บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1255 ท้องของหรงเยว่
หยวนชิงหลิงไม่ได้เป็นกลัวว่าปลอม แต่ช่วงระยะเวลานี้ ถูกกำหนดว่าไม่สามารถสงบสุขได้
“อีกประเดี๋ยวข้าก็จะเข้าไป ท่านยังมีคำพูดอะไรต้องการฝากถึงเขาอีกหรือไม่? สถานการณ์วันนี้ของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เขาจะต้องถามเป็นแน่เพคะ” หรงเยว่กล่าว
หยวนชิงหลิงยังไม่ได้พูด ฉี่หลอที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทไม่สบายน่ะเพคะ? วันนี้ก็เรียกฮูหยินใหญ่เข้ามาตรวจชีพจรด้วยเพคะ”
หรงเยว่ตกใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น? ไม่สบายตรงไหนหรือเพคะ?”
หยวนชิงหลิงกรอกตาขาวใส่ฉี่หลอแวบหนึ่ง “อย่าฟังฉี่หลอพูดเลอะเทอะ ข้าไม่เป็นไร แค่กระหายน้ำอย่างไม่มีสาเหตุ ทังหยางไม่วางใจ จึงได้เรียกท่านย่าเข้ามาตรวจดู เพราะไฟตับลุกโชนก่อให้เกิดขึ้น คาดว่าเพราะร้อนใจเรื่องนี้เล็กน้อยจนร้อนในแล้ว เจ้าบอกกับเจ้าห้าว่าทุกอย่างเรียบร้อย ข้าสบายดีก็ได้แล้ว”
หรงเยว่หัวเราะขึ้นมาแล้ว “แต่ว่า พูดกลับกันนะเพคะ ท้องนี้ครั้งนี้ของท่าน อารมณ์กลับฉุนเฉียวกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย เจ้าประทัดน้อยสีแดงในท้องของท่าน คาดว่าก็คงอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้ากลับกัน ตั้งแต่ตั้งครรภ์ลูกนี่ นิสัยสงบนิ่งขึ้นมาก ข้ารู้สึกว่า อนาคตลูกจะต้องเหมือนกับเจ้าหกเพคะ”
อะซี่เข้ามา หัวเราะแล้วกล่าว “เหมือนอ๋องหวยดีเพคะ ฉุนเฉียวเหมือนท่าน เช่นนั้นก็จัดการยากแล้ว”
มือทั้งสองข้างของอะซี่เท้าสะเอว หลังจากที่จากตั้งครรภ์ ก็มักจะเดินเช่นนี้เสมอ ไม่ว่าท้องจะใหญ่หรือไม่ ก็ต้องมีท่าทาง
“หากว่าเป็นผู้ชาย ข้าคิดว่าต้องมีอารมณ์ร้อนหน่อยถึงจะดี ลูกสาวก็สุขุมหน่อยจะดี อนาคตจะได้แต่งงานออกไปง่ายๆ” การไม่ได้แต่งงาน ในความคิดของหรงเยว่ เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
นางคนเดียวสามารถค้ำยันได้ครึ่งฟ้า แต่ว่า ความจริงแล้วความคิดของนางค่อนข้างโบราณ โดยปกติการใช้ชีวิตของนางเป็นแบบผัวหาบเมียคอน จับมือกับคนผู้หนึ่งอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต ดีเพียงใดกัน
หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมา มองดูอะซี่นั่งลงข้างๆหรงเยว่ ทันทีที่มองนี้ ก็อดแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้ “ปกติแล้วพวกเจ้าสองคนไม่นั่งด้วยกัน วันนี้เมื่อเทียบกันเช่นนี้ หรงเยว่ ท้องของเจ้ายังใหญ่กว่าอะซี่เล็กน้อยอีก”
“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งเพคะ?” หรงเยว่เหลือบมองท้องของอะซี่ ของตัวเองใหญ่กว่าอะซี่เล็กน้อยจริงๆ จึงกล่าว “ข้ากินเยอะ อะซี่หมู่นี้ไม่ใช่ลดปริมาณอาหารหรือ?”
อะซี่ส่ายหน้า “ไม่นะ ข้าก็ยังกินเข้าไปแล้ว ข้าอดทนความหิวไม่ได้ สวีอีก็ขัดข้าไม่ได้ ก็ยังคงให้ข้ากินแล้ว ข้าได้ยินท่านย่าบอกว่า ท้องนี้ของข้าใหญ่กว่าคนท้องที่ระยะเดือนเท่ากันแล้ว ทำไมท่านยังได้ใหญ่กว่าของข้าอีกล่ะ? ท่านคงจะไม่ได้ท้องลูกแฝดหรอกนะเพคะ?”
พิจารณาถึงระยะตั้งครรภ์ ความจริงอะซี่และหรงเยว่ก็พอๆกัน แค่เพียงอะซี่ตรวจออกมาว่าตั้งครรภ์ก่อนเท่านั้น
แต่ท้องของหยวนชิงหลิงจะเล็กกว่าพวกนางสองคนประมาณเดือนหนึ่ง ดังนั้น เปรียบเทียบของนางกับทั้งสองแล้ว จะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน
ได้ยินอะซี่พูดเช่นนี้ หรงเยว่เองก็ตะลึงงันทันที “ไม่หรอก? เจ้าอย่าหลอกให้ข้าดีใจ”
นางยื่นมือไปลูบท้อง ตั้งครรภ์ครั้งแรก ที่ไม่รู้ยังมีอีกมากมายนัก แม้ว่าในจวนจะมีหมออยู่ตลอด แต่นางไม่ได้มีอาการอะไรจึงไม่ได้ให้หมอตรวจชีพจรเรื่อยเปื่อย ในด้านการตั้งครรภ์นี้นางยังมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าสุขภาพร่างกายของนางดี
“เคลื่อนไหวแล้ว!” บนใบหน้าของหรงเยว่มีความดีใจ สายตาแห่งความรักของมารดาเปล่งประกาย
หยวนชิงหลิงมองดูท้องของนาง “หมอได้บอกหรือไม่ว่าในท้องของเจ้ามีกี่คน?”
“ไม่ได้บอกเพคะ” หรงเยว่กล่าว
“มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝาแฝดจริงๆ” หยวนชิงหลิงกล่าว นางลุกขึ้นยืนหมุนเข้าไปหยิบกล่องยาด้านหลังฉากกั้น หยิบหูฟังทางการแพทย์แล้วเดินออกมา “ข้าช่วยเจ้าฟัง มานอนบนเก้าอี้กุ้ยเฟย”
หรงเยว่เกิดความตื่นเต้นเล็กน้อย มองดูอะซี่แวบหนึ่ง กล่าว “คงไม่ได้โดนปากทองคำของเจ้าพูดถูกเข้าแล้วหรอกนะ? ทีแรกข้าก็ไม่เคยมีความเพ้อฝันเช่นนี้มาก่อนเลยล่ะ หากว่าเจ้าพูดถูกจริงๆ ข้าก็อวยพรให้เจ้าให้กำเนิดลูกแฝด”
อะซี่ไม่ได้มีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ หัวเราะแล้วกล่าว “ข้าไม่อยากด้วยหรอกเพคะ หากว่าตั้งท้องลูกแฝด ขณะที่เกิดก็จะเจ็บเป็นอย่างมากเชียวเพคะ”
“ข้าสามารถทนความเจ็บปวดได้!” หรงเยว่เดินเข้ามาแล้วนอนลงไป มองดูหยวนชิงหลิงหยิบหูฟังทางการแพทย์แนบไปบนหนังหน้าท้องของนาง กล่าวว่า “ของสิ่งนี้สามารถฟังออกมาได้จริงๆน่ะหรือเพคะ?”
“เสียงเต้นของหัวใจสองดวง โดยพื้นฐานสามารถแยกแยะได้” หยวนชิงหลิงก็นั่งลง เอาหูฟังทางการแพทย์คล้องไว้บนหู หัวอีกด้านหนึ่งแนบกับผิวหนังหน้าท้องของนางหาเสียงหัวใจเต้น”
ทารกในครรภ์ขยับตัวพอดี หยวนชิงหลิงมองดูนางแล้วยิ้ม “เด็กคนนี้ร่าเริงมากเชียวล่ะ”
“ก็ยังดีสินะ” หรงเยว่คิดมาตลอดว่าลูกของตัวเองสงบเงียบมาก ทารกในครรภ์ขยับตัวเป็นเรื่องปกติ
หูฟังทางการแพทย์เคลื่อนช้าๆไปตามหนังหน้าท้อง หรงเยว่แทบจะกลั้นหายใจ มองดูใบหน้าของหยวนชิงหลิง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หยวนชิงหลิงก็ถอดหูฟังทางการแพทย์ออก มองดูหรงเยว่ อมยิ้มและกล่าว “อะซี่ปากทองคำจริงๆ”
“จริงหรือเพคะ?” หรงเยว่ปิดปาก รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่หางคิ้วในพริบตา “โอ้สวรรค์ เป็นสองคนหรือ?”
“โดยพื้นฐานแล้วไม่ผิด เป็นลูกแฝด” หยวนชิงหลิงกล่าว
อะซี่ยิ้มแล้วกล่าวต่อฉี่หลอ “ยังไม่เข้าไปแสดงความยินดีต่อพระชายาหวยอีก ขอรางวัลสิ!”
ฉี่หลอดึงสติกลับมาได้ทันที ถอนสายบัวต่อหรงเยว่ “แสดงความยินดีต่อพระชายาหวยที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดเพคะ!”
หรงเยว่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก “ให้รางวัล ให้รางวัล!”
นางหยิบถุงเงินออกมาทันที เปิดเอาตั๋วเงินใบหนึ่งออกมาจากด้านใน เมื่อออกมือก็คือห้าร้อยตำลึง โบกเล็กน้อย “จวนอ๋องฉู่มีส่วนแบ่งทุกคน เจ้าเอาออกไปแบ่งกัน!”
ฉี่หลอเห็นว่ามีห้าร้อยตําลึงจริงๆ ดีใจจนคุมตัวเองไม่ได้ รีบเข้ามารับและแสดงการขอบพระทัย แล้วก็ออกไปด้วยความดีอกดีใจสุดๆ
ทั้งจวนอ๋องฉู่ เกิดความครึกครื้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทุกคนล้วนออกไปแสดงความยินดีต่อหรงเยว่ด้านนอก
หรงเยว่ถูกห้อมล้อมด้วยเสียงแห่งการอวยพร ปีติจนลืมไปว่าต้องการไปที่จวนเหลิ่งแล้ว จับมือของหยวนชิงหลิงไว้ตลอด ถามว่าหูฟังทางการแพทย์นั่นสามารถฟังได้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงได้หรือไม่ นางบอกว่าดีที่สุดเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ท้องแฝดชายหญิง เช่นนั้นก็สมบูรณ์แบบเป็นที่สุดแล้ว
ในระหว่างที่นางตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า “เดิมทีคิดว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ไม่ได้แล้ว ยังเคยโกรธเคืองสวรรค์ คิดไม่ถึงว่าสวรรค์จะไม่เคยปฏิบัติต่อข้าอย่างไม่เป็นธรรม ข้ากลับด่าผิดไปแล้ว ประเดี๋ยวต้องกลับไปจัดโต๊ะตั้งธูปที่ลานบ้าน ขอขมาต่อสวรรค์ก่อนถึงจะได้นะเพคะ”
หยวนชิงหลิงและอะซี่ต่างก็หัวเราะขึ้นมาแล้ว มีบางครั้งที่หรงเยว่น่าขันเป็นพิเศษ
สุดท้าย ยังเป็นภายใต้การเร่งเร้าของหยวนชิงหลิง นางถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องไปที่จวนเหลิ่งทางนั้น แต่ปากกลับพูดรำพันอยู่ตลอดว่า เจ้าหกไปจัดการเสบียงแล้ว รอจนเขากลับมาแล้วรู้ว่าตั้งครรภ์ลูกแฝด จะต้องทําให้เขาดีใจมากแน่ๆ
หลังจากที่นางออกจากจวนไป ไม่นานก็กลับมาพิงที่ประตูแล้วกล่าวกับอะซี่ “ทําเรื่องที่ดีให้มากๆมีผลจริงๆ ก่อนข้าท้อง ได้เอาเงินก้อนหนึ่งไปซ่อมแซมสะพานซ่อมแซมถนน จะต้องเป็นเพราะเช่นนี้แน่ๆ อะซี่ เจ้าก็ต้องทําเรื่องที่ดีให้มากๆ เจ้าดูซิ เพราะพระชายารัชทายาทสร้างความสุขให้แก่ราษฎร ช่วยชีวิตคนมากมาย ดังนั้นสวรรค์จึงมักจะมอบบุตรนางเสมอ นี่ก็คือการสนองของผลบุญ”
หยวนชิงหลิงจะหัวเราะก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง “เป็นเช่นนี้หรือ? ข้ายังคิดว่าลูกนี้เป็นข้าที่ได้ตั้งครรภ์กับเจ้าห้าซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสวรรค์ที่มอบให้”
“แน่นอนว่าเป็นสวรรค์มอบให้ สรรพสิ่งในโลกล้วนเป็นสิ่งที่สวรรค์มอบให้ หลังจากนี้ไป สวรรค์ก็คือนายใหญ่ของข้า เอ๊ะ ข้าลืมไปแล้วว่าข้าไหว้พระองค์ไหน เป็นพระองค์ไหนที่ได้ผลกันแน่? ข้าต้องกลับไปหา” หรงเยว่พูดจบ ก็รีบจากไปอย่างรีบร้อน
เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ร้อนใจแล้ว ร้องตะโกนจากทางเงาหลังของนาง “เจ้าต้องไปที่จวนเหลิ่ง ไม่ใช่กลับจวน!”
“อ๋อ ใช่ เกือบลืมไปแล้วเพคะ!” เสียงของหรงเยว่ดังมาจากที่ไกลๆ
หยวนชิงหลิงปล่อยไหล่ลง เฮ้อ หรงเยว่คนนี้!