บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 387
ด้านลง ฝูงชนรีบถอยออกห่าง
มีร่างสีขาวร่างหนึ่งพุ่งตัวเข้ามา กลับรับตัวนางไว้ไม่ได้ แต่สามารถนอนลงอย่างรวดเร็ว ให้นางตกลงมาบนร่างกายของตัวเอง
เลือดกระจายอยู่บนพื้น
หยวนชิงหลิงมองไปที่เลือดสดสีแดง ร่างกายของนางก็เย็นไปทั่วร่าง
นางหันกลับมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธ นางหยิบไม้ปราบออกมาจากแขนเสื้อ กระโจนเข้าไปแล้วตีไปที่อ๋องเว่ย
อ๋องเว่ยไม่ได้หลบ เขายืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น มือที่ยื่นออกไป เป็นเวลานานก็ไม่ได้ดึงมันกลับมา
ไม้นี้ของหยวนชิงหลิง ใช้แรงทั้งหมดของร่างกาย ฟาดลงมาที่หัวของเขา ตีจนเลือดไหล อ๋องเว่ยก็ล้มลงไปทันที
“ท่านอ๋อง!” กู้จือตกใจมาก มองไปที่หยวนชิงหลิงทันที ไม้ปราบของหยวนชิงหลิงกลับกวาดมากี่ครั้ง ครั้งนี้ได้ฟาดไปบนตัวของกู้จือ
อันที่จริง นางไม่รู้ว่าตัวเองนั้นตีใคร นางเพียงแค่รู้สึกว่าตาของนางเต็มไปด้วยเลือด เพราะการกระโดดลงไปอย่างสิ้นหวังของพระชายาเว่ย ใจนั้นเย็นวาบ ร่างกายก็เย็น อยากที่จะระบายมันออกมา อยากที่ตีมันสองคนที่อยู่ตรงหน้าให้ตาย
จนกระทั่งหมันเอ๋อมาลากตัวนางออก นางจึงค่อยๆนั่งลงบนพื้น หายใจอย่างหอบ ในใจนั้นเจ็บปวดอย่างมาก
นางไม่เคยสงสารใครแบบนี้มาก่อนเลย สงสารในสิ่งที่พระชายาเว่ยประสบทั้งหมด
นางทำอะไรผิด? ทำไมต้องเป็นแบบนี้?
“พระชายา คนยังมีลมหายใจอยู่!” ด้านล่าง ดังขึ้นมาด้วยเสียงของอะซี่
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็ไม่ได้สนว่าตัวเองนั้นตั้งครรภ์อยู่ รีบลุกขึ้นก็จะวิ่งลงไป
หมันเอ๋อที่ตกใจก็รีบพยุงนาง ลงไปพร้อมกับนาง
กล่องยาขณะที่ลงมาจากหอคอย ก็ได้หยิบมันออกมาต่อหน้าต่อตาหมันเอ๋อ ทำให้หมันเอ๋อตกจนเซ เกือบจะล้มลงไปแล้ว
พระชายาถูกอะซี่กอดไว้ในอ้อมแขน ชายชุดขาวร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เอื้อมมือกุมหัวของพระชายาเว่ยเอาไว้ บนหัว เลือดยังไหลอยู่ มือของชายผู้นั้น ก็เปื้อนเลือดเช่นกัน ใบหน้าของเขาก็ซีดมาก แต่ยังคงกุมหัวของนางไว้อย่างแน่นๆ
หยวนชิงหลิงวางกล่องยาลง รีบเปิดมันออก รีบฉีดยาห้ามเลือด ฆ่าเชื้อ ช่วยชายชุดขาวทำแผล
นางยื่นมือไปกดหน้าอกของพระชายาเว่ย เพราะมีเลือดไหลออกจากปาก คาดว่านางมีเลือดออกจากบาดแผลภายใน ตกลงมาจากความสูงขนาดนั้น มีความเป็นได้ที่ซี่โครงจะหัก เสียบเข้าไปยังปอดหรืออวัยวะภายในอื่นๆ
หยวนชิงหลิงทำทุกอย่างเหมือนเครื่องจักรกล โดยไม่ได้คิดอะไรเลย เพียงแค่ต้องการให้นางสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป
นางรู้ว่าพระชายาเว่ยมีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่รอด แต่คำพูดประโยคสุดท้ายของอ๋องเว่ย ทำให้นางสิ้นหวัง
มีคนมากมายเข้ามาช่วยเหลือ หยวนชิงหลิงลุกขึ้น สั่งให้คนเตรียมแปลหาม มีคนถามว่าแปลหามคืออะไร นางก็ตอบทุกอย่าง
ในความตกใจความวุ่นวาย นางเห็นอ๋องเว่ยอุ้มกู้จือลงมา ปากของกู้จือมีเลือดซึมออกมา
อ๋องเว่ยอุ้มกู้จือมายังด้านหน้าของหยวนชิงหลิง ขวางทางนางเอาไว้
“เจ้าช่วยนาง ช่วยนางด้วย” หัวของอ๋องเว่ยก็มีเลือดออก มันเป็นแผลที่หยวนชิงหลิงตีเมื่อกี้
หยวนชิงหลิงมองกู้จือแวบหนึ่ง เห็นเลือดที่มุมปากของนางมีสีดำปนอยู่เล็กน้อย แม่นมอู๋ก็เข้ามา กล่าวอย่างเย็นชา “พระชายาวางยานาง ยาถอนพิษมีเพียงแต่พระชายาที่ปรุงเป็น หากพระชายาตายไป นางก็ไม่รอด”
หยวนชิงหลิงรู้ มันเป็นวิธีแก้แค้นของพระชายาเว่ย
หากนางตาย กู้จือก็ไม่รอด
อ๋องเว่ยฟังจบ ก็ถอนหายใจยาว แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่โหดเหี้ยมแบบนี้?”
หยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างนิ่งๆประมาณสามวินาที จากนั้นก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของร่างกาย ตบไปที่หน้าของเขา “แม่งไปตายซักเถอะ!”
ชายชุดขาวที่มาช่วยพระชายาเว่ยเอาไว้ได้บุกเข้ามา กระทืบไปที่หน้าท้องของอ๋องเว่ย ตัวของอ๋องเว่ยกระเด็นออกไปทันที แต่เขายังคงอุ้มกอดกู้ซือเอาไว้อย่างไม่ยอมปล่อย
เขาล้มลงไปกับพื้น และเห็นชายชุดขาว ร่างกายของเขาเหมือนกับถูกไฟเผา ความโกรธของเขาล้นออกมาทางสายตา เขาวางกู้จือลง ยืนขึ้นช้าๆ และเช็ดเลือดบนใบหน้า
ชายชุดขาวกล่าวอย่างเย็นชา “หยู่เหวินเว่ย ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับนางแล้ว ก็ควรที่จุทะนุถนอมนาง ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคน จะยอมเสียชื่อเสียงฝากชีวิตทั้งชีวิตและหนีไปกับเจ้า”
“อันชิงหยาง!” อ๋องเว่ยตะโกนด้วยความโกรธ แล้วก็บุกเข้าไป
ทั้งสองต่อสู้อย่างช่ำชอง และชกต่อยกันอย่างเต็มที่
หยวนชิงหลิงเห็นชายชุดขาวมาหยุดการกีดขวางของอ๋องเว่ย นางและคนอื่นๆก็รีบพาพระชายาเว่ยไปจากที่นี่ กลับไปที่จวนเจ้าพระยา
จากการช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน ชีวิตของพระชายานั้นรอดแล้ว
ก่อนหน้านี้หยวนชิงหลิงคิดว่ากระดูกซี่โครงอาจจะหักแล้วเสียบไปที่ปอด สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้น เป็นชายชุดขาวได้รองรับนางไว้ จึงได้ชีวิตของนางเอาไว้
คนยังไม่ตื่น แต่หยวนชิงหลิงเหนื่อยจนไม่สามารถที่จะขยับตัวได้แล้ว
พระชายาซุนได้ข่าวก็รีบมาทันที ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน นางคงบ่นด่าอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้นางเพียงเข้าไปดูพระชายาเว่ยอย่างเงียบๆแค่ครู่เดียว ก็ออกมาถามหยวนชิงหลิง
อันที่จริงตรงประตูเมือง อันตรายมากแค่ไหน คนที่รายงานก็ได้บอกกับนางแล้ว
ระหว่างทางที่มา นางยังกลัวว่าเมื่อมาถึงแล้วจะเห็นศพ
ตอนนี้เห็นพระชายาเว่ยยังหายใจอยู่ นางก็โล่งใจมากจริงๆ
“นางยังอยากมีชีวิตอยู่” หยวนชิงหลิงเอนศีรษะลงบนเบาะเก้าอี้อย่างเหน็ดเหนื่อย นางมองที่มือข้า อยากยื่นมือกลับมา บางทีคนส่วนใหญ่รู้สึกว่านางอ่อนแอ แต่ข้ารู้ว่านางเข้มแข็งมาก นางดิ้นรนมาโดยตลอด เพียงแค่อยากมีชีวิตอยู่
พระชายาซุนกุมมือนางเอาไว้ น้ำตาไหลริน “ข้ารู้ ข้ารู้ว่านางทุกข์ทรมานมาก หากเป็นข้า ข้าคงบ้าไปนานแล้ว”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่านางก็เหมือนกัน หากวันหนึ่งไอ้แก่ห้าทำเช่นนี้กับนาง นางก็คงจะเป็นบ้า
คนของตระกูลชุยมากันมากมาย
หัวหน้าครอบครัวของตระกูลชุยใต้เท้าชุยก็มาด้วย เข้าประตูมาก็มาคุกเข่าต่อหน้าหยวนชิงหลิง ขอบคุณที่นางช่วยชีวิตพระชายาเว่ย
หยวนชิงหลิงเห็นชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าที่สับเปลี่ยนไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด ความบอบบางของความเป็นพ่อ ก็ถูกแสดงออกมาทางแววตา นางรู้สึกว่าอ๋องเว่ยนั้นกระทำผิดอย่างร้ายแรง
ใต้เท้าชุยคุกเข่าลง คนตระกูลชุยก็คุกเข่าตาม แม้แต่ฮูหยินใหญ่คนนั้นที่ตัวสั่น ก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้าหยวนชิงหลิง
มีเสียงร้องไห้ดังออกมาบ้าง ล้วนมาจากความหดหู่ที่อยู่ข้างใน
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปพยุงฮูหยินใหญ่ให้ลุกขึ้น แล้วก็เรียกทุกคนให้ลุกขึ้น น้ำตานองเต็มใบหน้านาง นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่ติดอยู่ในลำคอ “นางฝืนทนทุกข์ตัวคนเดียวมานานเกินไปแล้ว ทุกคนเข้าไปดูนางเถอะ อย่าตำหนินาง แค่ทำให้นางรู้ นางไม่ใช่ตัวคนเดียว ทุกคน ต่างเป็นทางเดินให้นางถอยกลับมา”
นางเกือบจะยืนไม่ไหวแล้ว หมันเอ๋อพยุงนางออกไป
เกือบทำให้พวกเขาได้เจอกันในระหว่างโลกมนุษย์และยมโลก มันเป็นภาพที่น่าเศร้า นางทนดูภาพเช่นนี้ไม่ไหว
หลังจากออกมาแล้ว ก็เรียกสวีอีมา ถามเรื่องของชายชุดขาว
สวีอีกล่าว “เขาก็คือท่านชายชิงหยางซื่อจื่อของจวิ้นอ๋องอัน”
หยวนชิงหลิงตกใจเล็กน้อย “เป็นเขา?”
“ใช่ขอรับ เขาก็เป็นหลานเขยขององค์หญิงพระองค์ใหญ่อีกด้วย สามปีที่แล้ว ได้แต่งงานกับเสี้ยนจู่ส้วงหนิง(เสี้ยนจู่ตำแหน่งลูกสาวของอ๋องขั้น 2 ชั้นรอง)” สวีอีได้ทำลายจินตนาการที่เพื่อจะเกิดขึ้นของนาง
“แต่งงานแล้วเหรอ?” หยวนชิงหลิงอุทานเบาๆ
“ใช่ขอรับ สามีภริยารักใคร่ปรองดอง มีความสุขกันอย่างมาก” สวีอีกล่าว ติดตามพระชายามานาน เขาก็พอจะเดาความคิดของพระชายาออก
“เขาไม่โกรธเกลียดพระชายาเว่ยเลย ยังยินดียื่นมือช่วยเหลือ มันหายากมากจริงๆ” หยวนชิงหลิงรู้สึกพระชายาเว่ยได้เสียคู่ชีวิตที่ดีไปคนหนึ่ง”
สวีอีนั้นชมเชยท่านชายชิงหยางไม่ขาดปาก “ท่านชายชิงหยางเป็นคนซื่อตรง จริงใจ คนเช่นนี้ช่างหายากนัก”
ขณะที่กำลังคุยอยู่ ก็เห็นหมันเอ๋อเข้ามา กล่าว “พระชายา ท่านชายชิงหยางขอพบ”