บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1212 โหดเหี้ยมจริงๆ
จะเปลี่ยนโรงเรียนแพทย์ให้กลายโรงพยาบาลนั่นง่ายมาก โรงเรียนแพทย์มีพื้นที่กว้าง ตำแหน่งไม่ถือว่าสะดวกนัก แต่ดีที่ด้านนอกถนนกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นรถวัวรถม้า ล้วนสามารถมาถึงหน้าประตู และด้านนอกก็มีสถานที่ออกกำลังกายของนักเรียน ที่นี่ทำเป็นห้องรอรับการรักษา สะดวกอย่างมาก
เดิมโรงเรียนแพทย์ก็มีคลังยาอยู่แล้ว ตอนนี้สร้างเพิ่มมากขึ้นอีก เติมยาให้เต็ม นักเรียนโรงเรียนแพทย์ คัดแยก ทำเครื่องหมายยาสมุนไพรตลอดทั้งคืน แล้วก็รับสมัครคนจัดยาเพิ่ม จัดกลุ่มจำนวนคนสิบคน รับผิดชอบตรวจสอบจัดวางใบสั่งยาและชนิดยา
จะโจมตีฮุ่ยผิงอย่างแม่นยำ ต้องผูกขาดแหล่งที่มาของยา ให้นางไม่มียารักษา โรงผลิตยาจะต้องหยุดชะงัก โรงหมอก็จะเปิดไม่ได้
เรื่องนี้เจ้าห้าออกหน้าไม่ได้ แผนการของหงเล่ก่อนหน้านี้ หยวนชิงหลิงสามารถนำมาใช้ได้พอดี
พูดถึงเรื่องนี้ หยวนชิงหลิงเกลียดชังฮุ่ยผิงจากใจจริง ตามที่ทังหยางไปสืบ ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักในตอนนั้น ตอนที่ในเมืองหลวงไม่มียา กิจการค้าขายยาของนางใหญ่ที่สุด รู้ว่ามีคนกวาดซื้อกักตุนสินค้า นางรู้ถึงผลกระทบที่รุนแรง และมีเงินทองมากพอที่จะแย่งยากับหงเล่ แต่นางกลับไม่ทำ แต่กักตุนยาส่วนหนึ่งไว้ เมื่อตอนที่ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก ทำการขึ้นราคา ได้ผลกำไรมาอย่างมาก
นางไม่คู่ควรกับตระกูลหยู่เหวินเลยจริงๆ
ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการโจมตีฮุ่ยผิง หยวนชิงหลิงมาที่จวนเหลิ่ง
ท่านชายสี่เห็นนางแล้วก็ส่ายหัว ประสบการณ์หลายครั้งที่ผ่านมาบอกกับเขาว่า สามีภรรยาลูกศิษย์ของเขานั้น มาอย่างไม่บอกไม่กล่าว จะต้องมีเรื่องขอร้องแน่
เมื่อได้ยินหยวนชิงหลิงอ้าปากร้องเรียกว่าอาจารย์ เขาก็ยิ่งมั่นใจในความคิดนี้ เพราะหากไม่มีธุระอะไร นางจะเรียกว่าท่านชายสี่ หากมีเรื่องให้ช่วยจะเรียกว่าอาจารย์ คนแบบนี้ค่อนข้างประจบสอพลอ
“มีเรื่องจะพูดกับท่าน” หยวนชิงหลิงนั่งลง แล้วก็พูดเข้าเรื่องทันที
“เรื่องที่จะแก้แค้นองค์หญิงฮุ่ยผิง?” ข้างนอกมีการเคลื่อนไหวไม่เบา เขาได้ข่าวอยู่แล้ว ดังนั้นไม่รอหยวนชิงหลิงพูด เข้าก็ถามขึ้นมาก่อน
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่แก้แค้น ข้างัดกับนางแล้ว ไม่ทำให้นางตาย ข้ากลืนความโกรธนี้ไม่ลง”
ท่านชายสี่เลิกคิ้วมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากลืนความโกรธนี้ไม่ลง? เห็นได้น้อยครั้ง เจ้าเคยกระทำเรื่องให้ตนเองหายโกรธด้วยหรือ?”
“ล้วนเหมือนๆกัน ยังไงครั้งนี้ ทั้งเรื่องส่วนรวมและเรื่องส่วนตัวคิดรวมกัน” หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาจริงจังว่า “ข้าขอร้องให้อาจารย์ช่วยเรื่องนี้”
“หรงเยว่ช่วยหาหมอให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? ยังอยากทำอะไรอีก?” ท่านชายสี่ยกแก้วขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
“ข้าต้องการให้องค์หญิงฮุ่ยผิงหาซื้อยาไม่ได้”
ท่านชายสี่หัวเราะ มองดูนางอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ร้ายไม่เบาจริงๆ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ใช้เงินแล้วจะสามารถทำได้ องค์หญิงฮุ่ยผิงกับพ่อค้าขายยา ทำการค้าขายมาด้วยกันเนิ่นนาน สร้างความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ที่แข็งแกร่งไว้แต่แรกแล้ว นอกเสียจากเอามีดจ่อคอพ่อค้าขายยา ไม่เช่นนั้นพ่อค้าขายยาล้วนขายยาให้กับนาง”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ใช้เงินแล้วสามารถทำได้ หากใช้เงินแล้วสามารถทำได้ ข้าก็ไม่ของอาจารย์แล้ว”
ท่านชายสี่หัวเราะเยาะพร้อมพูดขึ้นว่า “นี่ยิ่งร้ายมากกว่า ในมือของเจ้ายังมีเงินหมุนเวียนเท่าไหร่? ต่อให้องค์หญิงฮุ่ยผิงดึงเส้นผมหนึ่งเส้นยังยิ่งกว่าสมองของเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าทำไมลูกชายของนางถึงไม่ได้รับราชการไหม? ฮ่องเต้ตั้งใจกดไว้ เพราะครอบครัวของนางมีเงินเยอะ เพราะความเจริญก้าวหน้าทางตำแหน่งราชการ สามารถใช้เงินควบคุมที่ทำการปกครอง แม้แต่ฮ่องเต้ยังระมัดระวังหวาดกลัว แล้วเจ้าจะทำอะไรนางได้?”
“อาจารย์หมายความว่า ตอนนี้ข้าเปิดโรงหมออย่างต่อเนื่องไม่มีประโยชน์?” หยวนชิงหลิงอึ้ง
“มีประโยชน์ และมีประโยชน์อย่างมาก อย่างน้อยก็สามารถบรรเทาความกดดันในการรับการรักษาในตอนนี้ แต่เชื่อว่าไม่นาน ฮุ่ยผิงก็จะตอบโต้ นางจะดึงคนของเจ้าไปทีละคน ใครจะปฏิเสธเงินทองล่ะ? คนร้อยกว่าคนของเจ้า นางจ่ายไม่กี่แสนตำลึงอย่างง่ายดาย ก็สามารถดึงคนของเจ้าไปได้หมดแล้ว เช่นนั้น ตอนนี้เจ้ากำลังช่วยพวกหมอ สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา ฮุ่ยผิงก็สามารถนั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ คราวนี้ นางยังแอบดีใจด้วยซ้ำ”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “นี่ข้ารู้ ดังนั้นข้าจึงอยากพูดว่า การทำให้ฮุ่ยผิงล้มละลายภายในเวลาสั้นๆ ให้นางลุกขึ้นมาไม่ได้อีก แล้วนี่ก็ มาขอร้องท่านนี่ไง?”
ท่านชายสี่มองดูนาง สายตาฉายแววลำพองใจ เหมือนแผนการชั่วร้ายเช่นนี้หรือตอนที่ทำธุรกิจขนาดใหญ่ สายตาของเขาล้วนฉายแววเช่นนี้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าจะทำให้ฮุ่ยผิงล้มละลาย ก็ต้องทำให้นางโกรธ ให้นางกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก ทำทุกอย่างเพื่อโจมตีเจ้า เพราะครอบครัวนางร่ำรวย ต่อให้ตอนนี้เจ้าทำให้โรงหมอให้โรงผลิตยาของนางล้มละลาย เงินทองที่นางมีก็สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดีไปสามชั่วอายุคน เจ้าต้องทำให้นางเอาเงินพวกนี้ออกมา แบบนี้ค่อยซะใจ”
“ทำยังไง?” หยวนชิงหลิงจ้องมองท่านชายสี่ ด้วยสายตาเป็นประกาย
“ให้นางหาซื้อยาไม่ได้”
หยวนชิงหลิงกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ข้าก็พูดแบบนี้แล้วนี่”
“ไม่เหมือนกัน” ท่านชายสี่ยิ้มหัวเราะอย่างลึกลับ พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ที่เจ้าพูด คือให้ข้าออกหน้าแย่งยาหรือบีบบังคับพ่อค้าขายยาไม่ให้ขายยาให้กับนาง แต่วิธีการทำร้ายคนอื่นแล้วตนเองได้รับผลประโยชน์ น้อยเช่นนี้ โง่เขลายิ่งนัก นางมีพ่อค้าขายยาประจำ พ่อค้าขายยาจะขายยาให้กับนาง แต่พ่อค้าขายยาพวกนี้ ก็มีผลกำไรต่อกัน หากพ่อค้าขายยาพวกนี้ซื้อสินค้ามาในราคาแพง ก็ต้องขึ้นราคาตอนที่ขายให้กับนาง”
“งั้นเจ้าก็ใช้วิธีการสู้ด้วยราคาไม่ใช่หรือ?” หยวนชิงหลิงมึนงง
“เป็นการสู้ด้วยราคา แต่ไม่ใช่การลงมือสู้ที่พ่อค้าขาย พวกเราจะลงมือที่เกษตรกรปลูกยาสมุนไพร”
“เกษตรกรปลูกยาสมุนไพร?”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่งแล้ว ข้าจัดการเอง” ท่านชายสี่อมยิ้ม
“งั้น…..ท่านช่วยข้าแล้ว?”
ท่านชายสี่พยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ข้าช่วยเจ้า” ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ตนเองได้กำไรไม่น้อย
สักพัก ท่านชายสี่พูดขึ้นว่า “เจ้าไปบอกโรงหมอหุ้ยหมิง การจัดซื้อยาของพวกเขาห้ามขาด แต่ช่วงนี้มีเท่าไหร่ก็ซื้อให้หมด หลังจากซื้อแล้ว ให้ขุนนางโรงหมอหุ้ยหมิงป่าวประกาศว่า การจัดซื้อยาครั้งต่อไป จะขึ้นราคาให้กับเกษตรกรปลูกยาสมุนไพร สองเท่า”
“อ๋า?”
“ไปทำตามที่ข้าบอกก็พอ ที่เหลือ เจ้าไม่ต้องสนใจ”
หยวนชิงหลิงมึนงงอย่างมาก แต่ท่านชายสี่อุบายลึกล้ำ นางจะสามารถคาดเดาได้หรือ? จึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ดี ข้ากลับไปรอข่าวดีของอาจารย์”
หลังกลับจากจวนเหลิ่ง จวนเหลิ่งก็สั่งคนไปสืบเรื่องจื๋อลี่กลับมาแล้ว และนางมาบอกหยวนชิงหลิงด้วยตนเอง
หลังจากเข้าประตูมาแล้ว น้ำก็ยังไม่ได้ดื่มสักครั้ง นั่งลงบนเก้าอี้หนุ่มอย่างระมัดระวัง วางท่าทีเกียจคร้านของคนท้อง พร้อมพูดขึ้นว่า “สืบมาแล้ว ภายในหนึ่งเดือนครั้งนั้น ร้านขายยาสี่ครอบครัวมีคนตาย โรงผลิตยาแห่งหนึ่งถูกไฟไหม้ มีหลายร้านถูกทำลาย แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บไม่มีคนตาย สอบถามคนหลายบ้านนี้แล้ว พวกเขาไม่ยอมพูดอะไรสักอย่าง พูดเพียงว่าตนเองโชคร้าย แต่เมื่อถามว่าเป็นไปได้ไหมว่าองค์หญิงฮุ่ยผิงเป็นคนลงมือ สีหน้าพวกเขาล้วนเปลี่ยนไปทันที แล้วก็พยายามไล่คนออกมา ข้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นความจริงแน่นอน นั่นก็คือองค์หญิงฮุ่ยผิงหาคนลงมือ เพราะข้าก็สืบได้ว่า ร้านที่ถูกทำลายทำไมถึงไม่มีคนได้รับบาดเจ็บไม่มีคนตาย พวกเขาเพียงแค่ไม่ได้แสดงความเห็นด้วยกับแผนราคาขององค์หญิงฮุ่ยผิง แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพียงแค่ไม่แสดงท่าทีแค่นั้น ดังนั้นคนที่แสดงความคิดเห็นแล้ว ก็ใช้วิธีฆ่าคนจุดไฟเผา ไม่แสดงความเห็นไม่พูดว่าสนับสนุน จึงถูกทำลายร้านเพื่อเป็นการเตือน”
หยวนชิงหลิงกัดฟัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ”