วที่นั่น”

เฉินซีมองไปที่เหลียงปิงด้วยความประหลาดใจ และไม่กล่าวอะไรอีก

วันต่อมา

ไกลออกไป เมืองรัศมีวิญญาณปรากฏอยู่ในระยะสายตาของพวกเขา

เมืองอันเก่าแก่ ผนังสีเทาเข้มแต่งแต้มด้วยร่องรอยของกาลเวลา แผ่กลิ่นอายเคร่งขรึมและลึกล้ำออกมา

“ไปกันเถอะ” หลังจากจ้องมองเมืองครู่หนึ่ง เฉินซี เสวียนอวิ๋น และอู๋ซวินก็เดินเข้าไปในเมืองรัศมีวิญญาณ โดยมีเหลียงปิงและเหลียงหลัวเดินตามมาด้วย

ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในเมือง ความรู้สึกแรกที่เฉินซีสัมผัสได้ สามารถอธิบายได้ด้วยคำสองคำ… เย็นชาและอาฆาต!

แม้ว่าจะเป็นช่วงเช้าที่ควรจะวุ่นวายที่สุด ถนนกว้างทอดยาวไปทุกทิศทุกทางกลับเย็นยะเยือกและรกร้างว่างเปล่า นอกจากผู้คนที่เดินอยู่บนถนนไม่กี่คนแล้ว ก็มีเพียงกลุ่มทหารองครักษ์จากตำหนักราชันเซียนเท่านั้น ที่กำลังเดินลาดตระเวนอยู่ภายในเมือง

แม้แต่อากาศในฟ้าดินก็หนักอึ้ง และให้ความรู้สึกกดดันราวกับว่าพายุกำลังก่อตัว

“หยุดอยู่ตรงนั้น! จงแสดงตราเซียนของเจ้าซะ! ตำหนักราชันเซียนกำลังพยายามจับกุมคนร้าย ข้าหวังว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือ!” กลุ่มทหารองครักษ์พุ่งเข้ามาอย่างคุกคาม และล้อมกลุ่มของเฉินซีไว้

“ไปกันเถอะ” เหลียงปิงไม่แม้แต่จะเหลือบมองทหารองครักษ์เหล่านี้ นางสั่งเฉินซี แล้วหยิบกระสวยแสงเงิน ซึ่งเป็นสมบัติอมตะระดับจักรวาลออกมา มันแปรเปลี่ยนเป็นแสงดาวเย็นยะเยือกแผ่ขยายออกไปปกคลุมเฉินซี เสวียนอวิ๋นและอู๋ซวินไว้ข้างใน ก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าด้วยเสียงดังฟิ้ว

“บังอาจ!”

“พวกเจ้ารนหาที่ตายเสียแล้ว!”

“ฆ่าพวกมันซะ อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”

ทหารองครักษ์ทุกคนตกตะลึง ก่อนที่พวกเขาจะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว และพุ่งเข้าใส่หมายจะหยุดยั้งเหลียงปิง

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น ประกายดาบสีดำสนิทก็ปรากฏขึ้นฉับพลัน มันสะอาดหมดจดราวกับไม่เคยแปดเปื้อน อีกทั้งยังโปร่งแสงและไร้ที่ติเมื่อตวัดผ่าน

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

คลื่นเสียงอู้อี้ดังก้อง ในขณะที่ศีรษะเปื้อนเลือดจำนวนมากลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ศีรษะหลุดลอยขณะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทำให้ร่างไร้ศีรษะยังคงพุ่งไปทางเหลียงปิง พร้อมกับเลือดไหลทะลักออกจากคอที่ขาดสะบั้น เป็นฉากที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง

เป็นเพราะประกายดาบที่รวดเร็ว คมกริบ และไร้ความปรานี…

ยามนี้ เมืองรัศมีวิญญาณอยู่ในการควบคุมขององครักษ์ของตำหนักราชันเซียน และได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาโดยกองกำลังชั้นยอด แม้ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้

อึดใจต่อมา ทั้งเมืองรัศมีวิญญาณก็เหมือนตื่นจากนิทราอันเงียบงัน คลื่นเสียงโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดดังมาจากทุกทิศ!

“ศัตรูบุก! ศัตรูบุก!”

“พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ!”

“เร็วเข้า! รีบไปแจ้งใต้เท้าเซียนทองคำเร็วเข้า!”

ทันใดนั้น เสียงเซ็งแซ่ดังก้องสะท้อนไปทั่วท้องฟ้าเหนือเมืองโบราณแห่งนี้ สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

—————————————

ตอนก่อน
ตอนต่อไป
  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์