บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1585 ข้าไม่เหมือนกับพวกเจ้า
หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า ไม่ได้ อายุครบสิบแปดถึงจะดื่มได้
ซาลาเปาค่อนข้างผิดหวัง วางจอกลงพร้อมพูดขึ้นว่า ได้ จะทำตามที่แม่บอก
วันนี้หยู่เหวินเห้ามีความสุข ใช้แขนสะกิดหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า ให้เขาดื่มสักแก้วเถอะ จะว่าไม่โตแต่ก็ไม่เล็กแล้ว อยู่บ้านดื่มสักแก้วไม่เป็นไร ออกไปข้างนอกอย่าดื่มก็พอ
ทังหยวนกับข้าวเหนียวต่างมองดูหยวนชิงหลิง ต่างก็รอให้นางอนุญาต
หยวนชิงหลิงเห็นพวกเขาล้วนอยากดื่มกับพ่อ เห็นว่าคืนนี้มีความสุขกัน จึงให้โอกาสดื่มสักครั้ง นางรินเหล้าให้พวกเด็กๆด้วยตนเอง จอกเหล้าเล็ก กลิ่นเหล้าอ่อนๆ ทำให้พวกเด็กๆยิ้มหัวเราะกันขึ้นมาในทันใด
พวกเขาทั้งสามคน ยกจอกเหล้าขึ้นมาตรงหน้าหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นพร้อมกันว่า พ่อ พวกเราขอเชิญพ่อดื่มเหล้า
หยู่เหวินเห้ามองดูใบหน้าทั้งสามคนที่เหมือนกัน ยังแลดูอ่อนเยาว์ แต่ก็กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจ เขายกจอกเหล้าขึ้นมากระทบกับแก้วของพวกเด็กๆ พร้อมพูดขึ้นว่า มา เราพ่อลูกมาดื่มด้วยกัน
เป็นความรู้สึกที่วิเศษมาก เมื่อหลายปีก่อนยังเป็นเด็กน้อยอุ้มกอดแนบอก ตอนนี้กลับยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชนแก้วเหล้ากับเขาแล้ว
บางทีอาจเป็นเพราะหลังจากส่งไปยังยุคปัจจุบัน พ่อลูกมีเวลาได้อยู่ด้วยกันน้อย จึงมีความรู้สึกเหมือนจู่ๆลูกๆก็โตแล้ว
แสงเทียนส่องสว่างเป็นประกาย บนใบหน้าที่มีความสุขของพวกเด็ก เจ้าห้าจับมือหยวนชิงหลิงอยู่ใต้โต๊ะ มองหน้ากันแล้วยิ้ม
พวกเด็กๆต่างตักกับข้าวให้พวกเขา เต็มถ้วยจนเป็นกองโต หยู่เหวินเย่ดึงมือหยวนชิงหลิงกลับมา พร้อมพูดขึ้นว่า ท่านพ่อ ท่านแม่ทานข้าว ห้ามจับมือกัน
หยวนชิงหลิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า ได้ ทานข้าว ทุกคนทานข้าว
นางเอากับข้าวส่วนหนึ่งในถ้วยแบ่งให้กับเจ้าห้า พร้อมพูดขึ้นว่า ข้าทานไม่หมด เจ้าช่วยข้าทาน
เจ้าห้าพูดขึ้นว่า งั้นเจ้าทานที่ชอบ ที่ไม่ชอบข้าเป็นคนทาน
เขาวางถ้วยลง แล้วแกะกุ้งให้กับเจ้าหยวน จิ้มกับกระเทียมสับแล้ววางในถ้วยของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า ช่วงนี้เจ้าบอกว่าท้องไม่ค่อยสบาย ทานไม่กี่ชิ้นก็พอ อาหารทะเลเย็นชื้นเกินไป กินอาหารทะเลเสร็จก็ต้องดื่มน้ำขิงครึ่งถ้วย
เจ้าเป็นหมอแล้วหรือ? ข้าไม่สบายท้องตรงไหน ก่อนหน้านี้ทานที่จวนอ๋องซู่เยอะเกินไป ทานอาหารอ่อนสองมื้อก็ไม่เป็นไรแล้ว
ไม่ได้ ท้องไม่สบาย ทำให้ป่วยง่าย ยังไงก็ต้องระวังหน่อย เปาเปา ตักน้ำแกงให้แม่หนึ่งถ้วย
ครับ ซาลาเปาลุกขึ้นมา ตักน้ำแกงหนึ่งถ้วยแล้วเอามาให้กับหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า แม่ รีบดื่มตอนร้อนๆ เดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย
ได้ หยวนชิงหลิงหยิบช้อนขึ้นมา ค่อยๆตักดื่ม เป็นน้ำแกงเนื้อปลา สดอร่อยมาก นางรู้สึกประหลาดใจพร้อมพูดขึ้นว่า เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว ฝีมือพ่อครัวยิ่งอยู่ยิ่งดีแล้วหรือ
น้ำแกงพ่อเป็นคนทำเอง เจ๋อหลานเงยหน้าขึ้น พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มสดใสว่า ข้าก็มีส่วนช่วย แม่ข้าว่าง่ายไหม?
พวกเจ้าทำ? หยวนชิงหลิงประหลาดใจอย่างมาก สายตามองดูหยู่เหวินเห้าอย่างอบอุ่น พร้อมพูดขึ้นว่า เจ้าฝึกทำเมนูนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ฝึกกับกวาเอ๋อ ก่อนหน้านี้ในครัวทำน้ำแกงปลา เจ้าบอกว่ามีกลิ่นคาว แต่ก็ยังจะดื่ม ข้ากับกวาเอ๋อจึงช่วยกันคิดค้น ใส่พริกไทยลงไปในแกงปลาเล็กน้อย ช่วยกำจัดกลิ่นคาวได้ และยังคงความสดไว้ ชอบดื่มไหม?
เขาขยับมาดื่มหนึ่งคำ ส่งเสียงเหมือนความอร่อยยังค้างอยู่ในคอไม่รู้จบ พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า อร่อยมากๆ ข้าช่างมีพรสวรรค์ในการทำอาหาร ต่อไปหากเป็นฝ่าบาทไม่ได้แล้ว ข้าก็จะไปเป็นพ่อครัว
หยวนชิงหลิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า เจ้าตั้งใจเป็นฝ่าบาทของเจ้าให้ดีเถอะ ต่อให้เป็นพ่อครัว ก็เป็นพ่อครัวส่วนตัวของข้าเท่านั้น
ส่วนตัว? หยู่เหวินเห้าค่อนข้างลังเล สายตามองไปยังเจ๋อหลานแวบหนึ่ง
หยวนชิงหลิงไม่ได้มอง เห็นว่าเขาลังเล จึงอดไม่ได้ที่จะเงยหัวขึ้นมาถามว่า อืม? ไม่ได้หรือ?
หยู่เหวินเห้ายิ้มอย่างสำนึกผิด พร้อมพูดขึ้นว่า ใช่ว่าไม่ได้ แต่ข้ารับปากคนอื่นไว้ก่อนแล้ว ว่าจะเป็นพ่อครัวส่วนตัวของนาง ข้าต้องรักษาคำพูด
ใคร? หยวนชิงหลิงถามขึ้นมา แล้วก็คิดขึ้นมาได้ทันที มองดูเจ๋อหลาน พร้อมส่ายหัวพูดขึ้นว่า ได้ เจ้าไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวเจ้าเลย เราแม่ลูกหกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
เจ๋อหลานรีบพูดขึ้นว่า ไม่ได้ พ่อ พ่อเป็นพ่อครัวส่วนตัวให้แม่เถอะ ข้าเป็นแม่ครัวส่วนตัวให้พ่อ ดีไหม?
ดี ดี ดีที่สุดเลย หยู่เหวินเห้าดีใจที่สุด ยื่นมือไปลูบหัวลูกสาว พร้อมพูดขึ้นว่า กวาเอ๋อว่าง่ายที่สุด
พ่อ พ่อไม่กลัวพวกเราคิดว่าพ่อลำเอียงหรือ? เซเว่นอัพจ้องมองดูเขา
ลำเอียงหรือ? ไม่มีสักหน่อย หยู่เหวินเห้าคีบน่องไก่ใส่ถ้วยของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า มา น่องไก่ชิ้นนี้ให้รางวัลเจ้า
พวกเราก็จะเอา ลูกชายอีกสี่คนต่างยื่นถ้วยมามองดูหยู่เหวินเห้า
น่องไก่มีแค่สองชิ้น ให้เซเว่นอัพไปแล้วหนึ่งชิ้น งั้นอีกชิ้นหนึ่งให้…..
พ่อ ข้าก็จะเอา เจ๋อหลานก็ยื่นถ้วยมา
เอ่อ….
หยวนชิงหลิงก็ยื่นถ้วยออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า ข้าก็เอา
หยู่เหวินเห้าคีบน่องไก่ มองดูถ้วยทั้งหกตรงหน้า สุดท้ายก็ใส่ในถ้วยหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า ให้ภรรยาสุดที่รัก
พูดเสร็จก็รีบคีบเนื้อไก่ให้พวกเด็กๆคนล่ะชิ้น ยื่นมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก พร้อมพูดขึ้นว่า พรุ่งนี้ให้ห้องครัวฆ่าไก่หลายตัวหน่อย ทานน่องไก่คนละข้าง
ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วก็ยิ้มหัวเราะขึ้นมา เป็นพ่อที่ดีนั้นยากมาก น้ำหนึ่งถ้วยไม่สามารถปรับระดับให้เท่ากันได้
ซาลาเปายิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า พ่อ พวกเราไม่น้อยใจหรอก ล้อพ่อเล่นเฉยๆ ในบ้านก็มีแม่กับน้องสาวที่เป็นผู้หญิง พวกเราที่เป็นผู้ชายต้องดูแลพวกเขา ปกป้องพวกเขา มีของกินอร่อย ล้วนต้องให้พวกเขา พวกเจ้าว่าถูกไหม?
ใช่ พวกเด็กๆต่างพยักหัวเห็นด้วย
คำพูดของพี่ใหญ่ พวกน้องๆกล้าพูดว่าไม่หรือ? และสิ่งที่พี่ชายพูดก็เป็นคำพูดในใจพวกเขา
ยังต้องปกป้องพ่อ พ่ออ่อนแอที่สุดในบ้าน….. เซเว่นอัพทานน่องไก่ไปด้วย พร้อมพูดขึ้น
ทุกคนรีบคีบกับข้าวให้กับเซเว่นอัพ ซาลาเปาพูดขึ้นว่า ทาน อย่าพูดมากขนาดนี้ ทานเข้าไป น่องไก่ก็ยังไม่สามารถปิดปากเจ้าได้หรือ?
เซเว่นอัพรู้ตัวว่าตนเองพูดผิด จึงรีบก้มหน้าก้มตาทานน่องไก่ ไม่กล้าพูดอะไร
หยู่เหวินเห้ากลับอึ้งมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า ปกป้องข้า? ข้าอ่อนแอที่สุด?
หยวนชิงหลิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า ลูกๆพูดว่าจะปกป้องพ่อแม่ พูดออกมาด้วยความกตัญญู ไม่ได้หมายความว่าเจ้าต้องได้รับการปกป้องจริงๆ
อ้อ หยู่เหวินเห้ามองดูพวกลูกๆที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าว ตนเองก็ทานไปได้ไม่กี่คำ แล้วก็มองดูหยวนชิงหลิง กระซิบถามขึ้นว่า ยาอันนั้นของเจ้า ยังมีไหม?
ยาอะไร?
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า ยาที่ฉีดเข้าไปแล้วจะฉลาดอันนั้นไง เจ้าแอบฉีดให้ข้าสักเข็มดีไหม?
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้ว่า อย่าคิดไปเรื่อยเปื่อย เจ้าฉลาดอย่างมาก ไม่ต้องฉีดยา อีกอย่างข้าก็เคยพูดแล้ว ยานั้นต่อไปจะไม่ใช้อีก และก็ไม่มีแล้ว
หยู่เหวินเห้ารับคำ แล้วก็มองดูพวกเด็กๆแวบหนึ่ง พวกเด็กๆต่างก้มหน้าก้มตาทานข้าว ทำเป็นไม่ได้ยิน ซาลาเปาถีบเซเว่นอัพใต้โต๊ะหนึ่งที เซเว่นอัพยิ้มหัวเราะ เขาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย
หยู่เหวินเห้าทานจนถึงสุดท้าย แลดูเหมือนมีเรื่องทำให้ค่อนข้างหนักใจ
รอเก็บถ้วยน้ำแกงเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองสามีภรรยาเข้าห้องไปห่ออั่งเปา เขาถามหยวนชิงหลิว่า ลับหลังข้าพวกเจ้าต่างแอบพูดว่าข้าโง่เขลาใช่ไหม? ไม่ได้เรื่องที่สุด?
ไม่มีใครคิดแบบนี้ หยวนชิงหลิงวางเมล็ดทองในมือลง ยื่นมือไปโอบกอดคอของเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า ที่จริง ทั้งหมดในครอบครัวของเรา เจ้าน่าชื่นชมที่สุด
ที่ผ่านมาข้าก็คิดเช่นนี้ แต่เมื่อเทียบกับพวกเจ้า สิ่งที่พวกเจ้ารู้ ข้าล้วนไม่รู้ มักรู้สึกว่าแตกต่างกับพวกเจ้า หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นมาอย่างหวุดหวิด เงยหน้าขึ้นมาเป็นสีหน้าหยวนชิงหลิงเปลี่ยนไป ก็อดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นมาได้ว่า นี่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในใจลึกๆ ที่นางไม่อยากพูดถึง จึงรีบพูดขึ้นว่า ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น ให้ข้าฉีดยาจริงๆ ข้าก็ไม่ยอมหรอก