บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1053 การปรากฏของคนที่เลวทั้งหลายแหล่
ทังหยางหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “องค์ชายรัชทายาท เก็บอารมณ์บ้างเถอะ ใครๆก็รู้เจ้ากับพระชายารัชทายาทรักใคร่กัน ไม่ต้องแสดงออกมาอีก คิดถึงความรู้สึกคนที่ไม่สมหวังในความรักพวกนั้นด้วย”
หยู่เหวินเห้าโอบกอดไหล่ของหยวนชิงหลิง เลิกคิ้วมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่สมหวังในความรัก ไม่ใช่พูดถึงเจ้าเองแน่ เจ้ากับภรรยาของเจ้ารักใคร่กันมาก ใช่ เมื่อวานทำไมไม่พานางมาด้วย?”
ทังหยาอมยิ้ม หันร่างเดินออกไป พร้อมพูดขึ้นว่า “นางชอบความสงบ”
มองดูเงาหลังของทังหยาง หยวนชิงหลิงมักรู้สึกว่าภายในรอยยิ้มของเขาซ่อนอะไรไว้
แต่ตามหลักแล้ว เขากับภรรยาของเขาเข้ากันได้ดีนี่ เห็นได้ชัดว่าภรรยาของเขาก็รักเขามาก
เจ้าห้าจึงสั่งคนคอยจับตาดูฉู่หมิงหยางกับหยู่เหวินจุน ยังไงก็ต้องป้องกันไม่ให้สองคนนี้ก่อนเรื่องเดือดร้อนอะไรขึ้นมา
กลับคิดไม่ถึง การคอยจับตาดูนี้ เป็นการพบเจอครั้งใหญ่
ก่อนอื่นซุนฉวนหวู่นั่นก็ให้เจ้าห้าระมัดระวังแล้ว พ่อค้าเศรษฐีเจียงหนาน ไม่ได้เข้าตาเขาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นหยู่เหวินจุนก็อยากให้เมิ่งเยว่ แต่งงานกับพ่อค้าเศรษฐีเจียงหนานท่านชายหลี่เชา ถึงเรื่องนี้จะไม่สำเร็จ แต่สายตาเศรษฐีพวกนี้ จับจ้องมองอ๋องจี้อยู่ตลอด เหมือนดั่งยุงและแมลงวันจับจ้องมูลใหญ่ มีเจตนาอะไรบางอย่างแน่นอน
ซุนฉวนหวู่สั่งคนไปสืบดู ดูว่ามีความน่าสงสัยอะไรไหม
และคนที่ไปมาหาสู่ซุนฉวนหวู่ยังมีอีกคน รูปร่าง แววตาและการกระทำของคนคนนั้นเหมือนคนคนหนึ่งมาก นั่นก็คือหลินเซียวที่เจ้าห้า กำลังตามหาอยู่ทั่วทั้งเมืองในตอนนี้
หยู่เหวินเห้าให้เสี้ยวหงเฉิงไปดู แต่สั่งไว้หนักหนาว่า ต่อให้รู้ว่าเป็นหลินเซียว ก็ห้ามเปิดเผย ไม่เช่นนั้นจะทำให้เสียการใหญ่
เสี้ยวหงเฉิงเกลียดหลินเซียวจนเข้ากระดูกดำ แต่นางทำงานให้กับเจ้าห้ามาตลอด ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี นางรู้ว่าคือหลินเซียว กัดบดขยี้ฟันจนแทบละเอียด ถึงสามารถระงับดาบที่กำลังจะโบยบินออกไปไว้ได้ แล้วกลับมารายงานเจ้าห้า
เจ้าห้ายังส่งองครักษ์ลับผีไปเฝ้าจับตาดูคนพวกนี้ ไปดูว่าพวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่ ยังมีหลินเซียวที่ตีสนิทกับฉู่หมิงหยาง เพราะเห็นแก่ความงามของฉู่หมิงหยางหรือเปล่า
เขาคิดว่า เป้าหมายหลักของหลินเซียวคือโสวฝู่ฉู่ เพราะฉู่หมิงหยางไม่มีประโยชน์อะไร มีเพียงฐานะหลานสาวตระกูลฉู่ ที่มีประโยชน์ต่อเขา
เสี้ยวหงเฉิงก็สืบเรื่องฉู่หมิงหยาง สืบตามเบาะแสซุนฉวนหวู่ สืบจนรู้สาเหตุที่ฉู่หมิงหยางพูดใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงเหลิ่งจิ้งเหยียน แล้วกลับมารายงานหยู่เหวินเห้าในคืนนั้นทันที
“ฉู่หมิงหยางคนนั้น บางทีอาจจะไม่ได้ตั้งใจพูดใส่ร้ายเหลิ่งจิ้งเหยียน นางแค่อยากขัดขวางไม่ให้คุณหนูห้าตระกูลกู้กับตระกูลเหลิ่งแต่งงานกัน พูดอย่างถูกต้องก็คือ ต้องการหยุดคุณหนูห้าตระกูลกู้ไปคุยเรื่องแต่งงาน เพราะฮูหยินรองตระกูลกู้ให้เงินนางไปปล่อยกู้จำนวนหนึ่ง ตอนนี้ซุนฉวนหวู่ไม่ยอมรับแล้ว ฮูหยินรองตระกูลกู้ ก็อยากที่จะเอาเงินคืนเพื่อเป็นสินสอดให้กับลูกสาว ดังนั้นด้วยความที่ฉู่หมิงหยางร้อนใจ จึงพูดกับฮูหยินรองตระกูลกู้ว่าแต่งงานกับเหลิ่งจิ้งเหยียนไม่ได้ นี่เป็นเพียงการยื้อเวลา”
“ปล่อยกู้?” หยู่เหวินเห้าเชื่อสามีภรรยาคู่นี้จริงๆ เรื่องอะไรดีๆไม่รู้จักทำ วันๆทําทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง ชื่อเสียงลาภยศอย่างไมมียางอาย
“ไม่ผิด ไม่เพียงฮูหยินรองกู้ ฮูหยินในเมืองหลวงมากมาย ล้วนเอาเงินให้นางไปปล่อยกู้เพื่อเก็บดอกเบี้ย มูลค่าน่าจะประมาณสามล้าน”
หยู่เหวินเห้าหายใจเข้า พร้อมพูดขึ้นว่า “คนอย่างฉู่หมิงหยาง ยังสามารถรวบรวมเงินได้ถึงสามล้านตำลึง?”
ครั้งนี้หยู่เหวินเห้าอิจฉาแล้วจริงๆ เขาก็เคยยืมเงิน แต่กว่าครึ่งที่ให้เขายืมก็เพียงแค่หลายสิบตำลึง
ฉู่หมิงหยางกลับสามารถยืมได้ถึงสามล้านตำลึง สำหรับเขานี่ถือเป็นการโจมตีอย่างมากที่สุดจริงๆ
เสี้ยวหงเฉิงยังพูดอย่างชื่นชมนางว่า “ความจริงแล้วชื่อเสียงของนางในเมืองหลวงไม่ดีเลย ทำไมถึงยังมีคนมากมายขนาดนี้เชื่อถือนาง? สามารถพูดได้เพียงว่า ในมือฮูหยินพวกนั้นมีเงินอย่างมาก และก็มีความโลภในทรัพย์สินถึงถูกนางหลอก หากซุนฉวนหวู่ไม่ยอมรับ ฉู่หมิงหยางไม่มีทางคืนเงินก้อนนี้ได้ ส่วนซุนฉวนหวู่กับหลินเซียวนั่น เดิมก็สมคบกันอยู่แล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นแผนการหนึ่ง”
หยู่เหวินเห้ามองดูเสี้ยวหงเฉิง นางพูดถึงหลินเซียว ถึงแม้จะกัดฟันพูด แต่ก็มีเพียงความเกลียดชังไม่มีความเจ็บปวด แสดงว่าสามารถเดินออกมาจากความรักที่โศกเศร้านั้นได้แล้ว จึงพูดขึ้นว่า “เฝ้าจับตาดูต่อไป แต่อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ดูว่าพวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่”
“มีความเป็นไปได้ที่เป้าหมายคือโสวฝู่ฉู่” ทังหยางที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “ยังมีหลินเซียวเคยเข้าออกจวนอ๋องผิงหนาน สืบดูจวนอ๋องผิงหนานหรือยัง? สถานะอ๋องผิงหนานค่อนข้างลำบากใจ เขาเป็นพระราชนัดดาของฮ่องเต้เซี่ยน หากเขามีความโลภในตำแหน่งกษัตริย์ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะกระทำการที่เป็นการแย่งชิง”
หยู่เหวินเห้าส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องผิงหนานไม่ทำ แต่หลินเซียวไปจวนอ๋องผิงหนาน เกรงว่าจะมีเป้าหมายอื่น อ๋องผิงหนานเขียนจดหมายไปถึงไท่ซ่างหวงด้วยตนเอง บอกว่าหลินเซียวเข้าออก…..”
หยู่เหวินเห้าพูดอยู่ แล้วจู่ๆกับหยุด ค่อยๆขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ก็ไม่ถูก”
“เป็นอย่างไร?” เสี้ยวหงเฉิงถามขึ้น
หยู่เหวินเห้ามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องผิงหนานเคยเขียนจดหมายมาบอกว่าสั่งคนไล่ล่าหลินเซียว แต่ไล่ไม่ทัน เรื่องนี้ข้าเชื่อ แต่หลังจากนั้นหลินเซียวมาอีก หลินเซียวไม่รู้ว่าอ๋องผิงหนานต้องการจับตัวเขาหรือ? จึงยังกล้ามาอีกครั้ง? และครั้งที่สองนี้ก็มาอย่างมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม คนของจวนอ๋องผิงหนานก็จับเขาไว้ไม่ได้?”
เสี้ยวหงเฉิงพูดขึ้นว่า “หลินเซียวฉลาดมาก ยังไงเขาก็รู้ ตามหลักแล้วไม่น่าจะไปครั้งที่สอง”
“หลินเซียวตั้งใจหรือ?” ทังหยางมองดูหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ใต้เท้าเหลิ่งบอกว่า อ๋องผิงหนานรับคนเซียนเปยเข้ามาอยู่ในจวนหลายคน เรื่องนี้หากเป็นเมื่อก่อน ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงตอนนี้ไม่มีการศึก ทั้งสองประเทศก็กลับไปหาสู่กัน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้รู้สึกว่ามีคนตั้งไจทำอะไรสักอย่าง”
หยู่เหวินเห้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนอ๋องผิงหนาน อ๋องผิงหนานเป็นผู้อาวุโสที่เขานับถือเป็นอย่างยิ่งท่านหนึ่ง เขาเองก็เคยไม่ยุ่งเรื่องการเมือง เรื่องพวกนี้ ที่จริงความเป็นไปได้ที่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นมีน้อยมาก
ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ จวนอ๋องผิงหนานมักมีเรื่องขึ้นมา ทำให้ในใจของเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา
และสองวันนี้ ก็มีคนหนานเจียงจำนวนหนึ่งไปมายังจวนอ๋องฉู่อยู่เรื่อยๆ บอกว่าขอพบอ๋องหนานเจียงหมันเอ๋อ
เดิมคนพวกนี้แฝงตัวอยู่ในเมืองหลวง มีบางส่วนเป็นคนเก่าแก่ของอ๋องหนานเจียงคนเดิม สามารถพูดได้ว่าเป็นคนเก่าแก่ที่จงรักภักดี แอบแฝงอยู่ในเมืองหลวงเพื่อตามหาลูกสาวของอ๋องหนานเจียง แน่นอน มีความเป็นไปได้ที่บางส่วนคือคนเจียงเป่ย มาเพื่อตามหาลูกสาวของอ๋องหนานเจียงเหมือนกัน ที่จริงเบาะแสในตอนนั้น หลังจากติดตามสืบแล้ว หากอ๋องหนานเจียงมีบุตรสูญหาย ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คืออยู่ในเมืองหลวง ภายในคนพวกนี้ แอบแฝงแล้วกว่าเจ็ดแปดปี
ก็มีบางส่วนในนั้น หลังจากมั่นใจว่าลูกสาวของอ๋องหนานเจียง อยู่ในเมืองหลวง ค่อยเข้ามาในเมืองหลวง แต่ตอนนั้นคนที่หยู่เหวินเห้าสกัดกั้นไว้พวกนั้น เมื่อไต่สวนแล้ว ค่อยปล่อยเข้ามาในเมืองหลวง
จะยืดหนานเจียง ปกครองหนานเจียง ดีที่สุดก็คือการรวบรวมคนเก่าแก่ของอ๋องหนานเจียงในตอนนั้น
หยู่เหวินเห้าต้องใช้สติปัญญาส่วนหนึ่ง เพื่อเลือกเฟ้นคนพวกนี้ว่าเป็นศัตรูหรือมิตร หากพบคนที่น่าสงสัยก็จะถูกไล่ออกจากส่วนทั้งหมด แล้วก็สั่งคนไต่สวนอย่างละเอียด หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีความน่าสงสัยค่อยให้กลับเข้ามา
ทำไมหยู่เหวินเห้าจะต้องละเอียดขนาดนี้ ก็เพราะมีเหตุผล เพราะต่อให้เป็นคนเก่าแก่ของอ๋องหนานเจียงในตอนนั้น ที่จริงล้วนไม่ได้สนับสนุนอ๋องหนานเจียงร่วมมือกับราชสำนักเป่ยถัง มักรู้สึกว่าเขาว่าง่ายเกินไป ทำให้ถูกราชสำนักเอาเปรียบ
คนพวกนี้ไม่ได้คิดการกบฏ พวกเขาต้องการความสงบ แต่หวังอยากที่จะให้ราชสำนักสามารถได้ล่าถอย เพื่อแลกกับเอกราชในระดับหนึ่ง
ดังนั้น หากไม่เลือกอย่างละเอียดรอบคอบ ถึงตอนนั้นราชสำนักหนานเจียง ก็จะถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย อาจไม่ให้ความร่วมมืออย่างจริงใจในการรับมือเจียงเป่ย หรือแม้กระทั่งถึงตอนนั้น อาจจะมีการแย่งชิงเกิดขึ้นอีกครั้ง ถูกเจียงเป่ยควบคุมกลับก็เป็นได้