บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1728 รู้สึกโทษตัวเองอยู่บ้างเล็กน้อย
เจ้าหญิงยิ้มแล้วพูดว่า เจ้าคนชั่วนั่นจับมือข้า แต่ท่านวางใจเถอะ ราชบุตรเขยตัดมือเขาทิ้งแล้วล่ะ
หยวนชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เงยหน้าขึ้นแล้วปรายตามองไปทางท่านชายสี่ที่มีสีหน้า
เย็นเยียบอย่างน่ากลัว คิดในใจว่า มีรึจะหยุดแค่ตัดมือ? เจ้าคนชั่วนั่นลักพาตัวนางไป ด้วยนิสัยของ
ท่านชายสี่ เขามีแต่จะสับคนชั่วนั่นจนเละเป็นซอสเนื้อซะมากกว่า
พี่สะใภ้ อย่าได้กังวลเลย เรื่องนี้ไม่ควรเปิดเผยออกไป ท่านแม่สามียังไม่รู้ ข้าเกรงว่านางจะเป็นห่วง เจ้าหญิงเข้ามากระซิบกระซาบ
เจ้าหญิงเป็นคนที่กตัญญู นางรู้ว่าท่านแม่สามีเคยต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้มาก่อน
เจ้านี่นะ! ทำให้ข้าตกใจแทบตายแล้ว หยวนชิงหลิงวัดความดันโลหิตของนาง ตรวจฟังเสียงหัวใจ ยังดีที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา
ข้าไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรราชบุตรเขยก็ต้องมาช่วยข้าแน่ เจ้าหญิงเงยศีรษะ
ขึ้น มองไปยังท่านชายสี่ ในดวงตาฉายแววรักใคร่ชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง
ตลอดหลายปีมานี้ วิธีใช้ชีวิตคู่ระหว่างพวกเขาสามีภรรยาล้วนเป็นเช่นนี้ นางรักใคร่เทิดทูนเขา ส่วนเขาก็รักใคร่เอ็นดูคอยตามใจนาง
แต่สายตาที่ท่านชายสี่มองเข้าไปในดวงตาของนางในครั้งนี้ กลับไม่ใช่แววตาที่แสดงความเสน่หาเอ็นดูเหมือนแต่ก่อน แต่กลับมีสีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจัง
อั้ยหยา! จู่ ๆ เจ้าหญิงก็ร้องออกมาเสียงหนึ่ง
สีหน้าของท่านชายสี่เปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงกับหันหลังไปโดยไม่รู้ตัว แล้วชักดาบออกจากฝัก
หยวนชิงหลิงมองเขา จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าคนที่สมควรไปหาหมอไม่ใช่เจ้าหญิงหรอก แต่เป็นเขาต่างหาก
ครั้งนี้เจ้าหญิงถูกลักพาตัวไป ทำให้ตาเฒ่านี่ตกใจกลัวแทบแย่แล้ว
เจ้าหญิงยืนขึ้น แล้วพูดเบา ๆ ว่า ข้าแค่เล็บหักเท่านั้นเอง!
ท่านชายสี่ค่อย ๆ วางดาบลง แววตาสลับซับซ้อนไม่หยุด โอ้!
หยวนชิงหลิงปลอบเจ้าหญิงให้นั่งลง คุยกับนางอีกสักสองสามคำ แล้วหันไปพูดกับท่านชายสี่ว่า
ออกไปคุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?
ท่านชายสี่ไม่อยากอยู่ห่างเจ้าหญิง จึงพูดว่า มีเรื่องอะไรก็พูดกันเสียที่นี่เถอะ
ออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ แค่ไม่กี่คำ! หยวนชิงหลิงยืนกราน
เขาเหลือบมองเจ้าหญิงแวบหนึ่ง พูดว่า เจ้ารอข้าที่นี่นะ อย่าไปไหนเด็ดขาด
ข้าไม่ออกไปไหนแน่นอน! เจ้าหญิงพยักหน้าแล้วนั่งเงียบ ๆ บนเก้าอี้
ท่านชายสี่หมุนตัวแล้วเดินออกไปหาหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงรอเขาอยู่ในสนาม เมื่อเห็นเขาออกมา ก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดเบา ๆ ว่า อาจารย์ อย่าได้โทษตัวเองเลย แล้วก็ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ท่านช่วยนางกลับมาได้สำเร็จแล้ว อีกทั้งเรื่องแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ท่านชายสี่จิกฝ่ามือ มองนางแวบหนึ่ง ใครบอกเจ้าว่าข้าโทษตัวเอง?
ใบหน้าของท่านร้อยวันพันปีก็มีแค่สีหน้าเดียวตลอด แต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อครู่ที่ท่านยืนอยู่ในนั้น กลับไม่กล้าแม้แต่จะเดินห่างออกไปสักครึ่งก้าว สายตาก็เอาแต่จ้องไปที่นางตลอด สีหน้าเคร่งเครียดตั้งเท่าไหร่ แค่จะโทษตัวเองยังกลัวด้วยซ้ำ อีกทั้งนางแค่อุทานว่าอั้ยหยาคำเดียว ท่านก็ชักดาบออกมาแล้ว ดาบของท่าน มันไม่ควรจะชักออกมาง่าย ๆ สิ
สีหน้าเฉยชาของท่านชายสี่ปรากฏแววหนักใจ หลายปีมานี้ ข้าคิดไปเองมาโดยตลอดว่าตัวเองปกป้องนางได้ดีมากแต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพราะว่าไม่มีใครลงมือกับนางต่างหาก แม้แต่ไอ้โจรกระจอก ๆ ก็ยังลักพาตัวนางไปได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังเกือบเกิดเรื่องร้ายขึ้น ถ้าข้าไปช้ากว่านั้นอีกนิดเดียว ผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงมากแน่ ข้าไม่อาจอภัยให้ตัวเองได้
หยวนชิงหลิงพูดว่า จะคิดแบบนั้นไม่ได้นะ…..
ท่านชายสี่ยื่นมือขึ้นมาห้าม การพูดจาโน้มน้าวหรือปลอบโยนแบบนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้าแม้แต่น้อย ไม่ต้องพยายามรักษาข้า แม้ว่าข้าจะรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจกับนึกโทษตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอาการทางจิตใจใด ๆ จนเป็นปัญหาหรอก
หยวนชิงหลิงหลุดหัวเราะ เอาเถอะ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้ ข้ารู้ว่าท่านจะปรับตัวกับมันได้ในที่สุด หลังจากนี้ งานด้านการรักษาความปลอดภัยของสำนักเหลิ่งหลังจะได้ยิ่งทำดีขึ้น มีหูมีตามากขึ้นในเมืองหลวง
เนื่องจากความสงบสุขในช่วงหลายปีมานี้ คนของสำนักเหลิ่งหลังจึงหย่อนการระแวดระวังลง ครั้งนี้เจ้าหญิงถูกลักพาตัวไป ย่อมเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังพวกเขา
ในยามที่บ้านเมืองวุ่นวาย ก็จะมีคนเลวในยามที่บ้านเมืองวุ่นวาย ในยามที่บ้านเมืองสงบสุข ก็จะมีคนเลวในยามที่บ้านเมืองสงบสุข ในโลกใบนี้ คนดีมีมาก คนเลวก็ย่อมมีเช่นกัน
เมื่อเวลาล่วงเลยไประยะหนึ่ง บรรดาพระชายาทั้งหลายก็รู้ว่าน้องสะใภ้ตัวน้อยเกิดเรื่อง จึงรีบไปเยี่ยมเยียนด้วยความเป็นห่วง
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แน่นอนว่าหรงเยว่เป็นคนเอาไปเล่านั่นเอง
ท่านชายสี่ถอยออกไปท่ามกลางเสียงถามไถ่เจี๊ยวจ๊าวของเหล่าพระชายา จ้องมองไปที่หรงเยว่เขม็ง
เขาอยากให้หลิงเอ๋อได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หรงเยว่นี่ช่างเป็นฆ้องปากแตกเสียจริง
แต่เมื่อเห็นว่า หลิงเอ๋อเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นให้ทุกคนฟังได้ เหมือนกับว่าไม่มี
แรงกดดันอะไรทั้งสิ้น ทั้งยังไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยด้วย ท่านชายสี่ก็รู้สึกวางใจลงไปได้มาก