บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 629 อ๋องชินสู้ต้องการพบเจ้าหยวน
เขาพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “เจ้าอย่าทำร้ายนาง มีอะไรก็มาลงที่ข้า”
มือที่อ๋องชินสู้ยกขึ้นมา เดิมก็แค่อยากที่จะข่มขู่หรงเยว่ เห็นเจ้านี่วิ่งเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้านาง จึงผลักเขาไปหนึ่งที ลองดูกำลังวังชาของเขา รู้เขาอ่อนแอขนาดนี้ คงเป็นแค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง
ตอนที่อ๋องหวยป่วย เคยฝึกฝีมือการต่อสู้ ถึงแม้หลายปีนี้เพราะป่วยจึงไม่ค่อยได้ฝึกฝน แต่ดีที่พักรักษาตัวมากว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้น เมื่อถูกอ๋องชินสู้ผลัก เขายังยืนได้อย่างมั่นคง ไม่ได้ถูกผลักไปอีกข้าง
แต่หรงเยว่เห็นเขาลงมือผลักอ๋องหวย ก็โกรธจัด พรวดลุกขึ้นมา ดวงตาคู่โตเหลือกจ้องมอง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าทำร้ายเขาทำไม? เขาเป็นคนป่วยคนหนึ่ง เจ้าจะมาวางมาดอะไรตรงหน้าคนป่วย? มีปัญญาเจ้าพุ่งมาที่ข้า เราออกไปสู้กัน หากเจ้าแพ้ก็กลับแคว้นต้าซิงไป”
ก่อนงานแต่งงาน หรงเยว่กับอ๋องหวย เคยแอบเจอกันสองสามครั้ง แต่ทุกครั้งต่างก็แสดงท่าทีอ่อนน้อมอ่อนหวาน เวลาเดินเหินแม้แต่มดก็ไม่กล้าเหยียบตาย ตอนนี้เห็นนางโกรธโมโหขนาดนี้ ก็อึ้งไปในทันที นิ่งจ้องมองดูหรงเยว่ แทบจะคิดว่าภรรยาที่ตนเองแต่งงานด้วยถูกสลับตัว
หรงเยว่ค่อยรู้สึกตัวว่าตนเองลืมตัว แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หากเขาจะไม่เอาตนเองแล้วเพราะเหตุนี้ งานแต่งงานในครั้งนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องขบขัน นางก็จะไม่มีทางได้แต่งงานอีกแล้ว ในใจรู้สึกน้อยใจ น้ำตาก็ไหลออกมา กระทืบเท้าแล้วก็พูดขึ้นอย่างเกลียดแค้นว่า “เห็นแล้วใช่ไหม? ข้าไม่อยากให้เจ้ามา ข้ารู้ว่าเมื่อเจ้ามาจะต้องมาทำลายงานแต่งงานของข้า กว่าข้าจะเจอคนที่รักและก็ได้แต่งงาน เขาจะต้องไม่เอาข้าแล้วแน่”
ผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาสวยคนหนึ่ง ไม่ว่าก่อนหน้านี้น่าจะทำอะไร ขอเพียงเม็ดน้ำตานั่นไหลออกมา ตรงขอบเบ้าตาเหมือนมีเพชรสองเม็ดห้อยอยู่ เมื่ออ๋องหวยเห็น ในใจเศร้าเจ็บปวด ไม่สนใจว่ามีอ๋องชินสู้อยู่ด้วย จับมือหรงเยว่ไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “วันนี้เจ้ากับข้าแต่งงานกันแล้ว เป็นสามีภรรยากันแล้ว ข้าจะไม่เอาเจ้าเพียงเพราะเจ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ในทันใดหรือ?”
น้ำตาหรงเยว่ไหลอาบแก้ม ใบหน้างดงามดูน่าเอ็นดู ริมฝีปากแดงมุ่ยเล็กน้อย มองดูอ๋องหวยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พร้อมพูดขึ้นว่า “จริงหรือ?”
อ๋องหวยถูกความสงสารและอ่อนโยนนี้ดึงดูดเข้าไปแล้ว บวกกับดื่มเหล้าเข้าไปหลายจอก ด้วยความเมา จึงรู้สึกว่าเมื่อกี้ที่หรงเยว่โกรธโมโห เป็นเพียงภาพลวงตา ต่อให้เป็นความจริง สาวงามโกรธก็ถือว่าน่ามอง จึงพูดขึ้นด้วยหน้าแดงระเรื่อว่า “หากเจ้าไม่จาก ข้าก็ไม่ทิ้ง”
อ๋องชินสู้จ้องมองเขม่ง แต่ความโกรธก็หายไปแล้วกว่าครึ่ง พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “กลับจวนหลังวันที่สามของงานแต่งงาน ข้าค่อยคิดบัญชีกับเจ้า”
อ๋องชินสู้สะบัดชายแขนเสื้อแล้วก็จากไป
ฮ่องเต้หมิงหยวนสั่งคนส่งอ๋องชินสู้ กลับไปยังจวนเหลิ่ง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว ครั้งนี้เขาจึงควรที่จะกลับจวนเหลิ่ง
แต่คนพวกหนึ่งกลับแปลกใจขึ้นมา นี่พระชายาอ๋องหวยเป็นถึงลูกสาวของอ๋องชินสู้ เป็นจวิ้นจู่ของแคว้นต้าซิง ทำไมถึงกลายเป็นน้องบุญธรรมของท่านชายสี่เหลิ่ง? ท่านชายสี่เหลิ่งกับแคว้นต้าซิง มีความสัมพันธ์อะไรกันหรือ?
ในใจฮ่องเต้หมิงหยวนดีใจอย่างมาก กำลังคิดหนักอยู่ว่าจะทำอย่างไร กับความสัมพันธ์ที่เย็นชากับแคว้นต้าซิง คิดไม่ถึงว่าราชวงศ์ของทั้งสองประเทศ กลับกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว งั้นเรื่องต่างๆก็ง่ายขึ้นแล้ว
อ๋องชินสู้เป็นคนที่เย่อหยิ่งมาก วันนี้เข้าประตูมาก็แทนตัวเองว่าเสด็จน้อง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เพราะรู้ว่าลูกสาวของตนเองแต่งงานมาแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ย่อมต้องแสดงความอ่อนน้อมเพื่อให้ลูกสาวได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
มีความรู้ตัวเองเช่นนี้ งั้นก็ยิ่งง่ายขึ้น
อ๋องชินสู้มาถึงจวนเหลิ่ง หยวนชิงหลิงค่อยรู้ว่า วันนั้นหรงเยว่พูดว่าตนเองเป็นลูกสาวของอ๋องไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คิดไม่ถึงว่าหรงเยว่จะมีความเป็นมาแบบนี้ เห็นทีนางเป็นแม่สิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงๆ
งานเลี้ยงฉลองแต่งงานลูกสาวจวนเหลิ่ง การมาของอ๋องชินสู้ เท่ากับงานเลี้ยงฉลองแต่งงานลูกสาวนี้ เป็นไปตามทำนองคลองธรรมแล้ว
หลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้นแล้ว อ๋องชินสู้กลับต้องการที่จะพบหยวนชิงหลิงเป็นการส่วนตัว เพื่อพูดคุยกับนาง
หยวนชิงหลิงที่ถูกเลือก ก็แปลกใจอย่างมาก แต่เมื่อคิดดูแล้วก็น่าจะถามเรื่องของหรงเยว่ จึงไปหาแต่โดยดี
วันนี้นางแต่งตัวอย่างเต็มยศ แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน หลังจากยุ่งมาทั้งวัน ก็เหนื่อยล้าเต็มทนแล้ว หาห้องว่างห้องหนึ่ง เข้าไปจัดผมจัดเสื้อผ้าเสร็จก็ไปพบเลย
อ๋องชินสู้ลุกขึ้นมาต้อนรับ ภายในห้องไม่มีใครแล้ว มีเพียงผู้ติดตามเพียงคนเดียวอยู่รับใช้ คอยรินน้ำชา อ๋องชินสู้พูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท เชิญนั่ง”
หยวนชิงหลิงย่อคำนับตัว พร้อมพูดขึ้นว่า “สวัสดีท่านอ๋อง”
หลังจากที่นางนั่งลงแล้ว มองดูอ๋องชินสู้แว๊บหนึ่ง เห็นไปหน้าเขาหล่อเหลา มีความเหมือนหรงเยว่ไม่มาก ดวงตาเหมือน ส่วนอื่นๆดูแล้วไม่ค่อยเหมือน ใบหน้าของอ๋องชินสู้ ดูค่อนข้างมีความมุ่งมั่น เหมือนกับเจ้าห้า
“ได้ยินว่า” อ๋องชินสู้พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงไพเราะน่าฟังว่า “งานแต่งของหรงเยว่ พระชายารัชทายาทเป็นแม่สื่อใช่ไหม?”
หยวนชิงหลิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ แต่นี่เป็นเพราะหรงเยว่ต้องใจอ๋องหวย ข้าจึงเป็นแม่สื่อให้”
อ๋องชินสู้ยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าต้องขอขอบคุณพระชายารัชทายาท ที่หาคู่ที่ดีให้กับหรงเยว่ เห็นได้ชัดว่าอ๋องหวยดีกับนางมาก ข้าพอใจอย่างยิ่ง”
หยวนชิงหลิงค่อยโล่งอก เมื่อกี้ตอนที่เขาถามสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ยังนึกว่าไม่ชอบอ๋องหวยลูกเขยคนนี้เสียอีก
“อ๋องหวยจิตใจดีมีเมตตา เขาจะต้องดีกับหรงเยว่แน่ อีกอย่าง ด้วยนิสัยของหรงเยว่ ใครก็รังแกนางไม่ได้” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
อ๋องชินสู้ส่ายหัวเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงต่อให้แข็งแกร่งขนาดไหน ยังไงก็มีจุดอ่อน เมื่อมีความรักแล้ว ต่อให้จิตใจแข็งแกร่งขนาดไหน ก็จะถูกทำร้ายจนสภาพจิตใจพังยับเยิน หรงเยว่ก็เป็นคนเช่นนี้ หากอ๋องหวยไม่ดีกับนาง หรือมีจิตใจโลเล นางจะเสียใจอย่างมาก”
คำพูดแบบนี้ถูกพูดออกมาจากปากผู้ชายแกร่งคนหนึ่ง ทำให้หยวนชิงหลิงค่อนข้างแปลกใจ แต่นางก็คิดว่าพูดมีเหตุผล จึงพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องพูดถูก”
อ๋องชินสู้มองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ที่ข้าจะพูดกับพระชายารัชทายาทเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของหรงเยว่ พรุ่งนี้ไม่ทราบว่าพระชายารัชทายาท มีเวลามาเจอคนคนหนึ่งไหม?”
เจอใคร?“ หยวนชิงหลิงถามขึ้น
อ๋องชินสู้พูดขึ้นว่า “เป็นผู้อาวุโสของข้าคนหนึ่ง นางได้ยินว่าพระชายารัชทายาท ขึ้นเขาไปรักษาโรคเรื้อน จึงนับถืออย่างมาก อยากเจอพระชายารัชทายาท ที่เป็นคนกล้าหาญเช่นนี้ ผู้อาวุโสของข้าคนนี้อายุกว่าร้อยปีแล้ว เดินทางมาจากแคว้นต้าซิงแสนไกลพร้อมกับข้า หากพระชายารัชทายาทมีเวลาว่าง ขอพบด้วย”
หยวนชิงหลิงได้ยินว่าเป็นผู้อาวุโสของอ๋องชินสู้ และอายุมากขนาดนี้แล้วยังมาจากแคว้นต้าซิง ถือว่าไม่ง่ายเลย จึงรีบพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นผู้อาวุโสของท่านอ๋อง งั้นข้าจะต้องมาเยี่ยมอย่างแน่นอน”
อ๋องชินสู้เผยยิ้มที่มุมปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้ขอเรียนเชิญพระชายารัชทายาทด้วย นางมาพร้อมกับข้า แต่ข้าเข้าเมืองมาก่อน พรุ่งนี้นางถึงจะมาถึง”
“ได้ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน” หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าของเขาก็ค่อนข้างเหน็ดเหนื่อย จึงลุกขึ้นขอลา
ตอนที่ออกมา นางเจอท่านชายสี่เหลิ่งกำลังเดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นนางก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ทำไมถึงยังไม่กลับ?”
“กำลังเตรียมตัวกลับแล้ว” ตอนนี้หยวนชิงหลิง เกิดความรู้สึกกลัวเขาขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เพราะของฝากในคืนนี้ นางแอบเอาไปแล้วไม่น้อย
“ไปเถอะ อย่าแวะไปไหน กลับจวนไปพักผ่อนให้ดี” ท่านชายสี่เหลิ่งพูดเสร็จ เอามือไขว้หลังแล้วก็เข้าไป น้ำเสียงที่พูดเหมือนคนแก่อย่างมาก
หยวนชิงหลิงตอบรับอยู่ตรงด้านหลังของเขา แล้วเก็บข้าวของกลับจวนไปพร้อมกับทุกคน