บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 391
หยวนชิงหลิงอยากพูดคุยกับนางอีกหน่อย จึงได้เอ่ยกับฮูหยินเฒ่าว่า “ข้ายังต้องทำการตรวจและมีเรื่องต้องพูดอีกหน่อย ไม่สู้ทุกท่านออกไปกินอาหารมื้อค่ำกันก่อน อีกเดี๋ยวค่อยมาอยู่เป็นเพื่อนนาง”
ฮูหยินเฒ่าเป็นคนรู้ความ รู้ว่าหลานสาวมีเรื่องไม่สบายใจ และเพราะมีพวกนางอยู่ด้วยจึงไม่กล้าพูดออกมา
เพียงแต่พวกนางเองก็ไม่อยากจะออกไปง่ายๆ เกรงว่านางจะคิดไม่ตกแล้วทำเรื่องโง่ๆอีก ตอนนี้มีพระชายาฉู่อยู่ที่นี่ด้วย สามารถทำให้เด็กสาวสงบลงได้ชั่วครู่
และแล้ว ฮูหยินเฒ่าก็ได้พาทุกคนที่เป็นสมาชิกในบ้านออกไป
เมื่อพวกเขาออกไปกันหมดแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของพระชายาเว่ยก็ค่อยๆเลือนหายไป แววตานิ่งขรึม
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว” หยวนชิงหลิงเอ่ยเสียงเบา
พระชายาเว่ยสีหน้าเศร้าสร้อย “ใช่ ล้วนผ่านไปหมดแล้ว”
นางเหลือบตาขึ้นมองไปทางหยวนชิงหลิง พูดว่า “วันนี้ทำให้เจ้าตกใจแล้ว ขอโทษด้วย”
“ตกใจจริงๆนั่นแหละ เจ้าไม่ควรกระโดดลงไป” หยวนชิงหลิงเอ่ยเสียงต่ำ “ถ้าเจ้าตายไปจริงๆ คนเหล่านี้ที่เจ้าเห็นในคืนนี้ จะรู้สึกเสียใจแค่ไหน”
ดวงตาของพระชายาเว่ยมีน้ำตารื้นขึ้น “ช่วงนี้สมองข้าคิดวุ่นวายไปหมด ควบคุมตนเองไม่ได้ รู้สึกว่าตนเองต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”
หยวนชิงหลิงพูด “อารมณ์ของเจ้ามีปัญหา นี่คือโรค ต้องการการรักษา ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า ก็ให้ข้าทำการรักษาให้กับเจ้า หลังจากรักษาจนหายแล้ว เจ้าก็จะไม่คิดสั้นเหมือนวันนี้อีก ”
พระชายาเว่ยนิ่งขรึมไปนานพอสมควร ก่อนจะพูดว่า “ตอนที่อยู่บนหอกำแพงเมือง ข้าเห็นสายตาของเจ้า ช่างอบอุ่นยิ่งนัก ราวกับมีเปลวไฟก่อขึ้นในใจของข้า ข้าอยากจะกลับมา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าผิดหวัง……”
“ข้ารู้” หยวนชิงหลิงรีบตอบทันที กุมมือของนางเอาไว้ “ฉะนั้น ข้าจึงพูดอยู่ตลอดว่า เจ้ากล้าหาญมาก และเป็นคนมีสติปัญญา”
“ถ้าหากข้ามีสติปัญญา ข้าก็คงไม่ทำเรื่องเช่นนี้” นางยิ้มขม “ที่จริงข้าเคยคิดว่าจะฆ่ากู้จือ ช่วงเวลานั้น ข้าฆ่ากู้จือก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆเท่านั้น แต่นางตั้งครรภ์ลูก ลูกข้าไม่สามารถลืมตาขึ้นมาดูโลกได้ ข้าหวังให้เด็กทุกคนออกมาดูโลกอย่างปลอดภัย เด็กเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลกใบนี้ สมควรที่จะได้รับความรักจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกของใครก็ตาม”
“ใช่” หยวนชิงหลิงพูด
ในสายตาของพระชายาเว่ย มีแววแห่งความรักของมารดาทอประกาย หยวนชิงหลิงคิดว่า ถ้าหากนางสามารถให้กำเนิดลูกออกมาได้ นางคงจะเป็นแม่ที่อ่อนโยนที่สุดบนโลกใบนี้
“วางใจได้ ภายหน้าข้าต้องสบายดี” พระชายาเว่ยเหมือนพูดกับตนเอง และเหมือนจะพูดกับนางด้วย
“เจ้ามีสิทธิ์ที่จะเศร้าเสียใจ ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง” หยวนชิงหลิงพูด
พระชายาเว่ยส่ายหน้า “ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเศร้าเสียใจอีกแล้ว”
นางพูดถึงลูก พูดถึงกู้จือ แต่ไม่พูดถึงอ๋องเว่ยเลย
ผู้ชายคนนั้นได้ตายจากใจนางไปแล้ว
หยวนชิงหลิงกุมมือของนางเอาไว้แน่น
“ทำไมเจ้าต้องช่วยข้า” ทันใดนั้นพระชายาเว่ยก็ถามขึ้น
หยวนชิงหลิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “ไม่รู้ บางทีอาจเป็นเพราะเอ็นดูเจ้า”
พระชายาเว่ยมองนางนิ่งๆ อึ้งไปชั่วครู่
คำตอบนี้ เป็นคำตอบที่นางคาดเดาไม่ถึงเลย
นางคิดว่า พระชายาฉู่จะตอบตามมารยาทว่าเพราะเป็นสะใภ้ร่วมราชวงศ์เดียวกัน
“ขอบคุณ” พระชายาเว่ยน้ำตารื้นขอบตา
หยวนชิงหลิงยิ้มๆ แววตาอ่อนโยน “พักผ่อนดีๆ พักฟื้นดีๆ”
“อืม” พระชายาเว่ยตอบรับ
ข้างนอก หัวหน้าตระกูลชุยใต้เท้าชุยกำลังพูดคุยกับหยู่เหวินเห้า
เดิมที่ใต้เท้าชุยสมควรไปแล้ว เหลือแค่สมาชิกในบ้านไว้ที่นี่ก็พอ
แต่ว่า พอคิดถึงเรื่องที่ลูกสาวต้องเผชิญ ในใจก็เต็มไปด้วยความโมโห และความเจ็บปวด อย่างไรก็เดินจากจวนเจ้าพระยาจิ้งนี้ไปไม่ได้ เกรงว่าถ้าออกไปแล้ว ต้องได้ฆ่าคน
หยู่เหวินเห้าไม่ถนัดในการปลอบใจคน พูดว่า “ใต้เท้าชุยถ้าท่านโมโหมากจริงๆ ไม่สู้ไปสั่งสอนเขาที่จวนอ๋องเว่ยสักครั้ง”
ใต้เท้าชุยเหมือนกับสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ สูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก เอ่ยเสียงเย็นว่า “ถ้าไปจวนอ๋องเว่ย เกรงว่าคงต้องฆ่าคนเท่านั้น”
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ “ฆ่าเขาเสียก็ไม่ได้ถือว่ามากเกินไป ครั้งนี้เจ้าสามทำเกินไปจริงๆ ”
ใต้เท้าชุยมองเขาแวบหนึ่ง สะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ “ขออภัยด้วย ข้าน้อยโมโหมากไปหน่อย จึงได้พูดจาเหลวไหล”
“ไม่เป็นไร ท่านก็อย่างกังวลเกินไป ยายหยวนบอกว่าอาการของนางยังถือว่าดีอยู่ และจะค่อยๆหายดี”
“ยายหยวน” ชั่วขณะนั้นใต้เท้าชุยคิดไม่ทันว่าเป็นใคร
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “เมียข้าเอง”
ใต้เท้าชุยมองเขา “ครั้งนี้ต้องขอบคุณพระชายาฉู่ หมอหลวงเฉาก็บอกว่า ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ก็อาจจะตายไปแล้ว”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “นางเองก็รู้สึกไม่สบายใจตั้งนานแล้ว ฉะนั้นจึงให้แม่นมอู๋คอยจับตาดูอยู่ ถ้าพี่สะใภ้สามมีความเคลื่อนไหวไม่ปกติ ก็ให้รีบรายงานนางทันที เพียงแต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงถึงเช่นนี้ ”
ใต้เท้าชุยพูดเสียงเบาว่า “ข้าน้อยได้ยินคนพูดถึงเรื่องที่กำแพงเมืองแล้ว พระชายาใช้ไม้ปราบตีเจ้าสัตว์……อ๋องเว่ย จากนั้นก็พูดขอร้องให้โล่โล่กลับมาอย่างสุดกำลัง สามารถพูดได้ว่าพระชายานั้นเป็นคนซื่อสัตย์ถือคุณธรรมเทียมฟ้า ”
หยู่เหวินเห้ายิ้มขม “อย่ายกย่องนาง ไม่เช่นนั้นนางอาจจะมีความสุขเพราะสิ่งนี้”
ใต้เท้าชุยประสานมือขึ้นมา “พูดจากใจจริง ตระกูลชุยของข้าทั้งบนล่าง ซาบซึ้งในน้ำใจของพระชายามาก ภายหน้าหากพระชายาต้องการความช่วยเหลืออะไร ตระกูลชุยของข้าพร้อมจะเป็นวัวเป็นควายเพื่อรับใช้พระชายา”
หยู่เหวินเห้านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ รีบโบกมือทันที “ใต้เท้าชุยอย่าได้พูดเช่นนี้เด็ดขาด พวกนางเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กัน เดิมทีก็ควรจะช่วยเหลือกันอยู่แล้ว นี่ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง คนที่นางเคยช่วยเหลือก็มากมาย นางเป็นหมอ ”
ใต้เท้าชุยเป็นคนที่จริงจังมากคนหนึ่ง พูดว่า “ลูกสาวข้าได้รับการช่วยเหลือจากพระชายา บุญคุณนี้อย่างไรก็ต้องทดแทน”
หยู่เหวินเห้าได้ยินคำพูดนี้ ก็มองไปข้างนอก กดเสียงให้ต่ำลงและพูดว่า “ในเมื่อจะทดแทน ทดแทนให้ข้าก็เหมือนกัน ”
แววตาของใต้เท้าชุยสว่างวาบขึ้น อ๋องฉู่ คงไม่คิดจะ……
ที่จริงในราชสำนักได้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแล้ว แต่ว่า เขารู้สึกว่าไม่จำเป็น อ๋องฉู่ในตอนนี้ มีความตีชิงตามไฟไปบ้าง
แววตาของเขาเย็นชาลง “เชิญท่านอ๋องพูดมาเถอะ ขอเพียงข้ามีกำลังจะทำได้ ข้าน้อยจะช่วยเต็มที่”
หยู่เหวินเห้าพูดเสียงเบาๆว่า “ได้ยินว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันใต้เท้าชุย มีเรื่องมงคลที่ได้อุ้มหลานชาย เพียงแต่ระหว่างคลอดของฮูหยินรองนั้นมีอันตรายอยู่บ้าง สุดท้ายนางผดุงครรภ์ได้ให้ยาหนึ่งถ้วยจึงได้คลอดออกมาอย่างราบรื่น ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำนางผดุงครรภ์คนนั้นให้ข้าได้หรือไม่ ”
ใต้เท้าชุยนิ่งอึ้ง เรื่องนี้หรอกหรือ
“ท่านอ๋องรู้ได้อย่างไร” เรื่องผู้หญิงให้กำเนิดลูก เดิมทีเป็นเรื่องที่ได้รับการปกปิดเอาไว้
หยู่เหวินเห้าลูบที่จมูก เอ่ยอย่างเก้อเขินอยู่บ้างว่า “ให้คนคอยสังเกตการณ์ ตั้งแต่พระชายาตั้งครรภ์ ข้าเองก็เริ่มมีความสนใจในการสืบหาข่าวการกำเนิดลูกของคนอื่น ข้าไม่เคยมีลูก นี่เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง”
ใต้เท้าชุยเข้าใจทันที ขยับเข้าใกล้อีกนิด พูดว่า “ท่านอ๋อง พูดตามจริงไม่ปิดบัง นางผดุงครรภ์คนนี้ข้าได้เชิญมาจากบ้านเกิดข้าล่วงหน้า ไม่ใช่ข้าน้อยคุยโม้ ที่บ้านเกิดของข้าน้อย ชุมชนใกล้ๆต่างก็เรียกหาแต่นาง นางทำคลอดมาสามสิบปี ไม่เคยมีเด็กตาย ฝีมือไม่ธรรมดา”
“จริงหรือ” หยู่เหวินเห้ามองเขาอย่างลิงโลด “เช่นนั้นต้องแนะนำให้ข้า ข้าจะหานางผดุงครรภ์ที่มีความสามารถไว้สักหน่อย”
“ได้ กลับไปแล้วข้าจะให้ภรรยาข้าพานางไปพักอาศัยอยู่ที่จวนอ๋องก่อน” ใต้เท้าชุยพูด
“เช่นนั้นก็ขอบคุณใต้เท้าชุยมาก” หยู่เหวินเห้ายืนขึ้น ยกมือขึ้นประสานคำนับอย่างซาบซึ้งเป็นที่สุด
“ท่านอ๋อง ที่ท่านบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย ก็คือเรื่องนี้หรือ” ใต้เท้าชุยถามขึ้น
ใบหน้าของหยู่เหวินเห้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มดีใจ“นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่มากแล้ว ใต้เท้าชุย ท่านค่อยๆนั่งพักไปก่อน ข้าขอตัวกลับไปอยู่เป็นเพื่อนพระชายาก่อน เสด็จพ่อไม่อนุญาตให้ข้าอยู่ที่นี่นานนัก ประเดี๋ยวข้าจะถูกคนกวาดไล่ออกไปอีก”