บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1621 ไม่น่ารังเกียจเท่าเจ้า
จิ่งเทียนไม่ได้หักล้างคำพูดของนาง แค่พยักหน้ารับ ที่เจ้าพูดมาข้าเข้าใจดี
เจ๋อหลานพูดว่า อื้ม ดังนั้น บางทีถ้าผ่านไปหลังจากนี้อีกสักห้าปี เจ้าอาจจะรู้สึกว่าทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไปในวันนี้มันโง่มาก แล้วก็หุนหันพลันแล่นมาก หรือบางที รอจนเมื่อเจ้าได้พบกับผู้หญิงที่เจ้าชอบจริง ๆ ชอบด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่เพราะความกตัญญู เจ้าก็อาจรู้สึกเสียใจกับการกระทำในวันนี้ก็ได้
จิ่งเทียนส่งเสียงตอบรับเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ด้วยท่าทางที่นางแสดงออกที่นี่ เขาก็ไม่ควรจะพูดอะไรในทำนองลักพาตัวนางทางอารมณ์แบบนั้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระทางใจให้นางอีก ทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้ล้วนเป็นการตัดสินใจของเขา เป็นทัศนคติของเขาเพียงฝ่ายเดียวทั้งนั้น เขาสามารถยืนหยัดต่อไปได้เรื่อย ๆ แต่นางไม่จำเป็นต้องรู้ นางสามารถมีทางเลือกอื่นได้เช่นกัน
เพียงแต่ เขาจะยังเฝ้ารอคอยนางเสมอไป
และจะพยายามไขว่คว้าแย่งชิง เพื่อให้ได้รับคำอนุมัติจากนาง
เจ๋อหลานเหมือนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เผยรอยยิ้มอ่อนโยน เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว
ข้าเข้าใจดี สีหน้าเขาซีดเซียวเล็กน้อย แต่ยังฝืนพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้
เซินกงกงนำเอกสารมา จิ่งเทียนยื่นไปให้เจ๋อหลานดู เจ๋อหลานอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ เงื่อนไขที่เขาเสนอมานั้นยุติธรรมมาก ถึงขั้นบอกได้ว่ายกผลประโยชน์ให้เมืองโร่ตู
หลังจากปิดเอกสาร นางก็มองเขาแล้วพูดว่า ขอบคุณมากที่เจ้าคิดเพื่อเมืองโร่ตูของเรา แล้วก็ขอบคุณมากที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาความขุ่นข้องใจระหว่างสองประเทศ กระทั่งถึงขั้นช่วยเมืองโร่ตูของเรา ทำให้ประชาชนกับราชสำนักหันมาปรองดองกันได้
เจ้ารู้ด้วยหรือ? เขาชะงักไปเล็กน้อย
เจ๋อหลานยิ้มน้อย ๆ ใช่แล้ว ข้าเคยไปสอบถามมา
เจ้าอย่าเข้าใจผิดนะ ข้าไม่ได้ทำเพื่อเจ้าแบบจำเพาะเจาะจงหรอก เจ้าอย่าเอาไปคิดมากจนเป็นภาระทางใจเลยนะ เขารีบอธิบายอย่างร้อนรน
เจ๋อหลานส่ายหน้า อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้รู้สึกว่ามีภาระอะไรเลย จริง ๆ นะ ตรงกันข้าม ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ามากที่ทำเรื่องต่าง ๆ เพื่อข้ามากมายขนาดนี้ รวมถึงเรื่องในวันนี้ด้วย ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจมากจริง ๆ แต่ข้ายังไม่ถึงวัยที่จะพูดเรื่องแต่งงาน ตอนนี้สิ่งที่ข้าสนใจก็ไม่ใช่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของคนวัยหนุ่มสาว ข้าอายุยังน้อย อีกทั้งคนที่ข้าจะแต่งด้วยในอนาคต นอกจากจะต้องเป็นคนที่ท่านพ่อของข้าชื่นชมและยอมรับได้แล้ว ข้ากับเขายังต้องใคร่ชอบพอกันทั้งสองฝ่ายด้วย
เขาดูคล้ายสะกิดถูกอะไรบางอย่างในใจ มองนางแล้วพูดว่า ข้าเข้าใจแล้ว
จู่ ๆ ในใจเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย นางไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยสิ้นเชิง แค่หวังว่าเขาจะเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น สามารถตัดสินใจด้วยความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ในวัยที่เหมาะสมมากขึ้น
นางคิดว่าที่เขาทำทั้งหมดนี้ เพียงเพราะความรู้สึกที่อยากตอบแทนบุญคุณ แต่ไม่ใช่ความรัก
เขาจะค่อย ๆ พิสูจน์ให้นางเห็น ว่ามันไม่ใช่ ไม่ใช่ความรู้สึกอยากตอบแทนบุญคุณ แต่เป็นเพราะนางได้เดินเข้ามาในใจเขาตั้งนานแล้วต่างหาก
เราค่อยมาหารือกันเรื่องรูปแบบความร่วมมือในวันอื่นเถอะนะ ข้าจะกลับแล้ว เจ๋อหลานพูด
อื้ม ได้! ดวงตาของจิ่งเทียนพลันมืดหม่นลง ทำไมถึงได้รวดเร็วขนาดนี้นะ
พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังมาหาเจ้า เจ๋อหลานพูดอย่างอ่อนโยน หันไปมองเหลิ่งหมิงหยู่ที่ยืนอยู่หน้าประตู น้องชายของข้ายืนมาทั้งคืนแล้ว เหนื่อยมากแล้ว ข้าจะพาเขากลับไปพักผ่อน
ได้ ได้ ! จิ่งเทียนเหลียวมองเหลิ่งหมิงหยู่แวบหนึ่ง รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขายังไม่ได้กินอะไรเลย ข้าควรสั่งคนไปเตรียมของกินให้เขาสักหน่อย
ไม่เป็นไร ที่โรงเตี๊ยมมีอาหาร เจ๋อหลานพูดจบ ก็โบกมือให้เขา พวกเราไปก่อนนะ ไม่ต้องไปส่งหรอก พบกันพรุ่งนี้
ให้ข้าไปส่งพวกเจ้าเถอะ! จิ่งเทียนยืนกราน
ได้เห็นหน้ากันนานขึ้นอีกนิด ก็ยังดี
เจ๋อหลานส่ายหน้า ไม่ เจ้าเป็นฮ่องเต้ของแคว้นแคว้นหนึ่ง ไม่ต้องส่งข้าหรอก
จิ่งเทียนทำได้เพียงพูดว่า ถ้าอย่างนั้นก็ได้
เขามองดูเจ๋อหลานหันหลังเดินจากไป เหลิ่งหมิงหยู่พูดขณะที่เดินลงไปชั้นล่างว่า พี่สาว ข้ายืนเสียจนขาเป็นเหน็บชาไปหมดแล้ว
กลับไปค่อยให้แม่นางโจวนวดให้เสียหน่อย น้ำเสียงของเจ๋อหลานฟังแล้วเอ็นดูอีกฝ่ายมาก
ดี! เหลิ่งหมิงหยู่พูดไปพลาง ก็ประคองเจ๋อหลานลงบันไดไปพร้อมกัน
จิ่งเทียนพิงราวบันไดเฝ้ามองนางเดินจากไป ในใจรู้สึกอึดอัดทรมานจนพูดไม่ออก แม้ว่าเขาจะเคยคาดเดาได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบนี้ไว้นานแล้ว แต่เขาก็ยังคิดเข้าข้างตัวเอง
เจ๋อหลานบอกว่าเขาจะนึกเสียใจภายหลัง เขานึกเสียใจแล้วจริง ๆ เสียใจที่จัดการแบบนี้ เดิมทีเขาควรจะทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้
ฝ่าบาท องค์หญิงไม่ต้องการของขวัญของท่านหรือ? ไม่รู้ว่าอะเฉินขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
อื้ม จิ่งเทียนหันกลับไปมองที่กล่องผ้า หยกแกะสลักสองชิ้นนี้ เขาศึกษาวิธีการทำอยู่นานมาก ทั้งยังทำหยกเสียหายจนต้องทิ้งไปไม่น้อย กว่าจะแกะสลักออกมาเป็นอย่างนี้ได้
แต่นางไม่ต้องการมัน
อย่าทุกข์ใจไปเลยฝ่าบาท องค์หญิงยังเด็กขนาดนี้ ไม่แน่ว่านางอาจไม่รู้ถึงความพยายามของท่าน อะเฉินปลอบใจ
จิ่งเทียนส่ายหน้า นางรู้มากเลยต่างหาก ถึงได้ไม่ยอมรับมัน
อะเฉินตกใจจนผงะ รู้มากเลยอย่างนั้นรึ? แต่ดูไปแล้วไม่เหมือนว่ารู้สักเท่าไรเลย
ความรู้สึกผิดหวังของจิ่งเทียนสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง แล้วถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแน่วแน่ อะเฉิน ข้าเข้าใจความต้องการของนางดีแล้ว นางหวังว่าตอนนี้ข้าจะเป็นฮ่องเต้ที่ดี ก่อนนางจะกลับ นางบอกว่าข้าเป็นราชาของแคว้นแคว้นหนึ่ง นางหวังให้ข้าเป็นฮ่องเต้ที่ดีให้ได้ก่อน
เป็นเช่นนี้นี่เอง….หรอกรึ! ถึงแม้อะเฉินจะไม่เข้าใจ แต่ขอแค่ฝ่าบาทไม่รู้สึกทุกข์ใจก็ดีแล้ว
ระหว่างทางที่พวกเจ๋อหลานออกจากวังไป เหลิ่งหมิงหยู่เอ่ยถามนางว่า พี่สาว ทำไมเจ้าถึงไม่ต้องการหยกแกะสลักที่ฝ่าบาทมอบให้ล่ะ? เจ้ารังเกียจเขาหรือ?
เจ๋อหลานยิ้มพลางส่ายหน้า ข้าไม่มีวันรังเกียจเขาไปตลอดกาลเลยล่ะ เพราะเขาเป็นฮ่องเต้ที่ใจป้ำและมีความกล้าได้กล้าเสียมาก การปกครองประเทศก็มีประสิทธิภาพ ทำให้แคว้นจินสามารถบรรเทาวิกฤตหลังการเปลี่ยนมือได้ ทั้งยังรักษามิตรภาพระหว่างสองประเทศ ทำให้พรมแดนระหว่างสองประเทศมีสันติภาพได้อีกด้วย
ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมเจ้าถึงไม่ต้องการของขวัญของเขาล่ะ? เหลิ่งหมิงหยู่ไม่เข้าใจ โบราณไม่ได้บอกไว้หรอกหรือว่า น้ำใจดีของผู้อื่นเป็นสิ่งไม่ควรปฏิเสธง่าย ๆ น่ะ?
เจ๋อหลานตอบว่า เพราะหยกแกะสลักรูปคนชิ้นนั้น เป็นตัวแทนของการให้คำสัญญา หมิงหยู่ คำว่าสัญญาสองคำนี้มีความสำคัญมาก หากวันข้างหน้าเจ้าไม่มีความสามารถพอที่จะทำมันได้ ก็จงอย่าให้คำสัญญากับใครง่าย ๆ โดยเด็ดขาด
แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าเขาจะแต่งกับเจ้า ตอนนี้เขาก็จะมาขอเจ้าแต่งงานแล้วจริง ๆ ก็เท่ากับว่าเขาทำตามสัญญาแล้วนี่
ใช่แล้ว แต่ข้ายังไม่อาจให้สัญญากับเขาได้ ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ส่วนข้าเองก็มีเช่นกัน เขาทำอะไรหลายอย่างเพื่อข้ามากมาย ตั้งแต่กล้วยไม้แกะสลักตรงทางขึ้นบันได ไปจนถึงหยกแกะสลักรูปคน จนมาถึงหนังสือหมั้นหมายของวันนี้ เขาทุ่มเทเวลากับสิ่งเหล่านี้มากเกินไปแล้ว แต่มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาควรทำในเวลานี้
หลังจากแม่นางโจวได้ฟังแล้ว นางก็เงียบไปนานก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ ว่า หากมีใครสักคนที่เต็มใจทำสิ่งเหล่านี้เพื่อข้าล่ะก็ สั่งให้ข้าไปตายข้าก็ยินดี
เจ๋อหลานยิ้ม นางซาบซึ้งใจ แต่สิ่งนี้มันหนักหนาเกินไป
ตอนนี้นางยังไม่ได้คิดเรื่องความรัก แต่ถ้ามีวันใดวันหนึ่งที่นางต้องรับความรักจากใครสักคน มันจะต้องไม่รู้สึกว่ามาพร้อมภาระ และต้องไม่มีเรื่องความรู้สึกติดค้างบุญคุณที่ช่วยชีวิตอะไรแบบนั้นมาปะปนด้วย พวกเราไปหาท่านลุงที่ที่พักอาคันตุกะกันก่อนเถอะ เจ๋อหลานพูด
ได้! แม่นางโจวตอบรับ
อ๋องอานหลังจากออกจากวังก็ก่นด่าสาปแช่งเป็นการใหญ่ โวยวายว่าฮ่องเต้น้อยมากเล่ห์ วางกับดักอาศัยช่วงชุลมุนจะชิงหลานสาวพวกเขาไม่พอ ยังโยนความผิดมาให้พวกเขาแบกรับอีก
อ๋องเว่ยยังคงยึดตามคำพูดนั้น ไม่ได้รู้เลยว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ให้เขาไปอธิบายกับเจ้าห้าเอง
แขกจากต่างแคว้นก็ล้วนสับสนงงงวยเช่นกัน เพราะไม่เคยเห็นพิธีการแต่งตั้งฮองเฮาเช่นนี้มาก่อน ตัวฮองเฮาเองก็ไม่มา แล้วยังจะเรียกว่าพิธีแต่งตั้งฮองเฮาได้อีกหรือ?
พิธีอภิเษกของราชาแคว้นแคว้นหนึ่ง ทำราวกับเด็กเล่นขายของเช่นนี้ จะว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมันก็ประทับใจอยู่ แต่มันไม่ถูกต้องเหมาะสมตามธรรมเนียม
ดังนั้น หลังจากที่กลับไปถึงที่พักอาคันตุกะแล้ว ทุกคนจึงถกเถียงเรื่องนี้กันต่อ จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้พูดไปถึงเจ๋อหลาน
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันถ้วนหน้า ที่แท้ องค์หญิงน้อยแห่งเป่ยถังคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฮ่องเต้แห่งแคว้นจิน องค์หญิงองค์นี้ช่างทำให้คนรู้สึกทึ่งระคนชื่นชมเหลือเกินแล้วจริง ๆ
ทุกคนต่างก็สงสัยใคร่รู้ขึ้นมาทันทีว่า ในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ทำไม องค์หญิงถึงกลายเป็นคนที่ช่วยฮ่องเต้แคว้นจินเอาไว้ได้
ทั้งอ๋องเว่ยและอ๋องอานต่างก็ตอบไม่ได้ ทั้งไม่คิดจะตอบด้วย พวกเขารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในเรื่องตลกสักเรื่องหนึ่ง เหมือนเป็นหนึ่งในแผนร่างแผนหนึ่ง ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าฮ่องเต้น้อยต้องการอะไรกันแน่
แม้ว่าอ๋องเว่ยจะเอาแต่พูดว่าเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อกลับไปถึงห้องพักพร้อมกับอ๋องอาน กลับยังพูดอย่างโกรธเคืองขึ้นมาว่า เขาประกาศให้สาธารณชนรู้ว่าเจ๋อหลานเป็นฮองเฮาของเขา เช่นนั้นหลังจากนี้ไป เจ๋อหลานจะยังมีทางเลือกอื่นหรือไม่? จะมีใครมาขอเจ๋อหลานแต่งงานอีกล่ะ?
สุดท้ายอ๋องอานได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็รีบเออออไปด้วยทันที นั่นสิ ทั้งยังปิดหูปิดตาพวกเราสองคนให้งมโข่งอีก นี่มันจะมากเกินไปแล้ว
แต่หลังจากที่อ๋องอานหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก็มองไปที่เขาอีกครั้ง แต่ในแง่ของวิธีการที่น่ารังเกียจ จริง ๆ แล้วก็ยังห่างไกลจากที่เจ้าเคยใช้อยู่มากเลยเชียวล่ะ ตอนนั้นจิ้งเหอนางมีคู่หมั้นแล้วด้วยซ้ำ เจ้าก็ใช้วิธีลักพาตัวนางหนีไปแบบหน้าด้าน ๆ พอมาดูตอนนี้ วิธีการของฮ่องเต้แคว้นจินนั้นก็ไม่นับว่าชั่วช้าน่ารังเกียจจนเกินไปหรอก อย่างน้อยเขาก็แค่บอกคนอื่นว่าเจ๋อหลานเป็นฮองเฮาคนหนึ่ง หากเจ๋อหลานไม่ตอบตกลง ตำแหน่งนี้ก็แค่เว้นว่างไปก็เท่านั้น