บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1693 กลับไปประชุมผู้ปกครอง
ในเมืองหลวง เมื่อวันหยุดของพวกเด็กๆหมดลงแล้ว อาการของฮูหยินเหยาก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ดังนั้นหยวนชิงหลิงจึงคิดว่าจะกลับไปยุคปัจจุบันกับพวกเด็กๆ
นอกจากฉีดยายับยั้งแล้ว ที่สำคัญคือพวกหยู่เหวินหวงบอกว่าใกล้จะต้องประชุมผู้ปกครองแล้ว
การประชุมผู้ปกครองมัธยมที่หก เรียกได้ว่าบ่อยมาก แต่การประชุมผู้ปกครองครั้งแรกถือว่าสำคัญมาก
แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง ถามพวกเขาว่าประชุมผู้ปกครองวันไหน กลับต่างก็ประชุมวันที่สิบเดือนสิบตอนทุ่มครึ่ง
นั่นก็แสดงว่า หยวนชิงหลิงสามารถไปได้แค่โรงเรียนของลูกคนใดคนหนึ่ง
แล้วจะไปโรงเรียนใครล่ะ? นี่ทำให้หยวนชิงหลิงค่อนข้างลำบากใจ
โค้กพูดขึ้นอย่างว่าง่ายว่า แม่ ให้อาไปโรงเรียนข้า แม่ไปโรงเรียนเซเว่นอัพ
ยังไงก็เรียนเก่งทั้งคู่ และก็ไม่มีปัญหาทางสภาพจิตใจที่ต้องระวัง เป็นเพียงการให้ความร่วมมือ พวกลูกๆก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการประชุมผู้ปกครองนี้
แต่หยวนชิงหลิงให้ความสำคัญ
ก่อนหน้านี้พวกเด็กๆเรียนอยู่ที่ยุคปัจจุบัน ก็ไม่ค่อยได้ไปงานประชุมผู้ปกครอง
ในขณะที่กำลังลำบากใจ หยู่เหวินเห้าก็พูดเสนอขึ้นว่า ไม่งั้น ข้าไปกับพวกเจ้า? ไปไม่กี่วันไม่เป็นไร จากนั้นพวกเราก็สามารถแบ่งกันไปประชุมผู้ปกครองแล้ว
นี่ถือเป็นข้อเสนอที่ดี
แต่การประชุมผู้ปกครองคืออะไรล่ะ? เจ้าห้าไม่ค่อยเข้าใจ
เซเว่นอัพรีบพูดขึ้นว่า ก็เหมือนกับตอนที่พ่อขึ้นว่าราชการ ข้างล่างมีคนฟังมากมาย พูดถึงเรื่องที่ผู้ปกครองกับนักเรียนควรระวัง จากนั้นก็พูดถึงคำขวัญพร้อมกัน ปลุกเร้าความกระตือรือร้นของทุกคน
เจ้าห้าพูดขึ้นว่า แต่ ข้าไม่รู้ว่าควรพูดว่าอะไร?
พ่อไม่ต้องพูด พ่อกับผู้ปกครองคนอื่นๆนั่งฟังอยู่ข้างล่าง คุณครูพูดอยู่บนเวที
เจ้าห้าหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า งั้นก็เป็นการแลกเปลี่ยนบทบาทกันใช่ไหม? ข้าเป็นขุนนาง ได้ ในเมื่อข้าไม่ต้องพูดอะไร งั้นก็ง่ายมาก ข้าไป
ไปดูเป็นความรู้ก็ดี และฟังพวกเขาพูด การประชุมผู้ปกครองก็น่าสนุกดี เป็นส่วนสำคัญของช่วงการเจริญเติบโตของเด็กๆ ต้องไปด้วยตนเอง
พวกเด็กๆดีใจอย่างแน่นอน ยังไงคนอื่นก็มีพ่อแม่ไป
แน่นอนว่าลุงไปก็ได้ แต่พ่อแม่ไปดียิ่งกว่า
พวกเด็กต่างก็มีความภาคภูมิใจ เพราะพ่อแม่รูปร่างหน้าตาดี
เจ้าห้ารีบเรียกประชุมพวกอ๋องชินโสวฝู่กับท่านชายสี่เข้าวัง แจ้งเรื่องที่จะออกเดินทาง ว่าจะไปประมาณห้าวัน
ได้รู้ว่าเขาจะไปทำธุระของพวกองค์ชาย โสวฝู่กับท่านชายสี่ต่างสนับสนุนอย่างเต็มที่ เรื่องของลูกไม่ควรที่จะละเลย ยังไงประเทศชาติก็สงบสุข มีพวกเขาก็พอแล้ว
พวกอ๋องชินไม่มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว เพราะต่อให้มีความเห็นอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์
กษัตริย์กับขุนนางมีความสามัคคีกันดีมากจริงๆ เจ้าห้าภาคภูมิใจอย่างมาก
แต่เขาเพิ่งเดินออกไป โส่วฝู่ก็บ่นพูดกับท่านชายสี่ว่า หาข้ออ้างไปเที่ยวอีกแล้ว ไม่มีขีดจำกัดเลยจริงๆ
ท่านชายสี่ยักไหล่พร้อมพูดขึ้นว่า นั่นช่วยไม่ได้ ตอนนี้แผ่นดินสงบสุข ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ เขาจะไปก็ไปเถอะ ยังไงก่อนหน้านี้เขาก็วางแผนที่จะพาฮองเฮาไปตรวจตราทางตอนเหนือหลายเดือนอยู่แล้ว
ไปตรวจตราทางตอนเหนือได้ กษัตริย์ออกไปตรวจตรา ให้ประชาชนได้ซาบซึ้งในพระเดชพระคุณของฮ่องเต้ เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักเป่ยถังกับประชาชนให้ใกล้ชิดกันยิ่งกัน มีส่วนช่วยให้เจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง ข้าไม่คัดค้าน ข้ายังอยากตามไปด้วยซ้ำ
ไม่ ให้ข้าตามไปดีกว่า ท่านชายสี่พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า ราชสำนักไม่สามารถที่จะไม่มีฮ่องเต้แล้วก็ยังไม่มีโส่วฝู่ แต่ข้าไม่เป็นไร ข้าเป็นเพียงคนของกรมคลัง
ตามกฎเดิม เรามาพนันกัน โส่วฝู่พูดขึ้น
ได้ ครั้งนี้ข้าพนันเจ็ดวัน ท่านชายสี่พูดขึ้น
สิบวัน โส่วฝู่สะบัดแขนเสื้อ ท่าทีสุขุม ราวกับมั่นใจว่าจะชนะ
อ๋องหวยอึ้งพร้อมพูดขึ้นว่า แต่เขาบอกว่าห้าวัน เขาเป็นกษัตริย์ พูดคำไหนคำนั้น
ทุกคนยักไหล่ มีแต่เจ้าหกที่ใสซื่อไร้เดียงสา
ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เคยกลับมาตรงตามวันที่บอกไหม? ล้วนช้ากว่าหลายวัน
ตอนนี้ที่พนันก็คือ จะกลับมาช้ากี่วัน