บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 236
เต๋อเฟยโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “หากพูดเช่นนี้ องค์ชายแปดเห็นหน้าชายชู้คนนั้นแล้ว?”
“ใช่” หยู่เหวินเห้าส่ายหัวแล้วกล่าว “สถานการณ์ไม่ดีเลย บัดนี้ฮ่องเต้สั่งให้ปิดคดีโดยด่วน เรื่องของสนมซูจึงปิดได้เพียงชั่วคราว หากเราไม่มีหลักฐานใหม่เพิ่ม หรือว่าน้องแปดยังไม่ฟื้น เรื่องนี้ก็จะปกปิดไม่ได้อีกต่อไป”
เต๋อเฟยร้อนใจแล้ว “แล้วจะทำยังไง?”
หยู่เหวินเห้าคิดไปครู่หนึ่ง “ข้าพอจะรู้แล้ว แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน”
เต๋อเฟยกล่าว “งั้นเจ้าก็รีบไปเลย ข้าจะจับตามองนางคนชั้นต่ำคนนี้เอาไว้ ไม่ให้นางแพร่งพรายแม้แต่คำเดียว”
หยู่เหวินเห้าส่ายหัวกล่าว “ท่านแม่เต๋อ ที่วังของท่านก็คงจะยืดเวลาได้ไม่นานแล้ว ในเมื่อนางเอ่ยปากแล้ว แม้ว่าท่านจะไม่พูด เรื่องนี้ก็มีคนไปรายงานกับฮ่องเต้แล้ว”
หยู่เหวินเห้าพิจารณาไปครู่หนึ่ง แววตาก็เปล่งประกาย หากมีคนไปรายงานฮ่องเต้ คนผู้นั้น ก็ต้องเป็นทหารรักษาพระองค์ที่ลาดตระเวนอยู่แถวตำหนักหมิงหัวมันจึงจะสมเหตุผล แต่ว่า เรื่องนี้คนที่เห็นจริงๆนั้นไม่มีเลย นอกจากชายชู้คนนั้น หากร้องเรียน เสด็จพ่อต้องถามอย่างละเอียดถี่ถ้วน คนที่ร้องเรียน ต้องรายงานสถานการณ์ที่เกิดเหตุทั้งหมด นอกจากชายชู้คนนั้น ยังมีใครที่รู้สถานการณ์ในตอนนั้นอีกหรือ?
เต๋อเฟยมองเขา “ความหมายของเจ้าคือ ชายชู้คนนั้นจะไปร้องเรียน?”
“ใช่ เขาต้องไป วันนั้นเขากับสนมซูถูกบีบบังคับให้วางกับดักที่ตำหนักหมิงหัวเพื่อใส่ความข้า เป็นเพราะว่าน่าจะมีความลับอยู่ในกำมือของผู้บงการ คนที่พวกมันจะใส่ร้ายก็คือข้า ตั้งแต่กู้ซือปรากฎตัว ก็ทำให้แผนการของพวกเขาวุ่นวายอย่างมาก และคนที่รับผิดชอบคดีนี้ก็ยังเป็นข้า หากต้องการชนะ พวกเขาต้องมีคนไปรายงานฮ่องเต้ ข้ากับสนมซูพลอดรักกันที่ตำหนักหมิงหัว ถูกน้องแปดเห็นเข้า ข้าลงมือฆ่าขันทีน้อย ทำร้ายน้องแปดบาดเจ็บสาหัส กู้ซื้อมารับผิดแทนข้า ทั้งหมด ก็เหมือนกับที่สนมซูเล่า ท่านแม่เต๋อ หากคนผู้นี้ทำเช่นนี้จริง ก็เท่ากับว่าหลังจากที่น้องแปดเกิดเรื่องแล้ว พวกเขาเคยเจอกัน และได้นัดพูดคำสารภาพที่เหมือนกัน ท่านรีบสั่งคนไปตรวจสอบดู หลังจากที่น้องแปดเกิดเรื่องแล้ว สนมซูเจอใครไปแล้วบ้าง? ที่ข้ามีรายชื่อฉบับหนึ่ง เป็นรายชื่อทหารที่เข้าเวรที่ข้าได้มาจากกองทหารรักษาพระองค์ ข้าได้วงคนที่น่าสงสัยแล้วสองสามชื่อ”
ท่านหญิงเต๋อเฟยรับมันไป มองดูรรายชื่อเหล่านั้นอย่างละเอียด สายตาก็ได้ไปหยุดอยู่คนที่ชื่ออู๋ซูฮั่ว
นางก็เลิกคิ้ว แล้วกล่าว “คนผู้นี้น่าสงสัยที่สุด”
“หมายความว่าไง?” หยู่เหวินเห้าถาม
ท่านหญิงเต๋อเฟยกล่าว “ตอนที่สนมซูจะเข้าวังนั้น ถูกแต่งตั้งให้เป็นนางกำนัลชั้นเก้า อยู่ที่พระตำหนักฉ่ายอี้ อู๋ซูฮั่วคนนี้ก็เป็นข้ารับใช้อยู่ในพระตำหนักฉ่ายอี้ ต่อมาสนมซูถูกแต่งตั้งเป็นพระสนม ก็ย้ายมาอยู่ที่วังเต๋อซ่าง คนผู้นี้ก็ถูกย้ายตามมา อีกอย่างเมื่อกี้ที่ข้าสั่งให้คนตรวจสอบ พบว่าสนมซูตกรางวัลให้เขาหลายครั้ง ยังได้เอ่ยชมต่อหน้าพระพักตร์ ว่าเขาเป็นคนที่ทำงานได้ดี”
“คนผู้นี้กับข้า มีความคล้ายกันมากแค่ไหน?” หยู่เหวินเห้าถาม
เต๋อเฟยคิดไปครู่หนึ่ง “ส่วนสูงน่าจะพอกัน หากพูดถึงใบหน้าด้านข้าง ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่”
หยู่เหวินเห้ายิ้มอย่างเย็นชา “โดยพื้นฐานก็น่าจะเป็นเขาแล้ว”
เต๋อเฟยแววตาเป็นประกาย กล่าวอย่างดีใจ “ข้าจะไปบอกสนมซู ว่าเจ้านั้นได้จับตัวหลี่กงกงแล้ว รู้ว่าชายชู้คนนนั้นก็คืออู๋ซูฮั่ว อู๋ซูฮั่วก็ยอมรับผิดแล้ว เพียงแต่เขารับโทษไว้แต่เพียงผู้เดียว บอกว่าเขานั้นวางยาสนมซู รังแกสนมซู สนมซูต้องหาทางช่วยเขา แล้วก็ไปสารภาพความผิด”
หยู่เหวินเห้าส่ายหัว “ไม่ สนมซูอาจจะไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรเสียมันมีความเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลของนาง”
เต๋อเฟยกลับกล่าว “ไม่ ข้านั้นเข้าใจผู้หญิงดี ผู้หญิงยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนรักของตัวเอง”
หยู่เหวินเห้ากล่าว “ท่านแม่เต๋อ เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต่อให้สนมซูจะโง่ยังไง ก็คงไม่เพื่อผู้ชายคนหนึ่ง แล้วต้องทำร้ายคนทั้งตระกูล ดังนั้น ข้าคิดว่านางไม่มีทางไป นางไม่ไป มากสุดต่อไปก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ แต่อย่างน้อยยังมีชีวิตรอด สนมซูเป็นคนที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นนางคงไม่เพราะความเหงาชั่วคราว จนไม่ห่วงชื่อเสียงชีวิตของคนในตระกูล ก็ไปทำเรื่องที่ผิดมหันต์เช่นนี้ ดังนั้น ท่านแม่เต๋ออดทนไปก่อน รอข้าแจ้งอีกที หากอู๋ซูฮั่วไปจริงๆ ข้าจะให้คนมาเรียนท่าน ท่านสามารถสั่งสนมซูฆ่าตัวตายก่อน แต่ห้ามบอกว่าเป็นคำสั่งของท่าน ก็บอกว่าเป็นวิธีที่นางชดใช้ความผิดของตัวเอง ด้วยการฆ่าตัวตาย ห้ามให้นางไปหาเสด็จพ่อเด็ดขาด”
เต๋อเฟยขมวดคิ้ว “ลูกห้า หากทำตามที่เจ้าพูด เรื่องนี้มันไม่มีผลดีต่อเจ้าเลย อู๋ซูฮั่วไปร้องเรียน บอกว่าเจ้ากับสนมซูคบชู้กัน จากนั้นข้าไปหาฮ่องเต้ บอกว่าสนมซูฆ่าตัวตาย มันก็แค่รับผิดชอบเรื่องคบชู้อย่างที่อู๋ซูฮั่วร้องเรียน แต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำให้เจ้ารอดพ้นจากความสงสัยไปได้ ในทางกลับกันเจ้ากับอู๋ซูฮั่วจะถูกโยงเข้าด้วยกัน”
หยู่เหวินเห้ากล่าว ท่านแม่เต๋อ ท่านอย่าลืม ยังมีกู้ซือ เมื่อถึงเวลาเสด็จพ่อต้องเรียกตัวกู้ซือ กู้ซือก็จะพูดความจริง บอกเพียงคนผู้นั้นก็คืออู๋ซูฮั่ว สำหรับก่อนหน้านี้ทำไมกู้ซือไม่พูด กู้ซือก็สามารถบอกเหตุผลได้ เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของฮ่องเต้ หน้าตาของราชวงศ์ กู้ซือยอมตายก็ไม่ยอมให้ราชวงศ์อับอาย บัดนี้ฮ่องเต้ทราบความแล้ว เขาจึงพูดออกมา ทุกอย่างก็พอที่จะมีเหตุผล
“ที่เจ้าพูดว่าก็พอที่จะมีเหตุผล สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถที่จะลบล้างความสงสัยในตัวเจ้าได้อย่างหมดจด” เต๋อเฟยกล่าว
หยู่เหวินเห้าอยากจะอธิบายกับนางมากกว่านี้ อย่างเช่น เขาได้สั่งคนเริ่มลงมือจากหลี่กงกงแล้ว เมื่อเขากับอู๋ซูฮั่วถูกสงสัยเหมือนกัน สำหรับเรื่องนี้ เสด็จพ่อต้องให้เหลิ่งจิ้งเหยียนไปตรวจสอบอย่างแน่นอน เพราะว่าเหลิ่งจิ้งเหยียนเป็นคนสนิทของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเชื่อว่าเขานั้นสามารถที่จะรักษาความลับได้ ขอเพียงเหลิ่งจิ้งเหยียนทำคดีนี้ต่อ เบาะแสที่เขาสืบก่อนหน้านี้ ก็สามารถมอบมันให้กับเหลิ่งจิ้งเหยียน ไม่กลัวว่าความจริงจะไม่กระจ่าง
สิ่งที่สำคัญที่สุด ทางน้องแปดยังมีความหวัง
เพียงแต่ คำพูดเหล่านี้เมื่ออธิบายแล้วต่อใช้เวลามาก เขากังวลว่าบัดนี้อู๋ซูฮั่วน่าจะไปหาเสด็จพ่อแล้ว ก็เลยกล่าว “ท่านแม่เต๋อโปรดทำตามที่ข้าบอก ข้าขอตัวก่อน รอให้ทางอู๋ซูฮั่วมีความเคลื่อนไหว จะสั่งคนมาเรียนท่านแม่เต๋อ”
เต๋อเฟยทำได้เพียงกล่าว “ก็ได้ เจ้าไปก่อนเถอะ”
หยู่เหวินเห้าทูลลา
มองหยู่เหวินเห้าจากไป เต๋อเฟยถอนหายใจเบาๆ ลูกห้าแม้จะคิดรอบคอบ แต่มันอ้อมไปอ้อมมาเกินไปแล้ว
อีกอย่าง เขานั้นไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ
สนมซูรักอู๋ซูฮั่วมาก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไปมาหาสู่กับเขาโดยไม่ห่วงชีวิต ใจของผู้หญิงเมื่อรักผู้ชายคนนั้นแล้ว ก็จะไม่สนอะไรทั้งนั้น เพื่อปกป้องเขา
เพียงแต่ คำพูดเหล่านี้ ต่อให้พูดแล้วลูกห้าก็คงไม่เข้าใจ
คิดไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าไม่ควรที่จะทำอย่างที่ลูกห้าบอก
นางรออยู่ในตำหนัก ไม่นานนัก ก็เห็นสวีอีมารายงาน บอกว่าอู๋ซูฮั่วขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว
เต๋อเฟยรีบสั่งคนไปนำตัวสนมซูมา
ไม่ใช่เพราะนางสงสารชีวิตของสนมซู เพียงแต่ตอนนี้สนมซูยังตายไม่ได้ คำสารภาพของนาง สามารถที่จะล้มล้างคำพูดของอู๋ซูฮั่ว ยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกห้า สำหรับสิ่งที่ลูกห้าพูดนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะทำเลย
เมื่อสนมซูถูกนำตัวมา นางกำนัลที่ดูแลวังได้เอาผ้าที่ยัดปากของนางออก สนมซูคุกเข่าอยู่บนพื้น
เต๋อเฟยมองสภาพที่น่าสังเวชของนาง กล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถที่จะปิดบังได้จริงๆเหรอ? อ๋องฉู่ได้ลงมือสืบจากฝั่งของหลี่กงกง ตรวจสอบชัดเจนแล้ว อู๋ซูฮั่วถูกนำตัวไปที่หน้าพระพักตร์แล้ว เขาเพียงแต่ยอมรับว่าวางยาเจ้า ฉวยโอกาสทำมิดีต่อเจ้า เขาเพื่อเจ้าแล้ว ยอมรับโทษแต่เพียงผู้เดียว เป็นคนที่ลุ่มหลงในความรัก แต่น่าเสียดาย ความลุ่มหลงนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย ครั้งนี้ เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับการที่ต้องถูกสับเป็นหมื่นๆชิ้น”