CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน - บทที่ 68 ความแข็งแกร่งของเฉินซี

  1. Home
  2. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน
  3. บทที่ 68 ความแข็งแกร่งของเฉินซี
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 68 ความแข็งแกร่งของเฉินซี

หากปราศจากอิสระ ก็ไม่มีลม!

จิตใจของเฉินซีตกอยู่ในสภาวะรู้แจ้ง เต๋ามีอยู่ในช่วงเวลาอันไร้ขอบเขตของโลก และเต๋าแห่งสายลมก็มีอยู่ในแผ่นดิน แม่น้ำ หญ้าเขียวขจี หิน…ทุกที่

เมื่อลมพัดผ่านเนินเขา เมฆและหมอกที่ปลิวไปเป็นเงาของมัน ขณะพัดผ่านใบบัว ภาพที่พลิ้วไหวนั้นเป็นผลของมัน นี่คือรัศมีของเต๋า และความหมายของเต๋า!

เฉินซีนั่งขัดสมาธิเงียบ ๆ อยู่บนยอดเขาและใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็สงบนิ่ง แต่จิตใจของเขายังคงติดตามสวรรค์และโลกตามลมที่เต้นรำอยู่บนท้องฟ้า เขายังคงแสวงหาลม

เต๋ารู้แจ้ง!

จี้อวี๋ยืนอยู่ในระยะไกล เสื้อผ้าของเขากระพือไปพร้อมกับสายลม ดวงตาลึกล้ำมองไปที่เฉินซีด้วยความสุขและความพึงพอใจ

หลังจากที่ได้สะสมประสบการณ์ต่าง ๆ มากมายแล้ว บุคคลจะสามารถผูกมัดจิตใจกับสวรรค์และโลกได้อย่างสมบูรณ์เมื่อโชคดีมาถึง จากนั้นพวกเขาจึงจะสามารถเรียนรู้และเข้าใจการมีอยู่ของเต๋าได้

ดวงดาวเปลี่ยนตำแหน่ง จันทราสว่างขึ้น และดวงอาทิตย์ตกดิน

เมื่อเวลาผ่านไป สายลมเริ่มรวมตัวกันที่ด้านข้างของเฉินซีซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น

 แกว้ก!  อีแร้งบินมาแต่ไกล สายตาเฉียบคมของมันจับจ้องไปที่ชายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่ที่ริมหน้าผา ราวกับกำลังจ้องมองอาหารมื้ออร่อย ในฐานะนกป่าที่ยังไม่ได้พัฒนาสติปัญญา มันจึงไม่รู้สึกถึงปราณที่เป็นอันตรายบนร่างกายของเฉินซี อีกทั้งมันก็ยังหิวมากและเป็นอย่างนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แทบจะในทันที มันดิ่งลงเข้าหาเฉินซีอย่างรวดเร็ว มันกางกรงเล็บอันแหลมคมหมายจะคว้าตัวชายหนุ่มอย่างดุเดือด

ทว่าเมื่อห่างจากเฉินซีราวสิบจั้ง

ครืน!

ทันใดนั้น พายุหมุนก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ สายลมที่เร็วและรุนแรงปะปนด้วยมวลพลังจากสวรรค์และโลกสับอีแร้งจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที เนื่องจากลมรุนแรงเกินไปเลือดสดที่กระเซ็นออกมาก็ถูกบดเป็นละอองเลือด จากนั้นพายุก็ปลิวหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีกลิ่นเลือดเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย 

 เขาเข้าใจแล้ว และความแข็งแกร่งของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ข้าเกรงว่าอีกไม่นาน เขาจะสามารถผ่านระดับที่หนึ่งของบททดสอบแห่งสรวงสรรค์ได้ ในขณะที่ข้า… ข้าเกรงว่า ในอนาคตข้าจะออกไปจากเคหาบ่มเพาะได้ยากขึ้นเสียแล้ว  การแสดงออกของจี้อวี๋นั้นซับซ้อน จากนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าอันแน่วแน่  ข้าช่วยเขามามากพอแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งและความคิดอ่านในปัจจุบัน เขาก็สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว การอยู่เคียงข้างเขาต่อไปจะเป็นการขัดขวางเส้นทางของแก่นแท้แห่งเต๋าเท่านั้น… 

ในรุ่งอรุณของเจ็ดวันต่อมา ดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่ได้ขึ้นสู่ท้องฟ้าและสาดแสงสว่างส่องไปทั่วปฐพี

เฉินซีผู้นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างหน้าผา เปิดตาของเขาและมุมปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่หายาก

วิ้ว!

ในเวลาต่อมา เฉินซีดูเหมือนจะไม่ขยับ แต่ร่างของเขาได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศแล้ว และปีกคู่หนึ่งที่ควบแน่นจากลมก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขา จากนั้นชายหนุ่มก็ทะยานขึ้นไปในอากาศอย่างจงใจ และภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า ร่างของเขาได้ทะยานผ่านมวลเมฆจนแตกกระจาย รวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ!

ลม!

เสรีภาพ!

ร่างของเฉินซีเร็วยิ่งขึ้น เขาเป็นอิสระเหมือนกับสายลมที่พัดผ่าน ไร้รูปแบบทำให้ไม่อาจคาดเดาได้ถูก

…

การฝึกฝนในภูเขาลึกแยกตัวออกจากโลกภายนอกทำให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว

เวลาสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากความกังวลและความไม่สบายใจตั้งแต่ต้น อารมณ์ของมู่ขุยก็ค่อย ๆ สงบลง

ราชาวานรทมิฬแห่งถ้ำวารีกระซิบไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปนานมาก และสิ่งนี้ทำให้มู่ขุยเชื่อมั่นมากขึ้นว่าสยงผีกำลังหลอกเขาและหลอกลวงผู้อาวุโสเฉินซี หลีหู่อาจไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อถือได้ของราชาวานรทมิฬก็เป็นได้ เพราะราชาวานรทมิฬนั้นมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นอย่างยิ่งไม่ว่ากับเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่เฉินซีจะอยู่ได้อย่างสงบเป็นเวลาถึงสามเดือนเช่นนี้

‘เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้? งี่เง่าสิ้นดี!’

มู่ขุยถือเหยือกสุราขณะที่เขาเอนกายอยู่ตรงหน้าที่พักอย่างสบาย ๆ และดื่มจนพอใจ เขาชอบวันที่เงียบสงบเช่นนี้ ผู้อาวุโสเฉินซีกำลังสอดส่องทุกอย่างอยู่บนยอดเขา หมาป่าหนุ่มจึงไม่ต้องกังวลว่าอสูรร้ายตัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียงจะมารบกวนหรือกลืนกินอาณาเขตของเขา

ฟุ่บ!

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในอากาศด้วยความเร็วที่ราวกับเคลื่อนย้ายพริบตา ภาพนี้ทำให้มู่ขุยกลัวจนร่างกายแข็งค้างจนเหยือกสุราในมือของเขาหล่นลงไปที่พื้นทันที ทว่าเมื่อเพ่งมอง เขาก็เห็นว่าผู้ที่มาใหม่คือผู้อาวุโสเฉินซีนั่นเอง!

มู่ขุยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย ‘เมื่อครู่นี้ข้าแสดงอาการน่าอับอายสุดขีดออกไปใช่ไหม? ทว่า… ความเร็วของผู้อาวุโสเฉินซีนั้นเร็วเกินไปจริง ๆ! เขาปรากฏตัวต่อหน้าข้าในชั่วพริบตา ใครจะไม่กลัวบ้างเล่า?’

 เตรียมแปรงและจานหมึกให้ข้าด้วย  เฉินซีเดินไปในเคหาทันทีที่เขาพูดจบ

 เอ่อ…ขอรับ รอสักครู่นะขอรับ ท่านผู้อาวุโส  มู่ขุยลุกขึ้น จากนั้นก็เริ่มเตรียมการอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังแอบสงสัยในใจ ‘ผู้อาวุโสเฉินซีต้องการทำสิ่งใด?’

…

ภายในเคหาที่อยู่อาศัย เฉินซีได้นำสมุดเล่มหนึ่งออกจากแหวนมิติของเขา มันไม่ใช่ตำราเคล็ดวิชา แต่เป็นบันทึกประสบการณ์ทั้งหลายที่เขาได้รับจากการฝึกฝนทั้งหมด

หลังจากไตร่ตรองในใจเป็นเวลานาน เฉินซีก็หยิบพู่กันขึ้นมาแล้วจุ่มลงในจานหมึก จากนั้นค่อย ๆ เขียนประสบการณ์ทั้งหมดและการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของเขาหลังจากที่ผ่านการฝึกฝนในช่วงผ่านมาทั้งหมด

 ทักษะการใช้พู่กันของเจ้านั้นเสรีและสง่างาม อักษรก็ทรงพลังและเฉียบคม ทุกคำที่เขียนนั้นงามวิจิตรและให้ภาพที่เหมือนจริง การพัฒนาของเจ้าในช่วงเวลานี้ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ  หลังจากที่เฉินซีเขียนเสร็จ จี้อวี๋ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เขาพยักหน้าพลางประเมิน

เฉินซีไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่เขาเขียนอีกคำหนึ่งใหม่เช่น ‘พริบตา’ อย่างรวดเร็ว และส่งไปให้ชายชรา

ตั้งแต่วันที่เขาฝึกฝนเคล็ดวิชากระบี่หยั่งรู้วาตะลอยละล่องและเคล็ดวาตะเหินทะยาน จี้อวี๋ก็ได้ขอให้เขาใช้เวลาหนึ่งวันจากทุกเดือนเพื่อตรวจสอบตนเอง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเขาที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อสรุปประสบการณ์การต่อสู้ของเขา

สมุดเล่มนี้ถูกเรียกว่า ‘บันทึกสะท้อนตัวตน’

 อย่าเขียนเรื่องแบบนี้อีกในอนาคต  จี้อวี๋หยุดอ่านและส่งสมุดคืนให้เฉินซี  การตรวจสอบตนเองมีไว้เพื่อกระตุ้นให้เจ้าปรับปรุงและหลีกเลี่ยงการเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่ถูกต้อง ตอนนี้เจ้าได้สร้างเต๋าแล้วและได้ก้าวไปสู่ความเป็นอมตะอย่างแท้จริง การเขียนสิ่งเหล่านี้ไม่มีความหมายแล้ว สิ่งที่เจ้าต้องทำคือเข้าใจหลักเต๋าแห่งสวรรค์และยึดมั่นในหัวใจของเจ้า 

 เข้าใจหลักเต๋าแห่งสวรรค์และยึดมั่นในหัวใจของข้า…  เฉินซีพูดซ้ำ ราวกับเขาจะคิดอะไรบางอย่างออก แล้วเขาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง จากนั้นเขาก็นึกถึงคำถามที่เขากำลังงุนงงอยู่ตอนนี้และถามทันที  ผู้อาวุโส ข้าขอถามถึงความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้เทียบกับผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลคนอื่น ๆ ได้หรือไม่ว่ามันเป็นอย่างไร? 

 เจ้าคิดอย่างไร?  จี้อวี๋ตอบคำถามด้วยคำถาม

เฉินซีครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว  ข้าเพียงแค่เคยต่อสู้กับหลี่ไฮว่ซึ่งอยู่ในขอบเขตตำหนักอินทนิล ยิ่งกว่านั้นตอนนั้นข้าอยู่ในขั้นสมบูรณ์ของขอบเขตก่อกำเนิดเท่านั้น ข้าจึงไม่สามารถประมาณการได้อย่างแม่นยำเลย 

 เช่นนั้นข้าจะอธิบายถึงความแข็งแกร่งของเจ้าสั้น ๆ การฆ่าผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั่วไปสำหรับเจ้าในตอนนี้ไม่ต่างกับเจ้าฆ่าไก่และลิง!  จี้อวี๋พูดคำที่น่าตกใจ

แม้ว่าเฉินซีจะเตรียมใจมาแล้ว แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เหมือนการฆ่าไก่และลิง? นี่ข้าแข็งแกร่งถึงขนาดนี้แล้ว?

 เจ้าแปลกใจมากใช่ไหม? เจ้าควรรู้ว่าความเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชากระบี่ของเจ้าบรรลุถึงขั้นเต๋ารู้แจ้งแล้ว ซึ่งตามปกติผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั่วไปอย่างดีที่สุดก็บรรลุขั้นเอกภาพเท่านั้น ในแง่ของการใช้กระบี่ ความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลส่วนใหญ่ไปมากแล้ว 

 จากนี้ข้าจะพูดถึงระดับการบ่มเพาะของเจ้ากันต่อ 

 การปรับแต่งปราณภายในของเจ้า ได้บรรลุการสร้างดาวดวงแรกของขอบเขตตำหนักอินทนิลแล้ว เคล็ดวิชากระเรียนเหมันต์นั้นยอดเยี่ยมและล้ำค่านัก แต่น่าเสียดายที่มันบันทึกเฉพาะการฝึกฝนสำหรับเก้าระดับของขอบเขตตำหนักอินทนิลเท่านั้น 

ทว่าเมื่อเจ้าสำเร็จมันทั้งหมดไม่ว่ามันจะเป็นพลังหรือปริมาณ ปราณแท้ในร่างของเจ้าจะเหนือล้ำกว่าผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั่วไปจะสามารถเปรียบเทียบได้  

จี้อวี๋พูดด้วยความมั่นใจ แต่แล้วร่องรอยความผิดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา  น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เจ้ามุ่งเน้นแต่การบ่มเพาะปราณภายในและทักษะการต่อสู้ จึงทำให้เจ้าละเลยการขัดเกลาร่างกาย หากเจ้าสามารถขัดเกลาร่างกายจนบรรลุถึงขอบเขตตำหนักอินทนิลด้วยละก็ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสองในสิบส่วน 

 แต่แน่นอน แค่พึ่งพาพลังของญาณตระหนักรู้อันแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้ เจ้าก็สามารถฝึกฝนทักษะการโจมตีวิญญาณ ‘มายาเทพ’ ได้แล้ว หากเจ้าสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ โอกาสในการเอาชนะศัตรูก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

จี้อวี๋กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขายังคงวิเคราะห์ความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้ของเฉินซีต่อไป  โดยรวมแล้ว ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้าควรจะสามารถต่อสู้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลระดับห้าดาราได้ 

 ขอบเขตตำหนักอินทนิลระดับห้าดารา? สู้ข้ามขั้นได้ถึงสี่ระดับ?  เฉินซีอ้าปากค้างในขณะที่เขาไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย

จี้อวี๋กล่าวอย่างจริงจังว่า  อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ควรดูถูกผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลคนอื่น เพราะผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลสามารถใช้ศัสตราวิเศษระดับสูงได้แล้วและส่วนใหญ่ก็มีทักษะมากมาย อีกทั้งยังเชี่ยวชาญการโจมตีแบบต่าง ๆ เช่น ค่ายกล หุ่นเชิด ควบคุมเปลวเพลิงวิญญาณ และอื่น ๆ อีกที่ไม่ใช่การห้ำหั่นกันซึ่งหน้า… 

 เอาเป็นว่าอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องจำให้ขึ้นใจมากที่สุดก็คือมีระดับความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันในหมู่ผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิล และมีผู้คนมากมายที่สามารถสังหารผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลระดับเก้าดาราด้วยการฝึกฝนที่หนึ่งดาราแห่งขอบเขตตำหนักอินทนิล มีแม้กระทั่งผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลที่สามารถฆ่าผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำได้! 

เฉินซีอ้าปากค้าง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าหลังจากฟังคำอธิบายของ จี้อวี๋เขากลับสับสนมากขึ้นแทน

 มีอะไรให้ตกใจ? เจ้าไม่ได้ฆ่าผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลเมื่ออยู่ขอบเขตก่อกำเนิดมาหรอกหรือ? ในเวลานั้นเจ้ายังไม่ได้ก่อรากฐานเต๋าด้วยซ้ำและเจ้าก็ยังไม่สามารถบินไปในอากาศหรือควบคุมศัสตราวิเศษระดับสูงได้เสียหน่อย  ดูเหมือนว่าจี้อวี๋จะเข้าใจความรู้สึกของเฉินซี และเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า  หลังจากพูดทั้งหมดนี้แล้ว ข้าแค่ต้องการเตือนเจ้าว่าอย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป แต่อย่ากลัวการต่อสู้ หากเจ้าไม่สามารถชนะได้ก็ถอยออกมาก่อน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผู้บ่มเพาะบางคนถูกคนอื่นไล่ตาม เขาค่อย ๆ หนีอย่างใจเย็นและวางแผนเก็บฝ่ายตรงข้ามทีละคนไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดเขาก็กวาดล้างทุกคนที่ไล่ตามเขาจนไม่เหลือหลอ 

จิตใจของเฉินซีผ่อนคลายลงเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่น  ความสามารถในการหลบหนีของชายผู้นั้นช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นเขาคงจะถูกล้อมและตายลงไปตั้งแต่แรกแล้ว 

 มันเป็นเช่นนั้นจริง ข้าจำได้ว่าผู้บ่มเพาะคนนั้นดูเหมือนจะแซ่ฮั่น และผู้คนก็ตั้งฉายาว่า ‘ฮั่นผู้ว่องไว’ แต่น่าเสียดาย นั่นเป็นตัวตนก่อนยุคบรรพกาล  ดวงตาของจี้อวี๋เผยให้เห็นถึงความถวิลหาอดีต ก่อนจะถอนหายใจอย่างอาวรณ์ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อ  ข้าขอแนะนำให้เจ้าใช้เวลาในการขัดเกลาร่างกายและการฝึกฝนดวงวิญญาณของเจ้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อร่างกายของเจ้าสำเร็จถึงขอบเขตตำหนักอินทนิล เจ้าควรจะสามารถผ่านระดับที่หนึ่งของบททดสอบแห่งสรวงสวรรค์ได้ 

ระดับที่หนึ่งของบททดสอบแห่งสรวงสวรรค์?

เฉินซีก้มศีรษะลงเหลือบมองที่ฝ่ามือ ใต้ผิวหนังและเนื้อของเขา ลวดลายของจี้หยกเห็นได้รางเลือน

เหตุการณ์หลายฉากผุดขึ้นในหัวของเขาอย่างเงียบ ๆ แม่ของเขาจั่วชิวเสวี่ยทิ้งเศษเสี้ยววิญญาณของนางเอาไว้ และการได้พบเจอกับผู้อาวุโสจี้อวี๋ รวมถึงรูปปั้นเทพฝูซี…

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป
  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์