บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 597 ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมจากไป
หยวนชิงหลิงเห็นว่าการที่พูดจริงจังไม่เป็นผล กลอกตาไปหนึ่งที จับแขนของเขาเอาไว้แล้วพูดอย่างมีเหตุผล “ท่านดูสิ รถม้าของเราชนท่านชายสี่เหลิ่ง ทำให้เขาบาดเจ็บ เขายังไม่ได้ว่าอะไรเราเลย นี่มันคือมารยาท หากปฏิเสธเท่ากับไม่ให้เกียรติ อีกอย่าง ให้ท่านไปที่ซาวโถ๋จุ้ย ไปดื่มสุรา ไม่ได้ให้ท่านไปทำเรื่องที่ไม่ดีเสียหน่อย ใช่หรือไม่? อีกอย่าง เมืองเป่ยถังของเราก็ไม่ได้มีกฎหมายที่ห้ามเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางของราชสำนักไปที่หอนางโลมเสียหน่อย ท่านไม่ไป มันทำให้ดูเหมือนคนสูงส่ง ต่อให้คนอื่นอยากเป็นเพื่อนกับท่าน มันก็อยากที่จะเข้าใกล้อีกขั้น”
หยู่เหวินเห้าที่ดื่มสุราไป เดิมสมองก็ใช้การได้ไม่ค่อยจะดี แล้วถูกหยวนชิงหลิงพูดจาโน้มน้าว รู้สึกว่ามีเหตุมีผล “อืม งั้นก็ไป”
ร่างกายของหยวนชิงหลิงก็เข้าไปใกล้ “ยังไงก็ตาม พรุ่งนี้ถ้าหากพวกท่านคุยกันอย่างมีความสุขแล้วล่ะก็ รบกวนถามท่านชายสี่ด้วย พวกหมอที่เขารู้จัก…….”
“เจ้ายังพูดว่าเจ้าไม่ความคิดอย่างอื่นอีก?” หยู่เหวินเห้าโกรธจนผลักนางออก “ยายแก่หยวน เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้วเจ้าสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ เสียสละได้แม้กระทั่งสามีของตัวเอง เจ้ามันคนใจจืดใจดำ”
หยวนชิงหลิงคว้ามือของเขามาบีบนวด พูดอย่างประจบ “นายท่าน นวดมังกรน้อยมั้ย? นวดตัวมั้ย เช็ดตัวมั้ย?”
อีกฝั่งหนึ่ง ท่านชายสี่เหลิ่งที่เมาพอสมควรกลับเข้ามาในห้อง หรงเยว่รินชาให้เขาแล้ว ก็นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างๆ
ท่านชายสี่เหลิ่งถอนหายใจ “วิชากระบี่ของรัชทายาทยอดเยี่ยม เป็นคนตรงไปตรงมา จริงใจ ซื่อสัตย์ ไม่เลวจริงๆ”
“อืม ไม่เลวจริงๆ โดยเฉพาะหน้าตา” หรงเยว่ที่เอามือหนุนแก้มพูดเสริม ดวงตาเหมือนเต็มไปด้วยน้ำผึ้ง แววตาหวานหยาดเยิ้ม เขาหล่อจริงๆ ในสายตานาง หล่อกว่าท่านชายสี่
“งั้นเจ้าพูดมาสิ พระชายารัชทายาทไม่คู่ควรกับเขาใช่หรือไม่?”
หรงเยว่พยักหน้า “ใต้หล้านี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควรกับเขา”
ท่านชายสี่มองนางไปแวบหนึ่ง “มันก็พูดเช่นนั้นไม่ได้ รอให้ข้าได้หัวของพระชายารัชทายาทมาแล้ว ข้าจะหาพระชายารัชทายาทที่คู่ควรกับรัชาทายาทให้เขาหนึ่งคน รูปร่างหน้าตาฐานะที่คู่ควรถึงจะได้ บัดนี้ดูเขาช่างน่าสงสาร ข้ายังลำบากใจแทนเขาเลย”
หรงเยว่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ จึงรู้สึกตัว ฆ่าพระชายารัชทายาท? ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ อ๋องหวยคงได้เกลียดนางไปจนตาย?
นางนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “นายท่าน กฎของสำนักเหลิ่งหลังของเราก็ไม่ได้ระบุไว้ว่ารับงานมาแล้วต้องทำให้เสร็จเมื่อไหร่ เราสามารถยืดเวลาในการฆ่าพระชายารัชทายาท แบบนี้ก็ไม่ต้องทรมานขนาดนี้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ยืดไปถึงเมื่อไหร่?”
หรงเยว่กล่าว “เจ็ดสิบปี ท่านมองว่าอย่างไร?”
ท่านชายสี่เหลิ่งพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “ไม่ได้ เจ้ามันจงใจชะลอเวลา ภายในหนึ่งเดือน ต้องทำให้มันสำเร็จ พรุ่งนี้รัชทายาทไปที่ซาวโถ๋จุ้ยแล้ว เจ้าไปคอยสังเกตอยู่ทางโน้น”
หรงเยว่แอบร้อนใจ “นายท่านคิดจะทำอะไร?”
ท่านชายสี่เหลิ่งที่หงุดหงิดเล็กน้อย “พูดเงื่อนไขโดยตรง ดูว่าทำอย่างไรนางถึงจะยอมไปจากองค์รัชทายาท”
เขาไม่มีความอดทนที่อยู่ยืดเยื้อกับนางอีกต่อไปแล้ว
หรงเย่วคิดในใจ พระชายารัชทายาทไม่มีทางที่จะยอมไปจากองค์รัชทายาทง่ายๆแบบนี้มั้ง? บัดนี้เป็นถึงพระชายารัชทายาท ฐานะสูงศักดิ์มีอำนาจ ยังมีอะไรที่จะสามารถจะมาล่อนางไปอีก?
ดังนั้น จึงได้วางใจ นางจะไม่ยอมให้ท่านชายสี่เหลิ่งไปจากจวนอ๋องฉู่เร็วขนาดนี้ เป้าหมายของนางเพิ่งถูกกำหนดเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น หยู่เหวินเห้าออกไปแต่เช้า หยวนชิงหลิงตื่นขึ้นมาก็ไปดูเด็กที่เรือนด้านข้าง ช่วยพวกเขาเช็ดมือเช็ดเท้า เล่นกับพวกเขาสักพักจึงได้จากไป
เพิ่งจะมาถึงประตู ก็เห็นท่านชายสี่เหลิ่งที่เดินกะเผลกเข้ามา มาขวางประตูเอาไว้ ยืนมองนางจากด้านบน มันมีความเฉยเมยเล็กน้อย
“คุยกันหน่อย?” ท่านชายสี่เหลิ่งกล่าว
หยวนชิงหลิงมองด้านหลังของเขา ไม่เห็นหรงเยว่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ว่า ก็ได้ตกลงไปแล้ว “ได้ ไปคุยกันตรงศาลาเถอะ ท่านชายสี่เหลิ่งคงยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามั้ง? ข้าจะให้คนเตรียมอาหารให้ท่าน”
หยวนชิงหลิงวันนี้ตื่นมาแล้วเพราะไม่ได้ไปไหน จึงสวมชุดยาวสบายๆ ผมไม่ได้มัด ไม่ได้แต่งหน้า เรียบง่ายสบายๆ นางเดินอยู่ข้างหน้า ท่านชายสี่เหลิ่งที่เดินตามหลัง รังเกียจนางตลอดทาง
เมื่อไปถึงศาลาสั่งลงมาแล้ว หลังจากที่คนจัดวางขนมน้ำชาแล้ว หยวนชิงหลิงจึงกล่าวขึ้น “ท่านชายสี่มีอะไรจะพูดหรือ?”
ท่านชายสี่ได้หยิบกระจกบานเล็กๆออกมาจากแขนเสื้อให้ยื่นให้กับนาง “เจ้าลองมองดูตัวเอง”
หยวนชิงหลิงรับกระจกมาอย่างสงสัย มองตัวเองที่อยู่ในกระจกก็ไม่เลวนี่นา ผิวพรรณผุดผ่อง สิวก็หายไปแล้ว เหลือแค่รอยแดงเล็กน้อย
“ข้าเป็นอะไรรึ?” หยวนชิงหลิงวางกระจกแล้วถาม
“เมื่อเทียบกับข้าแล้วเป็นอย่างไร?” ท่านชายสี่ถามนางโดยตรง มีความรำคาญในแววตา
หยวนชิงหลิงเลิกคิ้ว นี่มันเรื่องอันใด? จะมาเทียบความงามแต่เช้าเลยรึ?
นางกล่าวตามความจริง “หากพูดถึงใบหน้า ท่านชายสี่นั้นหล่อจริง”
“แล้วเจ้าคิดว่า ด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า คู่ควรกับองค์รัชทายาทมั้ย?” ท่านชายสี่ถามอีก
หยวนชิงหลิงพลิกกระจกวางลงบนโต๊ะหิน หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วกินมันเข้าไป ในใจกำลังคาดเดาความตั้งใจท่านชายสี่เหลิ่ง
“พูดมาสิ!” ท่านชายสี่เหลิ่งใช้นิ้วชี้เคาะลงบนโต๊ะ ร้อนใจเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงที่กล่าวอย่างเนิบนาบ “ข้าคิดว่าคู่ควร”
ท่านชายสี่เหลิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายนัก หน้าตาอย่างนางยังกล้าพูดว่าคู่ควรกับองค์รัชทายาท?
เขาไม่เหลือความอดทนแล้ว กล่าวอย่างเย็นชา “พูดมาเถอะ ต้องการเงื่อนไขอะไรถึงจะยอมไปจากองค์รัชทายาท!”
หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ ขนมคำนี้ทำให้นางสำลักเกือบตาย
โอ้โอ้สวรรค์ คำพูดของสวีอีเป็นความจริง เขาชอบไอ้แก่ห้าแล้วจริงๆ
ดังนั้น ตอนนี้กำลังเสนอเงื่อนไขไล่นางที่เป็นคู่เดิมออกไปเพื่อเขาจะได้มาแทนหรือ?
“ท่านชายสี่ คำพูดของท่าน ไม่ค่อยจะเหมาะมั้ง?” หยวนชิงหลิงแม้จะมีความสนใจกับคำว่าเงื่อนไข แต่ว่า ก็ต้องเตือนเขาหน่อย “ต่อให้ข้าไปแล้ว คนที่จะอยู่ข้างกายองค์รัชทายาทก็ไม่ใช่ท่าน”
ท่านชายสี่ขมวดคิ้ว ทำไมคุยกับเจ้าถึงได้เหนื่อยนัก?
“เจ้าไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะอยู่ข้างกายเขา เจ้าแค่พูดว่าทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมไปจากเขา!”
หยวนชิงหลิงเช็ดมือด้วยผ้าเช็ดหน้า และมองไปที่ท่านชายสี่เหลิ่งอย่างจริงจัง “ข้าไม่มีวันไปจากเขา ไม่ว่าเงื่อนไขอะไรก็ไม่ไป”
ท่านชายสี่เหลิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “เงื่อนไขอะไรก็ไม่ไปหรือ?”
“ใช่ เขาเป็นสามีของข้า เรามีลูกด้วยกันสามคน” ไม่ว่าสถานการณ์อะไร ข้าก็ไม่มีทางไปจากเขา อีกอย่าง เขาก็ไม่มีทางปล่อยข้าไป พวกเรารักกัน” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนแปลงความคิดของเขา ไม่ใช่ว่ามาขับไล่คู่เดิมแล้วก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ
ท่านชายสี่เหลิ่งจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นรัชทายาทจูบหน้าผากของเขา ดูแล้ว คำพูดของนางส่วนใหญ่จะเป็นจริง รัชทายาทก็ชอบ นางจริง
หากว่าต่างคนต่างรักกัน ไม่ใช่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันเพราะจุดประสงค์อื่น อยากจะจับแยกมันก็ยากอยู่เหมือนกัน
หากเป็นแบบนี้ก็ไม่ง่ายแล้วสินะ นางไม่ยอมทิ้งลูกทิ้งสามี แล้วเขาจะลงมือฆ่านางได้อย่างไร?
เขาพิจารณาอย่างรอบคอบ มองนางแล้วถาม แล้วเจ้าอยากจะเรียนวรยุทธ์มั้ย? ข้าสามารถสอนเจ้าได้ ไม่คิดเงิน”