บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1231 ประกาศ
ผ่านมาไม่กี่วัน ตลาดยาก็เริ่มปรับลงจริงๆ ราคาสินค้าถูกลง วัตถุดิบยามีเต็มตลาดอีกครั้ง สินค้าราคาสูงที่นางกักตุนไว้ในมือ ตัวเองใช้ไม่หมด ขายก็ขายไม่ออก แต่กลับพอกเงินของนางจำนวนมาก
ข้างตัวนางไร้คนมีความสามารถ ผู้ดูแลกับหัวหน้าร้านต่างไม่มีข้อเสนอ โรงงานยาของนางถ้าผลิตยาสำเร็จรูป ราคาที่ได้ก็จะแพงเกินไป ขายไม่ออก แต่หากกดราคาลง นางก็จะขาดทุนเยอะ
นางอับจนหนทาง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ความแค้นเพิ่มขึ้นทีละนิด แค้นสองสามีภรรยาหยู่เหวินเห้าเข้ากระดูก
ในทางกลับกัน โรงหมอกับสถานพยาบาลของหยวนชิงหลิงยังคงยุ่งงวด หลังจากเรื่องจบลงแล้วหยวนชิงหลิงก็ไม่ได้ไปช่วยงานอีก ยุ่งมาหลายวันติดกัน เหนื่อยมากจริงๆ หยู่เหวินเห้าจึงสั่งเข้มให้นางพักอยู่ในจวนสองสามวัน ห้ามเหนื่อยอีก
ยากนักที่จะมีเวลาว่าง นางจึงเชิญเหล่าสะใภ้มาพบปะกัน นอกจากหยวนหย่งอี้ที่ปรนนิบัติฮองเฮาอยู่ในวังแล้ว ที่เหลือก็มาหมด
ตอนที่ฮูหยินเหยามาได้นำห่อผ้าใบใหญ่มา เมื่อเปิดออกดูกลับเป็นเสื้อผ้าเด็กทารก
ฮูหยินเหยามองหยวนชิงหลิงพลางยิ้มเอ่ย “ข้ารู้ว่าช่วงนี้เจ้ายุ่งมาก เปิดสถานพยาบาลหลายแห่ง ตอนนี้ประชาชนกำลังพูดคุยถึงเจ้าอยู่แน่ะ บอกว่าเป็นเพราะเจ้า พวกเขาจึงไม่ต้องกินยาราคาแพง ส่วนข้า ช่วยอะไรไม่ได้ ก็เลยทำเสื้อผ้าเด็กสองสามชุดให้ลูกของอะซี่กับหรงเยว่”
เดิมหยวนชิงหลิงยังคิดว่าให้นาง หยิบขึ้นมาดูแล้ว แต่พอได้ยินนางพูดอย่างนั้นถึงนึกขึ้นได้ว่าตนยังไม่ได้ประกาศเรื่องที่ตนตั้งครรภ์ เอ่ยอย่างเลิ่กลั่ก “สวย ต้องสวยอยู่แล้ว”
หรงเยว่กับอะซี่ชอบเสียไม่มี เดินไปหยิบขึ้นมาดู เสื้อผ้าที่ทำล้วนเป็นสีเหลืองส้มเขียวอ่อน เด็กผู้ชายผู้หญิงก็ใส่ได้หมด
“ขอบคุณฮูหยิน!” หรงเยว่กับอะซี่เอ่ยขึ้นอย่างหน้าชื่นตาบาน
หรงเยว่แย่งตัวที่หยวนชิงหลิงถืออยู่ในมือ “ตัวนี้สวย สีเหลืองส้มนี่ดูแล้วนุ่มละมุนดี”
หยวนชิงหลิงมองชุดที่นางแย่งไปอย่างอาลัย ชุดสีเหลืองส้มตัวนี้สวยจริงๆ ถ้าเป็นลูกสาว สวมชุดตัวนี้แล้วจะน่ารักแค่ไหนกัน!
“ฝีมือฮูหยินดีจริง” หรงเยว่มองตะเข็บเหล่านั้น หัวเราะแล้วเอ่ย “ต่อไปหลานท่านช่างมีบุญนัก มีเสื้อผ้าใหม่ใส่ได้ทุกวัน”
พระชายาซุนมองฮูหยินเหยา เอ่ย “นั่นสิ ปีนี้เมิ่งเยว่ก็จะปักปิ่นแล้ว ต้องจัดงานพิธีปักปิ่น จัดเสร็จก็พูดเรื่องแต่งงานได้”
ฮูหยินเหยาหัวเราะเอ่ย “ไม่รีบ ข้ายังอยากให้นางอยู่จนถึงอายุสิบแปด”
“สิบแปด? แก่ไปหน่อย แต่งเร็วหน่อยดีกว่า ผู้ชายดีๆ ก็มีไม่มาก” หรงเยว่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของนาง ความทุกข์ของสาวเฒ่านางลิ้มรสมามากพอแล้ว
หากไม่พบเจ้าหก เกรงว่าจนตอนนี้ก็ยังเป็นโสดอยู่
“ตัดใจไม่ได้นะสิ เฮ้อ!” ฮูหยินเหยาหมองใจเล็กน้อย “เจ้าว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? อย่างกับเมื่อวานยังเป็นเด็กน้อยพูดอ้อแอ้อยู่เลย มาวันนี้พวกเรากลับต้องพูดเรื่องงานแต่งของนางแล้ว”
พระชายาซุนก็รู้สึกเหมือนกัน “ก็นั่นนะสิ ปีนี้เมิ่งเยว่ปักปิ่น ปีหน้าเมิ่งถงของข้าก็จะปักปิ่นแล้วเหมือนกัน”
แม่เฒ่าทั้งสองมองกันทีหนึ่ง น้ำตาคลอนิดๆ
เฝ้ารอลูกเติบโต แต่กลับกลัวการเติบโตของพวกเขา
หยวนชิงหลิงยังไม่รู้ถึงความรู้สึกนี้ มือของนางกดท้องอย่างไม่รู้ตัว ถ้าท้องนี้หลายฝูจริง…ถุย เป็นลูกสาว สิบกว่าปีหน้า เจ้าห้าที่เป็นพ่อเฒ่าคนนี้ก็คงไม่อยากแต่งลูกสาวเหมือนกัน
อะซี่เก็บเสื้อผ้า ถามหยวนชิงหลิง “ท่านว่า จวิ้นจู่ชอบตามฮูหยินใหญ่อยู่ในโรงเรียนแพทย์ นางจะชอบหมอในโรงเรียนแพทย์หรือเปล่านะ?”
“ไม่มั้ง?” สีหน้าฮูหยินเหยาเปลี่ยนไปพลัน “เป็นไปไม่ได้หรอก”
“ฮูหยินเหยา ท่านอย่าเพิ่งคิดมากไป หมอในโรงเรียนแพทย์ก็มีหลายคนที่เกิดในชนชั้นสูง” อะซี่กล่าว
ฮูหยินเหยากดมือ “ไม่ใช่เรื่องฐานะ แต่เป็นหมอ…”
นางชะงักไป ไม่พูดต่อ
“ทำไมหรือ? เป็นหมอไม่ดีหรือ?” หยวนชิงหลิงถามนาง
สีหน้าฮูหยินเหยาเก้กังเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ย “แค่รู้สึกว่า น่าจะหาคนที่เป็นวรยุทธ์เท่านั้น”
หลายวันมานี้ นางได้รู้แล้วว่าข้างตัวมีคนเป็นวรยุทธ์ดีแค่ไหน อย่างน้อยเกิดเรื่องอะไรก็มีคนเข้าบังอยู่หน้าตัวเองทันที
หมอกำลังน้อยนิด ไม่ค่อยเหมาะ
“หาคนเป็นวรยุทธ์? นั่นมิใช่นักรบหรือ?” ความคิดของพระชายาซุนกับนางไม่เหมือนกัน รีบปัดมือ “ไม่ได้ๆ ถ้าผัวเมียปรองดองก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ ตบมาทีตายได้เชียวนะ จะเสี่ยงไม่ได้เด็ดขาด”
หรงเยว่หลุดหัวเราะ “องค์รัชทายาทก็เป็นวรยุทธ์ ก็ไม่เห็นพระชายารัชทายาทถูกตีตายเลยนี่?”
พระชายาซุนมองหรงเยว่ทีหนึ่ง “ถึงยังไงข้าก็คิดว่าหานักรบไม่สู้หาหมอสักคน รู้จักดูแล ไม่สบายก็ไม่ต้องไปเชิญหมอ”
หรงเยว่ปิดปากหัวเราะ “นั่นสิ คลอดลูกก็ไม่ต้องไปหาหมอตำแย สองผัวเมียร่วมแรงร่วมใจก็คลอดลูกออกมาได้”
พระชายาซุนหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง “เจ้าลิงทโมนนี่ พูดอะไรนั่น? ผู้ชายจะเข้าห้องคลอดได้ยังไง?”
ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นมา หยวนชิงหลิงอมยิ้มมองนางพวกนี้เจื้อยแจ้ว ชีวิตที่สงบ ไม่รู้สึกเบื่อเลย
นางคิดว่าตอนนี้เรื่องหนักอกก็ผ่านพ้นไปแล้ว บางทีเรื่องที่ตนตั้งครรภ์น่าจะประกาศได้ นางดื่มชาอึกหนึ่ง แต่ขณะที่นางกำลังจะพูด หรงเยว่ก็เอ่ยขึ้น “ข้าคลอดเที่ยวนี้ ทางที่ดีก็อย่าชนกับวันคลอดของอะซี่ ข้าต้องจองพระชายารัชทายาทไว้ก่อน”
“ไม่ชนหรอก อะซี่ท้องก่อนเจ้า!” พระชายาซุนเอ่ย
“มันก็ไม่แน่ เดิมทีประจำเดือนข้าก็ไม่ปกติ วันนั้นฮูหยินใหญ่ตรวจชีพจรให้ข้า บอกว่าข้าอาจวันใกล้เคียงกับอะซี่”
อะซี่หาไปทีหนึ่ง “งั้นทำไงดี? ข้าก็อยากให้พี่หยวนอยู่ข้างๆ ถึงจะกล้าคลอด”
“อะซี่ ที่จริงพี่หยวนเจ้าอยู่หรือไม่ ถึงตอนคลอดเจ้าก็ยังต้องคลอดอยู่ดี จะบอกว่ากล้าไม่กล้าไม่ได้หรอก” ฮูหยินเหยาหัวเราะพลางเอ่ย
“งั้นก็อั้นไว้ พระชายาหวย ท่านจะแย่งข้าไม่ได้นะ สำนักเหลิ่งหลังท่านมีหมอเก่งเยอะขนาดนั้น ท่านก็หาหมอกับหมอตำแยเองสิ” อะซี่กล่าว มองทางหรงเยว่ ท่าทางจะสู้กับนางจนถึงที่สุด
หรงเยว่ขมวดคิ้ว “งั้นข้าต้องสู้เจ้าไม่ได้แน่ เจ้าอยู่กับนาง ถึงบอกไงว่าไม่อยากให้วันชนกับเจ้า”
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี “ข้าไม่ใช่หมอตำแยสักหน่อย อีกอย่าง พวกเจ้าเป็นคนฝึกยุทธ์ ร่างกายแข็งแรงอย่างกับวัว ข้าไม่มาพวกเขาก็คลอดอย่างปลอดภัยได้ ไม่ต้องจองหรอก ถึงตอนนั้นข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ไม่ได้นะ ถ้าวันชนกัน เด็กสองคนต้องให้ท่านเก็บ” หรงเยว่ถลึงตาพูด
หยวนชิงหลิงวางแก้วน้ำ มองหรงเยว่ด้วยนัยน์ตาน้ำเงินเข้ม มุมปากเป็นมุมโค้งยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าไม่กล้ารับรองนะ บางทีตอนที่พวกเจ้าทั้งสองคลอด ข้าอาจคลอดก่อนกำหนด ชนกับวันของพวกเจ้าเหมือนกันล่ะ?”
ทุกคนต่างหันหน้ามองไปที่นางเป็นตาเดียว ตะลึงหนัก
พระชายาซุนผงะ “ยังไงเนี่ย? เจ้าจะหยุดหน่อยไม่ได้หรือ? เปลี่ยนเป็นข้าที่มีเรื่องมงคลไม่ได้หรือ? เป็นหอยแก่ออกมุก ทำไมเหลือแต่ข้าล่ะ?”
“จริงหรือ? ตั้งท้องแล้ว?” ฮูหยินเหยาจับมือนาง ใบหน้าชื่นมื่น
หยวนชิงหลิงหัวเราะพยักหน้า “ใช่ ท้องแล้ว”
“กี่เดือนแล้ว?” อะซี่กับหรงเยว่ถามขึ้นพร้อมกัน
“สามเดือนแล้ว” หยวนชิงหลิงเอามือลูบท้องน้อย มืออีกข้างก็แย่งชุดสีเหลืองส้มที่หรงเยว่เพิ่งเอาไปกลับมา “ชุดนี้ของข้า”
“สามเดือน?”
ทุกคนแตกตื่น จากนั้นก็ผลัดกันบ่นคนละคำ ว่านางว่าปิดบังเสียมิดเชียว
อะซี่นับนิ้ว สีหน้าพลันเปลี่ยน “งั้นก็ช้าหลังข้าไปเดือนเศษ สวรรค์ ถ้าข้าเลยกำหนดหรือท่านก่อนกำหนด งั้นวันก็ต้องชนกันจริงๆ ทำยังไงดี? ข้าไม่กล้าคลอดคนเดียว”