บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 630 ขอบใจเจ้า
คืนนี้หยู่เหวินเห้าดื่มจนค่อนข้างเมา ถูกสวีอีพยุงกลับมา
หยวนชิงหลิงกลับมาเร็วกว่าเขา เพิ่งอาบน้ำเสร็จเขาก็กลับมาแล้ว เขานั่งอยู่ด้านข้างเตียง ขาทั้งคู่ห้อยวางอยู่บนพื้น ยกมือขึ้นยิ้มะเขย่าข้อมืออย่างแรงให้กับหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “มานี่ มานี่”
หยวนชิงหลิงหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น เดินไปจะเช็ดหน้าให้กับเขา เขายื่นมือออกท่ พร้อมพูดขึ้นว่า “จับมือ”
หยวนชิงหลิงไม่สนใจเขา ผ้าเช็ดหน้าอุ่นๆผืนหนึ่ง วางบนหน้าของเขาแล้วก็เช็ดถูอย่างแรง
เขาคว้าข้อมือของนางมาอย่างวุ่นวาย แล้วก็ใช้แรงเขย่าแขนของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม ว่าง่าย ไปนอนด้านข้าง พรุ่งนี้จะให้เจ้ากินเนื้อ”
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ก็รู้แล้วว่าเขาดื่มไปไม่น้อย หยอกล้อเห็นนางเป็นตอเป่าอีกแล้ว
ตอเป่าหลบอยู่ในมุมประตู ร้องคางขึ้นมาหนึ่งที มองดูหยวนชิงหลิงอย่างค่อนข้างน่าสงสาร
หยวนชิงหลิงเห็นความเห็นใจจากตอเป่า ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ช่วยหยู่เหวินเห้าถอดเสื้อคลุมออก พร้อมพูดขึ้นว่า “เหม็นหึ่งกลิ่นเหล้าไปหมด”
หยู่เหวินเห้าโอบกอดเอวของนางไว้ ดวงตานิ่งจ้องมองดูนาง แล้วก็เริ่มพูดจาเลอะเลือนว่า “เจ้าหยวน วันนี้ข้ามีความสุข เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงมีความสุขขนาดนี้ไหม?”
“ก็น้องชายของเจ้าแต่งงานแล้วไง” หยวนชิงหลิงมองดูดวงตาที่แดงก่ำของเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าดื่มไปตั้งเท่าไหร่ ดื่มจนตาแดงคอแดงไปหมด
“ใช่ เจ้าเคยคิดไหมว่าเจ้าหกจะได้แต่งงาน? เมื่อก่อนข้าไม่กล้าแม้แต่จะฝัน ที่เขาป่วยก็เป็นเพราะข้า…. เป็นเพราะข้าถึงได้ป่วย จนเกือบที่จะตายไปแล้วคนหนึ่ง หากเขาตาย….” เขาประคองใบหน้าของหยวนชิงหลิงไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างค่อนข้างร้อนรุ่มว่า “เจ้าอย่าส่ายหัว ส่ายจนข้าเวียนหัว”
หยวนชิงหลิงจับประคองหัวของเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ไม่ส่าย เจ้าหลับตาลง”
“ไม่ได้” หลังจากหยู่เหวินเห้าหลับตา แล้วก็รีบลืมตาขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “หลับตาแล้วยิ่งเวียนกว่าเดิม”
เขาอุ้มหยวนชิงหลิงนอนลง พลิกตัวทับนางไว้ กลิ่นอายแอลกอฮอล์ทั้งหมดพ่นอยู่ด้านข้างหูของนาง พร้อมพึมพำขึ้นว่า “หากเจ้าหกตายไปแล้วจริงๆ งั้นตลอดชีวิตของข้าก็จะไม่มีความสุขแล้ว ตลอดชีวิตของข้าก็จะต้องรู้สึกผิดที่ทำให้เจ้าหกตาย ชั่วชีวิตนี้ของข้าก็หมดสิ้นแล้ว”
เขาพูดคำว่าชั่วชีวิตนี้อยู่หลายครั้ง พูดต่อไปอีกมากมายจนหางเสียงค่อนข้างสะอึกสะอื้น ใบหน้าซบอยู่ตรงข้างหูของหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงรู้ว่าในใจของเขารู้สึกผิดต่ออ๋องหวยมาตลอด ดังนั้นวันนี้อ๋องหวยแต่งงาน เขาดีใจกว่าใครทุกคนทั้งหมด
ได้ยินเขาสูดหายใจเข้าลึกๆอยู่ข้างหู คิดว่าเขาอดไม่ได้จะร้องไห้ออกมา จึงกอดไว้อยากที่จะพูดปลอบ กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะจามอยู่ด้านข้างหูของนาง สั่นสะเทือนจนแก้วหูของนางแทบทะลุ
บรรยากาศเจ็บปวด หายมลายไปในทันที
หยู่เหวินเห้ายันกายลุกขึ้นมา ใช้มือนวดจมูก พร้อมพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “ผมของเจ้าทำให้จมูกของข้าคันมาก”
หยวนชิงหลิงก็ลุกขึ้นมานั่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้ดีใจก็พอ ข้าใช้คนเตรียมซุปแก้เมาให้เจ้า หลังจากเจ้าดื่มแล้ว ก็ไม่ต้องอาบน้ำแล้ว ข้าเช็ดตัวให้เจ้า”
หยู่เหวินเห้าจับมือของนางไว้ จ้องมองดูนาง แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหยวน เจ้าว่าทำไมเจ้าถึงได้ดีขนาดนั้น? เจ้ารักษาจนเจ้าหกหาย เจ้ารักษาเสด็จปู เจ้ารักษาผู้คนมากมาย ทำจิตใจของเจ้าถึงได้อ่อนโยนขนาดนั้น?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พูดจาไปเรื่อยแล้วใช่ไหม?”
“ข้าพูดความจริง เจ้าดีอย่างมาก”เขาเอียงหัว อยากที่จะใช้คำศัพท์ที่ดีที่สุดมาชมเจ้าหยวน แต่ก็ถูก ฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำสมอง คิดอะไรที่เหมาะสมไม่ออก พูดเน้นอยู่ตลอดว่าดีอย่างมากดีที่สุด
หยวนชิงหลิงรับคำ ลุกขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ข้าดีมาก ข้าไปตาม….”
เขาใช้แรงดึงนางกลับมากอดไว้แนบอก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าไป ข้ามีคำพูดมากมายอยากพูดกับเจ้า นั่งลง ฟังข้าอยู่ที่นี่”
หยวนชิงหลิงจึงจำต้องพูดว่า “ได้ เจ้าพูดมา ข้าฟังเจ้าพูด”
หยู่เหวินเห้านอนลง กอดรัดหน้าอกของนางไว้ไม่ให้นางลุกขึ้น หลับตาแล้วก็พูดเล่าเรื่องสนุกๆ ระหว่างเขากับอ๋องหวยตั้งแต่เล็กจนโต
คนที่ดื่มจนเมาน้ำเสียงค่อนข้างเฉื่อย หางเสียงก็ชอบลากยาว เป็นเพลงกล่อมนอนที่ดี หยวนชิงหลิงจึงจัดท่าที่สบายที่สุด แล้วก็หลับไป
ตอนที่ตื่นขึ้นมาเวลาเที่ยงคืน เห็นเจ้าห้านอนหลับอย่างสนิท ใบหน้าที่แดงจางลงแล้ว ที่กลัดผมไม่ได้ถอดออก ยังคงดูหล่อเหลาอย่างมาก เขาที่หลับสนิทอยู่ ความบ้าคลั่งที่มีดูจางลง ทำให้เห็นเพียงใบหน้าที่ดูสง่าและอ่อนโยน
นางจูบบนหน้าผากของเขาหนึ่งที แล้วก็ชันศอกจ้องมองดูเขา
ผู้ชายคนนี้ มีข้อเสียรอบตัว อำนาจบาตรใหญ่ หยาบคาย ดื้อรั้น สกปรก บางครั้งกลับมาจากการทำคดี แม้แต่น้ำก็ไม่อาบ ถอดเสื้อผ้าแล้วก็ล้มนอนลงบนเตียง
ข้อเสียของเขามีมากมายจนนับด้วยมือเท้าก็นับไม่หมด
ข้อดีของเขาก็มีมากมาย เขากตัญญู มีหลักการ รักใคร่ภรรยา รักลูก ก่อนหน้านี้กลัวหมา แต่ตอนนี้สนิทสนมรู้ใจกันกับตอเป่า
เอาเป็นโอรสของราชวงศ์ แต่มีชีวิตอยู่ในวงเวียนของประชาชน ไม่มีมาด เป็นกันเอง มีชีวิตชีวา พูดไปแล้วก็คือคนที่จริงใจคนหนึ่ง
เมื่อก่อนยายพูดว่า ต่อไปนางจะไม่มีคู่แต่งงาน ไม่มีใครชอบผู้หญิงที่เอาแต่ทำวิจัยไม่รู้จักความโรแมนติกเลยสักนิด
หากยายรู้ว่าตอนนี้นางไม่เพียงได้แต่งงานแล้ว ยังมีลูกชายอีกสามคน จะต้องดีใจแย่เลย
คิดถึงคนในครอบครัว ดวงตาหยวนชิงหลิงก็แดงขึ้นมา ค่อยๆนอนลง หนุนแขนทั้งคู่ไว้ ภาพที่อยู่กับครอบครัวในภพที่แล้ว ค่อยๆปรากฏอยู่ในใจ
ที่จริงวันที่พวกเขาทั้งบ้านได้รวมตัวอยู่ด้วยกันจริงๆมีไม่มาก ตลอดทั้งปีทุกคนสามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้านั้นยากมาก ต่างก็เป็นหมอ เวลาไม่เป็นอิสระอย่างที่สุด พ่อเป็นหมอศัลยกรรม คิวผ่าตัดต่อคิวยาวมาก หลังจากที่ยายเกษียณแล้ว ก็ยังถูกจ้างกลับมาทำงานในโรงพยาบาล คิวของนางแทบจะต่อคิวไปเป็นหลายเดือน กิจการงานของพี่ชายกำลังอยู่ในช่วงเลื่อนตำแหน่ง แทบอยากที่จะอาศัยอยู่ที่โรงพยาบาลแทนบ้านแล้ว
ที่จริงถ้าบอกว่างานยุ่ง คนที่ยุ่งที่สุดก็คือนางเอง นางเป็นคนที่เมื่อได้เข้าไปในห้องทดลองแล้วก็จะไม่ออกมาง่ายๆ วันหยุดปีใหม่ไม่มีความหมายอะไรกับนางเลย ไม่มีความรู้สึกต่อพิธีกรรมในชีวิต
วันนี้นางเสียใจ รู้แต่แรก จะอยู่กับคนที่บ้านให้มากๆ จะได้ไม่ต้องเสียใจอย่างทุกวันนี้
เห้อ ไม่รู้ว่าอาการป่วยของยายกับแม่เป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้ว่าโม่ยี่เอาข่าวของนางกลับไปถึงหรือเปล่า?
คิดถึงคนที่บ้าน แล้วก็กลับทำให้นอนไม่หลับ ตาค้างจนถึงเช้าเลย
ถึงแม้เมื่อคืนหยู่เหวินเห้าดื่มจนเมา แต่ยังไงก็ยังอายุน้อย หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วก็ไม่รู้สึกปวดหัว กลับดูกระปรี้กระเปร่า หยวนชิงหลิงใช้ให้เขาอาบน้ำก่อน แล้วค่อยไปที่ทำการปกครอง เขาไม่ยอมบอกว่าเสียเวลา ตอนนี้คดีที่ทำการปกครองมีเยอะมาก จะต้องรีบจัดการ
“วันนี้เจ้าจะไปไหนไหม? หากไม่ไปไหนก็อยู่บ้านพักผ่อนดีๆ” หยู่เหวินเห้าเห็นขอบตานางดำคล้ำ จึงรู้ว่าเมื่อคืนนางไม่ได้พักผ่อนดีๆ และก่อนหน้านี้ก็ขึ้นเขา กับยุ่งกับงานแต่งของหรงเยว่ ทำงานหนักเกินไปแล้วจริงๆ
“ข้าจะไปจวนเหลิ่ง อ๋องชินสู้บอกว่าจะแนะนำให้ข้ารู้จักกับคนคนหนึ่ง เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของเขา มาจากแคว้นต้าซิงพร้อมกับเขา วันนี้มาถึงเมืองหลวง ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่ พลบค่ำข้าค่อยไป แล้วก็อยู่ทานข้าวที่นั่นด้วย”
ยังไงก็เป็นคนแก่ ต่อให้มาถึงวันนี้ ก็ต้องให้คนแก่พักผ่อนก่อน อาบน้ำแต่งตัวแล้วนางค่อยไปเยี่ยมถึงจะดี
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “งั้นก็ดี หากวันนี้ข้ากลับมาเช้า จะไปรับเจ้าที่จวนเหลิ่ง และก็อยู่ทานข้าวที่นั่นด้วย”
พูดเสร็จก็รีบออกไปแล้ว