บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 351
หยวนชิงหลิงกล่าว “ไม่ถึงตาข้าที่จะเลือก ข้าไม่กลับ สถานการณ์จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ อีกอย่างฮ่องเต้มีความประสงค์จะขังข้าด้วยความผิดที่ข้าก่อขึ้น ข้าถูกขังเอาไว้ ฮ่องเต้สั่งให้เจ้าห้าทำอะไร เขาก็ต้องทำตาม ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดี”
“เรื่องนี้ไม่รู้ว่าไท่ซ่างหวงจะรู้เรื่องด้วยหรือไม่” แม่นมสี่กล่าว
หยวนชิงหลิงส่ายหัวอย่างเบาๆ “ข้าไม่สามารถไปหาไท่ซ่างหวงให้พระองค์ท่านช่วยข้าทุกครั้งที่ประสบปัญหา พระองค์ท่านได้ออกหน้าช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว หากครั้งนี้เป็นเพราะข้าแล้วทำให้พระองค์ท่านต้องเผชิญหน้ากับเสด็จพ่อ ข้าถึงจะเป็นคนที่บาปที่สุด อีกอย่างเรื่องที่ฮ่องเต้ทำ อย่างน้อยในสถานะของไท่ซ่างหวงกับเขา มันไม่ใช่เรื่องผิด”
แม่นมสี่กล่าว “เรื่องมากมาย มันไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ถูกหรือผิด อยู่ที่ว่าเราจะมองมันในมุมไหน”
หยวนชิงหลิงเอาแก้วให้นาง “นอนเถอะ ไม่พูดแล้ว บัดนี้ก็ใช้ชีวิตไปวันๆก่อน อยู่ในจวนก็ดี สามารถดูแลครรภ์อย่างสบายใจ เรื่องภายนอกไม่สามารถมารบกวนได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ท่านต้องให้หมันเอ๋อไปส่งยาให้อ๋องหวย แล้วไปที่จวนอ๋องจี้เรียนพระชายาจี้ ให้เขามาหาข้าที่จวนเจ้าพระยาจิ้งโดยตรง”
“ได้!” แม่นมสี่รับถ้วยมาวางลงบนโต๊ะ แล้วเดินกลับไปช่วยนางปล่อยผ้าม่านลง
ใกล้รุ่งสาง หยวนชิงหลิงถึงได้หลับไปชั่วขณะหนึ่ง
เป็นหยวนชิงผิงที่มาปลูกนางให้ตื่น หมันเอ๋อขัดขวางยังไงก็ขัดขวางไม่อยู่
หยวนชิงผิงตื่นมาแต่เช้าได้ยินสาวใช้บอกว่าพี่สาวกลับมาแล้ว ดีใจจนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มาเลย
เพียงแต่ ระหว่างทางที่มา นางรู้สึกถึงความผิดปกติ กลับมาในตอนกลางดึก ยังบอกว่าจะอยู่ที่จวนสักพัก ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นแม้ว่าหมันเอ๋อจะขัดขวางเอาไว้ แต่นางก็จะฝ่าเข้ามาจนได้
หยวนชิงหลิงลืมตาขึ้นมาก็เห็นน้องสาวยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความกังวล
“เป็นอะไร? มาก่อกวนข้าแต่เช้าเลย ก็ไม่ให้ข้าได้นอนนานกว่านี้หน่อย!” หยวนชิงหลิงค่อยๆยันตัวขึ้นมา บัดนี้ร่างกายค่อนข้างจะหนักแล้ว ตื่นนอนตอนเช้าก็ยังต้องใช้แรงในการลุกขึ้นพอสมควร
หยวนชิงผิงนั่งลงบนเตียงทั้งก้น ขมวดคิ้ว “ท่านพี่พูดมา ใช่อ๋องฉู่รังแกท่านพี่หรือเปล่า?”
หยวนชิงหลิงยิ้มๆ หาวไปหนึ่งที รวบผมไปไว้ด้านหลัง “ไม่ใช่”
“แล้วท่านพี่กลับมาได้ยังไง? ใครรังแกท่านพี่? ข้าจะออกหน้าแทนท่านพี่” หยวนชิงผิงกล่าว
หยวนชิงหลิงเชิดหน้าขึ้น “ฮ่องเต้!”
“เขาช่างใจกล้านัก……….” คำพูดของหยวนชิงผิงได้หยุดไว้ตรงริมฝีปากอย่างรวดเร็ว เบิกตากว้างมองนาง “ฮ่องเต้?”
งั้นมิบังอาจ มิบังอาจ!
“ใช่ เจ้าอยากจะออกหน้าแทนข้า ก็เอาป้ายเข้าวังของข้าเข้าไปในวัง เมื่อถึงตอนนั้นก็ไปเจอพระองค์ท่านที่ห้องทรงพระอักษร เจอพระองค์แล้วเจ้าก็ช่วยข้าด่าสั่งสอน ถือเป็นการระบายแทนข้า” หยวนชิงหลิงลงจากเตียง ถือโอกาสโยนป้ายเข้าวังให้กับนางด้วย
หยวนชิงผิงจ้องตัวอักษรพระชายาฉู่บนป้ายเข้าวัง กล่าวอย่างลำบากใจ “ช่างเถอะ ช่างเถอะ ข้าไม่ถือสาคนอย่างเขา”
หยวนชิงหลิงยิ้มแล้ว ให้หมันเอ๋อปรนนิบัติช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้า หวีผม เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก
เป็นเจ้าพระยาจิ้งที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน
พูดกับแม่นมสี่ที่อยู่ข้างนอก จะเข้ามาคุยกับพระชายาเป็นการส่วนตัวแบบพ่อลูกคุยกัน
ไม่ถามให้ชัดเจน วันนี้เขาสามารถที่จะไปทำงานที่การปกครองได้ ดังนั้น เช้าวันนี้ก็ให้คนไปลางาน บอกว่าไม่ค่อยจะสบาย
แม่นมสี่เข้ามาถามความเห็นของหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงกล่าว ไม่เป็นไร หากท่านพ่อจะคุยกับข้าเป็นการส่วนตัว พวกเจ้าก็ไปรออยู่ข้างนอกเถอะ
แม่นมสี่กล่าว “เจ้าค่ะ!”
นางเรียกหมันเอ๋อออกไปพร้อมกัน อะซี่ตอนนี้ยังไม่ตื่น ดังนั้น คนที่ปรนนิบัติอยู่ในห้องก็มีแต่หมันเอ๋อกับแม่นมสี่
หยวนชิงผิงกล่าว “ข้าไม่ออกไป ข้าจะนั่งฟังอยู่ตรงนี้”
ครู่ต่อมา เจ้าพระยาจิ้งก็เดินเข้ามาโดยเอามือไขว้อยู่ข้างหลัง
เขาสวมเสื้อผ้าลายปลาสีเข้มในทะเลสาบสีน้ำเงิน โดยมีเข็มขัดหยกพันรอบเอวของเขา ก้าวเดินมาด้วยฝีเท้าที่หนัก ดูสง่างามเล็กน้อย
เขาเข้ามาแล้วก็จ้องหยวนชิงผิงไปแวบหนึ่ง “มาเช้าขนาดนี้ มีทองให้เก็บหรือ?”
“ท่านพ่อ!” หยวนชิงผิงลุกขึ้นทำความเคารพ
หยวนชิงหลิงก็ลุกขึ้นย่อตัวทำความเคารพ “ท่านพ่อ!”
เจ้าพระยาจิ้งคิดมาทั้งคืน ร้อนใจและกระวนกระวาย ก็ไม่สนว่าหยวนชิงผิงจะอยู่ในนี้ ก็ถามขึ้นมาโดยตรง เจ้าพูดมาสิ กลับมากลางดึก เป็นเพราะว่าถูกไล่กลับมาหรือเปล่า?
หยวนชิงหลิงที่ท่าทางคิดหนัก “ท่านพ่อ ลูกสาวอยู่ที่จวนได้รับความลำบากใจ อยากจะกลับมาหาครอบครัวเพื่อความสบายใจ ท่านไม่ต้อนรับหรือ?”
เจ้าพระยาจิ้งเหมือนได้ฟังคำพูดที่ไร้สาระ โกรธจนควันออกหู “พูดมาดีๆ เจ้าถูกสั่งเลิกร้างแล้วใช่มั้ย?”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ “หากท่านเห็นหนังสือเลิกร้าง งั้นก็น่าจะเลิกร้างแล้ว หากท่านยังไม่เห็นหนังสือเลิกร้าง ก็ไม่นานแล้วล่ะ”
เจ้าพระยาจิ้งโกรธมาก ทุบโต๊ะแล้วกล่าว “เจ้าพูดกับข้าให้ชัดเจน เรื่องมันยังไงกันแน่? หากเจ้าไม่พูด วันนี้ข้าก็จะไล่เจ้าออกไป”
“ท่านพ่อ!” หยวนชิงผิงที่ขวางอยู่ตรงหน้าของหยวนชิงหลิง “ห้ามไล่ท่านพี่ไปเด็ดขาด ท่านพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย”
“เจ้าหลีกไป!” เจ้าพระยาจิ้งเห็นนางก็อารมณ์ขึ้นก็มาทันที “เจ้าจะไปรู้อะไร? พี่เจ้านั้นถูกคนในวังส่งกลับตัวกลับมา ใครจะไปรู้ว่าพี่เจ้านั้นไปล่วงเกินใคร? จะนำพาความเดือดร้อนมาให้จวนเจ้าพระยาด้วยหรือเปล่า?”
เขาจ้องหยวนชิงหลิง “เจ้าจะพูดหรือไม่พูด?”
หยวนชิงหลิงนั่งลงอย่างช้าๆ แล้วกล่าว “หากท่านพ่อนั่งลงมาคุยกันดีๆ ก็ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้”
เจ้าพระยาจิ้งเห็นนางที่เหมือนกับไม่แยแส อดไม่ได้ที่จะเอามือไขว้หลังแล้วเดินวนด้วยความหงุดหงิดกระวนกระวาย บ่นด่าไปหลายประโยค ในที่สุดก็ได้นั่งลงมา หน้านิ่วคิ้วขมวด “เจ้าพูดมา!”
หยวนชิงหลิงกล่าว “ข้าล่วงเกินฮ่องเต้ ฮ่องเต้สั่งให้กลับบ้านตัวเอง ก็แค่นี้ ข้าก็เลยกลับมา”
เจ้าพระยาจิ้งตกตะลึง ตกใจจนหัวใจจะแตกสลาย เศร้าใจทันที “เจ้า………..เจ้ากล้าล่วงเกินฮ่องเต้?” โอ้สวรรค์ เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ เจ้าคิดว่าเจ้าตั้งครรภ์สายเลือดของราชวงศ์ก็ใหญ่มากเลยหรือ? เสียแรงที่ข้าทุ่มเทแรงกายแรงทำให้เจ้าเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องฉู่ ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!”
หยวนชิงผิงกระทืบเท้า “ท่านพ่อ ท่านพี่ก็เป็นถึงขนาดนี้แล้ว ท่านจะยังมาว่านางทำไม? บัดนี้ควรรีบคิดหาวิธี หาคนไปช่วยพูดให้ฮ่องเต้หายโกรธ”
“หายโกรธ? เจ้าพระยาจิ้งหน้าซีดขาว ทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที “เจ้าคิดว่าการที่พระองค์โกรธเหมือนฟ้าพิโรธแล้วจะหายโกรธได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? เจ้าก็รอไปเถอะ รอให้เจ้าคลอดลูก ดูสิว่าฮ่องเต้จะจัดการเจ้ายังไง”
หยวนชิงหลิงก้มหน้าลง ด้วยท่าทางที่โดดเดี่ยวเดียวดาย
เจ้าพระยาจิ้งตบโต๊ะ ทั้งโกรธทั้งกลัว “เจ้าพูดมา เจ้าล่วงเกินฮ่องเต้ยังไงกันแน่?”
หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น ถามด้วยเสียงเบา “ท่านพ่อรู้เรื่องการตายของฉู่หมิงชุ่ยแล้วใช่มั้ย?”
“รู้แล้ว การตายของผู้หญิงคนนี้ยังไม่สามารถที่จะชดเชยความผิดที่นางก่อ” เจ้าพระยาจิ้งนึกถึงตอนที่ไปจวนอ๋องฉี ถูกนางเมินเฉยและละเลยทุกรูปแบบ
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ “ก่อนที่นางจะตาย บอกว่าตอนนั้นท่านพ่อกับนางร่วมมือกันใส่ร้ายอ๋องฉู่ที่จวนเจ้าหญิง จึงทำให้ท่านอ๋องต้องแต่งงานกับข้า ฮ่องเต้ตรัสว่า จวนเจ้าพระยาได้กระทำความผิดฐานหลอกลวงพระองค์ เห็นแก่ลูกที่กำลังตั้งครรภ์ จึงปล่อยตัวไปชั่วคราว หากลูกสามารถให้กำเนิดซื่อจื่อ ก็จะปล่อยคนในจวนเจ้าพระยาทั้งหมด หากกำเนิดลูกสาว………”
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปที่คอแล้วทำท่าหักคอ
เจ้าพระยาจิ้งที่มองนางอยู่ ค่อยๆยื่นมือมาจับโต๊ะเอาไว้ ร่างกายสั่นเทาไปชั่วขณะ ดวงตาเหยียดตรง ในวันที่อากาศหนาวขนาดนี้ หน้าผากกลับเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ เขากลอกตา แล้วล้มลงบนพื้นทันที