บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1145 เอาสิ่งของ
ทุกคนต่างก็ดื่มกันพอสมควรแล้ว ท่านชายสี่เหลิ่งเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นมา แต่ว่าท่านชายสี่เหลิ่งก็ไม่ดื่มเหล้า เพียงแค่แวะมาทักทายทุกคน พูดคุยกันไม่กี่ประโยคก็จากไป
วันรุ่งขึ้น จวิ้นจู่จิ้งเหอได้เชิญชวนฮูหยินเหยาพระชายาซุนพระชายาฉีพระชายาอันและพระชายาหวยไปน้อมทักทายไท่ซ่างหวงพร้อมกันยังที่พระที่นั่งของราชวงศ์ และเป็นการไปเยี่ยมเยียนหยวนชิงหลิงด้วย
หลังจากที่ไปน้อมทักทายทางด้านไท่ซ่างหวง พูดคุยกันไม่นานก็ไปหาหยวนชิงหลิง
หัวใจของหยวนชิงหลิงกำลังอยู่ในช่วงว้าวุ่นสับสน เห็นทุกคนมาหา ก็รีบเก็บอารมณ์ทันที นางมองไปยังจวิ้นจู่จิ้งเหอ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “สีหน้าของจวิ้นจู่ดูไม่เลว กลับเมืองหลวงยังรู้สึกคุ้นเคยหรือไม่”
“คุ้นเคย”จวิ้นจู่จิ้งเหอย่อตัวคำนับให้กับนาง “คำนับพระชายารัชทายาท”
“เห็นเป็นคนนอกไม่ได้”หยวนชิงหลิงคำนับกลับ
จิ้งเหอจึงกุมมือของนางเอาไว้ สบตากันชั่วครู่ สายตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ “ไม่คำนับก็ได้ แต่ก็ยังติดค้างคำขอบคุณท่านอยู่”
“เคยเอ่ยขอบคุณแล้ว ไม่ต้องขอบคุณอีก”หยวนชิงหลิงพูด
ฮูหยินเหยาจึงยิ้มและพูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ ขอบคุณกันไปมา ไม่น่ารำคาญหรือ รีบเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”
ทุกคนจึงพูดคุยหัวเราะกันตลอดทางที่เดินเข้าไปข้างใน ผู้หญิงอยู่ด้วยกัน ย่อมมีเรื่องที่พูดคุยกันไม่จบสิ้น เดิมทีในใจของหยวนชิงหลิงนั้นไม่สงบนัก ตอนนี้ได้พูดคุยกับทุกคนสักพัก ก็สามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปได้อย่างเงียบๆ ไม่ค่อยเป็นกังวลมากแล้ว
หรงเยว่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับจวิ้นจู่จิ้งเหอ ด้วยเหตุนี้จึงให้อะซี่พานางไปชมบริเวณของพระที่นั่ง ภายนอกนั้นเป็นการเยี่ยมชม แต่แท้จริงแล้วหรงเยว่ต้องการสำรวจสักหน่อย ถึงการจัดวางกำลังป้องกันอย่างลับๆ
อะซี่ย่อมต้องถามถึงสถานการณ์เสียหน่อย แม้ว่าอะซี่จะแสดงออกด้วยท่าทีนิ่งสงบ แต่ว่าในใจนางรู้สึกเป็นห่วงสวีอีมาก
หรงเยว่เอ่ยอย่างปลอบโยนว่า “เจ้าอย่าเป็นกังวลให้มากเลย อยู่เป็นเพื่อนพระชายารัชทายาทที่นี่อย่างสบายใจเถอะ เรื่องราวล้วนอยู่ในการควบคุมทั้งสิ้น”
“มีข่าวคราวอะไร ท่านก็มาบอกกับพวกข้าบ้าง”อะซี่พูด
หรงเยว่รับปาก แล้วก็ปลอบใจนางอีกประโยคหนึ่ง “ได้ วางใจเถอะ ตอนนี้สวีอีสามารถทำงานได้ด้วยตนเองแล้ว คิดว่าหลังจากผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ไป สวีอีคงจะถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา ภายภาคหน้า เจ้าก็รอเสพสุขก็พอ”
อะซี่ยิ้มจนแก้มปริ หัวใจรู้สึกภูมิใจมาก
สมาชิกหญิงในครอบครัวต่างก็พูดคุยกันอยู่ครึ่งวัน อยู่กินอาหารกลางวันที่พระที่นั่งแล้วจึงกลับไป
หรงเยว่ไม่กลับ ยังคงอยู่พูดคุยกับหยวนชิงหลิงต่อชั่วครู่ในพระที่นั่ง ก่อนหน้านี้หยวนชิงหลิงเคยให้นางไปค้นหาบริเวณใกล้เคียง หรงเยว่บอกว่า “ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไร ข้าคิดว่าจะให้ตอเป่าออกไปค้นหา ฉะนั้นต้องหาวิธีไปที่จวนอ๋องอันเพื่อเอาสิ่งของหรือเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งของพระชายาอันหรืออ๋องอันมา ให้ตอเป่าได้ดมกลิ่น”
หยวนชิงหลิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พูดว่า “เจ้าไปจะไม่เหมาะ สามารถให้กุ้ยเฟยไปแทน กุ้ยเฟยไปหาลูกชาย แล้วก็เอาของมาบ้างเล็กน้อย เชื่อว่าจะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“ถูกต้อง เช่นนั้นข้าจะเข้าวัง”หรงเยว่ชะงักไปชั่วครู่ แล้วก็มีความกังวลขึ้นมาบ้าง “ถ้าเช่นนั้นไม่เท่ากับว่าต้องบอกให้กุ้ยเฟยได้รับรู้หรอกหรือ นางจะควบคุมตัวเองได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าภายใต้ความร้อนใจ จะถามอ๋องอันขึ้นมาในจวน”
“เจ้าอธิบายให้นางฟังอย่างชัดเจน นางรู้ว่าต้องวางตัวอย่างไร”หยวนชิงหลิงรู้สึกว่ากุ้ยเฟยนั้นเป็นคนจำพวกที่พบเจอกับเรื่องใหญ่แล้วสามารถสงบนิ่งได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ข้ากลับล่ะ ท่านอยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถอะ ”หรงเยว่พูด
หยวนชิงหลิงมองนาง “หรงเยว่ ขอบใจเจ้ามาก ลำบากเจ้าแล้ว”
หรงเยว่กลอกตา “ท่านนี่ร่ำไรเหมือนกับจวิ้นจู่จิ้งเหอไม่มีผิด”
หยวนชิงหลิงจึงหัวเราะขึ้นมา “ได้ ข้าไม่พูดแล้ว เจ้าไปเถอะ”
หรงเยว่หมุนตัวจากไปแล้ว ไปจากพระที่นั่งแล้วก็กลับไปที่จวนก่อนหลังจากสำรวจดูรอบๆจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา นางจึงเข้าวังไป
เพราะอ๋องหวยไม่ได้ร่วมรับรู้ในเรื่องการเมือง ฉะนั้นคนของหงเล่จึงไม่ค่อยใส่ใจพวกเขาสองสามีภรรยามากนัก ไม่ใช่เพราะดูถูกหรงเยว่ เพียงแต่จับตามองสำนักเหลิ่งหลังเอาไว้ก็เพียงพอแล้ว ที่น่าเสียดายคือ สำนักเหลิ่งหลังพวกเขาก็จับตามองไม่ไหว คนของสำนักเหลิ่งหลังลึกลับซับซ้อน โดยเฉพาะท่านชายสี่เหลิ่ง
เขาดูเหมือนจะอยู่แต่ในจวนเหลิ่งมิได้ออกไปไหนเลย แต่ว่า เมื่อคืนเขากลับสามารถปรากฏตัวขึ้นที่จวนอ๋องฉู่ได้อย่างไร้เหตุไร้ผล คนที่จับตาดูจวนเหลิ่ง มองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่าเขาออกไปตอนไหน
ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่จับตามองคนของสำนักเหลิ่งหลังอีก เพียงแค่จับตาดูบุคคลสำคัญไม่กี่คนก็พอ
หรงเยว่เข้าวังไปหาตี๋กุ้ยเฟย บอกให้ทราบถึงเรื่องที่พระชายาอันและอ๋องอันถูกคนจับตัวไป กุ้ยเฟยตกใจเป็นอย่างยิ่ง ตื่นตกใจจนหัวใจแทบจะกระเด็นออกมาแล้ว หรงเยว่กล่าวเตือนไปหลายประโยค บอกว่าถ้าสถานการณ์ในตอนนี้ท่านไม่นิ่งละก็ ใครก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือพระชายาอันและลูกสาวของนางได้
ไม่ช้าตี๋กุ้ยเฟยก็สงบนิ่งลง ยินดีร่วมมือกับหรงเยว่ไปที่จวนอ๋องอันเพื่อเอาสิ่งของ
วันรุ่งขึ้น ตี๋กุ้ยเฟยก็ขอประทานอนุญาตออกจากวัง มาถึงจวนอ๋องอัน อ๋องอันได้ยินรายงาน ก็ออกมาต้อนรับด้วยตนเอง หรูกั้นคนนั้นก็ตามออกมาด้วย ออกไปคำนับพร้อมกัน
หรงเยว่เคยเตือนไว้ก่อนแล้วว่า ข้างกายของอ๋องอันมีสายลับอยู่ด้วย ฉะนั้นตี๋กุ้ยเฟยจึงข่มอารมณ์เอาไว้ได้ เพียงแต่มองหรูกั้นด้วยสายตาเรียบเฉยแวบหนึ่งเท่านั้น แล้วก็เบี่ยงสายตาไปมองทางอ๋องอัน “ข้ามาเยี่ยมอานจือ”
อ๋องอันรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง “จังหวะไม่ดีเสียจริง พระชายาอันพาอานจือกลับบ้านมารดาไปแล้ว”
“กลับบ้านมารดาแล้ว”ตี๋กุ้ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นก็มาไม่ได้จังหวะจริงๆ วันนี้จะกลับมาหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นให้ข้ารอพวกนางดีกว่า”
“เกรงว่าหลายวันนี้คงจะยังไม่กลับมา รอให้พวกนางกลับมาแล้ว ลูกจะพาอานจือเข้าวังไปพบท่าน”ท่าทีของอ๋องอันเต็มไปด้วยความอยากจะไล่ให้นางรีบจากไปทันที
ตี๋กุ้ยเฟยนำคนเดินเข้าไปข้างใน พูดว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าก็มาอาศัยอยู่ที่จวนสักสองวัน พวกเจ้าจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา”
หรูกั้นคนนั้นดึงแขนเสื้อของอ๋องอันหนึ่งที แววตาโหดเหี้ยม ส่งสัญญาณให้เขาไล่ตี๋กุ้ยเฟยกลับไป
อ๋องอันจ้องเขาด้วยสายตาดุดันแวบหนึ่ง จึงตามเข้าไป “เสด็จพ่อสุขภาพไม่ดี ไม่สู้ท่านอยู่เฝ้าอาการในวังจะดีกว่า อย่ารออยู่ที่นี่เลย”
ตี๋กุ้ยเฟยเดินเข้าไปในโถงรับรอง นั่งลง ฮึออกมาเสียงหนึ่ง “ตอนนี้ในสายตาของเสด็จพ่อของเจ้าไหนเลยจะยังมีข้าอยู่ ฮู่เฟยคอยอยู่เคียงข้างกายเขาอยู่ทุกวัน ช่างเถอะ ยังไม่สู้อยู่ที่จวนนี้หลายวันหน่อย อย่าให้ตาเห็นจะได้สงบใจ”
อ๋องอันร้อนใจขึ้นมาทันที “เสด็จแม่ ก่อนหน้านี้ตอนที่พระชายาให้กำเนิดลูก ท่านก็มาอยู่ที่จวนตั้งหลายวัน ยังเป็นหวงกุ้ยเฟยที่ช่วยท่านขอร้อง ตอนนี้อย่าทำเช่นนี้ให้หวงกุ้ยเฟยต้องลำบากใจอย่างเด็ดขาด”
ตี๋กุ้ยเฟยขมวดคิ้วมองไปทางเขา “นี่เจ้าเป็นอะไร เมื่อก่อนเจ้ายังเคยเรียกให้ข้ามาอยู่ที่จวนบ่อยๆ ทำไมวันนี้จึงอยากจะให้ข้ากลับไปนัก ลูกสี่ เจ้าทำเรื่องอะไรไม่ดีอีกแล้วใช่หรือไม่ พระชายาไม่ได้กลับบ้านมารดา ขัดแย้งกันใช่หรือไม่”
อ๋องอันยิ้มขม “จะเป็นไปได้อย่างไร ลูกจะมีเรื่องขัดแย้งกับพระชายาอย่างไร้เหตุผลได้อย่างไร ท่านคิดมากไปแล้ว”
ตี๋กุ้ยเฟยลุกขึ้นมา “ข้าไม่เชื่อเจ้า ข้าจะไปดูเองกับตา ถ้าหากรังแกพระชายาจริงละก็ ข้าจะจัดการกับเจ้า”
ตี๋กุ้ยเฟยเรียกให้บ่าวรับใช้มานำทาง เดินทางไปลานด้านหลัง หรูกั้นคอยจ้องมองเงาหลังของตี๋กุ้ยเฟยอยู่ข้างหลังด้วยสายตาเย็นชา อ๋องอันเห็นเช่นนี้ ก็คว้าคอเสื้อของเขาขึ้นมาทันที “เก็บสายตาอำมหิตของเจ้าซะ ถ้าหากเสด็จแม่ของข้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในจวน แผนการของพวกเจ้าอย่าหวังว่าจะสำเร็จเลย”
หรูกั้นสะบัดเขาทิ้งทันที เอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจว่า “ท่านอ๋องโปรดวางใจ ขอเพียงท่านอ๋องไม่พูดมาก รีบไล่นางกลับไปเสีย ย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ข้ารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร”อ๋องอันพูด ผลักเขาออกไป แล้วก็ไล่ตามกุ้ยเฟยไป
หลังจากที่หรูกั้นทำสติให้นิ่งแล้ว ก็รีบไล่ตามไปจับตาดูทันที หลังจากกุ้ยเฟยเข้าไปในลานบ้าน ทำตามที่หรงเยว่ได้กำชับเอาไว้ เอาผ้าพันคอของอานจือมาก่อน ซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อ รอให้อ๋องอันกับหรูกั้นมาถึงแล้ว นางก็เผยให้เห็นสีหน้าที่ดูผิดหวัง “ถ้าหากกลับบ้านมารดาไปแล้วจริงๆ การมาวันนี้ก็ไม่ประจวบเหมาะเสียจริง ช่างเถอะ เตรียมเกี้ยวกลับวัง”