บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 241
ที่ตำหนักชิงหัวจะไม่มีหยวนชิงหลิงไม่ได้ ดังนั้น หยู่เหวินเห้าก็ถูกโบยเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วถูกพยุงออกมา
หากแค่สามสิบที ยังพอทนไหว
ถึงอย่างไร ก็ถูกโบยเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ผ่านความเจ็บแล้ว ทนทรมานไม่กี่วันก็หาย
ตอนนี้คือเพิ่งถูกโบยสามสิบทีไปไม่นาน ก็ถูกโบยเพิ่มอีกสิบที มันเหมือนโรยเกลือบนแผลสดจริงๆเลย
ตอนที่สวีอีพยุงตัวเขานั้น ร่างทั้งร่างของเขาก็ได้พิงอยู่บนตัวของสวีอี เขาถอนหายใจอย่างหนัก “สวีอี การถูกโบยนั้นเจ็บมากจริงๆ พระชายาของเจ้าก่อนหน้านั้นก็เคยถูกโบยสามสิบที ช่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมจริงๆ”
สวีอีพยุงเขาเดินไปข้างหน้า หายใจหอบ “ใช่ โหดร้ายและร้ายมนุษยธรรม ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนไหนเป็นคนโบยพระชายา” หยู่เหวินเห้ากระแอมไปสองที “รอให้ข้าหายดีก่อน เจ้าตายแน่”
สวีอีกล่าว “ข้าน้อยหมายถึงทหารที่เป็นคนโบย”
หยู่เหวินเห้าเห็นด้วย “เจ้าไปหาตัวเขาออกมา ข้าจะลงโทษเขาอย่างหนัก”
สวีอีตอบด้วยเสียงอ้อไปหนึ่งคำ จากนั้นก็กล่าว “ถึงยังไง ก็โทษพวกเขาไม่ได้ ตอนนั้นท่านอ๋องเป็นคนสั่ง บอกว่าให้ตีให้ตาย ท่านอ๋อง ตอนนี้ท่านรู้สึกเจ็บใช่มั้ย? แต่พระชายาครั้งนั้นถูกโบยเสร็จก็เข้าวังเลย นางไม่มีคนพยุงด้วย นางผ่านมันไปได้ยังไง?”
หัวใจของหยู่เหวินเห้าเกือบแหลกสลาย “เจ้ารีบหุบปากเลย พูดจนข้ารู้สึกเหมือนถูกหมากัดที่หัวใจเลย”
สวีอีกลับรู้สึกว่า ถูกโบยด้วยไม้หน้าสาม ก็ไม่เท่าไหร่นะ? พวกเขาเคยผ่านสนามรบมาแล้ว ยังจะกลัวถูกโบยด้วยไม้หน้าสามอีกเหรอ? ดาบ ปืน กระบี่ และง้าว มีอย่างไหนที่ไม่น่ากลัวกว่าไม้หน้าสาม?
เมื่อกลับมาถึงตำหนักฉินคุน หยวนชิงหลิงเห็นเขาเดินยังต้องให้คนพยุง เจ็บจนหน้าซีดขาวไปหมดแล้ว ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ น้ำตาไหลลงมาสองหยด นางก็เดินไปข้างหน้า ถามอย่างสงสาร “เจ็บมั้ย?”
หยู่เหวินเห้ากอดนางเอาไว้ ถอนหายใจแล้วกล่าว “ยัยแก่หยวน ขอโทษด้วย!”
หัวใจของหยวนชิงหลิงจมดิ่งลงไป ก็ผลักเขาออกทันที “ขอโทษ? โอ้สวรรค์ ท่านขืนใจสนมซูจริงๆเหรอ?”
หยู่เหวินเห้าถูกนางผลัก เกือบจะล้ม ยังดีอาศัยสวีอีทรงตัวเอาไว้ได้ อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่นาง ใครขืนใจนาง? “เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร? มันจะเป็นไปได้ยังไง?”
“แล้วท่านทำไมต้องพูดขอโทษ?” หยวนชิงหลิงจ้องมองเขา
สวีอีตอบอย่างรวดเร็ว “ท่านอ๋องรู้สึกเจ็บมากที่ถูกโบย เหมือนหมากัด คิดถึงเมื่อก่อนตอนที่สั่งให้คนโบยพระชายา สามสิบที ก็เท่ากับเหมือนหมากัดไปสามสิบที ช่างน่าสังเวชนัก”
หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้”
สวีอีพยุงเขา มองไปโดยรอบ “แล้วท่านจะเอายังไง? จะนั่งหรือจะนอนคว่ำ”
“นอนคว่ำ” สำหรับคนที่เคยผ่านมา หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างมีประสบการณ์
สวีอีพยักหน้า พยุงเขาไปนอนคว่ำตรงเก้าอี้ยาวมีที่พิง
ฉางกงกงถือยาแก้ช้ำมา กล่าว “นี่เป็นยาที่ไท่ซ่างหวงสั่งให้ข้าเอามา ช่วยการไหลเวียนของเลือด หลังจากทาแล้ว สองวันให้หลัง รับรองว่าสามารถวิ่งได้เลย”
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปรับยา หยู่เหวินเห้าจึงเห็นแขนของนางถูกผ้าพันเอาไว้ พยายามยกหัวถามอย่างตกใจ “มือเจ้าเป็นอะไร?”
หยวนชิงหลิงตอบลอยๆ “ไม่มีอะไร ไม่ระวังแล้วสะกิดโดน”
หยู่เหวินเห้าค่อยๆที่จะยันตัวขึ้นนั่ง แต่ก็ทำไม่ได้ กระทั่งคุกเข่ายังไม่สามารถจะงอขาได้ เขาทำได้เพียงนอนตะแคงเอามือยันหัวเอาไว้ จากนั้นก็ยื่นมือไปดึงตัวหยวนชิงหลิงเข้ามาข้างกาย แววตาเต็มไปด้วยความร้อนรน “ทำไมถึงได้ไม่ระวังแบบนี้? เจ็บมั้ย?”
หยวนชิงหลิงมองหน้าเขาอย่างอ่อนโยน สงสารที่เขาถูกลงโทษ “ไม่เจ็บเท่าถูกโบยหรอก ท่านนอนคว่ำดีๆ ข้าจะทายาให้”
หยู่เหวินเห้ายกหัวขึ้น “พวกเจ้าออกไปให้หมด”
หยวนชิงหลิงกล่าว “สวีอีอยู่ก่อน เจ้าช่วยท่านอ๋องถอดเสื้อหน่อย แรงข้าไม่พอ”
หยู่เหวินเห้าทำหน้าบึ้ง เขาไม่อยากให้สวีอีช่วยถอด
แต่เขานั้นก็ไม่สามารถที่จะถอดด้วยตัวเอง ทำได้เพียงนอนคว่ำ รอให้ทุกคนออกไปแล้ว สวีอีก็มาช่วยเขาถอดเสื้อผ้า
หยวนชิงหลิงเห็นเลือดเนื้อเป็นแผ่น ในใจนั้นเจ็บปวดมาก ก็กลั้นน้ำตาไม่หยุด พลางทายาพลางร้องไห้
หยู่เหวินเห้าได้ยินนางร้องไห้ ในใจก็ทรมาน ก็อดไม่ได้ที่อยากจะร้องไห้ตาม กล่าวเสียงแหบ “วันนี้ข้ารับโทษนี้ ถึงได้รู้ว่าตอนนั้นเจ้าต้องเจ็บแค่ไหน ข้าเสียใจ ขอโทษด้วย”
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจแล้วกล่าว “ข้ายินยอมที่เจ็บ ความเจ็บนี้ข้าเคยผ่านมาแล้ว ก็ไม่อยากให้ท่านต้องโดน”
หยู่เหวินเห้าลำคอเหมือนมีอะไรมาอุดไว้ ทรมานอย่างบอกไม่ถูก คำพูดนี้ น่าจะเป็นเขาที่พูด
ปกป้องลูกเมีย เป็นหน้าที่ของเขา
เขายื่นมือออกมากอดร่างของนางเอาไว้ ใช้หน้าเช็ดน้ำตาให้นาง กล่าวอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร”
หยวนชิงหลิงกล่าว “ข้าเบื่อที่มันเกิดเรื่องไม่จบไม่สิ้นเสียที”
หยู่เหวินเห้าก็ขยะแขยง ขมวดคิ้วกล่าว “ไม่งั้นข้าหาคนไปจัดการท่านพี่ใหญ่?”
หยวนชิงหลิงกุมปากของเขาเอาไว้ กล่าวอย่างตื่นตระหนก เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? ตรงนี้คือวังหลวง แม้จะเป็นตำหนักของไท่ซ่างหวง แต่ว่าไท่ซ่างหวงก็คงไม่อนุญาตท่านไปฆ่าพี่น้องหรอก
เรื่องนี้กลับไปค่อยคุย
หยวนชิงหลิงทายาต่อ หยู่เหวินเห้าใช้มือรองคาง “อันที่จริงคดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น ช่องโหว่ของพวกเขาเยอะมาก เพราะแผนการของเขาเปลี่ยนกะทันหันครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สามารถทำอย่างรัดกุม เพียงแต่ท่านหญิงเต๋อเฟย……..เฮ้ย ก็โทษนางไม่ได้ นางก็อยากจะช่วยข้า”
เขาหันหน้ามาถามหยวนชิงหลิง “ใช่แล้ว น้องแปดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“หลังจากให้เลือดแล้ว อาการคงที่มากแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพ้นขีดอันตราย ตอนนี้ทำได้เพียงให้สวรรค์เมตตา หากไม่มีเลือดออกข้างในก็จะดี” หยวนชิงหลิงกล่าว
“วันนี้จะฟื้นมั้ย?” หยู่เหวินเห้าถาม
หยวนชิงหลิงกล่าว “พูดยาก”
นางไม่ค่อยสบายใจเลย อวัยวะภายในเสียหาย ถูกแทงด้วยกระบี่ ความเจ็บปวดเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนหนึ่งจะทนได้
ทายาเสร็จ หยวนชิงหลิงเอาเสื้อช่วยเขาปิดไว้ “เจ้าพักผ่อนที่นี่ก่อน ข้าจะกลับไปที่ตำหนักชิงหัว เจ้าอย่าเดินไปไหนมาไหนนะ ข้าจะไปสืบดูว่าใครเป็นคนรับช่วงทำคดีนี้ต่อ”
“ระวังหน่อย!” หยู่เหวินเห้ากำชับ
หยวนชิงหลิงออกมา มู่หรงกงกงก็รออยู่ข้างนอกแล้ว
“พระชายา มีราชโองการของฮ่องเต้!”
หยวนชิงหลิงคุกเข่าลง “หยวนชิงหลิงรับราชโองการ”
มู่หรงกงกงมองหน้า “ฮ่องเต้ตรัสว่า รอให้พระชายาคุกเข่าลงมาแล้ว ค่อยบอกนางว่าเป็นคำพูดปากเปล่า ไม่ต้องคุกเข่า”
หยวนชิงหลิงกล้ำกลืนความเจ็บชำน้ำใจแล้วลุกขึ้น ฝืนยิ้ม “เสด็จพ่อช่างเป็นพระราชาแสนสนุกจริงๆ “
มู่หรงกงกงกล่าว “สนมซูทั้งๆที่รู้ว่าพระชายาทรงตั้งครรภ์ของราชวงศ์อยู่ ยังบังอาจมาปะทะ พูดจาหยาบคาย ถกเถียงแล้วใช้อาวุธทำร้ายพระชายา ทำให้มีผลต่อลูกในครรภ์ของพระชายา มีความเสี่ยงแท้ง เพื่อศักดิ์ศรีของวังหลัง ประทานเหล้าพิษให้สนมซูหนึ่งจอก สั่งให้พระชายาไปจับตาดู หลังจากนางเสียชีวิตแล้วให้ท่านไปกราบทูล”
หยวนชิงหลิงหน้าซีดขาว เจ้าแก่ฮ่องเต้ การแก้แค้นนี้มันเร็วและโหดไปมั้ย
ให้นางทนดูคนตายไปต่อหน้าต่อตา? นางไม่สามารถ นางทำไม่ได้
นางนั้นเรียนหมอ
ชีวิตของนางก็คือช่วยชีวิตผู้ป่วย ไม่ใช่ฆ่าคน
“พระชายา!” มู่หรงกงกงมองนาง “พระประสงค์ของฮ่องเต้ ท่านจะขัดไม่ได้”
หยวนชิงหลิงถามอย่างใจกล้า “หากขัดพระประสงค์ จะมีจุดจบอย่างไร?”
มู่หรงกงกงกล่าว “ก็จะถูกลงโทษ!”มู่หรงกงกงยิ้มแล้วกล่าว “เพียงแต่ ฮ่องเต้ไม่มีทางที่จะประหารพระชายา มากสุดก็แค่นำตัวท่านอ๋องไปยังคุกมืด ขังสักสามถึงเจ็ดวัน ในคุกมืด ทุกวันจะถูกลงทัณฑ์ ด้วยวรยุทธ์ของท่านอ๋อง น่าจะพอทนได้สักสองสามวัน”
หยวนชิงหลิงเบิกตากว้าง “ไอ้แก่ห้าเป็นลูกชายเขานะ”
“เมื่ออยู่ในราชสำนักต้องนับความสัมพันธ์ของฮ่องเต้กับขุนนางก่อน ความสัมพันธ์พ่อลูกมาทีหลัง พระชายาน่าจะเข้าใจ” มู่หรงกงกงไม่ยอมรับการคัดค้าน
หยวนชิงหลิงอ้าปากตาค้าง