บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1731 รักษาอาการ
เหลิ่งจิ้งเหยียนถามว่า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าไม่ตามหมอให้เขาล่ะ?
พนักงานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า เขาไม่มีเงินขอรับ ข้าเลยไปหาพวกยาสมุนไพรลดไข้มาให้เขา แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลนัก อีกทั้งตัวเขาก็ไม่ยอมให้คนอื่นเข้าไปในห้องด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการหาหมอ ทำการรักษา จัดยา ทั้งหมดล้วนต้องใช้เงิน และที่พักนักเดินทางไม่มีงบประมาณในส่วนนี้
เขาเป็นถึงผู้ช่วยข้าหลวงที่ทำการปกครองของเมืองหวูกุ้ย ตอนนี้ออกมาทำงานแท้ ๆ กลับไม่พกเงินมาด้วยเลยหรือ? เหลิ่งจิ้งเหยียนถามด้วยความประหลาดใจ
ที่เขาพูดมาคือ กระเป๋าเงินถูกขโมยไปขอรับ
เขามาเพียงคนเดียวเลยหรือ? เหลิ่งจิ้งเหยียนถามอีก
เขามาคนเดียวขอรับ ไม่มีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตามใด ๆ มาด้วย
นี่มันแปลกแล้ว เมืองหวูกุ้ยนับว่าค่อนข้างไกลจากเมืองหลวง เดินทางรอนแรมเข้ามารายงานที่เมืองหลวงแท้ ๆ ทำไมไม่พาเจ้าหน้าที่หรือพลตระเวนติดตามมาด้วยล่ะ?
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า ข้าจะไปดูเสียหน่อย
ฮูหยินท่านนี้ ท่านเป็นหมอหรือขอรับ?
อื้ม นำทางเถอะ! หยวนชิงหลิงพูด
พนักงานที่พักคนเดินทางก็ไม่รู้สึกว่าน่าแปลกใจอะไร ทุกวันนี้ในเป่ยถังมีผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วนที่เป็นหมอ นับตั้งแต่ฮองเฮาทรงก่อตั้งโรงเรียนสอนการแพทย์ ทุกปีล้วนมีผู้หญิงไปเรียนกันไม่น้อย
หยู่เหวินเห้าหันกลับไปมองหรงเยว่แวบหนึ่ง หรงเยว่ก็พูดขึ้นทันทีว่า ข้าก็จะไปด้วย
หยวนชิงหลิงกระชับกล่องยาในมือ ภายใต้การนำทางของพนักงาน นางเดินตรงดิ่งไปยังห้องพักนักเดินทาง
ห้องพักถูกลงกลอนจากข้างใน เจ้าหน้าที่ของที่พักเคาะประตู ใต้เท้าฉี ใต้เท้าฉี มีหมอท่านหนึ่งมาดูอาการให้ท่านแล้ว ท่านเปิดประตูเถอะ
ภายในไม่มีการเคลื่อนไหว
ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีเสียงไอดังแว่วมา เสียงไอดังต่อเนื่องอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นก็มีเสียงแหบแห้งดังขึ้นว่า มาแล้ว!
จากนั้นก็มีเสียงลุกจากเตียงเดินมา เสียงฝีเท้าฟังเหมือนมีอาการโซซัดโซเซเล็กน้อย หลังจากประตูเปิด ก็เห็นขุนนางผู้นี้สวมหน้ากากผ้าฝ้าย เผยดวงตาสีแดงก่ำจนน่ากลัวคู่หนึ่ง ดึงประตูเปิดด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ผ่านไปครู่หนึ่งถึงค่อยยกมือขึ้นมาประสานคารวะ ขอบคุณท่านหมอมากขอรับ!
หยวนชิงหลิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง หันไปพูดกับหรงเยว่และพนักงานคนนั้นว่า พวกเจ้าไม่ต้องเข้าไป!
นางเปิดกล่องยา หยิบหน้ากากออกมาสวมให้ตัวเอง แล้วค่อยส่งให้ทั้งคู่คนละชิ้น สวมไว้!
ในช่วงหลายปีมานี้ โรงหมอหุ้ยหมิงของคุณย่าในเป่ยถัง ได้ทำเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ขึ้น มีคำสั่งให้ศูนย์การแพทย์ทั่วประเทศทำเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเผยแพร่ออกไปให้ทั่ว เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการติดเชื้อจากภายนอก มีไข้ขึ้นสูง จะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา วิธีการผลิตหน้ากาก ก็เป็นการส่งเสริมและผลักดันจากคุณย่าด้วยเช่นกัน
แม้ว่าหน้ากากผ้าฝ้ายจะไม่สามารถกรองเชื้อไวรัสได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้สวมเลย
เมื่อเห็นหน้ากากที่ขุนนางผู้นี้สวม สวมหยวนชิงหลิงก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาของคุณย่าไม่ได้เสียเปล่าจริง ๆ
ก่อนหน้านี้ โรงหมอหุ้ยหมิงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ ในระหว่างที่ได้รับการผลักดันอย่างแข็งขัน แม้แต่เจ้าห้าก็ยังเคยสงสัยว่าทำไมแค่เขารู้สึกว่าหนาว ๆ ก็ต้องสวมหน้ากากนี้แล้ว? แต่เขาก็แค่พูดไปอย่างนั้น อย่างไรก็ยังให้ความร่วมมือเต็มที่เพื่อสนับสนุนงานของคุณย่าหยวน ทั้งยังจัดแบ่งเงินไว้ส่วนหนึ่งให้นำไปจัดบรรยายเผยแพร่ความรู้
หลังจากที่หยวนชิงหลิงเข้าไป อันดับแรกคือเปิดหน้าต่างออก ปล่อยให้อากาศถ่ายเทเสียหน่อย
อากาศยังคงค่อนข้างหนาว ใต้เท้าฉีแห่งเมืองหวูกุ้ยผู้นี้มีอาการหนาวสั่นเล็กน้อย ประสานมือคารวะให้กับหยวนชิงหลิง ท่านหมอ ต้องรบกวนท่านแล้ว!
เจ้ากลับไปนอนเสียเถอะ! หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาแทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่แล้วจึงยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า เดินไหวหรือไม่? อยากให้ข้าช่วยพยุงหน่อยไหม?
หามิได้ขอรับ หามิได้! ใต้เท้าฉีรีบโบกมือเป็นพัลวัน เดินโซเซไปที่เตียง แม้ว่าหมอก็คือหมอ แต่ก็เป็นผู้หญิงด้วย
หยวนชิงหลิงหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่หน้าประตูว่า ไปเตรียมเตาถ่านมาให้เขาหน่อย ที่นี่อากาศหนาวมาก
ขอรับ! พนักงานของที่พักคนเดินทางหมุนตัวเดินออกไปทันที
หยวนชิงหลิงนั่งลงที่ขอบเตียง หยิบปรอทวัดไข้ทางหูออกมาจากกล่องยา ตรวจอาการพบว่าอุณหภูมิของเขาอยู่ที่สามสิบเก้าจุดห้าองศา มีไข้ขึ้นสูงทีเดียว
นางกดแผ่นตรวจลิ้นอีกครั้ง พูดว่า อ้าปาก ให้ข้าดูคอของเจ้าหน่อย
เขามีอาการไอ เสียงแหบ บวกกับมีไข้สูง นี่เป็นอาการของโรคทางเดินหายใจ
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือดและอ่อนล้า อายุไม่มาก น่าจะราว ๆ สามสิบได้ หน้าตานับว่าดูหล่อเหลา
เขาอ้าปากช้า ๆ หยวนชิงหลิงยื่นแผ่นตรวจลิ้นเข้าไปตรวจดู จึงเห็นว่าคอของเขาทั้งหมดเป็นสีแดง บวมและเกิดการอักเสบ ร่วมกับมีอาการบวมน้ำที่ลำคอ
หายใจลำบากหรือไม่? หยวนชิงหลิงถาม
ลำบากมากเลยขอรับ! ใต้เท้าฉีสวมหน้ากากอีกครั้ง