บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 234
บทที่ 234 แอบตรวจสอบสนมซูอย่างลับๆ
เสียนเฟยมองค้อนเขา “ทำไม? เจ้าหวังอยากให้ท่านแม่เจ้าป่วยหรือ?”
หยู่เหวินเห้าแววตาเป็นประกาย “ไม่ป่วยจริงๆใช่มั้ย? ห้ามปิดบังลูกเด็ดขาด”
“พอแล้ว ท่านแม่เจ้ากินได้นอนหลับ เหมือนคนไม่สบายตรงไหนรึ? เสียนเฟยมองเขา กล่าวด้วยเสียงต่ำ แต่เจ้าแปดน่ะสิ อาการเป็นยังไงบ้าง? ชายาของเจ้ารักษาได้หรือเปล่า?”
หยู่เหวินเห้ากล่าว “ยังไม่ทราบเลย หวังว่าคงไม่เป็นอะไร”
เสียนเฟยพยักหน้ากล่าว “แม้ว่าคนอย่างฮองเฮาจะไม่ค่อยน่ารัก แต่เจ้าแปดนั้นน่าสงสารจริงๆ เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง”
ทุกการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ล้วนไม่ควรเอาเด็กมาเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะ เจ้าแปดนั้นไม่มีทางที่จะไปคุกคามคนอื่นๆ เขานั้นถูกทุกคนรักและเอ็นดู
หยู่เหวินเห้ากล่าวปลอบโยน “วางใจเถอะ คงไม่เป็นไรหรอก”
เขาลุกขึ้น “ลูกไปดูก่อน”
เกือบจะสามารถที่จะแน่ใจได้แล้ว ว่ามันคือหลุมพราง ณ ตอนนี้น่าจะมีสองคนที่ต้องตรวจสอบ คนหนึ่งก็คือหลี่กงกงที่ปรนนิบัติต่อพระพักตร์ฮ่องเต้ เป็นเขาที่บอกว่าท่านแม่ไม่สบาย ล่อให้เขามาทางนี้
คนที่สอง ก็คือสนมซู
สองคนนี้ ต้องเริ่มลงมือสืบจากสนมซูจะดีที่สุด หลี่กงกงเป็นคนฉลาด หากเคลื่อนไหวจะทำให้เขารู้ตัว แล้วหาทางป้องกัน
แต่ว่าเป็นอย่างที่เขากับกู้ซือกังวล หากเริ่มสืบจากสนมซู ต่อไปนี้เรื่องนี้ก็ยากที่จะปิดบัง ต่อให้สืบจนรู้ความจริง หน้าของเสด็จพ่อก็จะไม่เหลือเลย
ประเมินดูแล้ว เขารู้สึกว่ายังไงก็ต้องหาท่านหญิงเต๋อเฟย ท่านหญิงเต๋อเฟยเป็นเสาหลักของวังเต๋อซ่าง นางมีสิทธิ์ที่จะรู้ มีเต๋อเฟยไปตรวจสอบสนมซู เหมาะสมที่สุด
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถที่จะไปหาท่านหญิงเต๋อเฟยที่วังเต๋อซ่างโดยตรง วันนี้เขารับราชโองการให้ทำคดีนี้ หากไปที่วังเต๋อซ่างอย่างโจ่งแจ้ง สนมซูจะรู้ตัวได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็จะทำให้คนนอกจะคาดเดาว่าเรื่องนี้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับวังเต๋อซ่างหรือไม่
เขาคิดถึงแม่นมสี่
ในอดีตแม่นมสี่ปรนนิบัติอยู่ที่ตำหนักฉินคุน ท่านหญิงแต่ละตำหนักนั้นเคารพนางอย่างมาก อีกอย่างเมื่อก่อนแม่นมสี่กับท่านหญิงเต๋อเฟยก็ไปมาหาสู่กัน หากให้แม่นมสี่ไปเรียนเต๋อเฟย ก็จะไม่มีคนสงสัยเลย
หยู่เหวินเห้าไปหาแม่นมสี่
แม่นมสี่ไม่ตกใจเลย แม้ว่าในใจจะหวั่นไหว แต่ก็ได้ตอบตกลงทันที ท่านอ๋องวางแผนถูกแล้ว เรื่องนี้มีเพียงท่านหญิงเต๋อเฟยที่จะไปสืบได้ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เลย
แม่นมสี่ไปถึงวังเต๋อซ่าง พระสนมซูกำลังคุยอยู่กับท่านหญิงเต๋อเฟยในตำหนัก ในนั้นยังมีคนที่อยู่ในวังเต๋อซ่างอย่างสนมลี่ร่วมอยู่ด้วย
เมื่อเห็นแม่นมสี่มา ท่านหญิงเต๋อเฟยก็ลุกขึ้นมาต้อนรับ ยิ้มพร้อมกับกล่าว “โอ๊ย แม่นมมาเยือน เป็นแขกที่มาได้ยากจริงๆ”
แม่นมทำความเคารพ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ข้าน้อยกลับมาที่ตำหนักฉินคุนมาเยี่ยมไท่ซ่างหวง คิดว่าไม่ได้มาทักทายท่านหญิงเต๋อเฟยเป็นเวลานานแล้ว วันนี้ก็เลยมา”
นางก็ได้ทำความเคารพสนมซูกับสนมลี่ “คำนับพระสนมซู คำนับพระสนมลี่”
สนมซูกับสนมลี่เห็นเต๋อเฟยลุกขึ้น ก็ไม่กล้าที่จะวางอำนาจ ก็ยืนขึ้นอย่างนั้นแหละ ยิ้มตอบ “แม่นมไม่ต้องมากพิธี”
ทั้งสองคนไม่ค่อยจะเข้าใจ ทำไมเต๋อเฟยต้องให้เกียรติแม่นมขนาดนี้
แม้ว่าจะเคยปรนนิบัติไท่ซ่างหวง แต่ไม่ว่ายังไงก็เป็นทาส อีกอย่างตอนนี้ก็ออกจากวังไปแล้ว
เต๋อเฟยกลับดึงตัวแม่นมสี่ให้นั่งลง กล่าวอย่างมีความสุข “ได้ข่าวว่าแม่นมออกจากวังไปอยู่ที่จวนอ๋อง ข้านั้นคิดถึงมาก หวังให้แม่นมเข้าวังมาโดยตลอด วันนี้ถือว่าได้เจอแล้ว ไม่ง่ายเลย แม่นมสบายดีมั้ย?”
“ขอบคุณท่านหญิงที่คิดถึง ข้าน้อยสบายดี” แม่นมสี่ตอบพร้อมกับรอยยิ้ม
สนมลี่กับสนมซูเห็นเต๋อเฟยมัวแต่คุยกับแม่นมสี่ ก็ได้ลุกขึ้นทูลลา
แม่นมลุกขึ้นมาทำความเคารพ “พระสนมทั้งสองค่อยๆเดิน”
พระสนมลี่ยิ้มเล็กน้อย ส่วนพระสนมซูนั้นเดินจากไปโดยตรง
แม่นมสี่เห็นทั้งสองคนเดินออกไปจากประตู ก็ค่อยๆหุบรอยยิ้มบนใบหน้า
แม่นมสี่กระซิบกล่าว “ท่านหญิงเต๋อเฟย มีคำพูดหลายคำพูด ที่ข้าน้อยต้องการคุยกับท่านโดยส่วนตัว ท่านให้คนออกไปก่อนเถอะ”
เต๋อเฟยเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของนาง ก็ได้สั่งแม่นมที่อยู่ข้างกาย “เจ้าพาคนออกไปให้หมด ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”
แม่นมสั่งการลงไป และได้ปิดประตูตำหนัก
เต๋อเฟยมองแม่นมสี่ “แม่นม ข้ารู้ว่าท่านนั้นมีเรื่องยุ่งมากมาย หากไม่ใช่เรื่องสำคัญ ท่านก็คงไม่มาที่วังเต๋อซ่างด้วยตัวเอง มันคือเรื่องอันใดกันแน่?”
แม่นมสี่กล่าว “ท่านหญิงอย่าพูดเช่นนี้ ข้าน้อยเพียงแต่ไม่อยากจะมารบกวนท่านบ่อยๆ”
“ข้าจำบุญคุณอันใหญ่หลวงของท่านได้ อยากให้ท่านมา อย่าพูดว่ารบกวนเลย”
หลายปีมานี้เต๋อเฟยไม่มีลูก ฮ่องเต้นั้นโปรดปรานนางมาก ก็ต้องทำให้คนอื่นอิจฉาเป็นธรรมดา ไท่ซ่างหวงก็มักจะให้แม่นมมาเยี่ยมตลอดเวลา ได้รับความสำคัญจากไท่ซ่างหวง ก็ทำให้พวกที่คิดไม่ดีต้องถอยไปโดยปริยาย
แม่นมสี่มองนาง “หลายปีมานี้ท่านหญิงก็ไม่ง่ายเลย แม้ว่าจะไม่แก่งแย่งชิงดีไม่นินทาว่าร้าย ต่อให้ท่านเป็นคนดี ก็ไม่ได้แปลว่าคนในวังของท่านก็จะเป็นเหมือนท่าน ท่านหญิงชะล่าใจไปแล้ว นอกเสียจากว่ายังไม่รู้ว่าวังเต๋อซ่างเกิดเรื่องแล้ว?”
เต๋อเฟยฟังแล้ว สีหน้าก็คิดหนักทันที แม่นม ท่านรีบพูดมา วังเต๋อซ่างเกิดเรื่องอะไรรึ? ใช่เรื่องที่พวกทาสไปก่อเรื่องข้างนอกหรือเปล่า? ไปเจอกับฮองเฮาเข้า?
แม่นมสี่ถอนหายใจเบาๆ “หากเป็นเรื่องนี้มันก็เรื่องเล็ก ข้าน้อยคงไม่มารบกวนท่านหญิงหรอก”
นางกดเสียงให้ต่ำลง กระซิบกล่าว “องค์ชายแปดเกิดเรื่อง ที่ใต้เท้ากู้ไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว ยอมรับว่าเป็นคนที่ทำร้ายองค์ชายแปด ก็เพราะต้องการปิดบังความลับ วันนั้นองค์ชายแปดวาดภาพอยู่ที่ตำหนักหมิงหัว ไปรับรู้เรื่องของใครบางคนเข้า พอดีกู้ซือมาเห็นเข้า เป็นสนมซูที่กำลังกอดกับผู้ชายคนหนึ่ง ใต้เท้ากู้เห็นอย่างชัดเจน คนที่ทำร้ายองค์ชายแปด ก็คือชู้ของนาง”
ใบหน้าที่งดงามของเต๋อเฟยก็ถอดสี ใช้มือกุมปากตัวเองเอาไว้ แววตาแฝงด้วยความตกใจและความโกรธ “โอ้สวรรค์ โอ้สวรรค์ สนมซูคนชั้นต่ำ ช่างใจกล้าเหลือเกิน”
แม่นมกดเสียงต่ำลง “ท่านหญิงอย่าเพิ่งหงุดหงิด ที่ข้าน้อยมาครั้งนี้ ได้รับความไว้วางจากท่านอ๋อง เขาไม่สามารถที่จะมารายงานเรื่องนี้โดยตรง และก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบโดยตรง ดังนั้นจึงให้ข้าน้อยมาที่นี่ เรื่องนี้ยังต้องให้ท่านหญิงเป็นคนสืบอย่างลับๆ ดูว่าสนมซูช่วงนี้ไปมาหาสู่กับใครมากที่สุด เรื่องนี้ต้องทำอย่างรัดกุม”
หลังจากที่เต๋อเฟยหายตกใจ จิตใจก็ค่อยๆสงบลงมา “เจ้าห้าทำถูกแล้ว เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะสืบแบบโจ่งแจ้ง มันจะให้ฮ่องเต้ขายหน้า ต้องจัดการอย่างเงียบที่สุด แม่นมไปบอกกับลูกห้า เรื่องนี้ข้าจะรีบสืบทันที ต้องลากชายชู้คนนั้นออกมาให้ได้”
“ท่านหญิงต้องเร่งมือแล้ว ไม่อย่างนั้นใต้เท้ากู้จะถูกลงโทษ” แม่นมกล่าว
เต๋อเฟยกล่าวอย่างเกลียดชัง “สนมซูเป็นคนในวังข้า เรื่องนี้เมื่อถูกแพร่งพรายออกไป เมื่อคนรู้กันทั่ว ข้าก็จะถูกนางทำให้ลำบากไปด้วย ท่านวางใจเถอะ ต่อให้ต่อเอาชีวิตของนาง ข้าก็ต้องสืบจนรู้ว่าชายชู้คนนั้นเป็นใคร”
แม่นมสี่ลุกขึ้น “งั้นข้าน้อยก็วางใจแล้ว “ข้าน้อยขอก่อนตัว จะรอข่าวของท่านหญิงเต๋อเฟย”
หลังจากที่แม่นมไปแล้ว เต๋อเฟยก็สั่งการอย่างลับๆ สั่งให้คนไปตามทาสที่ปรนนิบัติสนมซูมาสอบปากคำ
และสั่งให้ปิดวังเต๋อซ่าง ไม่ให้ใครเข้าออกทั้งนั้น
คำสั่งที่สั่งปิดวังเต๋อซ่างลงมา สนมซูก็พอจะเดาได้แล้ว
นางหัวเราะอย่างเศร้าใจ เสียใจจนน้ำตาไหลออกมา