บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 484
แม่นมสี่พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “เจ้าไสหัวไปเลย พูดจาไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้ว่าเป็นการทำร้ายจิตใจคนอื่นหรือ?”
ฉางกงกงเห็นนางมีปฏิกิริยาที่ค่อนข้างรุนแรง และก็เห็นสีหน้าหยวนชิงหลิงพระชายารัชทายาทที่ไม่พอใจ จึงจำต้องไป
หลังจากฉางกงกงกลับไปแล้ว ก็ไปทูลไท่ซ่างหวงว่า “ประโยคที่ท่านสั่งให้ไปพูดนั้น ข้าน้อยพูดแล้ว แต่พระชายารัชทายาทไม่พอใจ แม่นมสี่ยังไล่ข้าน้อยออกมา เรื่องนี้เป็นไปได้ยากแล้ว”
ไท่ซ่างหวงมองดูเขา พร้อมถามขึ้นว่า “พูดว่าอะไร?”
“ก็เรื่องที่ท่านบอกว่าหาเหลียงตี้ไง”
ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “เหลียงตี้? เหลียงตี้มาจากไหน?”
ฉางกงกงพูดขึ้นว่า “ก็ยังไม่มีไง? สู่ขอแล้วก็มีแล้ว”
ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้าว่าเจ้าสมควรถูกด่าไหม? ยังไม่มีเหลียงตี้ เจ้าก็ไปพูดก่อนแล้ว เจ้าเองก็เห็นใจที่นางต้องผ่าท้องคลอดลูกแฝดสามไม่ใช่หรือ? ทำไมครั้งนี้ถึงวิ่งไปพูดกับนางเรื่องเหลียงตี้ เสี่ยวฉางชี่ ข้าเห็นว่าเจ้ายิ่งแก่ก็ยิ่งโหดเหี้ยมอำมหิต เจ้าแก่มีพิษ”
ฉางกงกงพูดขึ้นอย่างอ้ำอึ้งว่า “ข้าน้อยโหดเหี้ยมอย่างไร? นี่เป็นสิ่งที่ท่านสั่งในวันนี้ไม่ใช่หรือ?”
“หุบปาก ข้าเป็นคนมีเมตตา ไม่กระทำเรื่องเช่นนี้ ตราบที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่มีเหลียงตี้ชายารองอะไร ถ้าหลังจากที่ข้าตายแล้ว อยากจะทำอย่างไรก็เชิญ”
ไท่ซ่างหวงถามขึ้นในขณะที่ฉางกงกงอยู่ในอาการสงสัยว่า “เด็กน้อยเป็นไงบ้าง?”
ฉางกงกงรีบถามขึ้นว่า “สบายดี ข้าน้อยอุ้มก็หัวเราะแล้ว หัวเราะจนใจแทบละลายกลายเป็นน้ำ”
“วันหนึ่งดื่มนมกี่ขวด? วันหนึ่งถ่ายกี่ครั้ง? วันหนึ่งฉี่กี่ครั้ง? วันหนึ่งนอนกี่ชั่วโมง? ข้าวเหนียวหายตัวเหลืองหรือยัง?”
ไท่ซ่างหวงถามคำถามเป็นชุด ฉางกงกงตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออกอีก เพราะมัวแต่พูดถึงเรื่องเหลียงตี้ ยังไม่ทันถามถึงเรื่องพวกนี้ก็ถูกแม่นมสี่ไล่ออกมาแล้ว
ไท่ซ่างหวงเห็นเขางงเป็นไก่ตาแตก ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ยิ่งอยู่ก็ยิ่งใช้ไม่ได้ รู้แต่ว่าองค์ชายรัชทายาทจะต้องมีเหลียงหยวนเหลียงตี้ พวกนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้า?”
พูดเสร็จ ก็พาตอเป่าไปเดินเล่นอย่างเชื่องช้า
ฉางกงกงตามออกไป นั่งอยู่ตรงหน้าระเบียง มองดูไท่ซ่างหวงพาตอเป่าไปเที่ยวเล่น
เขาค่อนข้างอึ้ง ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ฟังผิดไปหรือเปล่า ไท่ซ่างหวงพูดว่าในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่มีเหลียงหยวนชายารอง? นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?
ต่อไปองค์ชายรัชทายาทจะต้องสืบทอดบัลลังก์ สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ นั่นก็จะต้องมีสนมอยู่ในวังหลัง มีลูกหลานสืบตระกูล
แต่ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ ไท่ซ่างหวงพูดถูก เรื่องพวกนี้ เกี่ยวข้องอะไรกับเขาล่ะ?
ผ่านไปหลายวัน อาการตัวเหลืองของข้าวเหนียวน้อยในที่สุดก็ดีขึ้นแล้ว นี่ทำให้หยวนชิงหลิงค่อยวางใจ ทางด้านไทเฮาส่งคนมาถามทุกวัน ตอนนี้อาการตัวเหลืองดีขึ้นแล้ว เมื่อไทเฮาได้ยินเช่นนี้ ก็ประทานของมาให้ทันที
ช่วงนี้หยวนชิงหลิง รับของประทานจนมือไม้อ่อน
พระราชกฤษฎีกาแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาทถึงแม้จะประทานลงมาแล้ว แต่พิธีการยังไม่ได้จัดขึ้น ความหมายของฮ่องเต้หมิงหยวนคือ จัดพร้อมกับวันครบเดือนของเด็กทั้งสองคน ไปกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษที่วัดอิมพีเรียลบรรพบุรุษ หลังจากนั้นก็รอวันมงคลเพื่อจัดพิธีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
มีราชโองการแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาท ประกาศไปทั่วทุกสารทิศ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ดังนั้นวันที่มีพระราชโองการลงมา ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ส่งคนนำหนังสือไปถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ ด้วยความเร็วที่ขี่ม้าจนตายไปหลายตัว เชื้อเชิญพวกเขามาร่วมพิธี
ด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลานี้หากจะถามว่าเจ้ากรมพิธีการกับภายในจวนยุ่งหรือไม่ พวกเขาคงไม่มีเวลามาสนใจประโยคนี้
ยุ่งจนควันลุกบนหัว ฝ่าเท้าลุกเป็นไฟ
ทั่วทั้งหวังหลัง ล้วนมีความสุขกันถ้วนหน้า
ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจหรือจอมปลอม เหนียงเหนียงในวังหลังต่างก็มาถวายพระพรไทเฮา ล้วนจะต้องพูดคำมงคลที่มีต่อเด็กทั้งสองคน
ไทเฮาก็ดีใจ มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่พอใจก็คือองค์ชายรัชทายาทไม่ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในตำหนักบูรพาตงกง นี่ทำให้ไทเฮาไม่สามารถได้เห็นหลานรักทั้งสามบ่อยๆ
แต่ในเมื่อเจ้าอาวาสพูดว่า เด็กทั้งสองคนคลอดภายใต้การคุ้มครองของพระพุทธเจ้า จะต้องอาศัยอยู่ในสถานที่เกิดระยะหนึ่ง งั้นก็เชื่อฟังคำพูดของเจ้าอาวาส ยังไงคนอื่นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ
วันนี้ เสียนเฟยก็มาหาไทเฮา
ตอนนี้ไทเฮาเห็นนางแล้วรำคาญ แต่ยังไงก็เป็นหลานสาวของตนเอง เป็นคนของตระกูลซู ต่อให้รำคาญแค่ไหน ก็จะต้องตอบรับบ้าง
ที่จริงการที่ฮ่องเต้ไม่ยอมแต่งตั้งนาง ไทเฮาก็รู้สึกแปลกใจ
แต่นางก็ไม่เคยถามถึงเรื่องพวกนี้ แก่แล้วก็ต้องตามใจลูก ลูกชายว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
เสียนเฟยยังคงมาเพื่อร้องทุกข์ แต่วันนี้ดูค่อนข้างยิ่งร้อนใจ อาจจะเป็นเพราะวันนั้นถูกฮู่เฟยตบไปหนึ่งที แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ลงโทษฮู่เฟย นี่ทำให้นางรู้สึกว่าตำแหน่งสถานะของตนเองตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
นางร้องห่มร้องไห้พูดขึ้นว่า “ท่านป้า นี่ฮ่องเต้จะบีบคั้นหลานให้ตายหรือ คนอื่นต่างก็กำลังคาดเดา บอกว่าหลานกระทำเรื่องอะไรที่ไม่ดี จึงทำให้ฮ่องเต้โกรธไม่ชอบหน้า ลูกชายถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท ตอนเองที่เป็นแม่ กลับไม่ถูกเลื่อนตำแหน่ง หากท่านไม่ทำอะไรเพื่อช่วยหลาน หลานก็ไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว”
คำพูดที่ไทเฮาสามารถพูดปลอบ ล้วนเคยพูดไปแล้ว นางยังดื้อแบบนี้ และก็เดือดร้อนมากยิ่งขึ้นทุกวัน ไทเฮาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงพูดขึ้นว่า “ไม่เลื่อนตำแหน่งให้กับเจ้า คงเพราะฮ่องเต้มีความคิดเป็นของตนเอง ต่อให้เจ้าเดือดร้อนอีกแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้คนอื่นรำคาญ กลับไปเถอะ ข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
เสียนเฟยคุกเข่าบนพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “นับตั้งแต่รัชสมัยเป่ยถัง เมื่อมีการแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท ก็ไม่เคยมีที่จะไม่เลื่อนตำแหน่ง และนี่ก็เป็นกฎที่บรรพบุรุษมีบันทึกไว้ ท่านก็รู้ ทำไมฮ่องเต้ถึงไม่ปฏิบัติตามกฎของบรรพบุรุษ?”
ไทเฮาพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายว่า “เจ้าไปหาฮ่องเต้เองเถอะ ข้าช่วยเจ้าไม่ได้”
“ท่านป้า” เสียนเฟยคุกเข่าเข้ามาหา น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านยังโกรธที่วันนั้นหลานพูดจาไม่ให้เกียรติใช่ไหม? หลานสำนึกผิดแล้ว ขอท่านช่วยหลานด้วย เรื่องนี้มีเพียงท่านที่สามารถช่วยได้”
ไทเฮามองดูนาง พร้อมขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าอย่างไร? ไปถามฮ่องเต้หรือ?”
“ท่านถามฮ่องเต้ดู ข้าทำอะไรผิดกันแน่ ฮ่องเต้ถึงได้เกลียดชังข้าขนาดนี้”เสียนเฟยพูดขึ้นอย่างขอร้อง
ไทเฮาเห็นนางไม่มีท่าทีจะยอมแพ้ จึงพูดขึ้นว่า “ได้ เจ้ากลับไปเถอะ ข้ารอฮ่องเต้มาถวายพระพร แล้วจะถามให้”
เสียนเฟยกลับส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านป้า ตอนนี้เป็นเวลาที่ฮ่องเต้กำลังว่างอยู่ ท่านเชิญฮ่องเต้มา หลานจะหลบฟังอยู่ข้างหลัง”
ไทเฮายังคงเห็นแก่ความที่เป็นป้ากับหลาน จึงพูดขึ้นว่า “หากเจ้าฟังอยู่ ไม่ว่าจะได้ยินอะไร ก็ห้ามส่งเสียง รู้ไหม?”
“หลานจะไม่ส่งเสียง หลานเพียงแค่อยากรู้เหตุผล ตายไปก็นอนตายตาหลับ”เสียนเฟยเช็ดน้ำตา แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้นมา
ฮ่องเต้หมิงหยวนนอนพักเที่ยงทุกวัน นี่ก็กำลังจะนอนพัก ก็ได้ยินว่ามีคนของไทเฮามา บอกว่าเชิญเข้าไปเข้าเฝ้า
ฮ่องเต้หมิงหยวนเป็นคนกตัญญูมาตลอด พามู่หรูกงกงมาพร้อมกับอาการง่วงนอน
เมื่อเข้าไปในตำหนัก เขาก็แสดงความเคารพถวายพระพร ไทเฮาเห็นแววตาของเขาอ่อนล้า ท่าทีเหนื่อยล้า ในใจจริงยิ่งไม่พอใจเสียนเฟย วันนี้ถามแล้วก็ดี นางจะได้ตายใจไม่ต้องมาให้รำคาญอีก
“ทำไมสีหน้าฮ่องเต้แย่ขนาดนี้? ตอนกลางคืนไม่ได้หลับดีหรือ?”ไทเฮาถามขึ้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้นอนหลับดีจริงๆ ทูตแต่ล่ะประเทศกำลังจะมา เรื่องภายในประเทศบางเรื่อง สามารถจัดการได้ ก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย”
ไทเฮาพูดขึ้นอย่างเห็นใจว่า “ต่อให้ยุ่งแค่ไหน ก็ต้องพักผ่อน อย่าเหนื่อยจนเกินไป สุขภาพร่างกายสำคัญที่สุด”
“ลูกรู้”สายตาฮ่องเต้หมิงหยวนมองไปทางด้านหลังม่านอย่างไม่ได้ตั้งใจ