บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1123 ยาหายไป
ฮูหยินเหยาเอ่ย “ตอนแรกข้าจะไปซื้อยาล้างปอดหยุดไอสักหน่อย แต่คนในร้านยาบอกข้าว่ายาทั่วไปอย่าง ใบหม่อน เหลียนเชี่ยว จินอิ๋งฮวา รากป่านหลัน ขาดตลาด พวกเขาหาซื้อไม่ได้มาหลายวันแล้ว ข้าไปถามร้านยาหลายร้านก็เป็นสภาพนี้เหมือนกัน เรื่องนี้ข้ารู้สึกว่ามีความแปลกอยู่ เจ้าต้องกลับไปบอกพระชายารัชทายาทนะ ให้คนสืบหน่อยว่าเป็นมาไงกันแน่ ”
“ยาพวกนี้ธรรมดาจะตาย ทำไมซื้อไม่ได้ล่ะ? ไม่เห็นเคยได้ยินหมอที่โรงหมอหุ้ยหมิงพูดถึงเลย”
ฮูหยินเหยาไอสองสามที ไอจนหน้าแดง พักใหญ่ถึงดีขึ้น เอ่ย “โรงหมอหุ้ยหมิงเป็นโรงหมอของราชสำนัก ก็ต้องมีช่องทางจัดหาอยู่แล้ว แต่คาดว่าราคาซื้อต้องค่อนข้างแพงแน่ ตอนนี้ชาวบ้านซื้อยาพวกนี้ไม่ได้ แถมตอนนี้ยังเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน เกิดโรคระบาดง่าย ถ้าขาดยาพวกนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ”
อะซี่เอ่ย “ได้ งั้นข้ากลับไปแล้วจะบอกพี่หยวนทันที ให้นางหาคนตรวจสอบสักหน่อย ท่านรีบนั่งลงกินโจ๊กสักหน่อยเถอะ ข้าทำกับข้าวให้ท่านสองอย่างด้วยนะ”
“ข้ากินแน่ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” ฮูหยินเหยาเอ่ย
อะซี่จึงเอ่ย “งั้นก็ได้ ข้าไปล่ะ”
พอนางเดินออกไป ฮุ่ยเทียนก็วางไม้กวาดยืนอยู่ด้านล่างระเบียงทางเดิน “งั้นช่วงนี้ก็รบกวนท่านดูแลฮูหยินให้มากหน่อยนะ”
“อือ!” ฮุ่ยเทียนรับไปแบบชืดๆ
อะซี่รู้สึกว่าพูดกับเขาเหนื่อยจริง จึงไม่พูด แล้วกลับจวนไป
เมื่อกลับถึงจวนอ๋องฉู่แล้วกลับไม่พบหยวนชิงหลิง พอถามหมันเอ๋อ หมันเอ๋อก็ว่า “พอท่านออกไป ทางจวนอ๋องอานก็ส่งคนมาเชิญ บอกว่าธิดา ของพระชายาอานแหวะนมกะทันหัน อาการหนักมาก ขอให้พระชายารัชทายาทไปสักหน่อย”
อะซี่ส่งเสียงตกใจ “แล้วทำไมเจ้าไม่ตามไปด้วยล่ะ? ไปจวนอ๋องอานอันตรายแค่ไหน”
“พระชายาหวยมาพอดี พวกนางไปด้วยกัน ข้าก็เลยไม่ได้ตามไป” หมันเอ๋อกล่าว
อะซี่เอ่ย “งั้นยังดี พระชายาหวยคุ้มครองพี่หยวนได้ ข้าเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เมื่อกี้ไปทำกับข้าวที่ฮูหยินเหยาทางนั้นมา กลิ่นควันน้ำมันทั้งตัว”
หมันเอ๋อแอบหัวเราะ “ตอนนี้ท่านเหมือนภรรยาและแม่ที่แสนดีไปทุกวันแล้วนะ”
อะซี่ทำท่าจะตีนาง หมันเอ๋อถอนเท้าโกยแนบ ทั้งสองวิ่งไล่หยอกล้อสนุกสนานกันมาก
รอจนหยวนชิงหลิงกลับมาก็เป็นกลางคืนแล้ว นางกับหยู่เหวินเห้ากลับมาไล่เลี่ยกัน สองสามีภรรยาพูดไม่กี่คำอะซี่ก็มา บอกสภาพการณ์ที่ฮูหยินเหยาพบเจอ
หยวนชิงหลิงตะลึงงัน “ขาดตลาด? สมุนไพรมีขาดตลาดด้วยหรือ?”
หยู่เหวินเห้าเอ่ย “สมุนไพรหายากขาดตลาดไม่แปลก แต่พวกใบหม่อน เหลียนเชี่ยว ไม่เคยขาดเลยนี่”
“โรงหมอหุ้ยหมิงส่งฎีกาหรือเปล่า?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
“สองวันนี้ข้ากำลังยุ่ง ฎีกาให้เสด็จอาดูหมด เรื่องเล็กเขาคงไม่ได้บอกข้า เรื่องใหญ่ถึงจะปรึกษากับข้า เรื่องสมุนไพรขาดตลาด เขาคงรู้สึกไม่สำคัญเลยไม่ได้บอกข้า ”
หยวนชิงหลิงเป็นหมอ การที่ตลาดขาดยาสามัญบางตัวทำให้นางรู้สึกถึงวิกฤตหนัก โดยเฉพาะตอนนี้เพิ่งเข้าฤดูร้อน เช้าค่ำยังมีความเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่ เป็นไข้หวัดใหญ่ง่าย จำได้ว่าเวลานี้ในปีก่อนๆ ก็เป็นหวัดกันไปทั่ว
นางเอ่ย “พรุ่งนี้เจ้าส่งคนไปตรวจสอบ ดูว่าขาดยาตัวไหนบ้างกันแน่? ทำไมถึงขาดยาได้”
“ข้าจะให้สวีอีไปถามที่โรงหมอหุ้ยหมิงเดี๋ยวนี้แหละ” พอหยู่เหวินเห้ากล่าวจบ อะซี่ก็หมุนตัวออกไป “ข้าจะไปเรียกเขา”
สวีอีไปโรงหมอหุ้ยหมิงในคืนนั้น หาเจ้าหน้าที่ของโรงหมอหุ้ยหมิง ถามเรื่องวัตถุดิบยาขาดตลาด
โรงหมอหุ้ยหมิงไม่ได้ยื่นฎีกา เอ่ย “เรื่องที่ชาวบ้านขาดตลาด ข้าน้อยได้ยินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้วขอรับ วันนี้โรงหมอหุ้ยหมิงก็สั่งยาเข้า ยาของที่นี่ยังมีจำนวนหนึ่ง พวกเราได้รับกระทบต่อไม่มาก เพราะคนที่ส่งยาให้ทางเราแทบไม่ขายให้ข้างนอก พวกเขายังมีแหล่งสินค้าอยู่ขอรับ”
“งั้นพวกเจ้าลองถามพ่อค้าหน่อย ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” สวีอีถาม
“แม่ทัพสวีโปรดวางใจ พรุ่งนี้ข้าน้อยจะไปตรวจสอบเองขอรับ เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงเอ่ย”
พอสวีอีถามถึงของคงเหลือที่โรงหมอหุ้ยหมิงอีก เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงก็ว่า “ของคงเหลือมีไม่มาก เพราะโรงหมอหุ้ยหมิงรับผู้ป่วยจำนวนมากทุกวัน ซื้อของทุกสองสามวันที จะเก็บมากขนาดนั้นก็ไม่ได้ เราไม่มีสถานที่มากอย่างนั้น”
“ถ้าได้ของมาเจ้าก็เก็บไว้มากหน่อยเถอะ ดูท่าเรื่องนี้คงมีคนชักใยอยู่” สวีอีกล่าว
เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงตะลึง “ชักใย? เป็นใครกัน? ราชสำนักเข้มงวดมาก ห้ามกักตุนวัตถุดิบยา จะส่งผลกับการใช้ยาของประชาชน”
“ระวังหน่อยเป็นดี กลัวแต่ไม่ใช่พ่อค้าเจ้าเล่ห์ แต่เป็นคนที่มีจุดประสงค์แอบแฝง” บัดนี้สวีอีปราดเปรื่องขึ้นมาก หลายเรื่องก็เข้าใจอย่างเห็นหนึ่งรู้สาม โดยเฉพาะสมุนไพรเป็นหลักสำคัญของช่วงเปลี่ยนฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน หาเกิดซางหาน (*โรคใดๆ ที่เกิดจากพิษภัยภายนอกทำให้มีไข้)ไข้หวัดอะไรไปทั่ว เช่นนั้นก็จะวุ่นวายมาก
เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดี จึงให้ความสำคัญขึ้นมา พูดรับประกัน “ท่านแม่ทัพสวีโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าน้อยจะตรวจสอบให้แน่ชัดแน่นอน พรุ่งนี้ก็จะกักตุนวัตถุดิบยาจำนวนหนึ่ง อย่างน้อยเป็นประกันว่าสมุนไพรของทางราชวงศ์และขุนนาง เพียงพอ”
เมื่อสวีอีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกไม่เหมาะสม แต่เขาที่หัวสมองเรียบง่ายไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ดังนั้นจึงลุกขึ้นไปเสีย
ช่วงเย็นวันถัดมา ใต้เท้าเจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงก็ไปรายงานที่จวนอ๋องฉู่
เพราะเป็นเรื่องสมุนไพร หยู่เหวินเห้าจึงให้หยวนชิงหลิงเข้าห้องหนังสือฟังการรายงานด้วย
เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงเอ่ย “วันนี้กระหม่อมนำคนไปตรวจสอบแล้ว พบว่าร้านยาในเมืองหลวงเหมือนกันหมด ขาดยาหลายตัว พอสอบถามพ่อค้ายาถึงรู้ว่าระยะก่อนมีคนกว้านซื้อยาไปมากมาย คนผู้นี้ให้ราคาสูงกว่าปกติสองส่วน ดังนั้นพ่อค้ายาจึงขายให้กับเขาหมด คนผู้นี้แปลกมาก ยารักษาบำรุงไม่เอาเลย ต้องการแต่ยาที่รักษาไข้หวัดอย่าง หานซางโรคซางหาน กับอาการไอ ผักคาวดอง พิมเสนต้น ต้าหวงหงจิ่งเทียน โป้เหอเหน่า กานเฉ่า รากป่านหลันเท่านั้น หมดทางซื้อแล้ว การค้าในร้านก็ลดลงมากเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ”
“ยาที่ขาดท่านบันทึกเป็นรายการไว้หรือไม่?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงรีบยื่นสมุดไป “ทูลพระชายารัชทายาท กระหม่อมได้บันทึกไว้ในนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงรับสมุดยามาดู สมุนไพรที่ขาดมีมากถึงหลายสิบชนิด นางไม่คุ้นเคยกับแพทย์แผนจีน แต่แรกเริ่มตอนที่อยู่สถาบันวิจัยของโรงงานยาเคยวิจัยการผลิตยาแผนจีนอยู่ ดังนั้นจึงพอรู้เรื่องฤทธิ์ยาของสมุนไพรอยู่บ้าง
ยาเหล่านี้เป็นยาที่รักษาทางการติดเชื้อเดินหายใจ ลดไข้ ขับเหงื่อเย็นในปอด ดับร้อน อีกนัยหนึ่ง ก็คือหากเกิดโรคระบาดไปทั่ว ตลาดก็จะไม่มียาใช้
นางมองหยู่เหวินเห้าสายตาหนึ่ง “ยาจะไม่ขาดแบบไม่มีสาเหตุหรอก ต้องตรวจสอบเข้ม และต้องไวด้วย”
หยู่เหวินเห้าพยักหน้าแล้วพูดกับเจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิง “ถ้าการจัดหาของทางโรงหมอหุ้ยหมิงเพียงพอ ก็เอาเข้ามาให้มา มากเท่าไรก็เท่านั้น ถ้าไม่มีที่เก็บก็แบ่งไปไว้ตามร้านยาใหญ่ ขายให้พวกเขาตามราคาที่ได้มาก็พอ”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าสำนักโรงหมอหุ้ยหมิงรับบัญชาแล้วก็ทูลลา
หยู่เหวินเห้าเรียกสวีอีเข้ามาอีกครั้ง “เจ้าไปตรวจสอบดู ว่าคนที่ซื้อยาจำนวนมากเป็นใครกันแน่ อยู่ที่ไหน เขาต้องการยามากมายขนาดนี้ไปทำอะไรกันแน่”
เมื่อสวีอีได้รับคำสั่งแล้วก็จากไป
หยวนชิงหลิงกังวลเล็กน้อย ขมวดคิ้วมองหยู่เหวินเห้า “เจ้าห้า เรื่องนี้ต้องจัดการแบบระมัดระวังถึงจะดี”
“เจ้าวางใจเถอะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ให้ขนยาจากที่อื่นเข้าเมืองหลวง” หยู่เหวินเห้าพูดปลอบ