บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1230 ไม่มีทางให้ถอย
ราชบุตรเขยหลิวพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เปิดโรงหมอในนามของข้า แต่เรื่องภายในโรงหมอ ข้าเคยแสดงความคิดเห็นอะไรไหม? เจ้าเคยฟังความคิดเห็นของข้าไหม? หากไม่ใช่เพราะเจ้าต้องการใช้ความสัมพันธ์ของท่านพ่อกับรู้เรื่องยาเป็นอย่างดี เจ้าจะให้ท่านพ่อมีส่วนร่วม? ตอนที่เพิ่งเปิดโรงหมอ ท่านพ่อร่วมทุนสามหมื่น หลายปีที่ผ่านมา หลายปีมานี้ยังช่วยคิดวางแผนให้เจ้า เปิดขยายโรงหมอกับโรงผลิตยา สุดท้ายเจ้าทำยังไงกับท่าน? แม้แต่ร้านสักแห่งเจ้าก็ไม่แบ่งให้เขา เจ้าลืมไปแล้วว่าใครช่วยเหลือเจ้า เจ้าโหดเหี้ยมเด็ดขาด ทำให้คนอื่นเสียความรู้สึก ข้าไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงแบบนี้ต่อไปได้ ต่อให้เจ้าจะฆ่าข้า ข้าก็จะไม่ยอมกลับไปอีก”
“ไม่ว่ายังไง” สายตาเกลียดแค้นของนางมองดูเมียน้อยที่อยู่ด้านข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าถูกหญิงแพศยาทำให้หลงเสน่ห์ ข้ออ้างของเจ้า คืออยากให้ข้าไม่เอาเรื่องเจ้าหรือ? ฝันไปเถอะ ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งคู่แน่”
ราชบุตรเขยหลิวพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “แล้วแต่เถอะ เจ้าหญิงไปฟ้อง ไปแจ้งความได้เลย แต่ในราชสมัยเป่ยถัง ราชบุตรเขยล้วนสามารถมีสนมได้ เจ้าหญิงไม่ให้สนมของข้าเข้าจวน ข้าจึงต้องมีอยู่ข้างนอก หากที่ทำการปกครองที่ลงโทษ ต้องถูกโบย ต้องติดคุก ข้าก็ยอมรับ”
คำพูดพวกนี้ เหมือนดั่งมีดเล่มคม ทิ่มแทงกลางใจของฮุ่ยผิง ทำให้นางเจ็บปวดใจอย่างสุดจะทน นางพยายามยืดเอวตรง น้ำตาเอ่อ กลับไม่ให้น้ำตาไหลออกมาสักหยด นางพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ดี ดี เจ้าคอยดู เจ้าเอาเงินที่ขายร้านไป ข้าจะฟ้องเจ้าแน่ เจ้าจะเพียงแค่ถูกโบยติดคุกหรือ? ข้าจะให้เจ้าตายอย่างไร้ที่ฝัง เจ้าทำตัวเจ้าเอง เจ้าอย่ามาเสียใจทีหลัง”
นางสะบัดแขนเสื้อ จากไปด้วยความโกรธแค้นเต็มอก
ราชบุตรเขยหลิวมองดูเงาหลังของนาง ใบหน้าขาวสะอาด ค่อยๆเผยยิ้มขมขื่นอย่างจนใจ องค์หญิงฮุ่ยผิงจากไปได้ไม่นาน ทังหยางเดินออกมาจากข้างหลังจวน
ทังหยางมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “หวังว่าราชบุตรเขยจะสามารถทำได้อย่างที่พูด”
ราชบุตรเขยหลิวล้วงเอาใบฝากเงินออกมาจากในกระเป๋า ยื่นให้กับทังหยาง พร้อมพูดขึ้นว่า “สามล้านตำลึงล้วนอยู่ในนี้ บริจาคให้กับโรงหมอหลวงในนามของเจ้าหญิง ไม่เสียใจแน่นอน”
ทังหยางรับใบฝากเงินมา มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ความจริงแล้ว ราชบุตรเขยเอาเงินพวกนี้ แล้วพาภรรยาอีกคนจากไปให้ไกลโพ้น หลายล้านตำลึง สามารถทำให้พวกเจ้าใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต”
ราชบุตรเขยหลิวส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นสามีภรรยากันมา ข้าจะทำกับนางเช่นนี้ไม่ได้ สามล้านนี้เจ้าเอาไป และขอให้ท่านรักษาคำพูด ไม่ต้องฟ้องนางเรื่องที่นางก่อเหตุไฟไหม้ ฆ่าคนตาย”
“วางใจ องค์ชายรัชทายาทพูดแล้ว ขอเพียงราชบุตรเขยหลิวยอมบริจาคเงินพวกนี้ให้กับโรงหมอหลวง องค์ชายรัชทายาทจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก” ทังหยางอมยิ้ม เอาใบฝากเงินใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
จะไม่พูดแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานเลยด้วยซ้ำ ผู้ถูกกระทำพวกนั้นไม่ยอมพูดอะไรเลย ต่อให้พูด ก็เป็นแค่เพียงการสันนิษฐานว่าคนร้ายคือฮุ่ยผิง ไม่มีหลักฐานชัดเจน ตอนนั้นที่พูดแบบนั้น เพียงเพื่อข่มขู่ราชบุตรเขยหลิวเท่านั้นเอง
ราชบุตรเขยหลิวเริ่มดำเนินการขายร้าน ทังหยางก็เริ่มตีสนิทเขา เอาเรื่องที่เขามีเมียน้อยกับเรื่องที่เจ้าหญิงฆ่าคนข่มขู่ ทำให้ราชบุตรเขยหลิวขายร้านในราคาถูก และนำเงินที่ได้จากการขาย บริจาคให้กับโรงหมอหลวง
สภาพจิตใจราชบุตรเขยหลิวไม่แน่วแน่ จึงถูกทังหยางหลอกให้ตกใจ แต่จะบริจาคเงินสามล้านนี้ออกไป เจ้าหญิงจะต้องเป็นปรปักษ์กับเขาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นปรปักษ์ก่อน พาเมียน้อยมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่ ต่อไปก็จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ รับท่านพ่อมาอยู่ด้วย ทิ้งทุกอย่างในเมืองหลวง ช่วยนางปิดบังเรื่องนี้ต่อหน้าองค์ชายรัชทายาท เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำให้นาง
ทุกคำพูดที่เขาพูดกับเจ้าหญิงเมื่อกี้ พูดจากใจทุกคำ ซึ่งเขาเจ็บปวดจนใจเย็นชาไปแล้วจริงๆ
ก่อนที่ทังหยางจะไป ราชบุตรเขยหลิวถามขึ้นว่า “โรงหมอพวกนั้น องค์ชายรัชทายาทซื้อหรือท่านชายสี่เหลิ่งซื้อ?”
ทังหยางเอามือทั้งคู่ล้วงกระเป๋า พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ใครซื้อก็ไม่สำคัญ สุดท้ายล้วนจะบริจาคให้กับราชสำนัก เพื่อใช้เปิดเป็นโรงหมอ” ทังหยางพูดเสร็จ แล้วก็ก้าวเดินจากไป
ฮุ่ยผิงกลับมาถึงเมืองหลวง พาคนไปหายอดหมอหลิว กลับได้รู้ว่า ยอดหมอหลิวจากไปแต่แรกแล้ว ส่วนไปที่ไหน ไม่มีใครรู้
หลายปีมานี้ เงินที่ยอดหมอหลิวได้มาจากส่วนแบ่งของร้าน ล้วนรวมอยู่ในจวนเจ้าหญิง เมื่อกลับมาถามที่จวน ค่อยรู้ว่าเงินพวกนี้เขาถอนออกไปแล้ว นำไปฝากไว้ที่ร้านแลกเงิน ใบฝากเงินแบ่งให้กับลูกของนาง
นางล้มนั่งลงบนเก้าอี้ อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา สุดท้ายก็ยังคงค่อยๆไหลออกมา นางไม่เข้าใจ นางก็แค่ตะคอกอารมณ์เสียใส่พวกเขาแค่ครั้งเดียว ทำไมพวกเขาถึงรับไม่ได้? หลายปีมานี้ นางเคารพให้เกียรติพ่อสามีมาตลอด ทำไมถึงรองรับอารมณ์ของนางสักครั้งก็ไม่ได้? นางก็แค่ถูกสถานการณ์บีบให้ใจร้อน ทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าใจ?
นางยกมือปิดหน้า คิดถึงวันนั้นที่อยู่นอกจวนอ๋องฉู่ หยวนชิงหลิงพูดว่าจะทำให้นางสูญเสียทุกอย่าง นางเช็ดน้ำตา แล้วก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยมว่า “หยวนชิงหลิง เจ้าสมความปรารถนาแล้วหรือ? ไม่ เจ้าไม่ได้สมความปรารถนา”
นางหวีผมเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าวังไปขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้หมิงหยวน ร้องเรียนว่าราชบุตรเขยหลิวไร้น้ำใจไร้คุณธรรม ยังขโมยเงินของนางแล้วหนีไปกับหญิงอื่น
ฮ่องเต้หมิงหยวนรอนางพูดจบอยู่อย่างเงียบๆ จากนั้นค่อยพูดขึ้นว่า “ราชบุตรเขยหลิวบริจาคเงินสามล้านให้กับโรงหมอหลวงในนามของเจ้า บอกว่าเพื่อช่วยเจ้าไถ่บาป เรื่องนี้เจ้ารู้ไหม?”
ฮุ่ยผิงนิ่งอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรนะ?”
“สามล้านนนี้ น่าจะเป็นเงินที่ขายร้าน เจ้าจะเอากลับคืนไปไหม? หากเจ้าจะเอากลับไป ข้าสามารถคืนให้เจ้าได้” ตอนที่ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดประโยคนี้ สายตาเยือกเย็นอย่างมาก
องค์หญิงฮุ่ยผิงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ไถ่บาป? เขาจะช่วยไถ่บาปอะไรของนาง? เหลวไหล เรื่องพวกนั้นลงมือทำอย่างสะอาด ไม่มีใครรู้ไม่มีหลักฐาน
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูสายตากระวนกระวายของเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ฮุ่ยผิง หลายปีมานี้ ข้าเพิกเฉย ตามใจเจ้าจนเกินไปแล้ว เรื่องบ้างอย่าง ควรที่จะหยุดก็หยุดเถอะ อย่าทำให้ลูกชายของเจ้าต้องเดือดร้อน”
ฮุ่ยผิงได้ฟังคำพูดเย็นชาเช่น เรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายเหมือนถูกฉุดออกไปจากร่างกาย ล้มลงพื้นพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้า…..”
“กลับไปเถอะ ทางด้านราชบุตรเขยหลิว เจ้าจัดการเอง จะเลิกหรือจะหย่า เจ้าตัดสินใจเองก็พอ ข้าไม่ยุ่งเกี่ยว” สายตาฮ่องเต้หมิงหยวนไม่มีแววเสียใจเลยสักนิด
“เสด็จพี่ใจร้ายมาก ทำไมถึงช่วยเหยวนชิงหลิงปฏิรูปทางการแพทย์มาตลอด? ข้าเป็นน้องสาวของพระองค์นะ” ฮุ่ยผิงพูดขึ้นอย่างโกรธแค้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูนางอย่างมีอำนาจ พร้อมพูดขึ้น “ฮุ่ยผิง ข้าเคยไปเป่าหยวนถังของเจ้า แต่ข้าไม่ได้เอาเงินไปด้วย ข้าปวดท้องอย่างรุนแรง แต่กลับไม่ได้กินยาเม็ดสักเม็ด ยังถูกคนขับไล่ออกมา โชคดีที่ข้าไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน หากเป็นภาวะฉุกเฉิน จะเป็นอย่างไร? เพราะวิธีการรักษาคนไข้ของเจ้า ทำให้ข้าตัดสินใจปฏิรูป ข้าไม่ได้เอาผิดเจ้า เจ้าสำนึกตัวเองด้วยเถอะ”
ในใจฮุ่ยผิงตกตะลึง เสด็จพี่เคยออกจากวังไปโรงหมอของนาง? ทำไมนางถึงไม่รู้? หมอของโรงหมอ ก็ไม่เคยรายงาน
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่อยากเห็นหน้านางอีก จึงสั่งมู่หรูกงกงไล่นางออกไป
ฮุ่ยผิงหอบร่างที่เหน็ดเหนื่อยออกมาจากวัง ยืนอยู่หน้าประตูทิศใต้ นางหันกลับมามองวังอันสง่างาม ที่นี่เยือกเย็นยิ่งกว่าจวนเจ้าหญิงของนาง แต่ในจวนเจ้าหญิง นอกจากสายตาของลูกชายที่โทษนางแล้ว ยังมีอะไร?
นางไม่เข้าใจ ทั้งๆที่คนหักหลังคือราชบุตรเขยหลิว แต่ทำไมพวกลูกชายลูกสาวถึงได้โกรธเกลียดนาง?
ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เป็นเพราะองค์ชายรัชทายาทต้องการขยายเพิ่มโรงหมอ ปฏิรูปทางการแพทย์ แผนกลของหยวนชิงหลิงกับเหลิ่งซี่ กัดกินทีละก้าว บีบบังคับจนนางไม่มีทางถอย