บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1643 ต่างก็กลับไปรวมตัวกัน
เซียวเหยากงทำหน้าบึ้งถลึงตาให้กับอู๋ซ่างหวง
อู๋ซ่างหวงไม่สนใจนาง ยังถามคุณย่าหยวนอีกว่า เจ้าไม่สนับสนุนให้นางคลอดลูกคนนี้ใช่หรือไม่
คุณย่าหยวนพูดว่า คนเป็นหมอ ข้าได้แต่ให้คำแนะนำของตนเอง จะเก็บเอาไว้หรือไม่ เป็นพวกเขาที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ
อู๋ซ่างหวงก็ทำหน้าบึ้งเช่นกัน ไม่ได้ให้เจ้าพูดคำพูดที่เป็นทางการเช่นนี้ แต่ให้เจ้าพูดในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง
คุณย่าหยวนนั่งลง ครุ่นคิดชั่วครู่ ข้าไม่แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงสูง และความเสี่ยงนี้จะเป็นการลำบากถึงชีวิตของนาง แต่ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก
ไท่ซ่างหวงใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ พูดว่า พวกเรารอให้พวกเขาตัดสินในก่อนเถอะ ถ้าหากพวกเขาตัดสินใจจะเก็บไว้ พวกเราจะพยายามทุกวิถีทางในการหาทรัพยากรในการรักษามาช่วยพวกเขาอย่างเต็มที่ เรื่องอื่น พวกเราไม่ทำ อย่างนี้ก็นับว่าเป็นการสนับสนุนของพวกเรา
คุณย่าหยวนยิ้ม ทรัพยากรในการรักษา ยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีปรัชญาแล้ว
แต่ว่าน้ำใจส่วนนี้ ยังคงยากอยู่ดี เพราะว่าตอนนี้ฮูหยินเหยาก็ไม่นับว่าเป็นคนในราชวงศ์แล้ว
อู๋ซ่างหวงให้คนไปส่งข่าวให้กับหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงให้คนตอบกลับไปว่า จะทำตามพระบัญชา
ที่จริงแม้อู๋ซ่างหวงจะไม่มีรับสั่งอะไร นางก็จะพยายามช่วยอย่างเต็มที่
และแม้ว่านางจะให้ยาไปแล้ว แต่นางรู้สึกว่าฮูหยินเหยาต้องการเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ นางสามารถกล่อมฮุ่ยเทียนได้ด้วย
พูดถึงเรื่องความสามารถในการพูด ฮูหยินเหยานั้นห่างชั้นจากฮุ่ยเทียนหลายขุมนัก
วันที่สองนางออกจากวังไปที่จวนฮูหยินเหยาตั้งแต่เช้า เป็นดังคาด ฮูหยินเหยาเอ่ยอย่างวิงวอนว่า พวกเราปรึกษากันแล้ว ตัดสินใจลองดูสักครั้ง แต่เจ้าวางใจได้ ถ้าหากระหว่างบำรุงครรภ์เกิดปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ขึ้น พวกเราจะหยุดทันที ภายหน้าจะฟังที่เจ้าพูดทั้งหมด จะไม่ขัดขืนอีก
หยวนชิงหลิงมองไปทางฮุ่ยเทียน สีหน้าฮุ่ยเทียนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ใต้ตาของทั้งสองคนหมองคล้ำอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนคงผ่านการปรึกษากันอย่างดุเดือดทีเดียว
แต่สุดท้ายฮุ่ยเทียนก็แพ้
มองแววตาที่วิงวอนของฮูหยินเหยา หยวนชิงหลิงได้เตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆแล้ว ถามว่า แล้วพวกท่านได้บอกกับเมิ่งเยว่กับเมิ่งซิงหรือยัง
ฮูหยินเหยาพูดว่า ยังไม่ได้บอก แต่ข้าจะบอกกับพวกนางเอง ข้าเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วพวกนางจะสนับสนุนข้า และแม้ว่าจะคัดค้าน แต่ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ข้าควรจะตัดสินใจเอง
หยวนชิงหลิงพยักหน้า ใช่ นางมีสิทธิ์ในการให้กำเนิดและเลี้ยงดู ฉะนั้นนางมีสิทธิ์ในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
นางเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตลอด
ในเมื่อพวกเขาทำการตัดสินใจแล้ว หยวนชิงหลิงก็ไม่พูดมากอีก กุมมือของนางเอาไว้ พูดว่า ถ้าเช่นนั้น ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ปกป้องเจ้ากับลูกของเจ้า
ฮูหยินเหยาน้ำตารื้นขึ้นมา ขอบคุณ ขอบคุณ
ฮุ่ยเทียนสีหน้าซับซ้อนเอ่ยขึ้นว่า ขอบพระทัยฮองเฮา
หยวนชิงหลิงพูดว่า ไม่ต้องขอบคุณ แต่ต้องการให้พวกเจ้าร่วมมืออย่างเต็มที่ จำเป็นต้องฟังข้าทุกอย่าง ในเรื่องการบำรุงรักษาครรภ์ เจ้าไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ เจ้าได้แต่ฟังและทำตามเท่านั้น
นางพูดอย่างจริงจังมาก
ในใจของฮูหยินเหยารู้ดีถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ฮองเฮาไม่เคยจริงจังต่อหน้านางเช่นนี้มานานแล้ว
นางก็พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น เชื่อฟังทุกคำอย่างแน่นอน
หยวนชิงหลิงหยิบเอาโฟลิคออกมาหนึ่งกล่องและวิตามินอีกบางส่วน ส่งให้กับฮุ่ยเทียน จากนั้นก็มอบหมายเขา ให้กินวันละกี่เม็ด กินอย่างไร
ฮุ่ยเทียนจดจำอย่างตั้งใจ เมื่อนางพูดจบแล้ว ก็ถามว่า กินแค่นี้ก็พอแล้วหรือ
หยวนชิงหลิงพูดว่า ไม่ใช่ นี่เป็นเพียงสิ่งของพื้นฐาน นางจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ นอกจากกินสิ่งเหล่านี้ ยังต้องนอนนิ่งๆ ฉีดยา กระทั่งให้ความร่วมมือในการกินยาต้มของท่านย่าด้วย จะชะล่าใจไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนพยักหน้ารับ
หยวนชิงหลิงยังพูดอีกว่า นี่เป็นสงครามที่กินเวลายาวนาน ต้องการความร่วมแรงร่วมใจของพวกเรา จึงจะสามารถต้อนรับชีวิตใหม่นี้มาอยู่บนโลกได้ พวกเราต้องพยายามสู้ทุกคน
สู้ ฮุ่ยเทียนกับฮูหยินเหยาต่างก็สบตากัน รู้สึกไม่เข้าใจอยู่บ้าง
หมายถึงพยายามเต็มที่ ยืนหยัดให้ได้ หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆ สายตาเต็มไปด้วยกำลังใจ
ทั้งสองคนต่างก็ยิ้ม อืม แน่นอน
ดี ตอนนี้ไปนอนบนเตียงก่อน ทำการตรวจเบื้องต้นกัน อุปกรณ์มีจำกัด ทำได้แต่การตรวจง่ายๆ เช่นวัดความดันโลหิตฟังเสียงของหัวใจและการทำงานของปอด แล้วก็เจาะเลือดกลับไปทำการทดสอบสักหน่อย
หลังจากเจาะเลือด และวางไว้ในกล่องยาแล้ว พระชายาอ๋องทั้งหลายก็มาถึงแล้ว ได้ยินว่าฮูหยินเหยาจะเก็บเด็กเอาไว้ ทุกคนต่างก็ไม่พูดอะไร ได้แต่นั่งลงข้างกายของนาง บอกกับนางว่าทุกคนต่างก็สนับสนุนนาง
มีเพียงช่วงเวลาที่เจอกับปัญหาเท่านั้น จึงจะรู้ว่าความสามัคคีนั้นสำคัญมาก ฮูหยินเหยาซาบซึ้งใจจนร้องไห้ออกมา
หรงเยว่รู้สึกคลายใจลงมาบ้าง เมื่อคืนหลังจากกลับบ้านแล้ว ก็ทุกข์ใจอยู่ครึ่งค่อนคืน แต่นางรู้ว่าสุขภาพของฮูหยินเหยานั้นไม่เหมือนนาง ไม่สามารถบีบบังคับกันได้
ตอนนี้ได้ยินว่านางจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ ลองดู นางรู้สึกดีใจจริงๆ แต่ก็รู้สึกเป็นกังวลในเวลาเดียวกัน
ฉะนั้น ตอนกินข้าวในจวนระหว่างสะใภ้ร่วมตระกูล เพราะฮูหยินเหยาไม่อยู่ด้วย พวกนางจึงถามหยวนชิงหลิงเป็นการเฉพาะ ถามเรื่องที่พึงระวังให้ชัดเจน
หลังจากถามจนเข้าใจแล้ว พวกนางที่เป็นสะใภ้ร่วมตระกูลก็เริ่มแบ่งงานกันทำ หลังจากปรึกษากันแล้วพวกเขาจะหมุนเวียนกันมาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินเหยาวันละหนึ่งคน เป็นเพื่อนคุย แก้เหงา ให้กำลังใจนาง
หรงเยว่พูดว่า ไม่ใช่เก้าเดือนหรือ เวลาผ่านไปเร็วมาก พวกเราสะใภ้ร่วมตระกูลไม่ได้ให้กำเนิดลูกมานานแล้ว นี่เป็นเรื่องมงคล พวกเราร่วมกันต้อนรับการมาเกิดของเด็กคนนี้เถอะ
หยวนหย่งอี้ก็พูดว่า ใช่ พวกเราทุกคนจะเผยให้เห็นถึงความกังวลต่อหน้าฮูหยินเหยาไม่ได้เด็ดขาด ต้องแสดงให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดี ให้นางมีอารมณ์ผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
พระชายาซุนพูดยิ้มๆว่า วางใจเถอะ ข้าจะทำให้นางมีความสุข จะพูดเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นข้างนอกให้นางฟังทุกวัน ข้าจะกลับไปสั่งให้คนไปรวบรวมมาให้ จะพูดแต่เรื่องที่มีความสุขและสนุกให้นางฟัง ให้นางอารมณ์ดีตลอดทุกวัน
ฮองเฮา อารมณ์ที่ดีจะช่วยนางได้มากใช่หรือไม่ หรงเยว่หันไปถามหยวนชิงหลิง
อืม ช่วยได้มากทีเดียว
หยวนชิงหลิงมองพวกนาง ไม่รู้ว่าทำไมจึงอยากจะร้องไห้นัก
ฮุ่ยเทียนฟังบทสนทนาของพวกนางอยู่ข้างนอก และกลับไปบอกให้ฮูหยินเหยาทราบ
ฮูหยินเหยาฟังแล้ว น้ำตาก็รื้นเต็มดวงตา ทุกคนต่างก็สนับสนุนนาง นางต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
เช่นนี้เอง ฮูหยินเหยาเริ่มเข้าสู่กระบวนการบำรุงรักษาครรภ์ที่แสนจะทรหดและยากลำบาก
หลังจากที่เมิ่งเยว่และเมิ่งซิงได้รับรู้การตัดสินใจของนางแล้ว ก็ไม่ได้ว่าอะไร กุมมือของแม่เอาไว้ต่างพูดว่าสนับสนุนนาง
ที่จริงพวกนางนั้นคัดค้าน เป็นหยวนชิงหลิงที่ไปพูดเกลี้ยกล่อมพวกนางไว้ เพราะฮูหยินเหยาได้ตัดสินใจจะคลอด สิ่งเดียวที่พวกนางทำได้ก็คือสนับสนุนนางเท่านั้น
อู๋ซ่างหวงให้คนส่งของขวัญมามากมาย ในขณะเดียวกัน หยวนหย่งอี้ก็บอกกล่าวเรื่องราวที่ฮูหยินเหยาตั้งครรภ์ให้จวิ้นจู่จิ้งเหอได้รับทราบ จวิ้นจู่จิ้งเหอพูดขึ้นทันทีว่า การอยู่เป็นเพื่อนนางต่อจากนี้ นับข้าเข้าไปด้วยคนหนึ่ง ข้าจะผลัดเวรพร้อมกับทุกคน
พระชายาซุนส่งพิราบสื่อสารไปยังเมืองเจียงเป่ย พระชายาอันเก็บข้าวของในคืนนั้นทันที บอกว่าพรุ่งนี้จะเดินทางกลับเมืองหลวง
อ๋องอันไม่ได้อยากจะกลับไปมากนัก ที่สำคัญคือหนังสือแต่งตั้งฮองเฮาแห่งแคว้นจินยังไม่นับว่าผ่านไปอย่างแท้จริง น้องห้ายังคงรอคิดบัญชีอยู่ อยู่ที่เมืองเจียงเป่ยยังนับว่าห่างไกลเมืองหลวงและฮ่องเต้อยู่ แต่ถ้าหลับเมืองหลวง นั่นก็เท่ากับทำได้แค่มองตากันแต่ทำอะไรไม่ได้
อีกอย่าง งานด้านกองทัพของเมืองเจียงเป่ยก็ยุ่งมาก
พระชายาอันพูดด้วยรอยยิ้มสดใส ขอโทษด้วย ไม่ได้คิดจะพาท่านกลับไปด้วย ครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างสะใภ้ร่วมตระกูล ท่านไม่จำเป็นต้องกลับไป
หา อ๋องอันตกตะลึง ไม่พาเขากลับไปจริงๆด้วย
ข้าไปครั้งนี้ ไม่ใช่เวลาสิบวันหรือครึ่งเดือน แต่จะอยู่จนฮูหยินเหยาให้กำเนิดค่อยกลับมา พระชายาอันพูด
เจ้าจะกลับไปคนเดียวหรือ แม้แต่ลูกสาวก็ไม่พาไปด้วย อ๋องอันกลุ้มใจ
ไม่พาไป ข้าก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองบ้าง ปรนนิบัติพวกท่านพ่อลูกมาตั้งหลายปีแล้ว ข้าควรจะได้พักซะบ้าง พระชายาอันพูดพลางหัวเราะ