บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 324
หยู่เหวินเห้ารู้สึกว่าคำพูดของหยวนหย่งอี้แปลกๆ ตอนที่กำลังจะถาม กลับได้ยินหยู่เหวินหลิงร้องพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “พระเจ้า พี่สามพาผู้หญิงคนนั้นมาด้วย”
ทุกคนหันไปมอง
เห็นเพียงอ๋องเว่ยสวมชุดผ้าไหมสีเขียว คาดสายคาดเอวสีดำ รูปร่างหน้าตาดีอย่างไม่ธรรมดา
ข้างกายเขามีผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง ใส่กระโปรงผ้าซาตินเนื้อนุ่ม เสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอก เกล้าผมทรงกลม ปักด้วยเครื่องประดับผมระย้ารูปผีเสื้อ ต่างหูทองหุ้มหยก ตรงคอห้อยสร้อยลูกปัดเจดีย์สีสวย เม็ดกลมเรียบเนียน
เพียงแต่ รูปร่างหน้าตาผู้หญิงดูธรรมดา คิ้วบาง มีการขีดเขียนเพิ่มเติม ดูก็รู้ทันที
จมูกไม่โด่ง ฝีปากบาง คางเหลี่ยม หากจะหาจุดเด่น น่าจะมีเพียงอย่างเดียวก็คือดวงตาคู่นั้น
ดวงตาไม่โต แต่หางตาแลดูเป็นประกาย แฝงไปด้วยความหมองหม่นเศร้า เห็นแล้วก็น่าเอ็นดู
อ๋องเว่ยพาผู้หญิงที่มีสถานะไม่แน่นอนมาปรากฏตัว ทำให้พระชายาอ๋องซุนค่อนข้างลำบากใจ
เรื่องสองสามีภรรยาของพวกเขา เป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วราชวงศ์แต่แรกแล้ว ต่างก็คิดว่าเขาคงไม่กล้าแต่งกับนางเพื่อมาเป็นชายารองเป็นแน่
กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะพานางมางานเลี้ยงวันเกิดอ๋องซุนในวันนี้ นี่ถือเป็นการประกาศว่าเขาจะแต่งงานกับนางมาเป็นชายารองอย่างแน่นอน?
เขารู้เห็นถึงสายตาคนอื่น ผู้หญิงก็ค่อนข้างไม่สบายใจ ขยับเข้าหาอ๋องเว่ย
อ๋องเว่ยจับมือของนางไว้ สีหน้าเข้มงวด แล้วก็ก้าวเดินเข้าไปด้วยกัน
ไม่สนใจคนอื่นก็ได้ แต่หยวนชิงหลิงกับพวกหยู่เหวินเห้าต่างก็ยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง อ๋องเว่ยจะเข้าไปอวยพรอ๋องซุน ยังไงก็จะต้องผ่าน
หากหยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงหลบ ก็จะเป็นการทำให้อ๋องเว่ยลำบากใจ
ดังนั้น ทั้งสองคนจึงทำได้แค่ยืนนิ่ง แล้วก็ยิ้มให้กับอ๋องเว่ย
“พี่สาม” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
อ๋องเว่ยยิ้มรับพร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าก็มาแล้วหรือ?”
เขาพูดกับผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างว่า “กู้จือ นี่คือน้องห้ากับน้องสะใภ้ห้า”
หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงได้ยิน ต่างก็ตกตะลึง
นางไม่ใช่ชายาเอก ต่อให้แต่งเข้าไปเป็นชายารอง ก็ไม่ควรที่จะเรียกน้องห้าหรือน้องสะใภ้ไหม?
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นคนที่มีสถานะที่ยังไม่แน่นอนเลย
สองสามีภรรยาต่างมองตากัน ต่างก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
ส่วนผู้หญิงคนนั้นกลับพอรู้มารยาท ย่อตัวทำความเคารพพร้อมพูดขึ้นว่า “คารวะอ๋องฉู่ คารวะพระชายาอ๋องฉู่”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นเพียงว่า “อย่างได้เกรงใจ”
อ๋องเว่ยมองดูหยวนชิงหลิงอย่างไม่ค่อยพอใจ จากนั้นก็ดึงมือผู้หญิงคนนั้นแล้วก็เดินเข้าไป
สักพัก ก็ได้ยินเสียงอ๋องซุนด่าขึ้นว่า “เจ้าโง่เขลา”
แล้วอ๋องเว่ยพูดขึ้นด้วยเสียงจริงจังว่า “รอเมื่อน้องเจ็ดหย่าแล้ว ข้าก็จะหย่า ถึงตอนนั้นข้าจะแต่งกับกู้จือยกให้ชายาเอก พี่รองจะพูดอย่างไรก็ได้ น้องจะไม่เปลี่ยนความตั้งใจเด็ดขาด”
หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้ามองสบตากันอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้น? หย่าจนกลายเป็นวัฒนธรรมแล้วหรือ?
พระชายาอ๋องซุนรีบเดินเข้าไป แล้วก็ดึงพาหยวนชิงหลิงเข้าไปด้วย
พระชายาอ๋องซุนปิดประตูไว้ ถลึงตาใส่อ๋องซุน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “มีอะไรค่อยพูดพรุ่งนี้ไม่ได้หรือ? ด้านนอกล้วนเป็นแขก เจ้าจะขายหน้าตัวเองหรือ?”
อ๋องซุนโกรธจนตัวสั่น ชี้หน้าอ๋องเว่ยพร้อมพูดกับพระชายาอ๋องซุนว่า “เจ้าไม่ถามเลยหรือว่าเจ้านี่ทำอะไรลงไป? เขาคิดที่จะหย่ากับภรรยา”
พระชายาอ๋องซุนอยากที่จะเอามือปิดปากของเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่าพูดอีกเลย แต่เอ๊ะอ๊ะให้คนอื่นเขารู้กันไปหมดใช่ไหม?”
พระชายาอ๋องซุนหันไปมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดโน้มน้าวเจ้าสามที”
หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างลำบากใจ นางจะพูดโน้มน้าวยังไง? นางกับอ๋องเว่ยไม่สนิทกันเลยนะ
ผู้หญิงที่ชื่อกู้จือคนนั้นดึงมืออ๋องเว่ยไว้ ก้มหน้าก้มตาพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากลับไปเชิญพระชายามาก ท่านอ๋องอ่าโมโหเลย”
อ๋องเว่ยใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของนางไว้ พร้อมมองดูอ๋องซุน พูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า “ยังไงวันนี้ข้าก็จะให้นางอยู่ที่นี่ นางท้องลูกของข้า ต่อให้ไม่ใช่ชายาเอก ก็เป็นชายารอง หากเจ้ารับนางไม่ได้ ก็อย่าเห็นข้าคนนี้เป็นน้องชาย”
ท่านแม่ของอ๋องเว่ยคือเสียนเฟย อ๋องเว่ยเพิ่งคลอดได้ไม่นาน อ๋องเว่ยก็สิ้นแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนยกอ๋องเว่ยให้กับแม่นางจิ้งเฟยท่านแม่ของอ๋องซุนเลี้ยงดู ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองพี่น้องจึงรักกันมาก
“เจ้า……” อ๋องซุนโกรธจนเนื้อเต้น พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าจะทำให้ท่านแม่โกรธตายหรือ”
“ข้าจะอธิบายกับท่านแม่เอง” อ๋องเว่ยเม้นปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง ท่านแม่มีแต่จะดีใจ เพราะไม่นานนางจะได้อุ้มหลานแล้ว นางจะได้ไม่ต้องอิจฉาท่านแม่เสียน”
คำพูดนี้หยวนชิงหลิงฟังแล้วก็ทำตัวไม่ถูก ตอนนี้นางยืนอยู่ตรงนี้ ทำตัวไม่ถูกเหมือนกับแม่นางกู้จือคนนั้นเลย
หยวนชิงหลิงมองดูนางแวบหนึ่ง กลับพบว่านางไม่มีความเก้อเขินแล้วแม้เพียงนิด เพียงแค่ยืนอยู่ด้านข้างอ๋องเว่ยอย่าเงียบๆ น้ำตาคลอเบ้า
“เจ้าฟังดู เหมือนกับอะไร?” อ๋องซุนโกรธจนตบโต๊ะ
พระชายาอ๋องซุนทำได้เพียงไปปลอบโยนอ๋องเว่ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของพี่รองเจ้า เจ้าอย่าก่อเรื่องที่นี่ หากเจ้ายืนยันที่จะพานางมา พี่สะใภ้รองไม่ห้าม แต่อย่าพูดเอะอะข้างนอกว่าเจ้าจะหย่ากับภรรยา”
อ๋องเว่ยพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “นี่คือความจริง”
หยวนชิงหลิงก็อดทนไม่ไหวแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “พี่สาม สามีภรรยาผิดใจกัน จัดการแก้ปัญหาอย่างเป็นการส่วนตัวก็พอ ไว้หน้ากับศักดิ์ศรีให้กับต่างฝ่าย ข้างนอกมีผู้คนมากมาย อย่ากระทำให้น่ารังเกียจ เชื่อว่ายังไงพี่สะใภ้สามก็ไม่ได้กระทำอะไรที่เกินเหตุ”
กู้จือคนนั้นหันมามองหยวนชิงหลิงอย่างรวดเร็ว แล้วก็ก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา
อ๋องเว่ยมองดูหยวนชิงหลิง แล้วก็มองดูพระชายาอ๋องซุน พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “ช่างเถอะ ไม่พูดก็ไม่พูด”
พระชายาอ๋องซุนถอนหายใจเบาๆ นางเกลียดกู้จือคนนี้มาก
หากเป็นปกติ นางจะต้องเอาไม้กวาดไล่นางออกไปแน่
แต่ว่าวันนี้ไม่ได้ วันนี้มีแขกอยู่ด้วย งานเลี้ยงในวันนี้นางก็เตรียมไว้มาตั้งนาน
เพราะเรื่องอ๋องเว่ย พระชายาอ๋องซุนก็ไม่มีกะจิตกะใจ รู้สึกว่างานเลี้ยงนี้ถูกบั่นทอนความหมายไปเยอะมากแล้ว
ปีนี้ที่จัดงานยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เพราะอ๋องซุนอายุครบรอบสามสิบปี
สามสิบ เป็นปีสันปันน้ำที่สำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต
มีแขกมาเพิ่มขึ้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งเยอะ ญาติตระกูลฝ่ายพระชายาอ๋องซุนก็มาแล้ว ยังมีขุนนางบางส่วนในราชสำนักต่างพาญาติๆมาด้วย
อ๋องซุนสองสามีภรรยาพาคนในจวนไปต้อนรับ ยุ่งจนมึนหัว
อ๋องเว่ยก็พากู้จือคนนั้นไปต้อนรับด้วย เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าเขากับอ๋องเว่ย ถึงแม้จะไม่ใช่ฝาแฝดแต่ก็เหมือนดั่งฝาแฝด เขาให้การต้อนรับแทนก็ถือเป็นการเหมาะสม
เพียงแต่ ทุกคนต่างก็มีท่าทีต่อผู้หญิงด้านข้างของเขา คือ สูงส่ง มองไม่เห็น
วันนี้จวนอ๋องจี้ไม่มีคนมา เพราะอ๋องจี้จะแต่งงานกับชายารองในเร็วๆนี้ เขามีงานมงคล จึงไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆ
หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิง นั่งอยู่ในตำหนักอุ่นด้านข้าง ด้านนอกมีคนเยอะ วุ่นวายมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องรอถึงเวลาทานงานเลี้ยงแล้วค่อยออกไป
“ทำไม? อารมณ์ไม่ดีหรือ?” หยู่เหวินเห้าเห็นหน้ามีสีหน้าเคร่งขรึมตั้งแต่เข้ามา จึงจับมือของนางไว้พร้อมพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างค่อนข้างไม่เข้าใจว่า “พี่สามถูกวางยาหรือเปล่า? ทำไมเขาถึงทำเช่นนี้?”
หยู่เหวินเห้าส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ แต่ก่อนไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเรื่องนี้”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินพระชายาอ๋องซุนพูดว่า ตอนนั้นเขากับพระชายาอ๋องเว่ย ผ่านความยากลำบากอย่างมากค่อยได้อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือ?”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ผ่านความทุกข์ยากลำบากจริง หลังจากแต่งงานแล้ว พวกเขาก็รักใคร่กันมาตลอด เสด็จพ่อยังชื่นชมว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่ลึกซึ้ง ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้อย่างกะทันหัน”