บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 208
หยู่เหวินเห้าโมโหจนควันออกหู แต่พอได้ยินน้ำเสียงของน้องสาวภรรยา นางคงไม่ได้จะออกคำสั่งกับผู้ใด
เป็นถึงขนาดนี้ ย่อมต้องทำให้หยวนชิงหลิงตกใจ
แม่นมสี่ประคองนางมา นางสวมชุดคลุมผ้าลายปักทั้งตัว ยาวจนลากไปกับพื้น เพราะเดินด้วยความเร่งรีบ ร่างที่เดินมาด้วยฝีเท้าเร็ว ราวกับนกเพนกวินที่ดูโดดเด่นมาก
“เกิดอะไรขึ้น”นางเดินไปข้างหน้า มองเสี่ยวหลันแวบหนึ่ง แล้วก็มองไปทางหยู่เหวินเห้าที่สีหน้าเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว
หยวนชิงผิงเอ่ยอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “พี่ใหญ่ ท่านอ๋องกับเสี่ยวหลัน เขาทำอย่างนี้ได้อย่างไร”
หยู่เหวินเห้าโมโหคนควันออกหู เอ่ยอย่างกราดเกรี้ยวว่า “ข้ากำลังจะอาบน้ำที่สระผี แต่นางแอบเข้ามา กอดข้าจากข้างหลัง ข้าก็เคยลากตัวนางออกมา”
หยวนชิงผิงอึ้งไป “เหลวไหล”
แต่ว่า คำพูดของนางชะงักลง มองไปทางเสี่ยวหลัน “เจ้าบอกว่าเจ้าจะออกไปเดินเล่น เจ้าไปเดินเล่นที่ไหน”
แต่ว่า เป็นไปไม่ได้ นางเชื่อใจเสี่ยวหลัน นางเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์
เสี่ยวหลันรีบคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้ขึ้นมา เสียงร้องเจ็บปวดใจและสิ้นหวัง
ไม่ได้โต้เถียงอะไร
ขณะเดียวกันหยวนชิงผิงไม่รู้ว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ไม่รู้ว่านางร้องไห้เพราะถูกรังแก หรือว่าเพราะเรื่องอื่น หยวนชิงหลิงมองหยู่เหวินเห้าแวบหนึ่ง พูดกับสวีอีว่า “ส่งท่านอ๋องไปอาบน้ำ”
“ยังจะอาบหาพระแสงอะไร……”หยู่เหวินเห้ายังไม่หายโกรธ แต่ได้รับแววตาเย็นชาจากหยวนชิงหลิง “แล้วก็ล้างทำความสะอาดทุกจุดที่หญิงสาวเคยแตะต้อง อาบและขัดให้เกลี้ยง สวีอี เจ้าช่วยเขาอาบ ที่ไหนที่เคยถูกแตะต้อง ก็ใช้แรงขัดถูกให้หมดจด”
สวีอีรับคำอย่างแข็งขัน ลากตัวหยู่เหวินเห้าไป
หยู่เหวินเห้ายังไม่ลืมที่จะหันกลับมาเถียง “ข้าไม่เคยแตะต้องนาง ตอนที่นางกอดข้า ข้าก็รู้แล้ว……”
“ลู่หยา ฉี่หลอ พาคุณหนูรองกับแม่นางเสี่ยวหลันไปที่ห้องรับรอง”หยวนชิงหลิงหมุนตัวเดินจากไป แม่นมสี่รีบเข้าไปประคองทันที
หยวนชิงหลิงหอบหายใจถี่อยู่บ้าง นางกำลังโกรธ
เสี่ยวหลันถูกฉี่หลอลากตัวขึ้นมาจากพื้น พูดว่า “ไปเถอะ ยังจะร้องไห้ทำไม ท่านอ๋องรังแกเจ้าหรือไง”
หยวนชิงผิงถลึงตามองฉี่หลอ “หรือเจ้าคิดว่าเสี่ยวหลันไปยั่วเขาหรือไง”
ตีให้ตายนางก็ไม่มีทางเชื่อ
เสี่ยวหลันเอาแต่ร้องไห้ ปล่อยให้ฉี่หลอลากตัวนางไปตามสบาย
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ความกลัดกลุ้มในใจเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว มีความรู้สึกอยากจะอาเจียน นางอดกลั้นอย่างสุดแรง ให้แม่นมสี่ไปยกน้ำมาให้ นางดื่มไปอึกหนึ่ง จึงมองไปที่เสี่ยวหลันและพูดว่า “เล่าซิ นี่มันเรื่องอะไรกัน ”
หยวนชิงผิงทนไม่ได้เดินขึ้นไปตรงหน้า“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวหลัน นางเป็นคนถูกรังแก แม้ท่านจะไม่คิดปกป้องนาง แต่ก็ไม่ควรถามนาง ”
หยวนชิงหลิงมองหยวนชิงผิงแวบหนึ่ง “เจ้าหุบปากไปก่อน ฟังนางพูด”
เสี่ยวหลันยังคงเอาแต่ร้องไห้ ไม่พูดจา
หยวนชิงหลิงรู้สึกหงุดหงิดแล้ว เอ่ยเสียงดุว่า “ไม่ต้องร้องแล้ว”
“ท่านพี่ ”หยวนชิงผิงมองนางอย่างรู้สึกผิดหวัง “นางเป็นคนที่ถูกรังแกนะ ทำไมท่านต้องดุนางด้วย”
หยวนชิงหลิงมองน้องสาวที่เดิมทีเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง แต่วันนี้หัวสมองกลับโง่ไปชั่วขณะหรืออย่างไร
หยวนชิงหลิงสะกดกลั้นเอาไว้ พูดเรียบๆว่า “เอาล่ะ เจ้าลองพูดมา ว่าตอนนี้จะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี”
เสี่ยวหลันเอ่ยด้วยเสียงสะอื้นว่า “พี่หลิง ข้าไม่ต้องการอะไร ตอนนี้ความบริสุทธิ์ก็ได้ถูกทำลายลงแล้ว ขอพี่หลิงอณุญาตให้ข้าอยู่ในจวนนี้ต่อ แม้จะเป็นแค่บ่าวรับใช้ คอยรับใช้ท่านกับท่านอ๋องก็ได้ ข้าไม่ต้องการตำแหน่งอะไรทั้งสิ้น ”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ“ได้ ไม่เมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็จะทำตามความปรารถนาของเจ้า”
เสี่ยวหลันเงยหน้า แววตามีความดีใจวาบผ่าน “ขอบคุณพี่หลิงที่ช่วยให้สมปรารถนา ”
“แม่นมสี่ เจ้าดูสิว่าในจวนเรายังมีใครที่ยังไม่แต่งงานบ้าง ยกเสี่ยวหลันให้เขาไป”หยวนชิงหลิงพูด
“คนเฝ้าประตูอะถู่ยังไม่แต่งงานเพคะ”แม่นมสี่พูด
“ได้ จวนอ๋องจะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ช่วยพวกเจ้าจัดงานแต่งงาน ”หยวนชิงหลิงพูด
เสี่ยวหลันนิ่งอึ้ง สีหน้าขาวซีด แล้วก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก “พี่หลิง ที่ท่านจะบีบให้ข้าตายหรืออย่างไร ”
หยวนชิงผิงก็โมโหจนส่ายหน้า
หยวนชิงหลิงพูดย้ำลงมาว่า “บีบเจ้าให้ตาย เป็นเจ้าเองที่บอกว่ายินดีจะเป็นบ่าวรับใช้อยู่ในจวนอ๋อง ทำไม ไม่ได้พูดจากใจจริงสินะ”
เสี่ยวหลันตกใจจนหยุดร้องไห้ทันที คุกเข่าลงและโขกหัวกับพื้น “พี่หลิง ข้าผิดไปแล้ว ขอท่านอภัยให้ข้าด้วย ”
หยวนชิงหลิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชา “เจ้าทำอะไรผิด”
เสี่ยวหลันร้องไห้พลางพูดว่า “มีคนสอนให้ข้าทำเช่นนี้ คนคนนั้นบอกว่า ขอเพียงท่านอ๋องแตะต้องข้า เขาก็จะขอข้าเป็นพระชายารอง นางบอกว่าท่านเองก็เป็นพระชายาได้เพราะทำเช่นนี้”
หยวนชิงผิงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยสักนิด สีหน้าขาวซีด “เสี่ยวหลัน เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอะไรกัน ”
เสี่ยวหลันเงยหน้าขึ้นมองหยวนชิงผิง น้ำตานองหน้า “พี่ผิง ท่านให้อภัยข้าด้วย ข้าเลือกเดินทางผิดไปชั่วขณะ ข้าไม่อยากแต่งงานกับบัณฑิตอู๋ ขอเพียงข้าได้เป็นพระชายารองของอ๋องฉู่ แม้จะถูกถอนหมั้น บัณฑิตอู๋ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องพ่อข้า”
หยวนชิงหลิงโมโหสุดขีด “เจ้ามันช่าง ช่างเหลวไหลจริงๆ ไม่เข้าใจเหตุผลเลย ข้ายังคิดว่าเจ้าถูกรักแกจริงๆ ข้าออกหน้าแทนเจ้าสารพัด ทำไมเจ้าจึงได้โง่เช่นนี้ ข้าอยากจะตีเจ้าให้ตายคามือเสียจริง”
เสี่ยวหลันยังคงร้องไห้ไม่หยุด มองหยวนชิงผิงอย่างมึนงงและตกตะลึง แล้วก็มองไปทางหยวนชิงหลิง ขนตากระพือขึ้นลง หวาดกลัวจนอยู่ไม่สุข
“คนที่สอนเจ้าทำเช่นนี้ เป็นใคร ”หยวนชิงหลิงถามเสียงเย็น
เสี่ยวหลันยังคงร้องไห้ไม่พูด
หยวนชิงผิงโมโห คว้าแขนของนาง “เจ้าพูดสิ ใครใช้ให้เจ้าทำเช่นนี้”
เสี่ยวหลันถึงได้เอ่ยด้วยเสียงสะอื้นว่า “เป็นพระชายาจี้ เมื่อวานพระชายาจี้ให้คนไปเรียกข้ามาพบที่จวนอ๋องจี้ นางบอกให้ข้ามาหาพี่ผิง เพื่อพูดเรื่องงานแต่งของตัวเอง จากนั้นให้บอกความไม่สบายใจของตัวเอง ให้ข้ามาพูดคุยกับพี่หลิง คิดหาวิธีเข้ามาในจวนอ๋องฉู่ให้ได้ พอดีกับที่พี่ผิงมาจวนอ๋องฉู่วันนี้ เรื่องมันก็เลย ……”
น้ำเสียงของนาง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งต่ำลง
หยวนชิงผิงรู้สึกมือเท้าเย็นชืด ไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกหลอกใช้
นางผิดหวังอย่างที่สุด “ข้าไม่มีเพื่อนอย่างเจ้า เจ้ากลับไปเถอะ ภายหน้าก็อย่ามาหาข้าอีก”
แม่นมสี่กำลังจะเอ่ยบางอย่าง หยวนชิงหลิงหยุดนางเอาไว้ “ให้คุณหนูรองจัดการเถอะ”
แม่นมสี่หยุดคำพูดเอาไว้ คุณหนูรองให้นางออกไป ยังถือว่าปกป้องนาง จวนอ๋องยังไม่ได้จัดการกับนางเลย
เสี่ยวหลันร้องไห้เดินออกไป กลับไปเก็บข้าวของเสื้อผ้า พาสาวใช้รีบจากไปทันที
หยวนชิงผิงมองไปที่พี่สาว ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด “พี่ใหญ่ ข้าขอโทษ ข้าไม่คิดเลยว่าเสี่ยวหลันจะมีความคิดเช่นนี้ ”
หยวนชิงหลิงยิ้มบางๆ “ภายหน้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน”
ที่จริง พระชายาจี้เล่นลูกไม้หน่อยก็ดี นางเอาแต่ไร้สุ้มไร้เสียง ไม่รู้ว่ามีแผนใหญ่อะไรอุบเอาไว้ ยิ่งน่ากลัวกว่า
การมีเรื่องกันเล็กๆน้อย เพื่อให้ระหว่างการตั้งครรภ์ที่แสนจะอุดอู้นี้มีสีสันขึ้น ก็ดีไม่น้อย
หยวนชิงผิงพูดเสียงแค้น “ทำไม่พระชายาจี้คนนั้นจึงทำตัวเหมือนหมาบ้ากัดท่านไม่ปล่อยสักที”
หยวนชิงหลิงตำหนิเบาๆ “อย่าเสียมารยาท ทำไม่จึงเอาหมาไปเปรียบเทียบกับนาง ตอเป่าจะโกรธเอาได้นะ”
ตอเป่าส่ายหางวิ่งเข้ามาหา หมอบคลานอยู่ข้างเท้าของหยวนชิงหลิง ใบหน้าราวกับว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
หยวนชิงผิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มขำ แต่ก็ยังพูดอย่างอารมณ์เสียว่า “คราวหลังข้าควรจะระวังตัวให้มากขึ้น คนนอกต่างก็รู้ว่าข้าสามารถเข้าออกจวนอ๋องได้ตามสบาย หากมีคนคิดร้ายกับท่านพี่ คงต้องใช้ข้าเป็นเครื่องมือแน่ ”
“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว นอกจากท่านย่าแล้ว ก็อย่าได้พาใครเข้ามาอีก หรือว่าได้ยินข่าวลืออะไรภายนอก ก็ไม่ควรเชื่อง่ายๆ จำสองข้อนี้ไว้ให้ดี จะได้ไม่ทำผิดอีก”
หยวนชิงหลิงพูด