บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1707 ปล่อย
ซาลาเปาไม่สนใจว่ามันจะเป็นจิ้งจอกหิมะ หมาป่าหิมะ หรือว่าจิ้งจอกอัคคีสำหรับเขาแล้วมันก็คือเจ้าตาทับทิม
อยู่ในวังเจ้าตาทับทิมเหมือนจะมีความสุขมาก วิ่งไปเล่นทุกตำหนัก ลูกชายคนเล็กของอะซี่ชอบมันมากเป็นพิเศษ แต่มันไม่ยอมให้เด็กผู้ชายอุ้ม พออุ้มหน่อยก็ขู่เอาๆ
แต่ถ้าเป็นหยู่เหวินเห้าอุ้ม มันกลับเรียบร้อยมาก
เล่นอยู่ในวังหลายวัน ครั้นวันหยุดสิ้นสุดลง ทั้งสามก็กลับค่ายทหาร
เจ้าตาทับทิมไม่ต้องดื่มนมแล้ว กินเนื้อคำโตตามหมาป่าซาลาเปา
แต่มันยังไม่ให้มีเนื้อมีหนังเท่าไร ยังเป็นเจ้าตัวนุ่มนิ่มเล็กๆ
แต่ปลายขนเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว กลายเป็นสีแดงก่ำเฉกเช่นเดียวกับดวงตา
ทว่าด้านในขนยังเป็นสีขาวหิมะเหมือนเดิม อย่างกับลูกผสม
ระยะนี้ซาลาเปาฝึกซ้อมหนัก ออกไปแต่เช้าค่ำแล้วจึงกลับ ยังไม่ทันได้ไตร่ตรองเรื่องเอามันไปปล่อย
รอจนมีเวลาก็ผ่านไปสองเดือนกว่าแล้ว เห็นเจ้าตาทับทิมร่างกำยำดี ดังนั้นจึงหารือกับหมาป่าต้าเปา ว่าจะนำเจ้าตาทับทิมไปปล่อย
หมาป่าต้าเปาอาลัยอาวรณ์มาก ปกป้องเจ้าตาทับทิมไม่เอาให้เอามันไปปล่อย
สุดท้ายซาลาเปาจึงขู่มัน ว่าหากไม่เอาเจ้าตาทับทิมไปปล่อย ก็จะเอามันไปปล่อยแทน เมื่อนั้นมันจึงยอมจำนน
ซาลาเปาพาเจ้าตาทับทิมเข้าเขาลึก อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับมันครู่หนึ่ง เจ้าตาทับทิมไม่รู้ว่าตนกำลังจะถูกทิ้ง ขณะที่กำลังเล่นสนุก เล่นพักหนึ่งแล้วก็มาถูไถมือของซาลาเปา จากนั้นก็วิ่งออกไปเล่นอีก
บัดนี้ส่วนขนสีแดงของเจ้าตาทับทิมมากกว่าเดิมอีกประมาณหนึ่งแล้ว แดงอย่างเพลิง งดงามมาก
ซาลาเปาอุ้มมันขึ้นมา หอมมันฟอดหนึ่ง เจ้าต้องกลับสู่ธรรมชาตินะ ไปหาพ่อแม่เจ้าเถอะ
ว่าแล้วก็วางเจ้าตาทับทิมลง โบกมือ ไปเล่น ไปเล่นต่อ!
เจ้าตาทับทิมวิ่งไปอีกอย่างร่าเริง
รอจนมันวิ่งไปวิ่งมา วิ่งจนเหนื่อยกลับมาที่เดิมอีกครั้งก็ไม่พบซาลาเปาเสียแล้ว
เจ้าตาทับทิมเริ่มลนลาน ไม่กล้าเดิน หมอบอยู่ในพุ่มหญ้า ชะโงกหัวออกไปดูข้างนอก เกรงว่านายน้อยกลับมาแล้วจะหามันไม่เจอ
แต่รออยู่นาน รอจนตะวันคล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้วก็ไม่เห็นกลับมา
มันเรียกสองเสียง ในภูเขาสะท้อนเสียงของมัน เมื่อนั้นมันจึงยิ่งตื่นตระหนก เดินออกมาจากพุ่มหญ้าไปรอบๆ ครั้นได้ยินเสียงนกกระพือปีก มันก็วิ่งพรวดกลับเข้าไปขดตัวอยู่ในป่าหญ้า ไม่กล้าออกมาอีก
มันทั้งกระหายทั้งหิว แต่ที่นี่ไม่มีของกิน
และมันก็ไม่กล้าขยับด้วย ข้างนอกมืดสนิท ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
นายน้อยเล่า? ไยจึงไม่กลับมาหามัน?
พี่ต้าเปาล่ะ? ทำไมไม่กลับมาหามัน?
ซาลาเปาลงเขาไปแล้ว ครั้นกลับถึงค่ายทหารก็เก็บที่นอนของเจ้าตาทับทิม ซักสะอาดแล้วก็ผึ่งไว้ คิดจะให้หมาป่าต้าเปาใช้
หมาป่าต้าเปาโกรธเขา ไม่สนใจเขา หมอบอยู่นอกค่ายทหารมองท้องฟ้าที่มืดลงทุกที
พอถึงเวลาอาหารเย็น ซาลาเปาก็เก็บเนื้อมาสองชุดเหมือนทุกที ครั้นถึงปากประตูแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าปล่อยเจ้าตาทับทิม ไปแล้ว ดังนั้นจึงเอาเนื้อทั้งหมดให้หมาป่าต้าเปาเสีย
หมาป่าต้าเปาไม่กิน ซึมกะทือหมอบอยู่ที่พื้น จ้องนายอย่างเคืองโกรธ
ซาลาเปาหัวเราะ หมุนตัวเข้าห้องไป ยังจะงอนอีกแน่ะ
เพียงแต่…ที่จริงเขาก็ห่วงเจ้าตาทับทิม อยู่เหมือนกัน
มันจะหาอาหารเองได้ไหม? จะหาพ่อแม่มันเจอไหม?
นึกถึงที่เสด็จแม่กำชับ หากปล่อยมันแล้วยังต้องตามสังเกตอีกสักหน่อย มันจะได้ไม่หิวตายอยู่ในเขาลึกเพราะหาของกินไม่ได้
คิดแล้วเขาก็ออกไปเรียกหมาป่าต้าเปา ไป ไปดูเจ้าตาทับทิมกัน!
หมาป่าต้าเปาเด้งขึ้นมาทันที ห้อมล้อมเขาอย่างดีใจ
หนึ่งคนหนึ่งหมาป่าหิมะ ตรงดิ่งเข้าเขาลึก
เป็นยามราตรีแล้ว ดวงดาวเปล่งประกาย ส่องมายังพื้นพิภพ ซาลาเปากลับไปตามเส้นทางเดิม พลางคิดไม่รู้ว่าเจ้าตาทับทิมไปถึงไหนแล้ว ไม่แน่ว่าจะหาพบ
แต่พอเดินถึงจุดที่ปล่อยเจ้าตาทับทิม หมาป่าต้าเปาก็ร้องแล้วกระโจนเข้าไป
เขารีบวิ่งตาม แต่กลับเห็นเจ้าตาทับทิมหมอบอยู่ในพุ่มหญ้า ท่าทางหิวโหยไส้กิ่ว เมื่อเห็นพวกเขามา มันก็กระดิกหางวิ่งพรวดตรงดิ่งออกมาหาซาลาเปา
ซาลาเปาอุ้มมันขึ้น คลึงหัวน้อยๆ ของมัน ไยเจ้าไม่ไปเล่า? ไปหาพ่อแม่เจ้าสิ!
เจ้าตาทับทิมร้องหงิงๆๆ พยายามถูไถมือเขา ท่าทางทั้งร้อนรนทั้งน้อยใจ ซาลาเปาเห็นแล้วก็ให้รู้สึกปวดใจขึ้นมา