บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 199
ตอนที่หยวนชิงหลิงกลับมาที่เตียง ก็รู้สึกว่าตัวเองได้ตายไปแล้วหนึ่งครั้ง
พอตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกวินเวียนศีรษะ แล้วก็อ้วกอย่างหนัก
จึงได้เชิญหมอหลวงมา นางถามด้วยสีหน้าขาวซีด: “ทำไมปฏิกิริยาข้าถึงได้รุนแรงนัก?”
หมอเฉาจึงพูดขึ้น: “พระชายา ร่างกายของท่านเคยได้รับบาดเจ็บ และก่อนหน้านี้ท่านก็มีเรื่องให้ไม่สบายใจ ตับก็ทำงานไม่ปกติ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ถึงได้ทรมานแบบนี้ รอให้ท่านค่อยๆ ปรับได้ก่อน ก็จะดีขึ้นเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ช่วยปรับร่างกายให้ข้าเร็ว ให้กินยาอะไรก็ได้ ที่ทำให้ข้าหายเวียนหัว และไม่อ้วก…..” หยวนชิงหลิงไม่มีแรงถึงขนาดลืมตาแล้ว
หยู่เหวินเห้าเป็นกังวลอย่างมาก จึงรีบดึงหมอหลวงออกไป “เจ้าไม่มียาดีหน่อยหรือ?ไทเฮามอบยามาให้ตั้งมากมาย เจ้าใช้กับนางได้นะ”
หมอเฉากลับดึงแขนหยู่เหวินเห้าออกมาไกลหน่อย พร้อมกับถอนหายใจ: “ท่านอ๋อง ข้าไม่ขอปิดบัง วันนี้ข้าได้คุยกับโรงหมอ ตอนที่พระชายาตั้งครรภ์นั้นดูไม่ปกติ ร่างกายของนางยังไม่ทันฟื้นฟู ตอนนั้นพระชายากินน้ำจื่อจินเข้าไป สงสัยวันถัดมาก็ให้น้ำแก้ และนั่นก็เป็นยาที่สามารถยับยั้งน้ำจื่อจินได้ ตอนนี้ถึงได้กำเริบออกมา พระชายาถึงได้ทรมานร้อยเท่าแบบนี้ และรวมไปถึงตอนที่นางเสียเลือดจากการโดนทำร้าย ข้าน้อยขอบังอาจพูดสิ่งที่ไม่น่าฟัง ตอนนี้ข้างในของพระชายาเป็นเหมือนฝ้าย แค่โดนกดนิดเดียวก็ไม่เหลืออะไรแล้ว และยิ่งมาสามารถเรี่ยวแรงพอจะรับไหว”
หยู่เหวินเห้าได้ยินดังนั้น ก็กัดฟันแน่น ตอนนั้นทำไมเขาถึงได้โง่นัก?
หมอหลวงพูดต่อ: “ที่ร่างกายของพระชายายังสามารถตั้งครรภ์ได้ คงจะเป็นเพราะน้ำจื่อจินที่ถูกกดไว้ ยาจื่อจินนั้นช่วยให้เลือดนางไหลเวียนได้ดี แต่ว่ายังไงก็มีผลแค่แป๊ปเดียว ตอนนี้ยาได้หมดฤทธิ์แล้ว หลังจากนี้ต้องดูการเปลี่ยนแปลงพระชายา”
หยู่เหวินเห้าตอบรับครั้งหนึ่ง พลันพูดเสียงต่ำกับหมอหลวง: “ถ้าหากว่าไม่เอาเด็กไว้ล่ะ?”
หมอหลวงอึ้งไปทันที “แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหากว่าไปทำให้แท้ง ร่างกายของพระชายาก็จะยิ่งรับไม่ไหว ตอนนี้การตั้งครรภ์ยังสามารถรักษาได้ ท่านอ๋องอย่าได้คิดเรื่องเอาออกเด็ดขาด ถ้าหากว่าเกิดเรื่องขึ้น ชีวิตก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้”
หยู่เหวินเห้าอึ้งจนหน้าซีด หัวใจก็พลันเต้นแรง
ความดีใจทั้งหลายนั้นหายไปแล้ว ตอนนี้กลับเหลือเพียงความเจ็บปวดและทุกข์ใจ
แทบอยากจะให้นางไม่ต้องตั้งครรภ์
“เกี่ยวกับที่ข้าทำให้นางโมโหหรือไม่?นางถึงได้ทรมานขนาดนี้” หยู่เหวินเห้าถามขึ้น
หมอหลวงพยักหน้า “ต้องเกี่ยวอย่างแน่นอน ในเมื่อตับร้อน ปอดร้อน คนก็จะรู้สึกไม่สบาย เพียงแต่ถึงไม่ใช่ท่านอ๋องทำให้พระชายาโกรธ ความเจ็บปวดนี้ยังไงก็ต้องเกิดเหมือนเดิม พื้นฐานนางเป็นแบบนี้”
หยู่เหวินเห้ารู้สึกเศร้าใจ และไม่มีความคิดอะไรเลย
วันนี้เขาลาพักเพื่ออยู่จวนเป็นเพื่อนนาง ของพระราชทานจากไหนวังก็มีมาไม่หยุด ทั้งไทเฮา เสียนเฟย ฮองเฮา กุ้ยเฟย ฉินเฟย รวมถึงเหล่าสนม ต่างก็นำของมาให้กันหมด
หลังจากนั้น ก็เป็นเหล่าบรรดาชายาอ๋องต่างๆ แล้วก็มีองค์หญิงบางคนที่ส่งของขวัญมาให้
จวนอ๋องฉีกับอ๋องจี้นั้นตอนนี้ไม่ได้ส่งอะไรมาให้ แต่เพื่อเป็นการไว้หน้าแล้ว ถึงจะไม่อยากให้ แต่พวกเขาก็ต้องส่งมาให้พอเป็นพิธี
เรื่องการตั้งครรภ์ของหยวนชิงหลิง ก็ได้ยินไปถึงหูของเจ้าพระยาจิ้ง
เจ้าพระยาจิ้งนั้นมือสั่นเลย ถึงได้เชื่อเรื่องนี้
เขารีบกลับจวนทันที แล้วสั่งให้ฮูหยินรองเตรียมของขวัญเพื่อสั่งไปให้ ครั้งนี้ เขาได้เรียกท่านแม่ของหยวนชิงหลิง นางหวงไปด้วย และจำเป็นต้องได้เจอพระชายาฉู่ เพื่อแสดงน้ำใจ
ใจของเจ้าพระยาจิ้งนั้น มีแต่ความต้องการตลอด
โอกาสมาถึงแล้ว โอกาสของเขาได้มาถึงแล้ว
ขอเพียงหยวนชิงหลิงให้กำเนิดลูกชาย เขาก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าโสวฝู่ฉู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา แล้วไม่ต้องใช้หน้าตัวเองรองรับอารมณ์พวกเขา
แต่ว่า ฮูหยินรองและนางหวงไปได้ไม่นานก็กลับมา
เจ้าพระยาจิ้งมองเห็นสีหน้าพวกนาง ก็อดตกใจไม่ได้ “ทำไมกลับมาเร็วนัก?ไม่ยอมให้พวกเจ้ากินข้าวเลยหรือ?”
นางหวงพูดขึ้นอย่างโมโห: “อยู่อะไร?พอเข้าไปมอบของให้ก็โดนไล่ออกมา บอกว่าพระชายาต้องการอยู่เงียบๆ ไม่ให้ใครเข้าพบ”
“คิดว่าตัวเองสูงกว่าคนอื่นแล้วหรือ?นังทรพี!” เจ้าพระยาจิ้งโมโหมาก
นางหวงจึงอธิบาย : “ที่จริงก็ไม่ใช่แบบนั้น ข้าเห็นพระชายาและองค์หญิงต่างก็ไป แต่ก็ไม่ได้พบ ได้ยินว่าครรภ์นางยังน่าเป็นห่วง หมอหลวงต้องเฝ้าดูตลอด อ๋องฉู่ก็ยิ่งห้ามไม่ให้เข้าไปเยี่ยมเลย”
“ครรภ์ยังไม่นิ่งหรือ?” เจ้าพระยาจิ้งตกใจมาก สีหน้าเปลี่ยนทันที: “ทำไมครรภ์ถึงไม่นิ่งได้?ถามดูหรือยัง?”
“ถามใครล่ะ?ถามใครก็ไม่มีใครรู้” นางหวงโมโหมาก “อ๋องฉู่เองก็เหมือนกัน ยังไงข้าก็เป็นถึงแม่ของชายาเขา แต่กลับเย็นชามาก ต่อไปข้าไม่ไปอีกแล้ว”
เจ้าพระยาจิ้งพูดตำหนิทันที “หุบปาก อ๋องฉู่เย็นชากับเจ้าแล้วทำไม?เจ้ารับไม่ไหวอย่างนั้นหรือ?เขาเป็นถึงอ๋อง แล้วเรียกเจ้าว่าเป็นแม่นั้น เจ้าก็ควรจะเข้าใจในเรื่องชนชั้นด้วย”
นางหวงถูกตำหนิสองสามความ จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฮูหยินรองจึงพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน: “ปาหลง ไม่ใช่ว่าข้าพูดให้ท่าน ถึงเจ้าจะรีบไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อพระชายาฉู่ไม่ยอมพบ ถึงเจ้าไปเองก็ไม่เจออยู่ดี รอไปก่อนจะดีกว่า”
เจ้าพระยาจิ้งกดมือเอาไว้ พลันขมวดคิ้ว: “รอไม่ได้ การสอบของขุนนางนั้น สิ้นปีก็จะเริ่มแล้ว จำเป็นต้องเจอชิงหลิง เพื่อบอกให้นางช่วยพูดกับอ๋องฉู่ อ๋องฉู่ต้องเข้าใจอย่างแน่นอน ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ยังไงอ๋องฉู่ก็ต้องทำตามความประสงค์นาง”
พอนางหวงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการสอบ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา “นางสนิทกับท่านแม่มาตลอด ไม่สู้เรียกท่านแม่ไปด้วยกันคิดว่าอย่างไร?อ๋องฉู่คงไม่ปล่อยให้คนแก่ที่ป่วยยืนรอที่หน้าประตูหรอกนะ?”
ฮูหยินรองจึงพูดขึ้น: “แบบนั้นไม่ดีแน่ พี่สะใภ้ป่วยอยู่ จะให้นางออกไปลำบากด้านนอกได้อย่างไร? ให้นางได้พักผ่อนเถอะ”
นางหวงรู้ความคิดของฮูหยินรอง ฮูหยินใหญ่ตอนนี้ก็ไม่สนใจ คนในจวนเองก็ไม่เชื่อฟังนางแล้ว
ยังไง คนที่ป่วยมานาน ก็ไม่รู้ว่าจะมีขางอกออกมาตอนไหน และแน่นอนว่าไม่มีใครยอมไปพยุงนาง
แต่ว่าถ้าหากฮูหยินใหญ่ช่วยท่านอ๋อง มันอาจจะไม่เหมือนกัน
ฮูหยินรองก็คงเกรงว่าจะไม่มีสิทธิ์ในการจัดการคนในจวน
แต่ว่า เจ้าพระยาจิ้ง ปาหลงกลับพูดขึ้น: “ใช่ ให้ท่านแม่ไปสักครั้ง ได้ยินว่านางกลับมาหาท่านแม่หลายต่อหลายครั้ง นางคงไม่มีทางไม่ออกมาเจอหรอก”
ฮูหยินรองอ้าปากค้าง เพราะรู้ว่าถ้าเจ้าพระยาจิ้งได้พูดแล้ว ไม่มีทางยอมวางมือแน่ ต้องทำให้ได้เท่านั้น
เจ้าพระยาจิ้งรีบไปที่ห้องฮูหยินใหญ่ทันที
และแน่นอน เขาก็ได้พูดกับนาง และเขาก็ยังรู้ว่าต้องพูดอย่างไร
เขาพูดด้วยความกังวล: “จวนอ๋องส่งคนมาบอกข่าวว่าหลิงเอ๋อตั้งครรภ์แล้ว แต่ว่าครรภ์นางยังไม่นิ่ง ตอนนี้ต้องนอนในห้องเพื่อรักษาตัว ลูกรู้สึกกังวลใจ เพราะนางมีนิสัยมุทะลุตลอดมา ถ้าหากนางเกิดอะไรขึ้น อาการป่วยของท่านแม่จะดีขึ้นหรือไม่?ท่านสามารถไปหานางที่จวนอ๋องสักครั้งได้หรือไม่?”
ฮูหยินใหญ่รู้สึกผิดหวังกับลูกคนนี้มาก นางนอนป่วยมานาน เขากลับนานๆ เข้ามาเยี่ยม ไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณเลย
และแน่นอน แม่ก็ย่อมเข้าใจลูก ครั้งนี้ที่เขามานั้นนางรู้ดี และเข้าใจทุกอย่าง
อ๋องฉู่เกลียดคนของจวนโหวมาก ในตอนที่ชิงหลิงยังไม่นิ่ง ไม่มีทางจะยอมเจอพวกนาง และก็รู้ว่าหลิงเอ๋อรักย่ามาก ถึงได้มาหานาง
ฮูหยินใหญ่รู้ทุกอย่าง แต่ว่าพอได้ยินว่าหลานตัวเองครรภ์ไม่นิ่ง หัวใจก็เกิดความกังวลขึ้นมา นางทำเป็นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดขึ้น: “สั่งคนให้เตรียมม้า ข้าจะไปด้วยตัวเอง”
เจ้าพระยาจิ้งดีใจมาก พลันทำหน้าแล้วพูดขึ้นเบาๆ : “ท่านแม่ ถ้าหากว่าเจอท่านอ๋อง ช่วยพูดให้จวนโหวของเราสักสองความหน่อยนะ”