บัลลังก์หมอยาเซียน - ตอนที่ 89
ในเมื่อเป็นเช่นนี้หยวนชิงหลิงก็จะไม่เกรงใจแล้ว นั่งลงแล้วโต้กลับ “อยากคุยกับท่านอ๋องเพียงสองคน”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าการที่จะมาขอความช่วยเหลือจากคนอื่นนั้น ควรเริ่มจากตื้นไปลึก ไม่ควรพูดออกไปตรง ๆ ให้ผู้อื่นลำบากไป
“ใครรึ?” หยู่เหวินเห้าไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
“เซียวเหยากง”
สีหน้าของหยู่เหวินเห้าเริ่มเปลี่ยนไป “เจ้าไปขอให้เขาทำอะไร?”
“ฟังจากที่ไท่ซ่างหวงเคยกล่าวถึงเขา ทำให้ข้าสงสัยนิดหน่อย”
“ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องถาม” หยู่เหวินเห้าตอบด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
หยวนชิงหลิงรู้สึกเสียดายนิดหน่อย เซียวเหยากงผู้นี้ไม่ใช่อดีตฝู่ฉู่หรอกหรือ? ทำไมเขาถึงไม่รู้อะไรเลย?
หางตาของเธอเหลือบไปเห็นทังหยางขยิบตาอยู่ด้านข้าง พลับรับรู้ได้ว่าเซียวเหยากงกับหยู่เหวินเห้ามีเรื่องบาดหมางกัน เธอจึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ช่างเถิด ถามคนอื่นก็ได้ คนรู้จักเจ้าพระยาหุ้ยติ่งฉู่น่าจะเยอะอยู่”
หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วแน่นขึ้นจนคิ้วปูดโปนเห็นได้อย่างชัดว่ามีน้ำโห “เขา?”
“คนผู้นี้นิสัยเป็นอย่างไร?” หยวนชิงหลิงสังเกตอารมณ์ที่แสดงออกมาของเขา ก็รู้ได้ว่าคงไม่มีคำตอบที่ดี
“คำเเดียว เลวร้าย!” หยู่เหวินเห้าตอบอย่างเย็นชา
หยวนชิงหลิงใช้ความคิดแก้ไขคำสองพยางค์เลวร้ายนี้ แต่ในใจกลับสั่นไหว โดยลักษณะนิสัยของหยู่เหวินเห้าแล้ว เขาจะไม่กล่าวหาผู้อื่นโดยพลการ ปากของเขานั้นมีไว้เพียงปากร้ายใส่เธอเท่านั้น
แต่ใช้คำว่าเลวร้ายสองพยางค์นี้มาจำกัดความเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง เห็นได้ว่าท่านมันคนขี้ขลาด
“อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้” หยวนชิงหลิงตอบทันที
“เจ้าจะอยากรู้เรื่องเขาไปทำไม?” หยู่เหวินเห้าถามกลับ
หยวนชิงหลิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ: “พ่อของข้าต้องการยกน้องสาวให้แก่เขา”
หยู่เหวินเห้าตกใจ แล้วตอบนิ่งๆ : “งั้นเจ้าก็รอเก็บศพน้องสาวเจ้าเลย”
หยวนชิงหลิงตกใจเป็นอย่างมาก “เลวร้ายขนาดนั้นเลยรึ?”
ทังหยางตอบจากด้านข้าง “พระชายา เขาเคยแต่งงานกับผู้หญิงสามสกุล ล้วนตายทั้งหมด”
“ตายอย่างไร?”
“อ้างว่าเสียชีวิตด้วยโรคกะทันหัน สำนักดาราศาสตร์ยิ่งกล่าวว่าเป็นเพราะเขาฆ่าร้างคนไปเยอะ ทำให้ตำหนักพระชายามีการฆ่ามาตลอด และการสังหารของเขาล้วนทำเพื่อศาลและประเทศชาติ ฝ่าบาทก็ยิ่งปกป้องคุ้มครองเขา”
“ในบางครั้งก็อาจมีตายเพราะป่วยจริง?” หยวนชิงหลิงเริ่มไม่สบายใจ แต่ยังคงพยายามมองโลกในแง่ดีอยู่
หยู่เหวินเห้าตอบนิ่งๆ : “ถ้าเจ้าทำสัญญาไว้ก็ยกน้องสาวของเจ้าแก่เขาเถิด รอดูว่าในท้ายที่สุดแล้วน้องสาวของเจ้าจะบังเอิญตายเพราะป่วยเหมือนกันหรือไม่”
หยวนชิงหลิงตกอยู่ในห้วงความกังวล อย่างไรก็ชีวิตของมนุษย์ ถึงแม้ไม่ใช่น้องสาวของเธอก็ไม่อาจละเลยได้
“พวกเจ้ารู้เรื่องราวภายในใช่หรือไม่?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
ทังหยางมองไปที่หยู่เหวินเห้าชั่วครู่ หยู่เหวินเห้าจึงพยักหน้ารับ “พูดเถอะ บอกนางไป”
ทังหยางเริ่มอธิบายท่านเจ้าพระยาหุ้ยติ่งผู้นี้ เขามีนิสัยชอบดูถูกผู้หญิง และผู้หญิงที่ตายในมือของเขามีมากกว่าภรรยาหลวงสามคน สาวใช้ในคฤหาสน์ ผู้หญิงในหมู่บ้านแถบชานเมืองก็เกรงว่าจะมีไม่ต่ำกว่าสิบคน นี่ไม่รวมถึงโสเภณีทหารที่ออกสำรวจและผู้หญิงที่คัดเลือกมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงอีกนะพะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงได้ฟังก็โกรธไปทั้งร่าง ลุกขึ้นพูด “เรื่องนี้ไม่มีใครสนใจเลยรึ?”
“ใครสน? ตัวเองไม่ได้เดือดร้อน ใครจะไปสนใจ? เรื่องนี้บอกศาลไม่ได้ เพราะเขาสามารถแก้ไขเป็นการส่วนตัวได้ด้วยเงิน ถ้าหากให้เงินแล้วไม่ต้องการ พยายามที่จะฟ้องฝ่ายราชการ เขาจะใช้กำลังบังคับคนให้ย้ายที่อยู่หรือฆ่าตัวตายโดยการกินยา” ทังหยางตอบ
“ท่านอ๋องก็รู้ไม่ใช่รึ? ท่านอ๋องไม่สนใจได้อย่างไร?” หยวนชิงหลิงถามพลางมองไปที่หยู่เหวินเห้า เธอโกรธจนสั่นไปทั้งร่าง มีคนชั่วขนาดนี้อยู่ไม่ได้รับการลงโทษได้อย่างไร?
“ข้าปะทะกับเขามาไม่น้อย ต่อมาก็ได้ยื่นคำร้องต่อฝ่าบาท ฝ่าบาทสั่งสอบสวนแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่านอ๋องจึงถูกฝ่าบาทประณามโดยกล่าวว่าเขาได้กล่าวหาจอมพลแบบผิดๆ”
หยวนชิงหลิงสยดสยอง “กล่าวคือเขาได้ฆ่าผู้หญิงมากมาย แต่สามารถผ่านไปอย่างง่ายดายงั้นหรือ?”
“อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นภรรยาหลวงคนที่สาม ลูกของนายเจ้าเมืองลู่โจว ตอนที่หญิงสาวเสียชีวิตเจ้าเมืองลู่อยู่ที่เมืองหลวง พอได้เห็นศพของลูกสาวมีรอยแผลไปทั่วร่างกาย สภาพย่ำแย่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเด็กในครรภ์ที่ถูกทำให้แท้ง นายเจ้าเมืองลู่ย่อมไม่ยินยอมที่จะยอมความ และต้องการสอบสวนเรื่องนี้…”
“สุดท้ายเป็นอย่างไร?” หยวนชิงหลิงรีบถามเมื่อเขาหยุดพูดกะทันหัน
ทังหยางถอนหายใจ “สอบสวนไม่สำเร็จ เจ้าเมืองลู่เสียสติไปแล้ว”
หยวนชิงหลิงสั่นไปทั้งตัว ความโกรธแทรกซึมเข้าไปในทุกรูขุมขนของเธอ เธอรู้สึกเหมือนผมของเธอจะฟูขึ้นมาให้ได้ “แล้วไม่มีใครรักษาเขาได้เลยรึ?”
หยู่เหวินเห้าตอบนิ่งๆ ว่า “แต่ถูกคนทุบตี”
“ใครตี? ช่างเก่งนัก” หยวนชิงหลิงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว “ทำไมไม่ตีเขาให้ตายไปเลย?”
“เซียวเหยากง!” หยู่เหวินเห้ามองเธอก่อนตอบ
“เซียวเหยากง?” หยวนชิงหลิงตะลึง เซียวเหยากงอายุเยอะแล้วยังสามารถตีเขาได้? ช่างเก่งกล้า เธอต้องไปหาเซียวเหยากงให้ได้เสียแล้ว
ทังหยางกล่าวต่อ: “หลังจากชายาคนที่สามของเจ้าพระยาหุ้ยติ่งตาย เขาอยากจะแต่งงานกับหลานสาวของเซียวเหยากง ถึงกับให้ฝู่ฉู่มาเป็นแม่สื่อ เดิมทีกำลังจะสำเร็จแต่พวกเขาไม่รู้ว่าเซียวเหยากงรู้แล้วหยิบไม้เท้าหัวมังกรมาตีจนได้รับความเจ็บปวด ลุกจากเตียงไม่ได้ถึงสามวัน เห็นได้ชัดว่าถูกตีอย่างเหี้ยมโหด”
“ไม้เท้าหัวมังกร? ฟังดูสุดยอดดีนะ” หยวนชิงหลิงชักจะอดไม่ไหวที่จะเจอเซียวเหยากงแล้ว รู้สึกเลื่อมใสในคนๆ นี้จริงๆ
“แน่นอน ไม้เท้าหัวมังกรนี้ไท่ซ่างหวงเป็นผู้ให้เขามาใช้ตีทรราช”
หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ตีพวกขุนนางโลภมาก”
ทังหยางตกใจ “พระชายารู้หรือ?”
ในยุคสมัยนี้ใครๆ ก็รู้ มีอะไรน่าตกใจ
หยวนชิงหลิงเลือดเดือดพล่าน “ที่เล่ามาถ้าหากเซียวเหยากงหยุดเจ้าพระยาหุ้ยติ่งได้ งั้นข้าคงขอให้เขาช่วยได้”
ใบหน้าที่บวมปูดของหยู่เหวินเห้ามืดมนฉับพลัน “เจ้าจะไปพบเขารึ? ข้าไม่อนุญาต!”
“แล้วท่านอ๋องไม่ถูกใจอะไรเขาหรือ?” หยวนชิงหลิงถามกลับ วีรบุรุษที่เก่งกาจขนาดนี้มีอะไรให้ไม่ถูกใจกัน?
“ไม่อนุญาตคือไม่อนุญาต!” หยู่เหวินเห้ายืนขึ้นตอบนิ่งๆ : “ถ้าหากเจ้ากล้าไป ข้าจะตีขาเจ้าให้หัก”
“เรามีพันธสัญญา ท่านไม่สามารถลงมือกับข้าได้” หยวนชิงหลิงใช้เหตุผลเข้าสู้
หยู่เหวินเห้าถอนใจ : “ข้าไม่ต้องลงมือด้วยตัวเอง”
หยวนชิงหลิงตกตะลึง ลืมไปว่าเขามีลูกน้องมากมาย แต่ไม่ว่าจะลงมือด้วยตัวเองหรือไม่ความหมายก็เหมือนกัน เขาไม่สามารถใช้กำลังกับเธอได้
“ถ้าหากข้าไม่ไปพบเซียวเหยากง ท่านมีวิธีทางอื่นไหม?” หยวนชิงหลิงถามกลับ
“ทำไมข้าต้องช่วยน้องสาวของเจ้า”
“นั่นคือน้องสาวของเจ้า”
“เจ้าเคยพูดไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องยอมแพ้ให้แก่เจ้า อย่าลืมคำพูดตัวเองสิ” หยู่เหวินเห้ารู้สึกอารมณ์เสียในที่สุด ย่าของเขาเป็นหมี ผู้หญิงคนนี้แย่มาก เธอมักจะพูดเรื่องการออกจากการเป็นชายาเสมอ ราวกับเขาจะไม่กล้าสู้
หยวนชิงหลิงสอนอย่างจริงใจ: “ท่านอ๋อง คำพูดของผู้หญิงนั้นเชื่อไม่ได้”
“ดังนั้น” หยู่เหวินเห้าหรี่ตามอง แต่กลับพบว่ายิ่งหรี่ยิ่งเหมือนกับปิดตาไปแล้ว ในใจยิ่งโมโหมากขึ้น “เจ้าพูดว่าไม่สามารถใช้กำลังกับเจ้าได้ ก็เชื่อถือไม่ได้เหมือนกันอย่างงั้นหรือ?”
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ ปากกระบอกปืนสามารถทำได้จริง ปฏิกิริยาของหยู่เหวินเห้าตื่นตัวมากกว่าเดิม เธออาจจะสิ้นเปลืองเป็ดไปแล้วหนึ่งตัวแถมยังเสียเวลาใช้ความคิดกับเป็ดอีก