บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1665 เธออย่าเพิ่งเข้าร่วมก่อน
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังแล้ว คุณครูจางยังไม่ได้เดินออกจากห้องเรียน ก็เห็นเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกรูเข้าไปทางนักเรียนใหม่
ฉันชื่อหวางจื่อฉิง
ฉันชื่อซูถิง
ฉันชื่อเจียฮุ่ย
นักเรียนหญิงสองสามคนแย่งกันพูดแนะนำตัวเอง จากนั้นถามเขา นายย้ายมาจากโรงเรียนไหน? ชื่อของนายน่าฟังจังเลย คิดไม่ถึงว่านายจะมีนามสกุลสองพยางค์? นายมีงานอดิเรกอะไร? สุดสัปดาห์ฉันเชิญนายไปดื่มชาดีไหม?
หนังสือเล่มหนึ่งตีลงมาบนหัวของหยู่เหวินหวง หยู่เหวินหวงยื่นมือมารับไว้ ยืนขึ้นมา เห็นนักเรียนที่ดันโต๊ะของเขาไว้ตลอดเมื่อครู่มองดูเขาด้วยความไม่เป็นมิตร น่าจะเพราะเห็นว่าหนังสือไม่ได้ตีลงบนศีรษะของเขา มีท่าทางผิดหวังขุ่นเคืองเล็กน้อย
หลี่เจี้ยนฮุยนายจะเกินไปแล้วนะ นายทุบตีนักเรียนใหม่ได้ยังไงกันน่ะ? นักเรียนหญิงที่ชื่อเจียฮุยรีบออกหน้าช่วยหยู่เหวินหวง เท้าสะเอวถามนักเรียนชายที่เอาหนังสือมาตี
ไม่ได้ระวัง ได้รึเปล่า? หลี่เจี้ยนฮุยเปล่งเสียงไม่พอใจคำหนึ่ง มือหนึ่งแย่งหนังสือกลับมาจากมือของหยู่เหวินหวง สองมือสอดไปในกระเป๋ากางเกง ฉันไปฉี่ ขี้เกียจจะสนใจพวกงี่เง่ากลุ่มนี้อย่างพวกเธอ
เพื่อนนักเรียนหยู่เหวินหวง นายไม่ต้องไปสนใจเขา เขาร้ายมาก นักเรียนเจียฮุยกล่าว
ใช่แล้ว เขากากที่สุดในชั้นเรียนของพวกเรา สอบได้สิบกว่าคะแนนมาตลอด ช่างขายหน้านัก
พวกเธอสอบได้สูงเหรอ? ก็ไม่ใช่ยี่สิบสามสิบคะแนนหรือ? หลี่จื่อเยว่เพื่อนร่วมโต๊ะตัวเล็กๆเตี้ยๆของหยู่เหวินหวงหัวเราะแล้วกล่าว
หยู่เหวินหวงได้ฟังตรงนี้ มีท่าทางรับไม่ได้เล็กน้อย นี่เป็นห้องเรียนอะไรกันแน่นะ? ยี่สิบสามสิบคะแนนสอบออกมาได้ยังไง?
นี่ ฉันได้ยินมาว่า มีนักเรียนชายคนหนึ่งวิ่งมาจากด้านนอก สีหน้าดีอกดีใจ หยู่เหวินหวงที่มาใหม่ คะแนนสูงสุดวิชาคณิตศาสตร์แค่เก้าจุดห้าคะแนน ฮ่าๆๆๆ เป็นคนที่กากที่สุดในชั้นเรียนของพวกเรา ย่ำแย่กว่าหลี่เจี้ยนฮุยอีก
ไม่ใช่หรอกมั้ง? เหล่านักเรียนชายหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง กากเกินไปแล้ว ขยะนะเนี้ย
แววตาเยาะเย้ยของทุกคนถาโถมไปที่หยู่เหวินหวง แม้แต่เพื่อนนักเรียนหญิงที่ล้อมรอบเขาเมื่อครู่ก็หัวเราะขึ้นมาแล้ว
หยู่เหวินหวงหยิบกระติกน้ำร้อนแล้วเดินออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ย เทน้ำใส่แก้วหนึ่งแก้วอยู่หน้าเครื่องทำน้ำร้อน หลี่เจี้ยนฮุยออกมาจากห้องน้ำ จงใจสะบัดน้ำใส่หน้าของหยู่เหวินหวง จากนั้นก็หัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย หยู่เหวินเก้าคะแนน ถุย
หยู่เหวินหวงเช็ดน้ำบนใบหน้า ถอนหายใจเบาๆเฮือกหนึ่ง นายรอเดี๋ยว!
หลี่เจี้ยนฮุยหันกลับมามองหยู่เหวินหวง มือสองข้างยังคงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เงยหน้าขึ้น จมูกชี้ฟ้า ทำไม?
เมื่อกี้นายสะบัดโดนฉันแล้ว หยู่เหวินหวงกล่าว
หลี่เจี้ยนฮุยเดินเข้าไปใกล้หนึ่งก้าว รูปร่างที่แข็งแรงมหึมายืดขึ้น กล่าวอย่างดูถูก จากนั้นล่ะ?
หยู่เหวินหวงไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย มองดูเขา กล่าวอย่างสบายๆว่า ขอโทษ!
หลี่เจี้ยนฮุยยื่นมือออกมาชี้หน้าอกของเขา ริมฝีปากยกขึ้นพูดล้อเลียนเสียดสีผู้อื่น ขอโทษ? สมองนายไม่ได้เสียหรอกนะ? ฉันสะบัดมือของฉัน ใครให้นายมาขวางอยู่ตรงนี้ล่ะ? ปัญญาอ่อน
พูดจบ เขาก็เดินไปทางห้องเรียนด้วยความหยิ่งผยอง หยู่เหวินหวงยิ้มอย่างเย็นชาทันที ในดวงตาฉายแววเย็นยะเยือก เพิ่งจะเดินถึงหน้าห้องเรียนหลี่เจี้ยนฮุยเท้าซ้ายสะดุดเท้าขวา พุ่งไปด้านหน้า หกล้มหน้าทิ่ม
เพื่อนนักเรียนทั้งห้องหัวเราะกันยกใหญ่ทันที
หลี่เจี้ยนฮุยลุกขึ้นมาอย่างสะบักสะบอม ด่าทอด้วยความโมโห หัวเราะอะไร? พวกเธอไม่เคยเห็นคนหกล้มกันหรือไง?
เขาหันกลับไปมองดูหยู่เหวินหวง เขายังยืนอยู่ด้านนอกระเบียง มีระยะห่างกับเขาสิบเมตร เขาไม่ได้หัวเราะ เพียงแค่กำลังยกกระติกน้ำร้อนขึ้นดื่มน้ำ จากนั้นก็เดินกลับมาด้วยสายตาที่เย็นชา
หลี่เจี้ยนฮุยด่าว่าดวงซวยไปคำหนึ่ง ก็ตามกลับไปที่ที่นั่งด้วย
การเข้าเรียนวันแรก ก็ผ่านไปท่ามกลางความวุ่นวายอลหม่านเช่นนี้
ก่อนถึงเวลาเรียนด้วยตัวเองในตอนเย็น ครูประจำชั้นคุณครูจางเรียกหยู่เหวินหวงเข้าไป บอกว่า นักเรียนหยู่เหวินหวง เธอเป็นเด็กมาใหม่ ไม่อย่างนั้นการสอบวัดความรู้ที่เรียนไปครั้งแรก เธอก็อย่าเพิ่งเข้าร่วมก่อนเลย ฉันบอกกับหัวหน้าระดับชั้นคำหนึ่งก็ได้
หยู่เหวินหวงส่ายหน้า ผมอยากเข้าร่วมครับ
คุณครูจางกล่าว เธอมาใหม่ อีกทั้งหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ที่สอนซ่อมเธอก็ไม่ได้มา ทบทวนบทเรียนได้ไม่ดีแน่นอน หลังจากนี้มีการสอบมากมาย เธอวางใจได้ สอบได้ทุกวัน ครั้งนี้ก็อย่าเพิ่งเข้าร่วมเลย
หยู่เหวินหวงกล่าว แบบนี้เถอะครับ ครูให้ผมเข้าร่วมสอบ ไม่ต้องเอาผมนับเข้าไปในคะแนนเฉลี่ยก็ได้ ผมอยากทำข้อสอบ ดูว่าตัวเองไม่ได้ตรงไหน
คุณครูจางขมวดคิ้ว ก็เข้าร่วมสอบแล้ว จะไม่นับเข้าไปได้หรือ?