บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน - บทที่ 555 ห้าศิษย์ชั้นสูง
บทที่ 555 ห้าศิษย์ชั้นสูง
เพียะ! เพียะ!
เสียงตบสองครั้งดังก้อง ส่งร่างตู้กวนกระเด็นไปอีกครั้ง เขากระอักเลือดออกมา ใบหน้ายิ่งบวมเป่ง ผมเผ้าหลุดรุ่ย เผยท่าทางน่าสมเพชออกมา
ทุกคนอึ้งไปเพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีจังหวะแสดงปฏิกิริยาสักนิด ทำให้จะยื่นมือเข้าช่วยก็สายไปเสียแล้ว
อีกทั้งพวกเขายังไม่คิดว่าตู้กวนจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีแค่ครั้งเดียวได้ แม้แต่แรงจะโต้กลับก็ยังไม่มี พอถูกเฉินซีโจมตีแล้ว ตู้กวนก็เหมือนกับลูกข่างถูกตบจนหมุนติ้ว เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อสายตาสักนิด
ตู้กวนโกรธถึงขีดสุด เขาเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติขั้นสมบูรณ์ผู้งามสง่า และเป็นลูกหลานตระกูลอีกาวิญญาณผู้มีฐานะสูงส่ง แต่กลับถูกทุบตีติดต่อกันเช่นนี้หรือ? หากข่าวแพร่ออกไป คงทำให้เขาอับอายจนตายได้ทีเดียว!
ตู้ม!
กลิ่นอายดุดันพลันระเบิดออกจากร่าง เกิดเป็นหมอกสีเข้มพุ่งออกมา ก่อนจะกลายเป็นอีกานัยน์ตาสีแดง ปีกดำของมันเป็นดั่งคมกระบี่ มีกรงเล็บสีเงินวาว มันส่งเสียงร้องและปลดปล่อยคลื่นเสียงซึ่งมีแรงปะทะเหมือนสว่าน สะเทือนจนปวดหู สะท้านไปถึงวิญญาณ
นี่คือกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าของตระกูลอีกาวิญญาณ วิชาอีกากลืนวิญญาณ เมื่อฝึกวิชานี้จนถึงขั้นสูงสุด ก็จะสามารถเรียกเซียนอีกาวิญญาณที่มีพลังสะท้านฟ้าสะเทือนดินออกมาได้ เป็นที่หวาดกลัวของผู้อื่น น่ากลัวจนถึงที่สุด
แม้ว่าเขาจะยังบ่มเพาะวิชาไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ยังน่ากลัวมากอยู่ดี อีกาวิญญาณกระพือปีกไปมา ส่งเสียงแหลมบาดหูอยู่รอบกาย หมอกดำม้วนตัวพุ่งออกมาจากปีกพวกมัน ทำให้เขาดูราวกับเป็นเทพอสูร
“ศิษย์พี่ตู้โกรธเข้าให้แล้ว เจ้าเด็กนี่ไม่รอดแน่!” คนอื่นได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ สีหน้าดูตื่นเต้นอีกครั้ง
พวกเขารู้ดีว่าวิชาอีกากลืนวิญญาณคือไพ่ตายของตู้กวน และก็เพราะวิชานี้ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้มากฝีมือในหมู่พวกเขา!!
“ไอ้หนู! แกมันก็แค่เด็กใหม่ แต่กลับไม่รู้จักเคารพทั้งยังล่วงเกินผู้อาวุโสกว่า ในฐานะศิษย์พี่ของเจ้า ข้าจะต้องแก้นิสัยนี้ให้เจ้าเชื่อฟังเสียบ้าง!” ตู้กวนเปล่งเสียงเฉียบขาด ขณะปลดปล่อยกลิ่นอายอำมหิตออกมา
“ดูท่าศิษย์พี่ตู้ยังอยากโดนตบเรียกสติอีกหน่อย สภาพจิตใจเช่นนี้ไม่ดีต่อการบ่มเพาะพลังเอาเสียเลย”
ฟึ่บ!
จังหวะที่ตู้กวนเพิ่งจะพูดจบ เฉินซีก็มาปรากฏกายอยู่ด้านข้างอย่างไร้สุ้มเสียง จากนั้นก็ยื่นมือขวาเข้ามาพร้อมกับส่งพลังทำลายล้าง เข้าทำลายวิชาอีกากลืนวิญญาณของอีกฝ่ายสิ้น ทำให้ฝูงอีการ้องครวญ ก่อนจะสลายกลายเป็นก้อนหมอกดำ
จากนั้นเขาก็สะบัดมือขวาจนเกิดเป็นเสียงดัง ‘เพียะ’ ขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่ทั้งน้ำตาและเลือดจะพุ่งออกมาจากจมูก ตา และปากของตู้กวน ใบหน้ากลายเป็นบวมเป่งดั่งก้อนกลม
ทว่าครั้งนี้เขาไม่ได้กระเด็นไป เป็นเพราะเฉินซีคว้าเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่นแล้วยกร่างขึ้นมา
“ศิษย์พี่ตู้ เวลาถูกทุบตีมีเรื่องหนึ่งที่ต้องใส่ใจยิ่ง คือถูกทุบตีแล้วต้องเลิกหยิ่ง เลิกเกียจคร้าน เลิกผยอง และเลิกทำนิสัยเลวร้ายอย่างอื่นที่ท่านทำอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ศิษย์พี่ตู้รู้สึกอย่างไรบ้าง? อยากให้ตบอีกหรือไม่?” เฉินซีถามพร้อมกับยิ้มเหี้ยม
“รู้หรือไม่ว่าทำเช่นนี้หมายถึงกำลังรนหาที่ตาย!? รีบปล่อยข้าเสีย ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไร้ที่ยืนในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองแน่!” ตู้กวนโกรธจนแทบคลั่งเมื่ออีกฝ่ายย้อนคำของเขามาใช้สอนเสียเอง จึงคำรามลั่นออกมา
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
รอยยิ้มบนหน้าเฉินซีไม่ได้เลือนหายไปสักนิด ในขณะที่ชายหนุ่มส่งแรงตบกระทบใบหน้าของเป้าหมาย ทำให้เกิดเสียงตบดังก้องครั้งแล้วครั้งเล่า แรงกระแทกดุดันปะทะใส่ใบหน้าของตู้กวนจนเลือดกระเซ็นไปทั่ว ใบหน้าหันซ้ายทีขวาทีเหมือนกลองป๋องแป๋ง
คนอื่น ๆ ที่เห็นดังนั้นก็อึ้งไป พากันอ้าปากค้างเผยสีหน้าหวาดกลัว พวกเขาเริ่มสั่นกลัวไปทั่วร่าง
ด้วยฐานะศิษย์ชั้นสูงแห่งยอดเขาจรัสตะวันออกในอดีต หากย่างกรายไปที่ใดผู้คนก็ให้ความนับถือ ไม่ต้องกล่าวถึงการรังแกศิษย์ใหม่ แม้จะเป็นศิษย์พี่ก็ทำได้แค่ขุ่นเคืองใจเท่านั้น ไม่กล้าเอ่ยคำใด ทำให้พวกเขามีนิสัยเย่อหยิ่งจองหอง ไม่เห็นหัวใคร
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าครั้งนี้ยอดเขาจรัสตะวันตกรับศิษย์ใหม่เข้ามา จึงพากันมาหมายประกาศศักดาให้เป็นที่ประจักษ์ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดภาพเช่นนี้ขึ้น!
ดันสร้างเรื่องเกินจะรับมือเสียแล้ว!
แม้พวกเขาจะเย่อหยิ่ง แต่ก็ชาญฉลาด มองปราดเดียวก็รู้ว่าเฉินซีไม่ใช่ ‘ลูกพลับนิ่ม’ ที่คิดจะบีบเล่นอย่างไรก็ทำได้
กลับกันแล้ว อีกฝ่ายยังมีท่าทีเย่อหยิ่งดุดันกว่าพวกเขาเสียอีก ยามลงมือตบหน้าตู้กวนก็ไม่ยั้งแรง นับเป็นตัวตนสูงส่งโดยแท้!
“ศิษย์พี่ตู้รู้สึกอย่างไรบ้างเล่า?” เฉินซีถามพลางยิ้มอีกครา
คนอื่น ๆ อดสั่นไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น สหายผู้นี้เป็นดั่งปีศาจที่ฆ่าคนตาไม่กะพริบก็มิปาน!
ในขณะเดียวกันนั้น ตู้กวนก็ถูกตบจนหน้าบวมเป่งไปหมด ความคิดขุ่นมัวสับสน ท่าทางดูน่าสมเพชเป็นยิ่งนัก เขาพยายามอย่างหนักเพื่อลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพร้อมกับคำรามเสียงแหบต่ำออกมาว่า “ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ไม่มีวัน…”
นัยน์ตาของเฉินซีเยือกเย็นลงทันที จิตสังหารพุ่งออกมาจากภายใน แต่หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ยับยั้งมันเอาไว้ ที่นี่คือนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง การสังหารอีกฝ่ายอาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขา แต่ก็อาจนำปัญหาใหญ่มาให้ได้ คิดดูแล้วได้ไม่คุ้มเสีย
“ศิษย์น้องเฉิน ข้าว่าเรา… ปล่อยไปเช่นนี้จะดีกว่าหรือไม่?” ชิงอวี่เอ่ยเสียงเบาขึ้นมาจากด้านข้าง เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำเอาเขาตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์น้องจะดุร้ายปานนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยำเกรงอีกฝ่าย
“ช่างเถอะ ในฐานะที่ข้านับถือศิษย์น้องชิงอวี่ วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน วันหลังค่อย ‘ประมือ’ กับศิษย์พี่ตู้ในภายหลัง หลังจากท่านพักฟื้นจนร่างกายหายดีแล้ว” เฉินซียิ้มบาง จากนั้นก็โยนร่างของตู้กวนทิ้งดั่งขยะชิ้นหนึ่ง โดยไม่ชายตามามองอีก
ศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกทั้งหลายได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขารีบพุ่งเข้าไปประคองตู้กวน และหมายจะเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน หากพวกเจ้ากล้าไปก็อย่าโทษข้าที่เป็นศิษย์น้องผู้นี้ว่าโหดร้ายไร้ความปรานีก็แล้วกัน!” เสียงของเฉินซีดังไล่หลังมา ทำเอาใจผู้ฟังบีบรัดแน่น นี่เป็นคำพูดของพวกเขาก่อนหน้านี้ ไม่คิดว่าจะถูกอีกฝ่ายกล่าวย้อนเช่นนี้ ทำให้คำพูดจุกอยู่ที่ลำคอ สีหน้าพลันไม่น่ามองขึ้นมาทันที
“เจ้าคิดจะทำอะไรกัน!? ไม่รู้หรือว่านิกายมีกฎห้ามสังหารศิษย์ด้วยกัน?” มีคนหนึ่งสูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าเอ่ยตำหนิเฉินซี
“ใช่ อย่าได้ทำเกินไปนัก!”
“เจ้าหนู อย่าได้จองหองจนเกินไป ยอดเขาจรัสตะวันออกของข้าเต็มไปด้วยผู้เก่งกาจมากมาย สามในห้าศิษย์ชั้นสูงล้วนอยู่ในยอดเขาจรัสตะวันออกแห่งนี้ เจ้ารับผลจากการล่วงเกินแล้วเช่นนี้ไม่ไหวหรอก!”
เมื่อมีคนเริ่ม คนอื่น ๆ ก็เริ่มตามขึ้นมาทีละคน
“ดูเหมือนพวกเจ้าก็เหมือนกับศิษย์พี่ตู้กวน ต้องถูกทุบตีกันสักหน่อย” เฉินซีเริ่มยิ้ม เผยท่าทางสบายอารมณ์ออกมา
ทุกคนหรี่ตา หุบปากเงียบทันใด พวกเขาไร้ทางเลือก สิ่งที่ตู้กวนเผชิญนั้นน่ากลัวเกินไป ถูกทุบตีจนมารดายังจำไม่ได้เช่นนั้น มีหรือพวกเขาจะกล้าทำผิดซ้ำสองในเมื่อเห็นตัวอย่างอยู่ตรงหน้าเช่นนี้?
“เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?” คนหนึ่งถามขึ้น
“ไม่ยาก ขอโทษมาเสีย” เฉินซีชี้ไปทางชิงอวี่ที่อยู่ไม่ไกล “ขอโทษเสร็จแล้ว ข้าก็จะไม่เอาเรื่องที่พวกเจ้าเคยรังแกศิษย์พี่ชิงอวี่ในอดีตอีก และจะปล่อยพวกเจ้าไปเสีย”
“เจ้าอยากให้เราขอโทษอย่างนั้นหรือ?” ทุกคนมีสีหน้าไม่น่ามองทันทีเมื่อเหลือบมองชิงอวี่ ในใจพวกเขานั้น ชิงอวี่เป็นเหมือนขยะชิ้นหนึ่งที่ไม่คิดต่อสู้ปกป้องตนเอง ซึ่งการขอโทษขยะเช่นนี้นับว่าเจ็บปวดกว่าถูกสังหารเสียอีก!
“ไม่ได้หรอก ๆ ” ชิงอวี่ชะงักไป ชายหนุ่มรู้สึกทำอะไรไม่ถูกที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้ จึงได้แต่โบกมือซ้ำไปมาด้วยความละอาย เขาเป็นคนมีใจเมตตาและจิตบริสุทธิ์ยิ่ง ดังนั้นจึงไม่อาจยอมรับการกระทำเช่นนั้นได้
ทว่าเฉินซีไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพียงแค่ยกยิ้มมองคนจากยอดเขาจรัสตะวันออกเท่านั้น
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนพลันสะดุ้งกลัว ความสง่างามและความเย่อหยิ่งที่เคยมีพลันหาย พากันก้มหัวเอ่ยขอโทษชิงอวี่
“ศิษย์น้องชิงอวี่ ข้าผิดไปแล้ว อภัยให้ข้าด้วย”
“ศิษย์น้องชิงอวี่ เจ้ามีใจกว้างขวาง เป็นผู้ยิ่งใหญ่ โปรดให้อภัยที่พวกข้าล่วงเกินเจ้าในอดีตด้วย”
“ศิษย์น้องชิงอวี่…”
หลังจากขอโทษขอโพยกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น รีบหันหลังเดินจากไปโดยเร็ว ราวกับอยากงอกขาเพิ่มก็มิปาน ช่วยไม่ได้นี่นา พวกเขากลัวเฉินซีจะร้องขออะไรที่น่าอายกว่านี้ เพียงแค่ต้องพูดขอโทษชิงอวี่ก็นับว่าเสียหน้ามากแล้ว
“ศิษย์น้องเฉิน… ขอบใจเจ้ามาก!” เมื่อทุกคนจากไปแล้ว เฉินซีกับชิงอวี่จึงเดินทางมาที่ยอดเขาจรัสตะวันตก ในระหว่างนั้นชิงอวี่ก็ตื่นเต้นมากจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นาน ในที่สุดก็เค้นคำออกมาได้ สายตาที่จ้องมองเฉินซีมีความชื่นชมอยู่มาก
หลายวันที่ผ่านมานี้เขาถูกตู้กวนและคนอื่น ๆ รังแกมามาก เจ็บปวดเกินจะกล่าว ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่มาซ่อนตัวอยู่ในยอดเขาสัประยุทธ์หรอก เมื่อเขาได้เห็นเฉินซีเผยความแข็งแกร่งด้วยการตบตู้กวนจนหน้าบวมเป่ง อีกทั้งยังบังคับพวกนิสัยไม่ดีเหล่านั้นให้ขอโทษได้ ความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเช่นนี้ทำให้เจ้าตัวซาบซึ้งมาก
“ต่อไปมีข้าอยู่ ก็ไม่มีใครกล้ารังแกท่านแล้ว” เฉินซียิ้มแล้วตบไหล่ชิงอวี่ จากนั้นก็ลอบถอนหายใจ มีศิษย์พี่ที่จิตใจงดงามและบริสุทธิ์ราวกับกระดาษขาวเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ อย่างน้อยก็ยังได้เห็นว่ายังมีคนเรียบง่ายและจิตใจดีงามหลงเหลืออยู่…
“แต่ศิษย์น้องเฉิน ครั้งนี้เจ้าตบหน้าตู้กวนไป พวกศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกคงไม่ยอมปล่อยไว้แน่” ชิงอวี่พลันมุ่นคิ้ว เอ่ยด้วยความกังวล
ตู้กวนเป็นหนึ่งในศิษย์ของยอดเขาจรัสตะวันออกที่ขึ้นชื่อเรื่องรังแกผู้อื่น มีกำลังค่อนข้างแกร่งแต่กลับมีนิสัยดุร้าย มักจะพาพวกไปรังแกคนอ่อนแอภายในนิกายอยู่บ่อยครั้ง และไม่ใช่เพียงศิษย์ชั้นสูงเท่านั้น กระทั่งศิษย์สายในและศิษย์สายนอกก็ล้วนถูกพวกเขารังแกอยู่เป็นประจำ ทำให้คนกลุ่มนี้มีชื่อเสียอยู่มาก
แต่สาเหตุของความเย่อหยิ่งจองหองและทำอะไรไม่เคยได้รับโทษเช่นนี้ ก็เป็นเพราะเขามีที่พึ่งนั่นเอง
พี่ชายของเขา ตู้เซวียน เป็นหนึ่งในห้าศิษย์ชั้นสูงของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง เมื่อหลายปีก่อน เขาถูกโจมตีตอนออกจากนิกายไปหาประสบการณ์ สังหารขอบเขตจุติเช่นตนเองไปสามสิบคน กระทั่งผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายาบางคนยังตายอย่างน่าสมเพชด้วยน้ำมือเขา จึงเห็นได้ชัดว่าคนคนนี้มีฝีมือสูงส่งเพียงใด
ซึ่งเป็นเพราะเหตุนี้ ตู้เซวียนจึงได้รับการส่งเสริมจากพวกระดับสูงในนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง มีฐานะสูงส่งกว่าคนอื่น ทั้งยังได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าผู้อาวุโสบางท่านเสียอีก
“อ้อ? หนึ่งในห้าศิษย์ชั้นสูงหรือ? น่าสนใจดี ไม่รู้ว่าจะแข็งแกร่งกันแค่ไหน…?” เฉินซีเหมือนตกอยู่ในภวังค์ความคิด นัยน์ตาส่องประกายเจิดจ้า
“ศิษย์น้องเฉิน เรามาถึงแล้ว” ชิงอวี่ชี้ภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนดอกบัวซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า ใบหน้าดูเปล่งประกายความสุขออกมา “ดูตรงนั้น นั่นคือยอดเขาจรัสตะวันตก สถานที่ที่พวกเราพี่น้องใช้บ่มเพาะกัน!”