บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 627 หรงเยว่แต่งงาน
หลังจากแต่งตั้งพระราชนัดดาองค์ใหญ่ หน้าประตูจวนอ๋องฉู่ก็แทบจะไม่มีประชาชนมาเดือดร้อนแล้ว กลับมาสงบสุขเหมือนดั่งเดิม
มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่สงบนิ่งก็คือ หมาป่าหิมะที่ท่านชายสี่ไป วิ่งกลับมาเองแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่วัน ท่านชายสี่ก็ตามมา ด้วยความที่เขาโมโห ได้ยึดซาวโถ๋จุ้ยคืน ห้ามไม่ให้หรงเยว่ยืมเงินให้เขา ให้เขาจนตาย
อีกอย่าง เขากลับมาแล้วก็มาอยู่ที่จวนอ๋องฉู่ เข้มงวดกับหยวนชิงหลิงอย่างมาก ตอนเช้าต้องฝึกฝนฝีมือการต่อสู้ กลางคืนกลับมาก็ต้องฝึกฝน ยังไงก็คือทรมานนางจนจะไม่เป็นคนแล้ว
นางจะต้องเรียนรู้ให้ประสบความสำเร็จ ถึงจะได้ซาวโถ๋จุ้ยคืน
เพื่อเงินหยวนชิงหลิงกัดฟันฝึกฝนอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ในที่สุด วันที่แปดเดือนสิบสองจันทรคติ เป็นเพียงลมหายใจเดียว นางสามารถกระโดดไปถึงบนต้นพุทราตรงหน้าประตูต้นนั้น
ต้นพุทราไม่สูง แต่หยวนชิงหลิงเพิ่งฝึกฝนได้ไม่นาน ก็สามารถทำได้ขนาดนี้ ทำให้ท่านชายสี่ตกตะลึงอย่างมาก นับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ดูถูกนางอีก
นางบอกกับหยวนชิงหลิงว่า เมื่อมีความตั้งใจ ก็จะต้องได้รับผลตอบแทน ต่อไปเมื่อนางถูกไล่ตามฆ่า อย่างน้อยก็สามารถวิ่งหนีได้แล้ว
หยวนชิงหลิงเองก็ดีใจอย่างมาก ตอนกลางคืน ลากหยู่เหวินเห้ามาคุยด้วยอยู่กว่าครึ่งชั่วโมง
หยู่เหวินเห้าก็ดีใจมาก เขาคาดหวังอยากที่จะให้หยวนชิงหลิง สามารถฝึกฝนจนมีวิชาป้องกันตัวจริงๆ ไม่ใช่ว่าเมื่อเจอปัญหาแล้วก็ทำได้เพียงรอคนมาช่วย
วันขึ้นสิบแปดค่ำเดือนสิบสอง เป็นวันที่อ๋องหวยแต่งงานกับหรงเยว่
หยวนชิงหลิงได้ให้ยาไว้บนเขาอย่างเพียงพอ อีกไม่กี่วันข้างหน้าล้วนไม่ต้องขึ้นไป
เพื่อให้หรงเยว่ได้แต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ ท่านชายสี่เหลิ่งซื้อจวนหลังหนึ่งในเมืองหลวง เป็นจวนที่ใหญ่โตมาก อุปกรณ์ของใช้ราคาแพงทุกชนิดถูกยัดเข้าไป โบราณวัตถุกับอักษรภาพวาดก็ถูกซื้อมา ดูเหมือนเป็นครอบครัวตระกูลนี้
ชุดแต่งงานของหรงเยว่ ไปสั่งคนทำไว้ตั้งแต่ตอนที่พูดถึงเรื่องแต่งงานกันแล้ว
ท่านชายสี่จ้างคนเย็บปักถักร้อยมายี่สิบกว่าคน ใช้เงินหนึ่งแสนตำลึงในการทำชุดแต่งงาน งานปักประณีต หรูหราอย่างที่สุด
ตอนที่หรงเยว่ลองใส่ หยวนชิงหลิงยืนมองดูอยู่ ความงามที่พร่างพรายของหรงเยว่ ทำให้นางหายใจไม่ออกเป็นเวลาสิบวินาที
แต่นางเห็นว่าหรงเยว่ยืนอยู่อย่างเรียบร้อย อย่าวางเท้าข้างหนึ่งไว้บนเก้าอี้จะดูดีมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นหรงเยว่ที่หยาบกร้าน หรือหรงเยว่ที่งดงาม นางก็จะเริ่มมีชีวิตก้าวที่สองแล้ว ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ที่นางรัก มีลูกชายลูกสาวให้กับเขา
พวกพี่น้องสำนักเหลิ่งหลังเอาของมาให้เยอะมาก ขอร้องเพียงอย่างเดียว ก็คือหวังว่าต่อจากนี้ไปหรงเยว่จะล้างมือออกจากวงการ ออกจากสำนักเหลิ่งหลัง
หรงเยว่ไม่ยอมอยู่แล้ว ผู้หญิงมีครอบครัวแล้วก็สามารถมีการงานได้ คำพูดนี้พี่สะใภ้ห้าพูดกับนางไว้
พี่สะใภ้ห้า….. นางคิดอยู่เช่นนี้ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างงี่เง่า
วันที่แต่งงาน ใช้คำว่าขบวนสินสอดทองหมั้น ยาวกว่าสิบไมล์ก็ไม่เกินไป
หรงเยว่เข้าไปในจวนอ๋องหวยแล้ว หางขบวนขนส่งสินสอดทองหมั้นยังเพิ่งออกมาจากจวนฝ่ายหญิง พวกผู้คนต่างนับกันจนตาลาย จนนับไม่ไหว ไปถามกับคนอื่นว่ามีสินสอดเท่าไหร่กันแน่
พูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่าสินสอดทองหมั้นติดตัวห้าล้านตำลึง ไม่รวมทรัพย์สินที่ดิน ทอง เงิน และเครื่องประดับอื่นๆ ยังไงครั้งนี้ ถือว่าอ๋องหวยแต่งงานกับแม่ไก่ที่ออกไข่เป็นทองคนหนึ่ง
นี่ยังไม่นับ คนที่เคยเห็นพระชายาอ๋องหวย ต่างก็พูดว่าเป็นแม่ไก่ที่ไหน? เป็นหงส์ทองคำต่างหาก ไม่เคยเห็นใครที่สามารถสวยได้ขนาด
ตระกูลเหลิ่งที่สุขุม ออกสู่วิสัยทัศน์ของผู้คนนับตั้งแต่บัตรนี้ ท่านชายสี่เหลิ่งก็ถูกขุดออกมา บอกว่าอายุสามสิบแล้วก็ยังไม่แต่งงาน ก่อนหน้านี้คาดเดากันว่าท่านชายสี่เหลิ่ง อาจจะเป็นชายรักชาย แต่เมื่อได้เห็นขบวนงานแต่งงานของหรงเยว่ ในใจผู้คนมากมายต่างก็มีความคิดเป็นอื่น จวนตนเองมีลูกสาววัยรุ่น ลูกชายหน้าตาดี ดูว่าท่านชายสี่ชอบคนไหน
งานแต่งงานของอ๋องหวย อลังการใหญ่โตอย่างมาก พี่น้องที่คอยรับดื่มแทนอย่างหยู่เหวินเห้า อิจฉาจนตาแดงหมดแล้ว
เขารู้สึกว่าติดค้างงานแต่งงานกับเจ้าหยวน ตอนนั้นที่แต่งงานกับหยวนชิงหลิงคนนั้น เขาไม่พอใจอย่างมาก คิดแต่จะทำยังไงให้งานแต่งงานล่ม
หลังจากเจ้าหยวนกับเขาอยู่ด้วยกันจริงๆแล้ว ก็มีนามเป็นสามีภรรยากันแล้ว จะจัดงานแต่งงานอีกครั้งไม่ได้
ตอนนี้เห็นท่าทีเจ้าหกที่มีความสุข เขาอยากที่จะกลับไปหย่ากับหยวนชิงหลิง แล้วก็ขอแต่งอีกครั้ง ครั้งนี้ ดีที่สุดคือนางแต่งงานกับเขาในฐานะผู้สืบทอดตระกูลเหลิ่งในอนาคต
หรงเยว่ยังมีสินสอดมากมายขนาดนี้ เจ้าหยวนจะมีมากขนาดไหน?
แต่ไม่ว่าในใจจะคิดอะไร วันนี้เขาก็มีความสุขมาก เพราะเจ้าหกสามารถได้แต่งงานมีลูกอย่างดีขนาดนี้ เขาไม่เคยคิดฝันเลยด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างก็มีความสุขมาก อ๋องฉีก็แสดงท่าทีมีความสุขมาก ตอนที่รับดื่มเหล้าแทนเจ้าบ่าว เขาดื่มลงไปจริงๆ ดื่มแต่ละแก้วลงไปในท้อง จากนั้นก็วิ่งออกไปอ้วก อ้วกกลับมาแล้วก็ดื่มต่อ หัวเราะยิ้มบานเหมือนคนบ้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ในใจข้ามีความสุข ในที่สุดพี่หกของข้าก็ได้แต่งงานแล้ว ดีใจ ดีใจ ดื่ม ชนแก้ว ชนแก้วอีก”
คืนนี้หยวนหย่งอี้ก็มาด้วย แขกผู้หญิงผู้ชายถูกแยกออกจากกัน แต่ห่างกันไม่ไกล นางนั่งอยู่อย่างเงียบๆมองเขาอยู่อย่างไกลๆ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ท่าทีความเจ็บปวดของเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อใคร
ตั้งแต่ที่นางกลับไปยังครอบครัว เขาก็ไม่เคยไปหานาง พวกเขาเคยเจอหน้ากัน ในจวนอ๋องฉู่ ห่างเหินกันจนเหมือนคนแปลกหน้า
นางเคยสืบเรื่องข่าวคราวของเขา รู้ว่าต่อมาเขาเคยไปเยี่ยมที่สุสานของฉู่หมิงชุ่ย ความร้อนรุ่มภายในใจก็ดับลงไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ท่านย่าพูดว่า จะหาคู่ให้กับนางอีกครั้ง นางไม่มีความคิดนี้ รอช่วยพี่หยวนรักษาผู้ป่วยบนเขาโรคเรื้อน นางก็จะจากจวนไป
นางอยากอาศัยตอนที่ยังอายุน้อย ทำเรื่องที่ตนเองชอบ
คืนนี้หยวนชิงหลิงไม่ได้มาที่นี่ แต่อยู่ที่จวนตระกูลเหลิ่ง มาตอนรับเพื่อทักทายญาติและเพื่อนในฐานะญาติฝ่ายหญิง
ทางนั้นก็คึกคักมาก คนของสำนักเหลิ่งหลังแทบมากันทั้งหมด นางพบว่านักฆ่าในสำนักเหลิ่งหลัง ผู้ชายล้วนหล่อผู้หญิงล้วนสวย สงสัยว่าตอนที่อาจารย์รับคน พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาหรือเปล่า
นอกจากสำนักเหลิ่งหลัง ผู้ประกอบการค้ารายใหญ่ภายใต้ชื่อตระกูลเหลิ่ง แขกต่างๆต่างก็มา ท่านชายสี่เหลิ่งให้หยวนชิงหลิงพาคนไปต้อนรับ ของขวัญที่นำมายกให้หยวนชิงหลิงดูแลจดบันทึก หยวนชิงหลิงรับของจนมือไม้อ่อน ถามฮูฮูว่า “ของขวัญพวกนี้ให้หรงเยว่หรือ?”
ฮูฮูพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ นี่เป็นของร่วมแสดงความยินดี ต่อไปมิตรภาพต้องตอบแทน ท่านชายสี่เป็นคนตอบแทน ดังนั้นของพวกนี้ท่านชายสี่รับ”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างอิจฉาว่า “หากให้ข้าสักหลายชิ้นก็คงดี”
ฮูฮูมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของพวกนี้ยังไงก็ไม่อยู่ในสายตาของท่านชายสี่ หากพระชายารัชทายาทชอบก็เอาไปเถอะ”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “ท่านชายสี่ไม่เอาจริงๆหรือ?”
ฮูฮูหัวเราะ มือข้างหนึ่งหยิบกำไลหยกขึ้นมาหนึ่งชิ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งของล้ำค่าอะไร ดูกำไลนี่สิ สีเขียวแฝงไปด้วยสีม่วง ดูก็รู้ว่าเป็นสิ่งของราคาเพียงพันกว่าตำลึงเท่านั้นเอง ท่านชายสี่จะสนใจหรือ? พระชายารัชทายาทเอาไปประทานคนเล่นเถอะ”
หยวนชิงหลิงคว้าแย่งมา พร้อมพูดขึ้นว่า “โอ้พระเจ้า หนึ่งพันตำลึงยังไม่สนใจ? เขามีเงินมากมายขนาดไหนกันแน่?”
ฮูฮูจดบันทึกไปด้วยพูดไปด้วยว่า “เถ้าแก่เฉินกำไลหยกหนึ่งคู่ มูลค่าประมาณสองพันตำลึง…ใครจะไปรู้? ท่านชายสี่เองก็ไม่รู้มั้ง? แต่สิบชาติก็ใช้ไม่หมดถือเป็นเรื่องจริง”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างใส่ใจว่า “อาจารย์ของข้ายอดเยี่ยมมากจริงๆ”
ด้วยความไม่รู้ตัว สรรพนามที่เรียกก็เปลี่ยนไปแล้ว
ก่อนหน้านี้มักรู้สึกว่าตลก ยังไง ซาวโถ๋จุ้ยที่ให้แล้วก็ยึดกลับไป พวกเขาก็มักจะลับๆล่อๆ ไม่รู้จะยุ่งอะไรมากมาย