บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1350 ฮ่องเต้พระราชทานงานแต่งงาน
เรื่องการอนุรักษ์น้ำแคว้นต้าซิง ภายใต้การช่วยเหลือของโสวฝู่คนใหม่ ในที่สุดก็ยื่นเรื่องผ่านแล้ว
ตอนนี้อ๋องหวยได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเลขานุการกรมคลัง และก็คือไฉ่ซิงเอี๊ยของเป่ยถัง ช่วงนี้เจ้าห้ามาหาเขาบ่อย เพราะถึงแม้เรื่องผ่านแล้ว แต่เรื่องที่จะตั้งงบเท่าไหร่ ยังคงต้องให้กรมคลังร่วมตั้งงบขึ้นมา เจ้าห้าหวังอยากที่จะได้งบมามากหน่อย จะได้ลงมือทำได้อย่างดีที่สุด
การควบคุมน้ำ มีคนคนหนึ่งเหมาะสมมาก นั่นก็คือหวางเจียง เจ้าหวาง
เจ้าหวางเชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ แต่ก็เชี่ยวชาญโครงการอนุรักษ์น้ำ รอบรู้ทั้งในเหตุการณ์สมัยโบราณและสมัยปัจจุบัน เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ที่จริงฮ่องเต้หมิงหยวนก็เชื้อเชิญเขาเข้าดำรงตำแหน่งในราชสำนักหลายครั้งแล้ว แต่เขาไม่ยินยอม ครั้งนี้หยู่เหวินเห้าเรียกมา เขาก็เก็บข้าวเก็บของมาแล้ว
ขอตำแหน่งรองเจ้ากรมโยธาธิการ ให้กับเขา ให้เขากับเลขานุการร่วมประสานงานเรื่องโครงการอนุรักษ์น้ำทั้งหมด
ยกหวางเจียงให้เป็นรองเจ้ากรมโยธาธิการ ไม่มีเสียงใดคัดค้าน ภายในทั้งหกกรม กรมโยธาธิการเป็นกรมที่ถูกดูแคลนที่สุด เพราะกรมโยธาธิการ มีแต่พวกช่างค่อนข้างหยาบคาย นักวิชาการจึงดูถูก
แต่หวางเจียงยินดี เขาบอกว่าในกรมโยธาธิการ ที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆคือที่ทำการปกครอง นี่ก็เป็นสาเหตุที่หยู่เหวินเห้าเรียกเขามา เขาก็รีบมาทันทีอย่างไม่อ้อยอิ่ง
เดิมเจ้าหวางเคยคุยกับหยวนชิงหลิงเรื่องจุดมืดดวงอาทิตย์ ครั้งนี้ก่อนไปเมืองแม่น้ำหวย เขาก็มาอีกครั้ง บอกว่ามีเรื่องอยากถามหยวนชิงหลิง
เขาบอกว่าบนดวงอาทิตย์ยังคงมีจุดมืดนั่นอยู่ ถามว่าจุดมืดนี้ส่งผลกระทบต่อเป่ยถังอย่างไร
ที่จริงเขาอยากถามว่า จุดมืดนั่นส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร
หยวนชิงหลิงก็คิดถึงตอนที่คุยเรื่องจุดมืดดวงอาทิตย์กับเขาในตอนนั้นขึ้นมา เขาสำรวจดูมานานแล้ว และก็น่าจะเป็นคนแรกของเป่ยถัง ที่เห็นถึงจุดมืดนี้เคลื่อนไหว ถือว่าเป็นคนไม่ธรรมดาจริงๆ
หยวนชิงหลิงไม่สามารถให้คำตอบกับเขา ไม่อาจบอกได้ว่าการเคลื่อนไหวนี้ ส่งผลทำให้สนามแม่เหล็กโลกไม่เสถียร แล้วก็ส่งผลทำให้ห้วงเวลาบิดเบืยนหรือเกิดช่องโหว่ในห้วงเวลาบางพื้นที่
เจ้าหวางไม่ได้คำตอบ แต่ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เอี่ยม เขาบอกว่าจะต้องมีสักวัน เขาจะต้องหาความจริงออกมาให้ได้
หลังจากเข้าไปแล้ว หยวนชิงหลิงพูดกับหยู่เหวินเห้าว่า “มนุษย์ ก็เพราะมีคนอย่างเจ้าหวาง เป็นนักสำรวจที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงทำให้ก้าวหน้าได้เร็วขนาดนี้”
“ดังนั้น ข้าจึงยกเขาขึ้นมา ในเมื่อมีความสามารถ จะไม่ให้มาทำคุณประโยชน์แก่ราชสำนักได้อย่างไร?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ ใช่ หวางเจียงเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง
แผนโครงการของกรมโยธาธิการออกมาแล้ว ตามที่หยู่เหวินเห้าเสนอก่อนหน้านี้ สร้างเขื่อนกั้นตอนบนของแม่น้ำหวย ปกติใช้ทดน้ำที่นาได้ทั้งสองด้าน กรณีน้ำท่วม ก็สามารถระเบิดเขื่อน ปล่อยแหล่งน้ำสู่พื้นที่เพาะปลูกในเมืองหวู่โจว ถึงแม้น้ำจะท่วมไร่นาบริเวณนั้น แต่ก็ยังสามารถรักษาเมืองหมู่บ้านทางตอนล่าง จำนวนผู้บาดเจ็บเสียชีวิต
และเมืองหวู่โจวก็สามารถโยกย้ายไปทางตอนล่างได้อย่างเหมาะสม เรื่องการอพยพย้ายไม่จำเป็นจะต้องทำในทันที กระทำอย่างเรื่อยๆก็พอ
เจ้าห้ากับเจ้าหวางไปเมืองหวู่โจวด้วยตนเอง สำรวจดูสถานการณ์ในพื้นที่ ใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในการไปกลับ ไม่ถือว่านานมาก รอเขากลับมา ยายหยวนก็ใกล้คลอดแล้ว
จะจากจวนไปหนึ่งเดือน เขาทำใจไม่ได้อย่างยิ่ง อยู่กับภรรยากับลูกสองวันติดต่อกัน แล้วก็ไปยังพระที่นั่ง สุดท้ายก่อนออกเดินทางหนึ่งวัน เข้าวังไปกลับถวายพระพรเสด็จพ่อกับหวงกุ้ยเฟย
ตอนที่ไปถวายพระพรหวงกุ้ยเฟย ได้พายายหยวนกับลูกๆไปด้วย
ตำหนักฉางเหมินถูกซ่อมแซมใหม่ ฮ่องเต้หมิงหยวนสั่งคนมาซ่อมแซมให้ ตอนที่ทั้งสองสามีภรรยาไป การซ่อมแซมยังไม่เสร็จสิ้น กำแพงถูกรื้อไปหนึ่งส่วน แล้วก็สร้างขึ้นมาใหม่
มีเสียงดังเล็กน้อยระหว่างการก่อสร้าง หวงกุ้ยเฟยบอกว่าชินแล้ว ไม่ส่งผลกระทบต่อการพักผ่อน เพราะการทำงานทำแค่ตอนกลางวัน
สีหน้าของนางดีกว่าช่วงก่อนมาก แสดงว่าใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักฉางเหมิน ก็ถึงว่าไม่เลว
นางเองก็ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ในหลายปีมานี้ ก็มีเพียงตอนนี้ที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ก็ดี”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “หากท่านอยู่แล้วไม่ชิน จะย้ายกลับไปเมื่อไหร่ก็ได้”
หวงกุ้ยเฟยรู้ว่านี่เป็นความกตัญญูของเขา จึงมองดูเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้อง ท่านแม่อยู่ที่นี่สบายดี เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ไปทำงานของเจ้าให้ดีก็พอ”
“ขอรับ” เจ้าห้ารับคำ
เขาพูดคุยอยู่กับหวงกุ้ยเฟยในตำหนักสักพัก แล้วก็ไปห้องทรงพระอักษร ให้หยวนชิงหลิงอยู่คุยกับหวงกุ้ยเฟยที่นี่
เทียบกับความสงบสุขของหวงกุ้ยเฟย ฮ่องเต้หมิงหยวนกลับสีหน้าค่อนข้างแย่ ระหว่างพ่อลูก ก่อนหน้านี้เพื่อเรื่องของหวงกุ้ยเฟย เคยมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดความขัดแย้งอะไรกัน ความไม่สบายใจก็ผ่านพ้นไปแล้ว
ฮ่องเต้หมิงหยวนให้เขารีบไปรีบกลับ เดี๋ยวตอนที่พระชายารัชทายาทคลอด เขาจะไม่ได้อยู่ด้วย
“ขอรับ เสด็จพ่อ ท่านเองก็ดูแลตัวเองให้ดี สีหน้าท่านดูไม่ค่อยดี” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนฉีกยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ตั้งแต่ข้าขึ้นครองราชย์ เสด็จปู่ของเจ้าก็คอยแนะนำอยู่เบื้องหลังมาตลอด ตอนนี้เขาไม่อยู่ในวัง ข้ายังไม่เคยชิน หลายวันก่อนข้าส่งคนไปทูลเรื่องแม่น้ำหวย เขาไม่แม้แต่จะฟัง บอกว่าต่อไปจะไม่ถามไถ่อีก”
“นี่แสดงว่าเสด็จปู่เชื่อใจท่านแล้ว” หยู่เหวินเห้าพูดปลอบ
“เชื่อใจหรือผิดหวัง ข้ายังแยกแยะได้อยู่ แต่ข้าจะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เจ้าไปทำงานให้ดี ทำให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี การเกษตรของเป่ยถังไม่สามารถพัฒนามาตลอด เพราะมีภัยธรรมชาติทุกปี หากสามารถทำการอนุรักษ์น้ำไว้ได้ ก็จะสามารถพัฒนาการเกษตรให้ดีขึ้น สิ่งนี้จะมีความสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ลูกรับทราบ ลูกจะทำให้ดีที่สุด”
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูเขา พยักหัวอย่างภาคภูมิใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ ไปเถอะ ไปทำงานเถอะ”
หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกทูลลา”
หลังจากออกมาจากห้องทรงพระอักษร ก็ถามมู่หรูกงกง ค่อยรู้ว่าช่วงนี้เสด็จพ่อนอนไม่หลับมาตลอด หยู่เหวินเห้าทำได้เพียงพูดกำชับมู่หรูกงกงให้คอยดูแลให้ดี
มู่หรูกงกงพูดว่า “องค์ชายรัชทายาทวางใจเถอะ ช่วงนี้ใต้เท้าเหลิ่ง เข้าวังมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ หลังจากคุยเรื่องงานราชการแล้ว ก็อยู่เล่นหมากรุกพูดคุยกัน ฮ่องเต้ดีขึ้นมากแล้ว”
“งั้นก็ดี” หยู่เหวินเห้าค่อยโล่งอก ใต้เท้าเหลิ่งเชี่ยวชาญการปลอบคนที่สุด
หลังจากหยู่เหวินเห้าออกจากเมืองหลวง พระราชโองการพระราชทานงานแต่งงานระหว่างฮุ่ยเทียนกับฮูหยินเหยาก็ถูกส่งมา
พระราชโองการฉบับนี้ ทำให้เกิดการกล่าวขานอย่างไม่น้อย ฮ่องเต้พระราชทานงานแต่งงานให้กับลูกสะใภ้เดิมของตนเอง เรื่องนี้ไม่ทำให้คนอื่นตื่นตระหนกตกใจได้อย่างไร? ราชสำนักก็พระราชทานจวนให้กับฮุ่ยเทียนหนึ่งหลัง ตำแหน่งเจ้าพระยาของเขา สืบสายเลือดสามรุ่น แสดงให้เห็นถึงพระเดชพระคุณอย่างใหญ่หลวง
วันแต่งงานกำหนดไว้เป็นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ถึงตอนนั้นทุกคนต่างก็คลอดลูกเสร็จแล้ว งานแต่งงานนี้จึงน่าจะสามารถจัดได้อย่างคึกคัก
หลังจากฮูหยินเหยาได้รับพระราชโองการ ก็ไม่แสดงออกถึงความดีใจ นางเป็นห่วงความรู้สึกของลูกสาว จึงค่อนข้างไม่สบายใจ
แต่โชคดี ฮุ่ยเทียนได้ทำหน้าที่ก่อนหน้านี้แล้ว เมิ่งเยว่เมิ่งซิงต่างรู้สึกดีกับเขา รู้ว่าเขาสามารถดูแลท่านแม่ได้ ดังนั้นจึงยินดีและดีใจกับเรื่องนี้
โดยเฉพาะเมิ่งเยว่ หลังจากมีพระราชโองการมาแล้ว ยังตั้งใจรีบออกมาจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินเหยา และก็รับเมิ่งซิงกลับมาด้วย
แม่ลูกทั้งสามคนทานข้าวด้วยกัน แล้วก็คุยกันอยู่ที่ระเบียง เมิ่งเยว่เอนพิงฮูหยินเหยา พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ลูกโตแล้ว อีกสองปีก็แต่งงานได้แล้ว แต่ที่ไม่วางใจที่สุดก็คือท่านแม่ ตอนนี้เสด็จปู่พระราชทานงานแต่งงานแล้ว ลุงฮุ่ยเทียนก็เป็นคนที่ดีมาก มีเขาคอยดูแลท่าน ลูกก็วางใจแล้ว”