บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1718 จวนอ๋องเข้าแล้วออกยาก
คนพวกนี้เข้าใจยากเสียจริง หลังจากตรวจเสร็จแล้วค่าของทุกคนล้วนไม่สวยงามนัก แต่กลับยังโห่ร้องว่าคืนนี้กินเนื้อย่างกันได้อย่างเต็มกำลัง
แล้วยังคัดค้านไม่ได้อีก เพราะตลอดมาจวนอ๋องซู่มีกฎ ว่าแม้นมีกิจกรรมขนาดใหญ่อะไรก็ต้องย่างเนื้อ ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมมากมาย แล้วยังไม่ถือว่าเป็นกิจกรรมขนาดใหญ่อีกหรือ?
ถึงอย่างไรเมื่อมีคนโห่ร้องขึ้นมาเช่นนี้แล้ว หัวหน้าองครักษ์เงาดำก็พาท่านเสือไปซื้อเนื้อ
หยวนชิงหลิงโมโหจนขำ บ่นกับอ๋องชินเฟิงอันและพระชายา ให้พวกเขาไปห้าม เพราะตอนฉลองปีใหม่ก็กินมื้อใหญ่ทุกวัน ตอนนี้ยังจะย่างเนื้ออีก กินมากไปแล้วจริงๆ
อ๋องชินเฟิงอันก็โมโหมาก ด่าทอกับแผ่นหลังของหัวหน้าองครักษ์เงาดำไปยก ชาตินี้ก็หมดไปกับคำว่ากินนั่นแหละ กินน้อยหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร? ความดันไขมันสูงแล้ว ยังไม่รู้จักถนอมสุขภาพร่างกายตัวเองอีก ไม่รู้จักหวงแหนชีวิตตัวเอง คนเช่นนี้มิคู่ควรให้สงสาร!
หลังจากด่าเสร็จ ก็เอ่ยกับหยวนชิงหลิง เจ้าวางใจเถอะ กินมื้อนี้แล้ว หากเขากล้าไปซื้อเนื้อมาย่างอีก ข้าจะหักขาเขาเสีย
หยวนชิงหลิงจะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่ใช่
นี่เป็นการห้ามหรือ? นี่เป็นการยอมให้โดยปริยาย แล้วยังผสมโรงด้วยอีก
นางมองไปทางพระชายาเฟิงอัน พระชายาเฟิงอันลังเลครู่หนึ่ง กินมากเกินไปไม่ดีจริงๆ ย่างเนื้อยังต้องสุมไฟ จากมื้อนี้ก็ไม่กินแล้ว
ได้ สองสามีภรรยาเหมือนกัน ไม่! เหมือนกันทั้งจวนอ๋องซู่เลยต่างหาก!
หยวนชิงหลิงได้แต่หัวเราะเจื่อนฮาๆ ไปจัดการกับคุณย่า ต้มเป็นยาน้ำหม้อหนึ่งให้พวกเขา ขจัดมันดับร้อน
อีกอย่าง สมุนไพรก็มีฤทธิ์ลดความดันได้ปริมาณหนึ่งด้วย หากจะกินเนื้อย่างก็ต้องดื่มยา นี่เป็นกฎใหม่!
อย่างไรก็ได้ ไม่ห้ามกินเนื้อก็พอ
ตอนแรกหยวนชิงหลิงยังเคืองอยู่บ้าง แต่ครั้นเนื้อกองหนึ่งวางอยู่ตรงหน้านางแล้ว คนสูงวัยทั้งหลายพากันมองนางตาปริบๆ นั่นเป็นเนื้อที่ย่างให้นางโดยเฉพาะ หวังแต่จะได้ยินนางพูดว่า ‘กินได้’ จากปากนาง
หยวนชิงหลิงใจอ่อนพลัน กินเถอะๆ แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้ต้องกินของรสจืดสามวันนะ
ได้เลย! ทุกคนเริ่มลงมือกันทันที
ครั้งหยวนชิงหลิงเห็นพวกเขากินกันอย่างมีความสุขขนาดนั้น ก็อยากจะร่วมสนุกด้วย กินสักสองสามชิ้นแล้วกัน แต่เมื่อก้มหน้าลง เนื้อย่างจานเต็มๆ ของนางไปไหนเสียแล้วล่ะ?
ไม่มีใครมองนาง ต่างคนต่างกินของตัวเอง หยวนชิงหลิงกระทั่งไม่รู้ว่าใครเอาเนื้อย่างของนางไป อย่างน้อยนางก็มีพลังวิเศษนะ ความเร็วในการฉวยเนื้อจะเกินไปหน่อยกระมัง? แม้แต่นางก็ไม่เห็น!
ยังเป็นหยู่เหวินเห้ายื่นให้นางเสียอีก กินสิ ต้องพูดเลยว่าเนื้อย่างที่พวกเขาทำอร่อยจริงๆ
เนื้อหอมฉุยผสานกับกลิ่นหอมของเครื่องย่างมุดเข้าจมูก ต่อต้านไม่ไหวจริงๆ ฟันขาวกัดไปคำหนึ่ง จากนั้นก็ปฏิเสธมันไม่ได้อีก
สวรรค์ เนื้อนี่มิใช่เนื้อธรรมดาหรือ? ไยจึงรสเลิศเช่นนี้? สด นุ่ม หอมอย่างหาที่เปรียบ!
ย่างมาหลายสิบปี ก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว อู๋ซ่างหวงเป่าเนื้อย่างในจาน ถือเป็นการตอบความฉงนในใจหยวนชิงหลิง จากนั้นก็เคี้ยวคำใหญ่อย่างรวดเร็ว
หยวนชิงหลิงก็เริ่มกินด้วย ไม่เห็นหัวหน้าองครักษ์เงาดำยักคิ้วหลิ่วตากับหัวหน้าองครักษ์ฟ้าผ่า เห็นหรือยัง? วิธีต่อกรกับศัตรูที่ดีที่สุดก็คือดึงศัตรูมาร่วม ให้นางกลายเป็นพันธมิตรของตน
ต่อไปหากเปิดงานย่างเนื้ออีก นางคงต้องเอาเนื้อมาเองแน่ ยังจะห้ามอะไรอีก?
หัวหน้าองครักษ์ฟ้าผ่าเหลือบมองไปทางย่าหยวนแวบหนึ่ง
ก็ยังมีนางอีกไม่ใช่หรือ? จะต่อกรอย่างไร?
องครักษ์เงาดำยักไหล่ นี่ต่อกรด้วยยาก ขิงแก่ร้อยปี ขั้นเซียนแล้ว!
หลังจากเต็มที่แล้วกลับในยามดึก หยวนชิงหลิงถึงกับรู้สึกว่าหนังท้องกลม
โอ้โห นี่นางกินไปเท่าไรกัน?
ไม่จบเพียงเท่านี้ ถัดจากนี้สองสามวัน จวนอ๋องซู่ยังมีคนเข้าวังเชิญนางร่วงงานเลี้ยงกินอีกทุกวัน
กระทั่งวันที่แปด หยวนชิงหลิงก็รู้สึกว่าตนอ้วนไปอย่างน้อยหกเจ็ดชั่ง
จวนอ๋องซู่เข้าแล้วออกยากจริงๆ จากนี้รูปร่างมิใส่ใจอีก