บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 523
เซียวเหยากงมั่นใจว่าพวกเขามาหาเรื่องแน่ๆ ชะเง้อคอขึ้นตะโกนเสียงดังว่า “เด็กๆ ส่งแขก”
หยู่เหวินเห้ารีบโบกมือทันที “ไม่ใช่ พูดผิดไปแล้ว เมื่อครู่ข้าพูดผิดไป เข้าใจผิด……”
อธิบายแล้วมีประโยชน์ จะมีที่ทำการปกครองไว้ทำไม
จิ้งถิงกับหยู่เหวินเห้าถูกกวาดไล่ออกมา มองประตูใหญ่ของจวนเซียวเหยากงที่ปิดลง ทั้งสองคนถอนหายใจอย่างหนักอึ้งไร้เรี่ยวแรง คนอายุมากเอาใจยากทุกคนจริงๆ นิสัยแย่มาก
“แล้วทีนี้จะทำอย่างไร”จิ้งถิงมองหยู่เหวินเห้าอย่างกลัดกลุ้ม เรื่องยังไม่ลงเอย ใจของเขาก็ไม่สามารถสงบได้
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ต้องหาใครสักคนเพื่อถามว่าทำไมพวกเขาจึงมีปมความแค้นต่อกันในอดีต ”
“แล้วจะหาใครเพื่อทำความเข้าใจเล่า”จิ้งถิงถาม
หยู่เหวินเห้าครุ่นคิด “ถ้าไม่ใช่โสวฝู่ ก็ต้องเป็นไท่ซ่างหวง ฝั่งไท่ซ่างหวงเกรงว่าจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ลองไปถามโสวฝู่ดูเถอะ”
จิ้งถิงนั้นรู้สึกดีต่อโสวฝู่มาก ตาเฒ่าเคร่งคนนั้นก็เคร่งขรึมจริงจังเหมือนกับเขา
แต่ทว่า ช่วงนี้โสวฝู่งานยุ่งมาก หยู่เหวินเห้าส่งเทียบเชิญให้เขาไปพบที่หอสุรา เขาก็ไม่มา ส่งเทียบเชิญไปติดต่อกันถึงสองวัน ฝั่งนั้นตอบกลับมาเพียงคำเดียวว่ายุ่ง
หยู่เหวินเห้ากลับจวนด้วยความหน้านิ่วคิ้วขมวด หยวนชิงหลิงได้ยินเสียงถอนหายใจของเขา ถามถึงสาเหตุแล้วก็พูดยิ้มๆว่า “ท่านเชิญเขาไปข้างนอก เขาย่อมไม่มาแน่ เขาฉลาดเป็นกรด รู้ว่าที่ท่านหาเขาไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่”
“ไม่ใช่เรื่องดีอะไรกัน เขายืนอยู่ฝั่งข้านะ เรื่องนี้เขาควรออกแรงด้วย”
“คนที่คัดค้านคือจูกั๋วกง เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ย่อมไม่ดีที่จะออกหน้า”หยวนชิงหลิงป้องปากพูดที่ข้าหูของเขาประโยคหนึ่ง “ท่านก็ส่งคนไปสักคน บอกว่าแม่นมสี่ไม่สบาย รับประกันว่าไม่ว่าจะเป็นลมพายุฝนหรือไต้ฝุ่นแผ่นดินไหว เขาต้องมาแน่ๆ”
หยู่เหวินเห้ารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ทำอย่างนี้จะเป็นวิธีการที่ต่ำเกินไปหรือไม่”
“ใช่ ถ้าเช่นนั้นท่านก็ไปดักรอที่บ้านตระกูลฉู่ต่อไป”หยวนชิงหลิงพูด
หยู่เหวินเห้าครุ่นคิด คิ้วขมวดขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลพูดว่า “แม่นมสี่ไม่สบายจริงๆหรือ วันนี้ตอนข้าออกไปตอนเช้าได้ยินเสียงนางไอ ยังจามอีกด้วย น่าจะเป็นหวัดแล้ว”
เขายืนขึ้นมา รีบก้าวเท้าอย่างเร็วออกไปข้างนอก “ไม่ได้การ ต้องบอกให้โสวฝู่รู้ ก่อนหน้านี้โสวฝู่เคยบอกข้า ให้ข้าช่วยดูแม่นมสี่ด้วย ดูแลนางให้ดีๆ ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นให้รีบบอกเขาทันที”
หมันเอ๋อที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ก็ถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “พระชายารัชทายาท โสวฝู่เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก ต้องรู้แน่ๆว่ารัชทายาทโกหก เขาจะหลงกลหรือ”
หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “หลงกลแน่ แม้จะรู้ว่ารัชทายาทโกหก เขาก็ยังจะมา ไม่ได้เห็นกับตาว่าแม่นมสี่สบายดีหรือไม่ เขาจะวางใจได้อย่างไร”
หมันเอ๋อไม่เข้าใจ “ก็รู้อยู่ว่าโกหก ยังมีอะไรวางใจไม่ได้อีก”
“หมันเอ๋อ”หยวนชิงหลิงอมยิ้มมองนาง “สักวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจเอง”
หมันเอ๋อจับที่ศีรษะของตนเอง “เรื่องนี้ ข้าน้อยไม่เข้าใจ มันลึกล้ำเกินไป”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “สักวันหนึ่งรอให้เจ้า พบเข้ากับคนที่ชอบ เจ้าก็จะเข้าใจเอง คนคนนั้นแม้เจ้าจะรู้ว่าเขาสบายดี แต่เจ้าไม่ได้เห็นเองกับตา ยังไงซะก็ไม่วางใจ”
สีหน้าของหมันเอ๋อแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “ข้าน้อยไม่มีคนที่ชอบ”
“ภายหน้าจะมีเอง”หยวนชิงหลิงมองนาง “ใช่แล้ว หมันเอ๋อ ตอนนี้เจ้าอยู่ในจวนอ๋อง ได้เขียนจดหมายไปหาทางบ้านบ้างหรือไม่ ”
หมันเอ๋อส่ายหน้า “ไม่มี เดาว่าพวกเขาเองก็คงไม่สนใจ”
น้อยมากที่หยวนชิงหลิงจะได้ยินนางพูดถึงเรื่องคนในบ้าน แต่ก็มักจะเห็นนางนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวเป็นประจำ ไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงบ้านอยู่หรือไม่
นางกำลังอยากจะถามไถ่ดู ก็เห็นอะซี่เข้ามา นางจึงหยุดคำพูดเอาไว้
อะซี่เข้ามาแล้วบอกว่า “พี่หยวน แม่นมสี่ให้ข้ามาเอายาสักหน่อย”
“เอายาอะไร”หยวนชิงหลิงถามขึ้น
อะซี่พูดว่า “แม่นมไม่สบาย เอาแต่จามไม่หยุด ยังมีน้ำมูกไหลอีกด้วย แม่นมบอกว่ายาของท่านเห็นผลเร็ว เลยให้ข้ามาเอา”
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ “ไม่สบายจริงๆหรือนี่”
อะซี่พูดยิ้มๆว่า “นี่ยังแสร้งทำกันได้ด้วยหรือ วันนี้ท่านคงยังไม่เห็นนางมาสินะ ก็เพราะไม่สบายจึงมาไม่ได้”
“ข้านึกว่านางกำลังยุ่งงานอย่างอื่นอยู่ ข้าจะไปดูนางเสียหน่อย ”หยวนชิงหลิงยืนขึ้น เข้าไปหลังฉากกั้นเอากล่องยาออกมา แล้วก็ออกไปพร้อมกับอะซี่และหมันเอ๋อ
แม่นมกำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง กึ่งนอนอยู่บนเตียง ตอนที่หยวนชิงหลิงเข้าไปก็ได้ยินเสียงนางไอ
“เอ๋”พอเห็นว่าเป็นหยวนชิงหลิง แม่นมก็รีบลุกขึ้นมาจากเตียงทันที “ทำไมพระชายารัชทายาทจึงมาด้วยตัวเองเล่า”
หยวนชิงหลิงประคองนางเอาไว้ “เอาล่ะ แม่นมท่านนอนลงเถอะ ไม่สบายมิใช่หรือ”
แม่นมพูดยิ้มๆว่า “ไม่เป็นไร ไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก บางทีอาจเป็นเพราะวันก่อนทำเสื้อผ้าเปียก จึงเป็นหวัด เพราะอายุมากแล้วร่างกายจึงไม่เอาไหน ไม่เป็นอะไรมากเพคะ”
หยวนชิงหลิงจับที่ฝ่ามือของนาง แล้วก็จับหน้าผากที่ร้อนมาก พูดว่า “เจ้ามีไข้ นอกจากจามและมีน้ำมูกไหล ยังมีตรงไหนรู้สึกไม่สบายบ้าง”
“ปวดกระดูกไปทั้งตัว รู้สึกหนาว“แม่นมสี่พูด
หยวนชิงหลิงวัดไข้ให้กับนาง มีสามสิบเก้าองศา จึงพูดว่า “ข้าจะให้ยาลดไข้สักหน่อย ให้ไข้ลดก่อน ดื่มน้ำมากๆ ข้าจะให้คนต้มโจ๊กข้าวฟ่างให้เจ้า กินโจ๊กข้าวฟ่างแล้วค่อยกินยา ถ้าหากยังรู้สึกไม่สบาย จำไว้ว่าให้คนไปเรียกข้า”
“ได้ พระชายารัชทายาทวางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอกเพคะ”แม่นมสี่กลับปลอบใจนางเสียเอง
หยวนชิงหลิงมองนาง “แม่นม วันนี้เจ้าห้าบอกว่าจะเชิญโสวฝู่มาปรึกษาหารือเรื่องงาน โสวฝู่ไม่ยอมมา ข้าจึงสอนให้เขาพูดว่าแม่นมไม่สบาย ไม่คิดเลยจริงๆว่าท่านจะไม่สบาย ปากอีกาของข้าช่างเลวจริงๆ ”
แม่นมสี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับพระชายารัชทายาทด้วย อายุมากแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่สบายได้ง่ายๆ ก็แค่เป็นหวัดเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องจะตายเสียหน่อย”
อะซี่ได้ยิน ก็รีบพูดเสียงดุว่า “พูดเหลวไหลอะไรกัน คนไม่สบายจะพูดจาในทางเคราะห์ร้ายไม่ได้”
แม่นมสี่ยิ้มออกมา พูดว่า “แม่เฒ่าอย่างข้าแม้ว่าจะตายไป ก็นับว่าพอใจที่สุดแล้ว ชาตินี้ ความเสียใจนั่นย่อมมี แต่ช่วงเวลาที่มีความสุขก็มีมาก มีอายุมาจนปูนนี้ ยังมีคนคอยปกป้องดูแลอยู่ ก็พอใจแล้ว”
“อย่าพูดจาเหลวไหล ถ้าขืนยังพูดอีกจะตบปากละนะ”อะซี่ยกมือขึ้น ทำท่าดุใส่แม่นมสี่
อะซี่กับแม่นมสี่นั้นอยู่ด้วยกันจนเกิดเป็นความผูกพันไปแล้ว แม่นมสี่บางทีก็เคร่งครัดกับอะซี่แต่บางทีก็เอ็นดูมาก เหมือนราวท่านย่าของอะซี่อย่างไรอย่างนั้น ฉะนั้นอะซี่นั้นจึงผูกพันกับแม่นมสี่มาก
หลังจากหยวนชิงหลิงให้ยาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้อะซี่ดูแลแม่นมสี่ให้มากๆ กำชับอยู่หลายคำก่อนจะจากไป
วันนี้อากาศเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน เป็นหวัดไม่สบายนั้นเดิมทีก็เป็นเรื่องปกติ หยวนชิงหลิงก็ไม่ได้นำมาใส่ใจนัก
ช่วงเวลาตอนค่ำ โสวฝู่ฉู่มาที่จวนจริงๆ เดิมทีเขานั้นคิดเหมือนที่หมันเอ๋อพูด คิดว่าหยู่เหวินเห้ากำลังโกหก คิดไม่ถึงจริงๆว่าแม่นมสี่จะไม่สบายนอนซมอยู่บนเตียง ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา จึงได้อยู่เป็นเพื่อนข้างๆกัน พูดคุยกันอยู่นาน จากนั้นก็ออกมาหาหยู่เหวินเห้า
เพราะเห็นว่าแม่นมสี่ไม่สบายแล้วต้องการคนของจวนอ๋องฉู่ดูแล เขาย่อมไม่สามารถวางมาดใหญ่ได้อีก ท่าทีที่มีต่อหยู่เหวินเห้าก็ดีขึ้นมาก
หยู่เหวินเห้าเชิญเขากับจิ้งถิงไปยังห้องโถงด้านข้างเพื่อดื่มเหล้าพูดคุยกัน เขาก็ไม่ปฏิเสธ คิดว่าคืนนี้ไม่กลับไปก็คงไม่เป็นไร พอดีกับรอให้นางไข้ลดก่อน
ทังหยางเตรียมเหล้าและกับแกล้มด้วยตนเอง หลังจากส่งเข้าไปแล้ว หยู่เหวินเห้าจึงถามขึ้นว่า “โสวฝู่ เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างจูกั๋วกงกับเซียวเหยากงนั้น ท่านรู้หรือไม่ ”