บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1226 พบว่าถูกหลอกแล้ว
สำนักงานหลักของท่านชายสี่คือจื๋อลี่ ครอบครองทุกสาขาอาชีพ แต่เขาทำธุรกิจอย่างไม่ผูกขาด คู่แข่งทางการตลาดมากมาย ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกับเขาไม่ได้ แต่บางครั้งก็สามารถที่จะนั่งคุยกันได้บ้าง
วันนี้ท่านชายสี่กลับจื๋อลี่ เชิญนักธุรกิจท้องถิ่นที่ได้รับความเคารพนับถือหลายคนมาดื่มชาพูดคุยกัน แน่นอนว่าเป็นหลายคนที่ค่อนข้างเป็นมิตรดี เป็นคนที่เขาเคยออมมือให้
ในขณะเดียวกัน เขาก็เชิญเจ้าของเหอซิงถังมาด้วย เจ้าของเหอซิงถังชื่ออู๋ตงซิง โรงผลิตยาของเขา ถูกองค์หญิงฮุ่ยผิงโจมตี จนใกล้ล้มละลาย โดยเฉพาะสองปีนี้ ยากที่จะดำเนินกิจการต่อไป ท่านชายสี่ลงทุนซื้อโรงผลิตยาของเขา ดังนั้นเขาจึงยอมขายให้ท่านชายสี่แม้กระทั่งชื่อร้านด้วย
ทุกคนนั่งลงดื่มชาด้วยกันอย่างมีหน้ามีตาสักพัก จู่ๆท่านชายสี่ก็ดูจริงจังขึ้นมา มองดูทุกคนพร้อมพูดขึ้นว่า “ผ่านไปสักช่วงหนึ่ง ข้าอยากได้โรงหมอใหม่ขององค์หญิงฮุ่ยผิง แต่ข้าไม่ออกหน้า ใครสามารถออกหน้าแทนข้าได้บ้าง?”
อู๋ตงซิงอึ้ง แล้วถามขึ้นว่า “ท่านชายสี่ โรงหมอใหม่ขององค์หญิงฮุ่ยผิง ไม่นานก็จะเปิดกิจการแล้ว นางจะขายได้อย่างไร?”
“นางเปิดไม่ได้ ก็จะต้องขาย” ท่านชายสี่พูดขึ้น
“ความเป็นไปได้ที่จะเปิดไม่ได้มีไม่มาก ต่อให้ตอนนี้ในเมืองหลวงมีโรงหมอกับโรงพยาบาลของพระชายารัชทายาท แต่ความจริงแล้วไม่เพียงพอกับผู้ป่วยมากมายขนาดนี้ และเป่าหยวนถังก็อยู่ในเมืองหลวงมานาน มีรากฐานที่มั่นคง ตอนนี้ดูเหมือนพระชายารัชทายาทจะได้เปรียบ แต่ขอเพียงองค์หญิงฮุ่ยผิงลดราคาลงมา ก็ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้” อู๋ตงซิงพูดขึ้น
ท่านชายสี่มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “จะทำโรงหมอให้ได้ดี ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านมากมาย แต่หากทำต่อไปไม่ได้ มีเพียงสาเหตุหลักอย่างเดียว”
ทุกคนต่างมองดูท่านชายสี่ หลายปีมานี้องค์หญิงฮุ่ยผิงอวดดีเผด็จการ แต่ราชสำนักก็ไม่สนใจนาง เห็นได้ชัดว่า จะแตะต้องนางนั้นยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์ ต่อให้ท่านชายสี่เป็นราชบุตรเขย แต่ยังไงก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกับฮ่องเต้ จะสู้กับองค์หญิงฮุ่ยผิงได้อย่างไร? แต่ท่านชายสี่มีความสามารถ พวกเขาต่างก็รู้
เถ้าแก่จางของโรงหมอหงฝูพูดกับท่านชายสี่ว่า “หากท่านชายสี่มีความต้องการให้ช่วย ก็พูดมาได้เลย”
ท่านชายสี่ยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “ดี ตอนนั้นก็รบกวนเถ้าแก่จางด้วย”
หลังจากทุกคนไปแล้ว อู๋ตงซิงกลับรอถามถึงการพัฒนาของเหอซิงถังในอนาคต ท่านชายสี่มีแผนแต่แรกแล้ว ครั้งนี้ขายในนามชื่อเก่าของเขา รักษาหุ้นไว้ให้เขาหนึ่งส่วน ขอให้เขาวางใจรอรับเงินปันผลก็พอ
อู๋ตงซิงได้ฟังเช่นนี้แล้ว ค่อยวางใจ ก่อนจะจากไป ก็ถามท่านชายสี่อย่างแปลกใจอีกว่า “ท่านชายสี่ ทำไมท่านจะต้องจ้องทำลายองค์หญิงฮุ่ยผิง?”
ท่านชายสี่ก็ค่อนข้างเลื่อนลอย คิดอยู่สักพักแล้วพูดขึ้นว่า “ลูกศิษย์ของข้าบอกว่าอยากทำลายนาง ข้าในฐานะที่เป็นอาจารย์จะไม่ช่วยได้หรือ? อีกอย่าง ในเมื่อพูดแล้วว่าจะลงมือทำลาย ก็ต้องทำลายให้ถึงที่สุด ทำอะไรแล้วจะทำเพียงครึ่งเดียวหรือ?”
“ลูกศิษย์ของท่านชายสี่คือ?”
“พระชายารัชทายาทหยวนชิงหลิงไง” แววตาท่านชายสี่ยิ่งเลื่อนลอย เรื่องที่พระชายารัชทายาทเป็นลูกศิษย์ของเขา คนในเมืองหลวงล้วนต่างก็รู้ ทำไมคนในจื๋อลี่ถึงไม่มีใครรู้?
“โอ้” อู๋ตงซิงอ้าปากกว้าง ท่าทางเข้าใจทั้งหมดแล้ว
วันที่สิบสามเดือนสิบสอง โรงหมอขององค์หญิงฮุ่ยผิงจะเปิดทำการแล้ว ก่อนหนึ่งวัน หมอต้องเข้าไปประจำ แต่เมื่อถึงวันที่สิบสอง หมอที่รับปากว่าจะมาพวกนั้น กลับไม่เห็นแม้แต่เงา แล้วก็ไม่มาเลย
โรงหมอจะเปิดทำการแล้ว หมอไม่มา แล้วจะเปิดยังไง? องค์หญิงฮุ่ยผิงร้อนใจ สั่งคนไปเชิญหมอหลวงเฉามาถาม
หมอหลวงเฉาพูดว่า “เจ้าหญิง ใต้เท้าหลิวให้กระหม่อมไปบอก ส่วนทำไมพวกเขาไม่มา กระหม่อมไม่รู้จริงๆ แต่ เมื่อหลายวันก่อนได้ยินว่า ตอนก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปเรียนในโรงเรียนแพทย์ เคยเซ็นสัญญากับพระชายารัชทายาทฉบับหนึ่ง หลังจากพวกเขาเรียนจบแล้ว ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของพระชายารัชทายาทสามปี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพระชายารัชทายาท เอาสัญญามาบีบพวกเขาหรือเปล่า พวกเขาจึงไม่สามารถมาได้ หากเจ้าหญิงอยากได้พวกเขา คงต้องคิดหาวิธีอื่น”
คำพูดของหมอหลวงเฉา องค์หญิงฮุ่ยผิงโกรธจนแทบกระอักเลือด สีหน้าของนางโกรธจัด สายตาเยือกเย็นมองผ่านใบหน้าของหมอหลวงเฉา หมอหลวงเฉารีบก้มหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “กระหม่อมพูดผิดไปแล้ว”
“เจ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขามีสัญญาผูกมัด ใช่ไหม?” องค์หญิงฮุ่ยผิงโกรธจนตาแดง
หมอหลวงเฉาส่ายหัว พูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เจ้าหญิง กระหม่อมกล้ารับเงินของท่าน แล้วจะปิดบังได้อย่างไร? หากรู้แต่แรกว่าพวกเขาไปไหนไม่ได้ กระหม่อมก็จะบอกใต้เท้าหลิวตั้งแต่วันนั้นแล้ว ถึงแม้กระหม่อมจะเลอะเลือน แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก”
องค์หญิงฮุ่ยผิงจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “หากข้ารู้ว่าเจ้ากับหยวนชิงหลิงร่วมมือกัน ข้าไม่ให้อภัยเจ้าแน่”
ภายใต้สายตาเยือกเย็น ความโหดเหี้ยมเผยให้เห็นอย่างไม่ปิดบัง ในใจหมอหลวงเฉาหวาดกลัว ก้มหัวให้พร้อมพูดขึ้นว่า “กระหม่อมไม่กล้าปิดบังเจ้าหญิงเด็ดขาด”
ไล่หมอหลวงเฉาไปแล้ว องค์หญิงฮุ่ยผิงรีบไปหายอดหมอหลิวทันที
ยอดหมอหลิวได้ฟังแล้ว ทำหมวดคิ้วครุ่นคิดสักพัก แล้วก็ถอนหายใจยาว สีหน้าแสดงท่าทีหดหู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “หลงกลแล้ว”
“หลงกลแล้ว? หลงกลใคร? ท่านพ่อบอกว่า คนพวกนั้นรับปากว่าจะมาไม่ใช่หรือ? ใครจะปฏิเสธเงื่อนไขข้อเสนอนี้ได้? องค์หญิงฮุ่ยผิงรู้สึกกระวนกระวาย โรงหมอพวกนี้นางลงทุนไปเยอะมาก ในเวลาสั้นๆจะไปหาหมอที่ไหนมาประจำได้มากมายขนาดนี้?”
สายตายอดหมอหลิวเยือกเย็นโหดเหี้ยม พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเขาคงจะคิดได้ถึงแผนการของพวกเราแล้ว เป็นการซ้อนแผน ให้หมอพวกนั้นมาทำเป็นรับปากพวกเรา เพื่อให้พวกเราไปจัดการสร้างโรงหมอ พวกเขากระทำอย่างดุจฟ้าอยู่เหนือน้ำ พระชายารัชทายาททำเช่นนี้ไม่ได้แน่ คงมีเหลิ่งซี่ลงมือ”
“เหลิ่งซี่? ราชบุตรเขยเหลิ่ง” ในใจองค์หญิงฮุ่ยผิงกระวนกระวายขึ้นมา เหลิ่งซี่เป็นเหมือนดั่งผีธุรกิจ หากเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?…..
จู่ๆยอดหมอหลิวก็ลุกขึ้นว่า พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “แย่แล้ว”
องค์หญิงฮุ่ยผิงมองดูเขาอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมหรือ?”
ยอดหมอหลิวมองดูนาง หายใจสงบลง สายตาก็ฉายแววกระวนกระวาย พร้อมพูดขึ้นว่า “เหลิ่งซี่ลงมือ ไม่มีเพียงอย่างเดียวแน่ จะต้องเป็นแผนการต่อเนื่อง ข้าสงสัยว่า ก่อนหน้านี้ที่กวาดซื้อยาสมุนไพรไปจนหมดคือเขา คนที่ติดต่อกับพ่อค้ารับซื้ออยากก็คือเขา แม้กระทั่ง คนที่ขึ้นราคาให้กับเกษตรกรปลูกยาสมุนไพรก็คือเขา และคนที่ซื้อเหอซิงถังก็คือเขา ไม่ใช่ชายาเฟิงอัน ตอนนี้เจ้านำเข้าสินค้ามาเท่าไหร่?”
“สองล้านกว่าตำลึง” องค์หญิงฮุ่ยผิงก็กระวนกระวาย แต่แล้วก็พูดขึ้นอย่างสงบว่า “หากเป็นเรื่องนี้ไม่ต้องกลัว สินค้าในตลาดล้วนถูกข้ากวาดซื้อมาจนหมดแล้ว พวกเขาต้องการใช้ยา ก็ต้องมาซื้อจากพวกเรา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถผลิตยาได้”
ยอดหมอหลิวส่ายหัว เอามือไขว้หลังเดินไปมาหลายรอบ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ถูก ไม่ถูก ให้ข้าลองคิดดูก่อน”
ท่าทีของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งกระวนกระวาย พร้อมพูดขึ้นว่า “หากเขาเป็นคนเคลื่อนไหวราคายามาตลอด ไม่ว่าสูงหรือต่ำล้วนอยู่ภายใต้การกำหนดของเขา เขาไม่มีทางไม่เก็บยาไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ผลิตในโรงผลิตยาของตน แต่….”
จู่ๆเขาก็เบิกตาโต มองดูฮุ่ยผิง แววตาแทบหลั่งเป็นเลือด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากวาดซื้อสินค้า จะต้องมีพ่อค้ารับซื้อยาไปรับยาสมุนไพรข้างนอกเข้ามาในเมืองหลวง และจะนำเข้ามาในปริมาณมาก ราคาก็จะถูกกดลงไปอีก ถึงตอนนั้น ยาของพวกเราราคาแพง ยาของพวกเขาราคาถูก หากจะต่อสู้กันด้วยราคา พวกเราแพ้แน่นอน อีกอย่าง ตอนนี้พวกเราไม่สามารถรับสินค้าไว้ได้ หากรับสินค้ามาก ปริมาณกักตุนยาเยอะเกินไป จะเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนพวกเขา ข้าสงสัยว่าช่วงนี้ได้ขายสินค้าไปไม่น้อยแล้ว เมื่อนำมาขาย ภายในสินค้าที่เจ้ากว่าซื้อมา จะต้องมีสินค้าที่พวกเขาซื้อจากพ่อค้ารับซื้อยาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน รอเมื่อยาของพวกเราถูกใช้หมดไปพอประมาณ พวกเขาค่อยขึ้นราคา กลับไปมาเช่นนี้ เป็นการหมุนเวียนให้ตาย”