บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1736 อย่าได้ลืมหน้าที่การงานแต่เดิมของตัวเอง
ก่อนที่เขาจะทันต่อต้านความไม่รู้ประสาของหยวนชิงหลิง คุณย่าก็พูดย้ำคำหนักแน่นว่า ทำตามที่นางพูดเถอะ ข้าให้เวลาเจ้าเพียงหนึ่งวัน ต้องนำข้อมูลการแพร่ระบาดมาแสดงต่อหน้าข้า ในนั้นต้องรวมไปถึงจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย
ตอนนี้เองที่ใต้เท้าหลี่ไม่กล้าต่อต้านแล้ว แม้จะรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนระดับหัวหน้าหน่วยงาน ถึงกับเดินทางมาไกลนับพัน ๆ ลี้จนมาถึงยังเมืองหวูกุ้ย ย่อมต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น ถึงจะสามารถให้คำอธิบายต่อเบื้องสูงได้
หลังจากส่งคนออกไปจัดการแล้ว ใต้เท้าหลี่ก็บอกว่าจะจัดที่พักให้พวกนาง หยวนชิงหลิงพูดว่า ไม่ต้องหรอก เดิมทีในหน่วยแพทย์ก็มีคนไม่มากอยู่แล้ว เจ้าไปจัดการธุระของเจ้าเถอะ พวกเราจะไปเดิน ๆ ดูในตัวเมืองเสียหน่อย
เมื่อเห็นว่านางทำตัวเหมือนสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือเช่นนี้ ใต้เท้าหลี่ก็รู้สึกไม่อยากจะสนใจนางอีก ทั้งไม่สนใจคำพูดของนางด้วย แค่หันไปโค้งคำนับคุณย่าหยวน ถ้าเช่นนั้น หากท่านจะพักที่นี่ โปรดส่งคนมาบอกข้าน้อยได้เสมอ คืนนี้ข้าน้อยจะสั่งให้คนมาดูแลต้อนรับ
ไม่ต้องหรอก ไปทำธุระของเจ้าเถอะ คุณย่าหยวนพูด จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูดกับหยวนชิงหลิงว่า พวกเราออกไปเดินดูกันหน่อย แล้วค่อยไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพัก
ได้! พวกนางมาที่นี่อย่างรีบเร่ง เพื่อจะมาตรวจสอบเรื่องการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้น จึงต้องเดินทางไปดูตามโรงหมอในพื้นที่ต่างๆ
เดาคร่าว ๆ แล้ว กว่าพวกเจ้าห้าจะมาถึง คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็วันพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืนนี้
ทั้งสองออกจากสำนักแพทย์ ใต้เท้าหลี่พยายามไล่ตามไปหลายก้าว แต่สุดท้ายเมื่อได้รับสายตาพิฆาตจากคุณย่าหยวน จึงต้องรีบหันหลังกลับอย่างพรั่นพรึง
สองคนย่าหลานเดินไปตามถนนของเมืองหวูกุ้ย เวลากลางวันของที่นี่ การค้าการขายค่อนข้างรุ่งเรืองทีเดียว มีผู้คนสัญจรไปมาตามท้องถนนมากมาย
เมื่อพวกนางไปถึงโรงหมอ มีถุงชาสมุนไพรจำนวนมากวางอยู่ที่หน้าทางเข้าโรงหมอ มีผู้ป่วยไม่มากนัก ภาพฉากนี้กลับดูเหมือนว่าไม่ได้มีโรคระบาดอะไรเลย
หยวนชิงหลิงเข้าไปในร้าน สอบถามหมอครู่หนึ่ง จึงได้รู้ว่าช่วงนี้ชาสมุนไพรขายดีเป็นพิเศษ ทุกวันจะขายได้หลายพันห่อเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องโรคระบาดนั้น บรรดาหมอก็ไม่ได้รู้สึกจริงจังอะไรมากนัก บอกว่าอย่างไรก็ไม่ใช่โรคระบาดแน่ เพราะแค่ดื่มชาสมุนไพรเพียงเล็กน้อยก็สามารถรักษาได้
หยวนชิงหลิงซื้อชาสมุนไพรไปหลายห่อ ตอนที่นางจ่ายเงิน หมอก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า แต่ว่าพูดไปแล้ว ปีนี้มีคนเป็นไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างมาก เมื่อคืนนี้ข้าออกตรวจสองรอบ ล้วนมีคนที่ล้มป่วยด้วยอาการที่ค่อนข้างหนักทั้งสิ้น ทั้งยังได้ยินมาว่าใต้เท้าผู้ดูแลเมืองก็ล้มป่วยแล้ว ที่ทำการปกครองก็ถึงกับมีคนตายด้วย
จริงรึ? ทั้งที่มีคนตายแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงยังไม่ให้ความสำคัญอีกล่ะ?
ทุกปีล้วนมีคนตายอยู่แล้ว มีอะไรน่าแปลกใจด้วยรึ? หมอถาม
หยวนชิงหลิงไม่ได้พูดอะไรอีก ถือห่อยาแล้วออกไปพบกับคุณย่า จากนั้นไปดูตามโรงหมอกับร้านขายยาอีกหลายแห่ง จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาเล็กน้อย
หมอหลายคนในสำนักแพทย์ที่มีทักษะทางการแพทย์ค่อนข้างลึกล้ำบอกกับหยวนชิงหลิงว่า ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้ร้ายแรงกว่าปีก่อน ๆ ที่ผ่านมาจริง ๆ ผู้ป่วยที่เขารับการรักษา มีคนที่ตายไปราวเจ็ดแปดคน อีกทั้งยังมีหมอในโรงหมอที่ล้มป่วยด้วยแล้ว ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน
เดินไปได้ครึ่งค่อนวัน จนฟ้ามืดถึงกลับไปยังโรงเตี๊ยม คุณย่าเปิดห่อชาสมุนไพรออกดู พบว่าเป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่จริงๆ
ถ้าไวรัสไม่กลายพันธุ์ ยาตัวนี้ก็ใช้ได้ผลอยู่ มิน่าล่ะพวกเขาถึงได้คลายความระแวดระวังกันง่าย ๆ อย่างนี้ คุณย่าพูด
แค่รอให้หมอหลี่มารายงานข้อมูลผู้ป่วยให้เราฟังวันพรุ่งนี้ ก็สามารถตัดสินสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ได้แล้วล่ะ
สองคนย่าหลานพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ก็ได้รู้สถานการณ์จากเสี่ยวเอ้อสองคนในโรงเตี๊ยมเพิ่ม
เสี่ยวเอ้อบอกพวกนางว่า ที่จริงแล้วช่วงนี้มีคนจำนวนมากล้มป่วย ในโรงเตี๊ยมมีหลายคนที่ล้มป่วยด้วย มีไข้สูงและไอหนัก ไม่สามารถกลับมาทำงานที่โรงเตี๊ยมได้
พวกเขาเคยดื่มชาสมุนไพรกันหมดทุกคนเลยหรือเปล่า? หยวนชิงหลิงถาม
เสี่ยวเอ้อถึงกับผรุสวาทว่า เคยดื่มแล้วขอรับ ร้านขายยาเหล่านี้ใจดำแทบตายแล้ว แอบตัดลดตัว
ยาตามอำเภอใจ ชาสมุนไพรเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว พวกเขาจงใจลดปริมาณยา
ให้ผู้ป่วยต้องซื้อชาสมุนไพรไปกินเพิ่มอีกหลาย ๆ ห่อถึงจะกำจัดโรคได้
หลังจากฟังคำก่นด่างึมงำของเสี่ยวเอ้อระหว่างที่เดินออกไป คุณย่าหยวนก็ถอนหายใจเฮือก เดิมทีย่าคิดว่าการปฏิรูปทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แต่มาดูตอนนี้ เหมือนหนทางยังอีกยาวไกลเลยเชียวล่ะ
คุณย่า อย่าเพิ่งท้อแท้สิคะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ระบบการแพทย์ของที่นี่มันใช้รูปแบบนี้มาหลายปีแล้ว เราเพิ่งปฏิรูปได้กี่ปีเอง? แถมที่นี่ก็อยู่ไกลจากเมืองหลวงเกินไป เป็นเรื่องปกติที่จะขาดความระมัดระวัง
ย่าหยวนสะบัด ๆ มือ ครั้งนี้ได้ออกมาก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยหลานก็จะได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่แค่มีหน้าที่ในฐานะของฮองเฮา แต่ยังไม่ควรลืมหน้าที่การงานแต่เดิมของตัวเองด้วย