บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 549
ฮูหยินใหญ่มาถึงจวนอ๋องฉู่ พบหน้าเหล่าขนมหวาน ความเศร้าโศกทั่วใจถูกทิ้งลงไป
เหล่าขนมหวานคล้ายรับรู้ว่าอารมณ์ของฮูหยินใหญ่ไม่ดี จึงพยายามแสดงความกตัญญู มือเท้าน้อยสองคู่สะบัดไปมา ออกแรงปัดป่ายเครื่องนอนบนเตียงเล็ก ทำให้ผ้ากระเพื่อมขึ้นลง ฮูหยินใหญ่จึงยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
ความสุขของฮูหยินใหญ่ถ่ายทอดออกมาจากในใจ ไม่ใช่การฝืนยิ้ม นี่ทำให้หยวนชิงหลิงมองอย่างวางใจ
ก่อนถอนหายใจอีกครั้ง เจ้าสามเพียงนิ่งเงียบ
ต้นตอการติดเชื้อของแม่นมสี่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะขึ้นไปตามหาบนเขาโรคเรื้อนแล้ว จากรูปพรรณของหญิงที่แม่นมสี่และอะซี่พูดมา ล้วนหาไม่พบ
ต่อมาทังหยางเชิญทหารยามที่คอยเฝ้าอยู่บนเขาโรคเรื้อนมาดื่มสุรา หลังรอให้อีกฝ่ายเมามายประมาณเจ็ดแปดส่วน ทังหยางเอ่ยถามอีกครั้งว่าเคยเกิดผู้ป่วยโรคเรื้อนหายตัวไปหรือไม่ ทหารยามจึงบอกความจริง หลายเดือนก่อนความจริงมีผู้ป่วยโรคเรื้อนผู้หนึ่งหายตัวไป ศพหาไม่พบ
เมื่อลองสอบถามรายละเอียดรูปพรรณคนผู้นั้น สอดคล้องกับหญิงที่แม่นมสี่และอะซี่พูดมา
แต่ทหารยามสุดท้ายเอ่ยว่า หญิงคนนั้นอาจโดดหน้าผาทางเหนือไปแล้ว เพราะทุกปีล้วนมีผู้ป่วยโรคเรื้อนทำใจไม่ได้กับการแยกจากครอบครัว และทรมานจากความเจ็บปวด จึงเลือกกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
เบาะแสนี้จึงเท่ากับว่าหายไปแล้ว
เพราะแม้จะมีคนวางแผนทั้งหมดนี้ ก็ไม่อาจไว้ชีวิตหญิงผู้นั้นได้
ตอนนี้ต้องปลอดภัยไว้ก่อน นั่นเพราะอาการป่วยของแม่นมสี่ไม่สามารถให้คนนอกรับรู้ได้
หลังแม่นมสี่ถูกโสวฝู่ฉู่พูดโน้มน้าว ให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างว่าง่าย และไม่ปิดประตูอีก หยวนชิงหลิงต้องการเข้าไปตรวจอาการนาง นางก็ยินยอม เพียงทุกครั้งกำชับหยวนชิงหลิงหลายรอบว่าหลังออกไปต้องอาบน้ำสระผม เสื้อผ้าก็ต้องตากแดด
เมื่อถึงกลางเดือนเก้า วังหลวงป่าวประกาศข่าวดีออกมา ฮู่เฟยทรงพระครรภ์
ปกติเพิ่งตรวจสอบว่าตั้งครรภ์ อาจไม่ดีหากป่าวประกาศออกไป แต่ฮู่เฟยทรงดีพระทัย จึงพูดกันทั่ววังหลวง จากนั้นสั่งให้คนบอกกล่าวตระกูล เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยก็กู่ร้อง คล้ายเพื่อแสดงให้เห็นว่าบุตรสาวเขาไม่ได้แต่งให้ตาแก่ไร้น้ำยา ดังนั้นจึงรีบประกาศเรื่องฮู่เฟยตั้งครรภ์ออกไป
ภายในวังหลวงนานหลายปีแล้วที่ไม่มีพระสนมคลอดบุตร ฮ่องเต้หมิงหยวนคิดว่าตนตอนนี้มีบุตรมากพอแล้ว คิดไม่ถึงฮู่เฟยกลับทรงตั้งครรภ์ ดังนั้นแม้เขาจะไม่แสดงสีหน้า แต่ในใจดีพระทัยอย่างยิ่ง
ฮ่องเต้หมิงหยวนเรียกตัวหยวนชิงหลิงเข้าวัง ตรัสถามนางถึงผงอู๋โยวที่เหลือสำรองอยู่ และให้หยวนชิงหลิงหยิบบางสิ่งนั้นออกมาให้เขาฟังเสียงหัวใจเต้นของเด็ก
หยวนชิงหลิงหลังทราบว่าฮ่องเต้หมิงหยวนทรงจริงจัง จึงทูลเขาว่า ตอนนี้ใช้หูฟังไร้ประโยชน์ ฟังไม่ได้ยิน ต้องรอให้อายุครรภ์มากกว่านี้จึงจะได้ยิน
ฮ่องเต้หมิงหยวนเกิดความผิดหวัง
ฮู่เฟยไม่ปิดบังความยินดีในใจต่อหน้าหยวนชิงหลิงแม้แต่น้อย ก่อนจับชายเสื้อฮ่องเต้หมิงหยวนพลางเอ่ยถาม “ฮ่องเต้เพคะ พระองค์ทรงอยากได้พระโอรสหรือพระธิดาเพคะ?”
คำพูดนี้ หากเอ่ยถามบุรุษไม่เคยเป็นบิดามาก่อน อาจต้องขบคิดครู่หนึ่ง
แต่ฮ่องเต้หมิงหยวนเป็นบิดามาหลายครั้ง ข้างกายมีทั้งพระโอรสธิดา ดังนั้นเมื่อได้ยินคำนี้ของฮู่เฟย เขาจึงตรัสว่า “ไม่กังวล โอรสหรือธิดาล้วนดีทั้งนั้น”
ฮู่เฟยได้ยิน เงยใบหน้าเปล่งปลั่งขึ้น “หม่อมฉันหวังคลอดพระโอรส จะได้สง่างามเช่นพระองค์เพคะ”
แววตาของฮ่องเต้หยวนชิงหลิงปรากฏความดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง คำชมของพระสนมวัยเยาว์ ทำให้ใจผ่านสิ่งต่าง ๆ มาโชกโชนของเขาพอใจอย่างมาก
หยวนชิงหลิงเห็นฮ่องเต้หมิงหยวนห่วงใยฮู่เฟยเช่นนี้ ท่าทางการพูดล้วนระมัดระวัง ส่วนฮู่เฟยแววตาสีหน้าเปี่ยมล้นด้วยความสุข จึงคิดว่าฮู่เฟยอาจไม่ได้แอบรักฝ่ายเดียว ในใจเสด็จพ่ออาจมีสาวน้อยมีชีวิตชีวาผู้นี้เช่นกัน
หลังฮ่องเต้หมิงหยวนจากไป ฮู่เฟยดึงนางมาพูดคุยกัน ระหว่างพูดคุย ล้วนเอ่ยถามสิ่งที่ต้องระวังในการตั้งครรภ์ สิ่งใดทานได้ สิ่งใดไม่ควรทาน ทำสิ่งใดได้ ทำสิ่งใดไม่ได้ สอบถามอย่างละเอียด
หยวนชิงหลิงบอกนาง เดิมนางสุขภาพร่างกายดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลมากเกินไป
ฮู่เฟยยิ้มออกมา จากนั้นเท้าคางถอนหายใจ “ท่านว่าเหตุใดข้าจึงตั้งครรภ์ น่าแปลกยิ่งนัก ข้าดีใจเกินไป พระชายารัชทายาท ตอนท่านรู้ว่าตนตั้งครรภ์ดีใจหรือไม่ ดีใจจนแทบสติใช่ไหม หลายวันนี้ข้าดีใจจนนอนไม่หลับ”
หยวนชิงหลิงนึกถึงตอนตนตั้งครรภ์ หากพูดว่าดีใจคงไม่สู้ตกใจ
สิ่งสำคัญคือนางไม่ได้เตรียมใจแม้นิดเดียว และร่างนี้อายุน้อยเกินไป
โชคดีที่จิตใจเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จึงยอมรับได้รวดเร็ว
ดังนั้น ท่ามกลางแววตาเปล่งประกายความสุขของฮู่เฟย นางจึงเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ดีใจเพคะ ย่อมดีใจ”
ฮู่เฟยมองท่าทางไม่เป็นธรรมชาติของนาง หัวเราะออกมา “ท่านอย่าเกร็งเวลาอยู่กับข้าเลย หากไม่เพราะตอนนั้นเข้าใจผิด ข้าคงต้องอภิเษกกับรัชทายาท?”
หยวนชิงหลิงอึดอัดเล็กน้อย “ไม่มีสิ่งใดเพคะ ฮู่เฟยอย่าคิดมากเลยเพคะ”
ฮู่เฟยกุมมือนาง ก่อนเอ่ยอย่างสัตย์จริง “พระชายารัชทายาท แม้พวกเราจะมีศักดิ์ต่างกัน แต่ข้าไม่มีสหายอยู่ในราชวงศ์เลย เหล่านางสนมในวังล้วนไม่ชอบไปมาหาสู่กับข้า ดังนั้นข้าหวังจากใจจริง ๆ ว่าจะสามารถเป็นสหายกับท่านได้ ท่านยินดีหรือไม่?”
หยวนชิงหลิงมองหญิงสาวผู้มีแววตาปลายคิ้วล้วนมีแต่ความจริงใจ ตรงไปตรงมาใจกว้างเช่นนี้ ท่าทีของตนเคร่งขรึมมาโดยตลอด กลับเลอะเลือนอย่างเห็นได้ชัด จึงกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “ยินดีแน่เพคะ มีสหายเพิ่มมาหนึ่งคนดีกว่ามีศัตรูเพิ่มนะเพคะ”
ฮู่เฟยกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “เช่นนั้นเจ้าวางใจเถิด ข้าไม่เห็นเจ้าเป็นศัตรูแน่”
สุดท้ายคือวัยเยาว์ สองคำนี้สามารถพูดออกมาได้ทุกเมื่อตลอดเวลา
แต่หยวนชิงหลิงชื่นชอบคนตรงไปตรงมาอย่างมาก เพราะไม่จำเป็นต้องใช้อุบาย
ทั้งสองจึงยิ้มในใจพร้อมกัน
หยวนชิงหลิงหลังออกจากตำหนักฮู่เฟย ไปที่พระตำหนักฉินคุนเยี่ยมเยือนไท่ซ่างหวง
ไท่ซ่างหวงหลังหายอุจจาระร่วง กลับสงบเสงี่ยมอยู่สองวัน ไม่ดื่มสุรา สูบใบยาสูบหน่อยลง แต่ขณะคิดว่าไม่เป็นอันใด กลับมาทำเช่นเดิมอีกครั้ง กล้องยาสูบอัดแน่นด้วยใบยาสูบ ถือช่วงว่างนั่งหน้าระเบียงสูบใบยาสูบเสียงฟืดฟาด เมื่อหยวนชิงหลิงมาถึง เขากำลังพ่นควันออกมา
เมื่อเห็นเงาร่างหยวนชิงหลิงแวบเข้ามา ยังไม่ทันได้ยินรายงาน กล้องยาสูบในมือเขาปลิวหายไปในหญ้า
หยวนชิงหลิงกำลังเข้ามาได้กลิ่นยาสูบ จึงมองยังไท่ซ่างหวงนั่งอยู่บนระเบียง แต่ในมือกลับไม่มีกล้องยาสูบ แต่รูจมูกมีควันค่อยๆ ลอยล่องออกมา นางจึงอดหัวเราะไม่ได้ “คิดว่าซ่อนได้หรือเพคะ ไม่มีกล้องยาสูบ แต่กลิ่นยาสูบนี้ยังไม่สลายไป”
ขณะเอ่ยหยิบกล่องยาสูบยังมีควันนั้นขึ้นมาจากหญ้า ก่อนส่งให้ฉางกงกง
ไท่ซ่างหวงเมื่อถูกเปิดโปง และได้ยินคำเยาะเย้ย โมโหกัดฟันกรอด “ข้าอยากสูบก็แค่สูบเท่านั้น เหตุใดเจ้ายุ่งวุ่นวายขนาดนี้ ใต้หล้านี้มีผู้ใดกล้ายุ่งกับข้าบ้าง?”
หยวนชิงหลิงนั่งลงตรงหน้าเขา ก่อนมองเขา “ไม่สนใจท่านแล้ว อยากสูบก็สูบเถิด แต่สูบใบยาให้น้อยลงก็พอ”
ไท่ซ่างหวงคิดว่าหยวนชิงหลิงจะพูดสั่งสอน คิดไม่ถึงท่าทีอ่อนโยนอย่างมาก และยังอนุญาตให้เขาสูบใบยาสูบ กลับประหลาดใจเล็กน้อย แต่เพียงคิดได้ ขมวดคิ้วทันที “หมายความเช่นไร ไม่สนใจสุขภาพของข้าหรือ หรือสนใจไปก็ไร้ประโยชน์ คิดว่าข้าเป็นตาเฒ่าใกล้ตายแล้ว ดังนั้นเลยปล่อยให้ข้าทำตามใจ?”
หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยปลอบว่า “ท่านสูบใบยามาตลอดชีวิตแล้ว บอกห้ามไม่ให้สูบเลยจะทำได้เช่นไร แค่ให้ท่านสูบน้อยลงเท่านั้น เหตุใดต้องพูดค้านข้ามากมาย ต้องการให้ข้าเข้มงวดไม่ให้ท่านสูบถึงจะดีหรือ ห้ามท่านสูบจริง ท่านไม่จัดการข้าหรือ?”
เอ่ยแล้ว นางหัวเราะขึ้นมา