บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1105 ไม่มีหนทางช่วย
หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าของเขา ถึงแม้จะนิ่งเข้ม แต่ก็ไม่มีความเป็นกังวลอย่างมาก จึงถามขึ้นว่า “เจ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ?”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ว่าใครเป็นคนทำ ตอนนี้ล้วนคิดว่าอ๋องผิงหนานเป็นคนทำ เมื่อกี้เจ้าได้ยินว่าโสวฝู่ถูกวางยาพิษ คนแรกที่คิดถึงก็คืออ๋องผิงหนานเป็นคนทำใช่ไหม?”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างไม่ปิดบังว่า “ตอนที่ได้ยินสวีอีพูด ข้าคิดเช่นนี้จริง แต่หากอ๋องผิงหนานคิดจะทำเช่นนี้จริง ก็ไม่ถึงขั้นต้องลงมือในขณะที่ตนเองยังอยู่ที่จวนฉู่ แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการนำหายนะมาสู่ตนหรือ?”
“ใช่ ดังนั้น ความเป็นไปได้มากที่สุด ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปอยู่ในจวนฉู่ จนเกิดเรื่องกับโสวฝู่ ล้วนมีคนวางแผน” หยู่เหวินเห้าพูดเช่นนี้ สีหน้ากลับค่อยโล่งใจ เหมือนกับรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ
“แต่ใครที่สามารถคาดเดาได้ว่า อ๋องผิงหนานจะเข้าไปพักอยู่ที่จวนฉู่? ตามแผนกำหนดการเดิม หลังจากอ๋องผิงหนานมาถึงเมืองหลวง ก็จะเข้าวังทันที และหากวางแผนให้อ๋องผิงหนานวางยาพิษโสวฝู่ฉู่ ให้เขาวางยาพิษฆ่าไท่ซ่างหวงไม่ดีกว่าหรือ?” หยวนชิงหลิงถามอย่างไม่เข้าใจ
สายตาหยู่เหวินเห้าฉายแววเยือกเย็น พร้อมพูดขึ้นว่า “เพราะเขาวางยาพิษฆ่าไท่ซ่างหวงไม่ได้ แต่มีวิธีวางยาพิษฆ่าโสวฝู่ฉู่ได้”
หยวนชิงหลิงครุ่นคิดความหมายในคำพูดของเขา แล้วก็คิดถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาได้ คือฉู่หมิงหยาง
สามารถทำให้โสวฝู่ดื่มยาพิษลงไปได้อย่างไม่ระวังตัว จะต้องเป็นคนของตนเอง ฉู่หมิงหยางน่าสงสัยที่สุด
นี่เป็นเป้าหมายของหลินเซียว หลินเซียวควบคุมฉู่หมิงหยาง กำความลับของนางไว้มากมาย รู้ว่าฉู่หมิงหยางไม่มีทางถอย ทำได้เพียงเชื่อฟังเขา ดังนั้น เขาสั่งให้ฉู่หมิงหยางวางยาพิษฆ่าโสวฝู่ ตอนที่อ๋องผิงหนานเข้ามาถึงเมืองหลวง ฉู่หมิงหยางไม่มีทางเลือก จึงจำต้องลงมืออย่างโหดเหี้ยม
แต่หลินเซียวรู้ได้อย่างไร ว่าอ๋องผิงหนานจะเข้าไปพักในจวนฉู่?
ตามกำหนดการเดิม หลังจากอ๋องผิงหนานมาถึงเมืองหลวง ก็จะเข้าวังทันที แต่เพราะซื่อจื่อกับอ๋องผิงหนานต่างทานอาหารไม่สะอาด ทำให้อาเจียนท้องเสีย การเดินทางล่าช้าลง ไม่สามารถมาถึงเมืองหลวงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
มีคนวางยาพิษในอาหารของอ๋องผิงหนานสองพ่อลูก? มีคนแนะนำให้พวกเขาพักอยู่ที่จวนฉู่? นั่นก็หมายความว่า ข้างกายอ๋องผิงหนานมีไส้ศึกอยู่ตลอด
“เจ้าห้า เบาะแสทางฉู่หมิงหยางนี้ เจ้าสั่งคนไปจับตาดูอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ?” ฉู่หมิงหยางถามขึ้น
“หลังจากที่นางกลับมาจวนฉู่ คนของพวกเราก็ไม่สะดวกที่จะจับตาดู ข้าได้บอกโสวฝู่แล้ว ให้เขาระวังตัวไว้บ้าง แต่คิดว่าคงไม่ได้ป้องกัน” สีหน้าหยู่เหวินเห้าดูเงียบสงบอย่างน่ากลัว ทำให้หยวนชิงหลิงดูไม่ออก
ในใจหยวนชิงหลิงกระวนกระวาย พึมพำพูดขึ้นว่า “หวังว่าโสวฝู่จะไม่เป็นไร ไม่เช่นนั้นแม่นมสี่ก็คงไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล โสวฝู่ทำเพื่อเป่ยถังมาทั้งชีวิต เขามีบุญของเขารักษา จะต้องไม่เป็นไรแน่” หยู่เหวินเห้าพูดปลอบ
การต่อสู้ในครั้งนี้ ล้วนมองไม่เห็นศัตรูมาตลอด เดิมทีหยวนชิงหลิงก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเกิดเรื่องกับโสวฝู่แล้ว นางค่อยรู้สึกถึงความหวาดกลัวและอ่อนล้า คว้าจับมือหยู่เหวินเห้าไว้แน่น ประโยคนั้น ไม่ได้ถามออกไป ในใจกลับถามวนเวียนอยู่ว่า เมื่อไหร่ถึงจะจบสิ้น?
หยู่เหวินเห้าโอบกอดนางแนบอกเบาๆ ทั้งสองสามีภรรยาเหมือนรู้ใจกัน เขากระซิบพูดข้างหูของนางว่า “ศัตรูหากไม่ทำอะไรก็ยังดี หากเขาลงมือทำแล้ว ก็มักจะเผยหางจิ้งจอกของเขาออกมา”
หยวนชิงหลิงซบแนบอกเขา แผ่นหน้าอกที่หนาแน่น ยังคงทำให้นางรู้สึกปลอดภัย แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่วุ่นวาย คิดถึงโสวฝู่ถูกวางยาพิษ ในใจยังคงไม่สามารถสงบได้
มาถึงจวนฉู่ ภายในจวนฉู่วุ่นวายไปหมด มีหมอมาแล้วหลายคน ล้วนเป็นคนทางด้านตระกูลฉู่เชิญมา ได้ตรวจรักษาแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก คนของตระกูลฉู่ก็ไม่ให้พวกเขาไปไหน จึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่ข้างใน
ลูกหลานของตระกูลฉู่ ต่างก็อยู่เป็นเพื่อนที่ข้างเตียง ฉู่หมิงหยางก็อยู่ด้วย ก้มหน้าอยู่ตลอด แสดงสีหน้าอมทุกข์
หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงเข้ามา ก็มีการขยับเปิดทางให้พวกเขาเข้ามา
อ๋องผิงหนานนั่งอยู่ด้านข้างเตียง มืออยู่ใต้ผ้าห่ม จับมือโสวฝู่ฉู่ไว้แน่น สีหน้าหนักใจ สายตาเจ็บปวดอย่างที่สุด
สีหน้าโสวฝู่เขียวปัด ริมฝีปากม่วง หลับตาไว้อย่างสนิท แทบจะไม่มีลมหายใจ หยู่เหวินเห้าเดินหน้าไป พูดกับอ๋องผิงหนานด้วยเสียงเบาว่า “เสด็จปู่ใหญ่ ท่านหลบก่อน พระชายารัชทายาทมีฝีมือทางการแพทย์ ให้นางดูว่าสามารถช่วยได้ไหม”
อ๋องผิงหนานลุกขึ้นมา มองดูหยวนชิงหลิง ด้วยสีหน้าที่จริงจัง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “พระชายารัชทายาท จะต้องพยายามให้ถึงที่สุด”
หยวนชิงหลิงเห็นความปวดร้าวในดวงตาของเขา ในใจตื้นตัน พยักหัวเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะพยายามอย่างที่สุด”
นางเดินไปข้างหน้า สัมผัสดูลมหายใจ ชีพจรกับการเต้นของหัวใจ ล้วนอ่อนมาก ชีพจรแทบสัมผัสไม่ได้ หัวใจเต้นอ่อนมาก อ่อนอย่างที่สุด มีหลายครั้งหยวนชิงหลิงยังคิดว่า หัวใจของเขาหยุดเต้นแล้ว กำลังคิดที่จะช่วยปั๊มหัวใจ กลับเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
วิธีการตรวจจับของนางมีจำกัด ไม่มีความรู้เรื่องยาพิษ และไม่สามารถเจาะเลือดออกมาตรวจ
นางเติมน้ำเกลือ บำรุงหัวใจพร้อมล้างพิษ ชะลอการซึมของสารพิษ ที่จะเข้าไปในกระเพาะอาหารและไต ที่เหลือ คงต้องรอให้หมอหลวงเฉามาถึง
เซียวเหยากงพาหมอหลวงเฉามาถึงอย่างรวดเร็ว หมอหลวงเฉาตรวจดูอาการ ก็ไม่สามารถหาเจอว่าคือพิษอะไร แต่ไม่ใช่สารหนูกับนกขนพิษ เขาผสมยาแล้วให้ดื่มลงไป แต่ยาหนึ่งถ้วยดื่มลงไปได้แค่ไม่กี่คำ ทำให้คนต่างร้อนใจยิ่งนัก
“พิษแบบนี้รุนแรงมาก แต่ดีที่ปกติโสวฝู่ทานยาเซียวฝู ช่วยชะลอพิษให้ทุเลาลง ไม่เช่นนั้น คงไม่รอดแต่แรกแล้ว” หมอหลวงเฉาพูดขึ้นอย่างหนักใจ
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “ยาเซียวฝูนี้คือยาอะไร?”
หมอหลวงเฉาพูดอธิบายว่า “ยาเซียวฝูสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในและภายนอกได้ และยังสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลมสูบฉีดดี ก่อนหน้านี้โสวฝู่สุขภาพย่ำแย่ จึงเริ่มทานยาเซียวฝู ห้าวันต่อหนึ่งเม็ด คิดว่ายานี้มีผลกับร่างกายแล้ว สามารถยับยั้งยาพิษไว้ได้”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าช่วงนี้โสวฝู่สุขภาพไม่ค่อยดี กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการช่วยเขาไว้
“มีหนทางช่วยได้ไหม?” อ๋องผิงหนานมองดูเขา พร้อมถามขึ้น
หมอหลวงเฉาถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือพิษอะไร เกรงว่าคงยาก”
หมอหลวงเฉามีความรู้เรื่องยาพิษเป็นอย่างดี เขายังไม่มีความมั่นใจ ทุกคนต่างก็ไม่มีคนทางขึ้นมาในทันใด ฉู่หมิงหยางเดินออกมา ร้องไห้พร้อมถามหยวนชิงหลิงว่า “เจ้ามีฝีมือทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศไม่ใช่หรือ? เจ้ายังสามารถตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ เจ้าช่วยท่านปู่ของข้าสิ”
เวลาเช่นนี้ ได้ยินฉู่หมิงหยางร้องไห้หนักขนาดนี้ ช่างทำให้หงุดหงิดใจยิ่งนัก หยวนชิงหลิงไม่ตอบนาง แต่คนตระกูลฉู่คนอื่นๆกลับต่างคุกเข่าลง ขอร้องให้พระชายารัชทายาทช่วยชีวิตโสวฝู่
คนภายในห้องมากกว่าครึ่งต่างคุกเข่าลง ราวกับหากหยวนชิงหลิงช่วยชีวิตโสวฝู่ไว้ไม่ได้ ก็เป็นเพราะนางไม่ยินยอมที่จะช่วย
หยวนชิงหลิงหันไปมองดูใบหน้าเขียวม่วงของโสวฝู่ ท่าทีแทบไม่มีลมหายใจ ภายในใจรู้สึกแย่อย่างมาก หาในกล่องยาสักพัก ก็ไม่มีอะไรเหมาะสมที่จะนำมาใช้ จึงพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “ข้าก็ไม่มีหนทาง ลองตามหมอหลวงในวังมาดูอีกไหม”
หมอหลวงเฉาแนะนำใต้เท้าย่วนพ่าน บอกว่าเขามีความรู้เรื่องยาพิษค่อนข้างมาก คนของจวนฉู่รีบสั่งคนไปเชิญมา
อ๋องผิงหนานจับมือโสวฝู่ฉู่ไว้ ถอนหายใจหนักแน่น พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? พวกเราเพิ่งได้คุยกันเพียงไม่กี่ประโยคเอง เจ้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ”