บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1210 มีคำสั่งติดต่อกัน
หยวนชิงหลิงยืนอยู่ตรงประตูจวน ใช้สายตาเย็นชาจ้องมองนาง แต่ไหนแต่ไรนางนิสัยเยือกเย็น หลายปีมานี้น้อยมากที่จะอารมณ์เสีย แต่ความกราดเกรี้ยวเหมือนเช่นวันนี้ สะกดอารมณ์ไว้ไม่ได้จริงๆ และยังเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ดวงตาขององค์หญิงฮุ่ยผิงก็เต็มไปด้วยความแค้นและเย็นชา แววตาดุจคมมีดก็ไม่ปานแทบจะอยากฆ่าให้ตายแล้วทุบกระดูกให้แหลกโปรยไปบนอากาศ
ดูแลโรงหมอและร้านขายยามาตั้งหลายปี นางเห็นผลประโยชน์สำคัญที่สุด ไม่ว่าใครก็ตามที่จะทำลายกิจการของนางให้เสียหาย นางไม่มีทางปล่อยไปอย่างง่ายดายแน่
พระชายารัชทายาทแล้วอย่างไร สุดท้ายก็แค่คนนอกราชสกุล ไม่ได้สูงส่งเท่านามสกุลหยู่เหวินของนาง โดยเฉพาะหลายปีมานี้แม้ว่านางจะไม่ค่อยเข้าร่วมงานของราชวงศ์ แต่สำหรับนิสัยใจคอของหยวนชิงหลิงนั้นนางเข้าใจดีเป็นอย่างยิ่ง ภายนอกแสร้งทำเป็นมีเมตตา แสดงให้เห็นว่าจิตใจดีงาม ที่แท้แล้วอ่อนแอจนสามารถรังแกได้ น่าหัวเราะจริงๆ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเสด็จพ่อกับเสด็จพี่ที่ปกป้องนางเพราะเห็นแก่นางที่ให้กำเนิดลูกชายหลายคนละก็ นางคงตายไปเป็นร้อยครั้งพันครั้งแล้ว นางจะมีวิธีการอะไร ก็แค่อาศัยการตั้งครรภ์ได้ ให้กำเนิดเป็นเท่านั้น
มุมปากของหยวนชิงหลิงโค้งขึ้น สายตายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา หมุนตัวกลับเข้าจวนไป
เรื่องที่พระชายารัชทายาทโกรธเป็นการใหญ่นั้น ไม่ช้าก็ถูกแพร่ไปจนทั่วจวนอ๋องฉู่ อะซี่มาอยู่เป็นเพื่อนนาง ทังหยางไปถามคนเฝ้าประตูถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ที่จริงคนเฝ้าประตูก็ไม่รู้ชัดเจนนัก เพียงแต่ได้ยินเสียงตะโกนลั่นขององค์หญิงฮุ่ยผิงที่ดังอยู่ข้างนอก บอกว่าไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกับพระชายารัชทายาทได้
หยวนชิงหลิงก็ไม่ได้ทำตัวว่าง ไปที่ห้องบัญชีและเริ่มตรวจสอบบัญชี ถอนเงินออกมาให้เจ้าห้าหนึ่งล้านตำลึง แม้เงินที่อยู่ในมือจะมีที่มาไม่มาก แต่จะทำงานที่อยู่ตรงหน้านั้นพอใช้ชั่วคราว
ยังดี องค์หญิงใหญ่เจิ่นกั๋วได้ช่วยเหลือนางเอาไว้อย่างมาก ตอนนี้ประชาชนมากมายในเมืองหลวงได้เห็นถึงฝีมือการฝังเข็มของนักเรียนแล้ว รู้ว่าฝีมือการรักษาของพวกเขาค่อนข้างลึกล้ำ
เมื่อตรวจบัญชีเสร็จแล้ว นางเรียกทังหยางมา ได้มีคำสั่งลงไปติดๆกันหลายคำสั่ง โรงเรียนแพทย์หยุดรับนักเรียนเป็นการชั่วคราว เปลี่ยนโรงเรียนแพทย์เป็นโรงหมอ นักเรียนทุกคนต้องทำหน้าที่ตรวจรักษา เปิดทุกสาขาวิชา แยกผู้ป่วยที่มารักษา
นักเรียนที่บ่มเพาะมาในสามปีนี้ มีจำนวนหนึ่งร้อยสามสิบกว่าคน มีบางส่วนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแพทย์เลย แต่มีบางส่วนที่เป็นลูกศิษย์ของหมอยาสมุนไพร เดิมทีพวกเขาเคยติดตามอาจารย์แล้ว แต่มาด้วยความเลื่อมใสศรัทธา คุณย่าล้วนรับไว้ทั้งหมด
คำสั่งที่สอง ให้คนไปตามหรงเยว่มา ให้นางช่วยหาพื้นที่ในแต่ละเขตที่นับว่าค่อนข้างรุ่งเรืองอยู่บ้าง หาร้านค้า ไม่จำเป็นต้องประดับตกแต่ง ทำเพียงตู้ยาที่เรียบง่าย และยังให้นางหาหมอเพื่อนั่งประจำการตรวจรักษาคนไข้ ให้นางทำเรื่องให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
คำสั่งที่สี่ ให้คนไปติดประกาศชี้แนะพร้อมกับประกาศให้รู้โดยทั่วกันทุกซอกทุกซอย บอกว่าพระชายารัชทายาทจัดตั้งโรงพยาบาลกับโรงหมอขึ้น ภายในห้าวัน สามารถแยกประเภทคนป่วยส่วนใหญ่ในเมืองหลวงได้ และโรงพยาบาลรวมไปถึงโรงหมอแต่ละแห่ง ท่านหมอทั้งหมดที่ประจำการล้วนเป็นนักเรียนที่ได้รับการสั่งสอนจากฮูหยินใหญ่ผู้เป็นหมอเทวดาจากแคว้นต้าซิงทั้งสิ้น และมีจำนวนหนึ่งเป็นท่านหมอที่มีชื่อเสียงจากเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจวินิจฉัยหรือค่ายา ล้วนถูกกว่าโรงหมออื่นๆ
อะซี่ไม่เคยเห็นหยวนชิงหลิงสั่งการอย่างเด็ดขาดเช่นนี้มาก่อน ฟังแล้วทำเอานางนิ่งอึ้งไป เมื่อถึงคำสั่งสุดท้าย นางถามด้วยท่าทีโง่ๆว่า “ถูกกว่าเท่าไหร่”
ดวงตาของหยวนชิงหลิงเย็นชา“รอให้ขุนนางของโรงหมอหุ้ยหมิงมากแล้ว ข้าจะตรวจดูราคายาอย่างละเอียด คำนวณต้นทุนออกมาก่อน แม้ข้าจะไม่ได้กำไรแม้สักอีแปะ ก็ต้องทำให้ฮุ่ยผิงล่มจมให้ได้ ”
คนทำบัญชีในห้องบัญชีฟังแล้วก็ตัวสั่นเล็กน้อย “ถ้าหากไม่ได้กำไรละก็ เช่นนั้นราคาในการหาหมอก็ต่ำลงแล้ว”
หยวนชิงหลิงเก็บสีหน้าโกรธเคืองและพูดว่า “เมื่อครู่ก็แค่พูดด้วยอารมณ์โกรธชั่ววูบ ไม่สามารถทำราคาให้ต่ำเกินไปได้ ต้องสูงกว่าโรงหมอหุ้ยหมิงเล็กน้อย แต่ก็จำเป็นต้องถูกกว่าโรงหมอของพวกนางให้มาก เพราะว่าถ้าหากไร้ผลกำไรจริงๆ ก็จะเป็นการทำร้ายโรงหมออื่นๆได้เช่นกัน แน่นอนว่า แม้ว่าโรงหมอส่วนใหญ่ในเมืองหลวงจะไม่ใช่ของฮุ่ยผิง แต่ก็ถูกนางควบคุมให้เชื่อฟังแต่นาง ที่จริงข้าไม่อยากทำถึงขั้นนี้ แต่ฮุ่ยผิงรังแกกันมากเกินไปแล้ว ถ้าหากปล่อยให้ค่ารักษายังคงสูงขึ้นไม่ลดลงเช่นนี้ต่อไป ความกราดเกรี้ยวของประชาชนก็เหมือนน้ำหลาก สามารถพลิกเรือให้คว่ำได้ ”
ทังหยางฟังแล้ว ค่อยรู้สึกวางใจ นางกลัวจริงๆว่าพระชายารัชทายาทจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไป ถ้าหากโรงหมอไม่มีกำไร เช่นนั้นคงต้องเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตแน่ เป่ยถังมีโรงหมอส่วนตัวมากมาย ประชาชนต่างก็พึ่งพาอาศัยพวกเขา
ใต้เท้าฟางซึ่งเป็นขุนนางของโรงหมอหุ้ยหมิงมาแล้ว ได้แจกแจงกับหยวนชิงหลิง “โรงหมอในเมืองหลวง ค่าตรวจรักษามีราคาอยู่ที่ระหว่างห้าสิบอีแปะจนถึงหนึ่งร้อยอีแปะ นี่เป็นราคาที่นั่งตรวจวินิจฉัยในโรงหมอ ถ้าหากออกตรวจข้างนอก ก็เป็นการตกลงกันระหว่างท่านหมอกับคนไข้ มีตั้งแต่หนึ่งตำลึงไปจนถึงร้อยตำลึงก็มี นี่ไม่ตายตัว ตรวจคนไข้ต้องการให้ท่านหมอทำอะไร แน่นอนว่าเกี่ยวพันไปถึงเรื่องที่เป็นส่วนตัวของเจ้าบ้านซึ่งไม่สามารถพูดได้ ส่วนเรื่องค่ายา เดิมทียามากมายนับว่าไม่แพง แต่ว่าโรงหมอมากมายต่างก็ออกใบสั่งยามากมายที่มีราคาสูงมาก ที่จริงยาที่มีราคาสูงเหล่านี้ล้วนมียาอื่นที่ทดแทนกันได้ เงินสิบอีแปะต่อยาหนึ่งชุด บางครั้งต้องใช้เงินถึงสามสี่ตำลึงไปจนกระทั่งถึงสิบตำลึงขึ้นต่อชุดไปก็มี กระหม่อมเคยเห็นคนไข้ที่เป็นโรคไตพร่อง เดิมใช้แค่ตั่งเซินเป่ยฉีก็พอแล้ว แต่ต้องให้ใบสั่งยาที่มีโสม ค่ายาจึงเพิ่มสูงขึ้นมิใช่หรือ กระหม่อมดูแลเรื่องการจัดซื้อยา คนขายยามากมายต่างก็บ่นว่า ตอนนี้โรงหมอไม่ค่อยใช้ยาที่มีราคาถูกแล้ว เพราะได้กำไรไม่มาก ยาแห่โกวเฉ่าที่มีราคาห้าอีแปะต่อหนึ่งชั่ง กลับทำกำไรเท่าตัว ก็แค่ซื้อเพียงสิบอีแปะเท่านั้น แต่ถ้าหากต้องใช้หญ้ากรงเล็กแมว เช่นนั้นก็ไม่เหมือนกันแล้ว ตอนนี้ราคาของหญ้ากรงเล็บแมวนั้นอยู่ที่ห้าสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่ง เท่าตัวก็คือหนึ่งร้อยอีแปะ ยาที่มีราคาแพงเหล่านี้ โรงหมอไม่ได้คิดเพิ่มแค่เท่าตัว ยาที่ยิ่งแพง ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โสมที่ซื้อมาได้ในราคาสองตำลึง ขายไปจนถึงราคาสิบตำลึงร้อยตำลึง ”
หลายสิ่งที่คิดไม่ถึงในเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ใต้เท้าฟางพูดอย่างละเอียด หยวนชิงหลิงก็รู้พออยู่บ้าง
“องค์หญิงฮุ่ยผิงบอกว่า โรงหมอห้าสิบสามแห่งของนาง ทุกปีสามารถเก็บภาษีให้กับราชสำนักได้มากกว่าหนึ่งล้านตำลึง เป็นไปได้ว่ามากเช่นนั้นเชียวหรือ ”หยวนชิงหลิงถาม
ใต้เท้าฟางยิ้มจางๆ “พระชายารัชทายาท ภาษีโรงหมอสูงมาก แทบจะเป็นสองในสิบส่วนของกำไร ถ้ารายได้ยิ่งมาก ภาษีที่ต้องนำส่งก็มากตามไปด้วย ในแต่ละปีองค์หญิงฮุ่ยผิงทำเงินได้เท่าไหร่ กระหม่อมไม่รู้ แต่ว่าต้องเกินห้าล้านตำลึงแน่ เพราะว่านอกจากนางจะเปิดโรงหมอกับร้านยาแล้ว ยังเปิดโรงงานผลิตยา ยาง่ายๆอย่างยาเซียวเยายวน ต้นทุนเพียงหนึ่งอีแปะ แต่นางขายยี่สิบอีแปะ บอกว่าได้เพิ่มตัวยาที่มีราคาสูงเข้าไป แต่คนที่รู้เรื่องราวภายใน ต่างก็รู้ดีว่ายาเซียวเยายวนก็ใช้แค่ตัวยาไม่กี่ตัวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาที่มีราคาสูงเลย”
“โรงงานยาของนาง ผลิตยาอะไรบ้าง”หยวนชิงหลิงถาม
“ล้วนเป็นยาสำเร็จรูปที่เห็นได้ทั่วไป ประเภทยาเม็ดป่ายฟุ่ง ยาเซียวเยายวน ยาไป่เหอเป็นต้น ราคาค่อนข้างสูงทั้งสิ้น แต่โรงงานที่ทำยาสำเร็จรูปในเมืองหลวง แทบจะถูกนางบีบบังคับไว้ทั้งหมด ฉะนั้นจึงต้องทำให้ราคาสูงเท่ากับนาง เมืองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับเมืองหลวง ราคาแทบจะเหมือนกันหมด นางล้วนเคยส่งคนไปตรวจสอบ”
“มีคนที่ไม่อยากจะทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้กับนางหรือไม่ ”
ใต้เท้าฟางยังไม่ทันตอบ อะซี่ก็พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “จะมีได้อย่างไร ใครจะไม่อยากได้เงิน ทุกคนต่างก็ขายในราคาสูง เช่นนั้นก็ได้กำไรมาก คนกลุ่มนี้ล้วนเป็นคนเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น ไม่กลัวกรรมตามสนองหรืออย่างไร ”อะซี่เดิมทีนั้นไม่รู้เรื่องเหล่านี้ นางเกิดมาในตระกูลที่สูงศักดิ์ เรื่องค่ารักษาพยาบาลเหล่านี้ ไหนเลยจะต้องเป็นกังวล ได้ยินใต้เท้าฟางพูดเช่นนี้ อกนางแทบจะระเบิดออกมาแล้ว