บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 24
ตอนที่ 24 ผ่านคืนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
ตกดึกของคืนวันนี้ ฮ่องเต้หมิงหยวนมาเข้าเฝ้ากราบทักทาย เมื่อเห็นว่าอาการของไท่ซ่างหวงดีขึ้น เขาพูดคุยเป็นเพื่อนไท่ซ่างหวงก่อนถึงออกจากตำหนักไป
หยวนชิงหลิงได้แต่ก้มหน้า ฉางกงกงช่วยไท่ซ่างเช็ดเนื้อตัวเหมือนอย่างเคย หยวนชิงหลิงกำลังหลีกเลี่ยงไปที่ห้องโถงด้านนอก
ขณะที่ยังพอมีเวลา นางได้ฝังเข็มรักษาตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถรักษาแผลภายนอกได้ ตอนนี้รู้สึกว่าแผลเริ่มฉีกขาดอักเสบบวมขึ้นแล้ว
หลังจากได้ฝังเข็มไป นางนอนพักอยู่ครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงเหมือนมีใครบางคนเดินมา รู้ว่าฉางกงกงได้จัดการภารกิจเสร็จแล้ว นางรีบลุกขึ้น
การเคลื่อนไหวตัวอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เลือดในสมองวิ่งพล่าน รู้สึกมีรสหวานในลำคอครู่หนึ่ง แล้วก็กระอักเลือดออกมา
นางเดินอย่างสั่นเทาไปข้างหน้า อาเจียนเลือดที่ใต้ต้นไม้
“พระชายาเป็นอะไรไป?”
มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของนาง นั้นคือเสียงของฉางกงกง
หยวนชิงหลิง ยกมือขึ้นสะบัด “ไม่เป็นไร เป็นเพราะกินอิ่มเกิน”
“อ๋อ !”แววตาของฉางกงกงมีความสงสัย แต่ว่า เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินจากไป
หยวนชิงหลิงอดทนและเดินเข้าภายในตำหนักไป ไท่ซ่างหวงนั่งอยู่ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพระองค์มีอาการที่ดีขึ้นมาก
หยวนชิงหลิงกล่าว “ไท่ซ่างหวง ถึงเวลาฝังเข็มแล้ว”
ไท่ซ่างหวงยื่นแขนออกมา จ้องไปที่นางด้วยสายตานิ่งเงียบ “ข้าชินกับสิ่งของพวกนั้นแล้ว เจ้าอยากฝังเข็มหรือทำอะไรก็ตามใจเถอะ”
หยวนชิงหลิงได้ฟังเสียงหัวใจและทางเดินหายใจ มีภาวะความดันโลหิตต่ำ ใช้ยาโดปามีนฉีดเข้าเส้น หลังจากนั้นให้น้ำเกลือตาม
นางหยิบขวดยาใต้ลิ้นออกมา ส่งให้กลับไท่ซ่างหวง “นี่คือยาฉุกเฉินหากพระองค์รู้สึกเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก ให้ใส่ยานี้ไว้ใต้ลิ้น ฉลากที่บอกสรรพคุณของยาที่ยารักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ตอนที่อยู่ด้านนอกนางได้ฉีกทิ้งแล้ว ”
แต่ขวดนี้ดูละเอียดและสวยงามอยู่ไม่น้อย ไท่ซ่างหวงหยิบขึ้นมาดู และก็เก็บมันลงไป
ผ่านไปหลายชั่วยาม ไท่ซ่างหวงเห็นหยวนชิงหลิงยกน้ำเข้ามา และมือของนางได้กําเม็ดยามาแต่ก็ไม่เหมือนเม็ดยา สีหลากหลายสีมาก พระองค์รู้สึกจะหมดความอดทน“สิ่งนี้คืออะไรรึ?”
“คือยา ถึงเวลากินยาแล้ว ”
“ไม่กิน ยาอะไรมีหลายสีเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ยาที่ดี!”
“ถึงอย่างไรก็ต้องกิน!”ตอนนี้หยวนชิงหลิงก็มีความมั่นใจเชื่อว่าไท่ซ่างหวงจะไม่มองนางในแง่ร้ายอย่างแน่นอน เพราะการพูดจาของพระองค์ไม่ได้ดูเคร่งขรึมเหมือนก่อน“กินยานี่แล้วอาการจะดีขึ้น ยาไม่ได้ขม”
“ขอร้องเถอะค่ะ!ไท่ซ่างหวงมองด้วยสายตาเมินเฉย แต่ก็หยิบยาขึ้นมาหลายเม็ดกินเข้าไป หยวนชิงหลิงส่งน้ำให้ แต่ทว่าไท่ซ่างหวงกำลังเคี้ยวยาแล้ว สีหน้ายู่ยี่คิ้วขมวด รู้สึกเค็มๆ
“รีบดื่มน้ำกลืนลงไป!”หยวนชิงหลิงรีบส่งน้ำให้พระองค์ดื่ม ทำไมถึงหยิบเข้าปากแล้วเคี้ยวเลย?ขนาดเด็กยังรู้เลยว่ายาต้องกินคู่กับน้ำ หรือว่าในวังแห่งนี้ไม่มียาชนิดแบบน้ำ?
ได้ดื่มน้ำลงไปหนึ่งแก้ว จึงทำให้กลืนยาที่มีรสชาติขมนี้ลงไป ไท่ซ่างหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุ“หากข้าหายแล้ว จะผ่าสมองของเจ้าออกมาดู
“ค่ะ ค่ะ!”หยวนชิงหลิงตอบกลับแบบส่งๆ แต่รู้สึกอยากหัวเราะออกมาๆ นางรู้สึกตลกตัวเองอยู่เหมือนกัน ในเวลาแบบนี้ยังจะมีอารมณ์ขันอีก
ไท่ซ่างหวงด่าไปยกใหญ่ และค่อยๆหันกลับมา หยวนชิงหลิงรู้ว่าพระองค์คงจะง่วงมากแล้ว จึงเอาหมอนหลีกไป และค่อยๆประคองพระองค์นอนลงไป
ประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ให้น้ำเกลือหมดขวดแล้ว หยวนชิงหลิงเริ่มจัดเก็บข้าวของได้สักพัก ฉางกงกงได้พาตัวหมอหลวงเข้ามา
ฉางกงกงพลางพูดกับหยวนชิงหลิงว่า“ไท่ซ่างหวงได้มีรับสั่ง ให้พระชายาไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ตะวันขึ้น ท่านค่อยมาดูแลพระองค์ต่อพ่ะยะค่ะ ”
หยวนชิงหลิงก็ออ่นเพลียเหนื่อยมากแล้ว คืนนี้อาการของพระองค์คงไม่น่าเป็นห่วง นางพยักหน้าและเดินออกไปด้านนอกตำหนัก
สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่นอนของหยู่เหวินเห้า หยวนชิงหลิงปิดประตูบานใหญ่ นอนคว่ำตัวอยู่บนเตียง แทบจะหลับทันทีที่ร่างกายแตะถึงเตียง
ในเวลาตอนเที่ยงคืนนางสดุ้งตื่นขึ้น และค่อยๆย่องเข้าไปในตำหนักด้านใน เห็นว่าฉางกงกงง่วงเหงาและหลับไป ไท่ซ่างหวงนอนหลับอย่างสนิท นางเองก็กลับไปกินยา และนอนหลับต่อ
ฟ้ายังไม่สาง นางก็ตื่นแล้ว ในคืนที่ยาวนานนี้ นางตื่นขึ้นแล้วอาเจียนเป็นเลือด แต่ภายในร่างกายของเธอเจ็บปวดมาก นางได้กินยาแก้ปวดอีกครั้ง พออาการเริ่มดีขึ้น ก็เข้าไปในตำหนักเพื่อดูแลไท่ซ่างหวง
ฉางกงกงตื่นแล้ว ผู้รับใช้ด้านนอกตำหนักนำน้ำล้างหน้าอุ่นๆเข้ามา และได้เตรียมไว้ให้หยวนชิงหลิงด้วย
เมื่อหยวนชิงหลิงล้างหน้าแล้ว รู้สึกว่าตัวเองตาสว่างสดชื่นมากยิ่งขึ้น
ไท่ซ่างหวงก็ทรงตื่นแล้วเช่นกัน โดยมีฉางกงกงดูแลอยู่ไม่ห่าง
ฟ้าสว่างแล้ว มีเสียงดังขึ้นไทเฮาเสด็จ
หยวนชิงหลิงรีบตบหน้าตัวเอง ให้ตื่นมากกว่านี้
ไทเฮาเข้ามาแล้ว วันนี้พระนางได้แต่งองค์ทรงเครื่องโดยสวมใส่เสื้อผ้าไหมสีฟ้าและผ้าซาตินปักลาย และสีหน้าซีดเสียว
พระชายาฉีฉู่หมิงชุ่ยเสด็จมาด้วย เมื่อหยวนชิงหลิงได้ถวายคำนับ ฉู่หมิงชุ่ยได้เข้ามาโอบมือนาง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ลำบากเจ้าแล้วพระชายาฉู่”
หยวนชิงหลิงก้มมองไปที่มือของนาง มือขาวคู่นั้นอยู่ใต้แขนเสื้อสีแดง สวมใส่เล็บสีทองยาว ในมือของนางได้สวมใส่แหวนที่ประณีตงดงามอยู่หลายวง
ไม่พบเข็มหรือรอยมีดแต่อย่างใด
แต่ทว่า เล็บที่หางนิ้วของมือขวา มีบางอย่างที่แปลกไป นางไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้า
เมื่อหยวนชิงหลิงพยายามดึงมือกลับ นางพินิจพิจารณามองอย่างละเอียด รู้สึกมือนั้นกำแน่น รู้สึกเจ็บที่ปลายนิ้วมือ มันคือมีดใบเล็กที่แหลมคม
คือนางนี่นาง!
ผู้รับใช้เดินเข้ามาจากด้านนอก มีคนช่วยประคองตัวของไท่ซ่างหวงขึ้นมา “ไท่ซ่างหวง อ๋องฉู่เสด็จมาแล้วพะยะค่ะ รอเข้าเฝ้าอยู่ตำหนักด้านนอก !”
“เข้าเฝ้า!” ไท่ซ่างหวงผลักมือของฉางกงกงออก“ฝูเป่า(สุนัข)ละ?พาฝูเป่า(สุนัข)มา”
ไทเฮาหัวเราะและเดินมาข้างหน้า “ดูท่าอาการของพระองค์คงดีขึ้นมากแล้ว ยังคิดถึงสัตว์นั้น”
ไท่ซ่างหวงไม่อยากรับฟังเท่าไหร่ ชักสีหน้าใส่ สัตว์อย่างนั้นรึ ?มันไม่มีชื่อหรือไง?”
ไทเฮานั่งลงข้างๆเตียงนอน หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดหน้าผากอย่างละเมียดละไม แววตาของพระนางแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“เพคะ ชื่อฝูเป่าพระองค์ไม่ทรงรู้สึกว่ามันโชคดีรึเพคะ?”
หยู่เหวินเห้าเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เมื่อถึงในตำหนัก เขารู้สึกร้อนรนใจ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากระวนกระวายใจอย่างมาก
ทุกครั้ง เพียงเขาเข้ามาในวังที่ไหนมีฉู่หมิงชุ่ยอยู่ เขาจะมองหาฉู่หมิงชุ่ยเป็นคนแรก แต่พอมาวันนี้ เขาเข้ามาถึงวังก็มองหาหยวนชิงหลิง กวาดสายตาไปทั่ว และเมื่อเห็นหยวนชิงหลิงเขาเองก็ไม่สามารถละสายตาจากนางไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงเดินเข้าไปน้อมคำนับทักทายไท่ซ่างหวง
ฉู่หมิงชุ่ยถอยออกไปยืนอยู่ข้างๆ ก้มหน้าลง นางรู้สึกโมโหกับเหตุการณ์ที่อ๋องฉู่ทำลงไปเมื่อครู่
“หลานมาเยี่ยมเสด็จปู่พ่ะยะค่ะ หลานตื่นแล้วรีบมาทันที”ทั้งคืนหยู่เหวินเห้านอนไม่หลับ มีขอบตาดำบนใบหน้าอย่างชัดเจน
“หลานไม่เป็นไรก็ดีแล้ว!”ไท่ซ่างหวงปลอบโยนหลานชายของพระองค์
ผ่านไปได้ไม่นาน ฮ่องเต้หมิงหยวนและฮองเฮาก็มาถึง อ๋องชินลุ่ยเมื่อคืนเขาไม่ได้ออกจากวัง มาถึงด้วยแล้วเช่นกัน
หยวนชิงหลิงถอยออกไปอยู่ด้านข้าง นางมองดูตระกูลเทียนที่กำลังพูดคุยกัน
ฉู่หมิงชุ่ยเดินไปยืนข้างนาง นางมองไปที่หยวนชิงหลิง ใบหน้ายังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตร “ เมื่อคืนคงเหนื่อยน่าดูเลยสิ?”
“ก็ไม่เหนื่อยขนาดนั้น!”หยวนชิงหลิงไม่อยากสนใจนางเท่าไหร่ นางพูดคุยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
หมอหลวงน้ำยาที่ต้มมาถวาย ไท่ซ่างหวงไม่ค่อยอยากดื่มมันนัก พระองค์ทรงรับสั่งว่า“เอาออกไป เอาออกไป ข้าไม่ดื่ม!”
ทุกคนช่วยกันกล่อมพระองค์แต่ก็ไม่สำเร็จ แม้แต่ฮ่องเต้หมิงหยวนและฮองเฮาก็เกลี้ยกล่อมพระองค์ แต่พระองค์ก็ไม่ยอมกิน สิ่งนี้ทำให้ไทเฮารู้สึกกังวลไม่สบายใจฮ่องเต้หมิงหยวนรู้จักนิสัยของไท่ซ่างหวงดี หากหัวแข็งขึ้นมาแล้วก็ ไม่ว่าจะพูดอะไรพระองค์ก็ไม่รับฟังอย่างแน่นอน จึงบอกให้หมอหลวงออกไป แต่มีเสียงที่ดังขึ้นเป็นเสียงของหยวนชิงหลิง“เสด็จปู่ ถึงอย่างไรยาก็ยังต้องกินอยู่ดี”
ทุกคนที่อยู่ในตำหนักจ้องมองไปยังนาง มองนางด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาของฮ่องเต้หมิงหยวนในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความโกรธเคือง
กลัวว่าคำพูดที่นางกล่าวมาจะทำให้ไท่ซ่างหวงโกรธ
ฉู่หมิงชุ่ยที่ยืนอยู่ข้างนางยิ้มเยาะ ใยโง่นี่กล้าดีมาเกลี้ยกล่อมให้พระองค์กินยา ตอนนี้ไท่ซ่างหวงอารมณ์เสียมาก แม้แต่ไทเฮายังเกลี้ยกล่อมพระองค์ไม่สำเร็จเลย คิดว่าไท่ซ่างหวงจะฟังเจ้าอย่างงั้นรึ?นางทำเช่นนี้เป็นการจงใจจะยั่วโมโหไท่ซ่างหวงชัดๆ?