บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 650 ความอ่อนแอของพระชายาอัน
อะหลูเห็นพระชายาอันไม่พูดจา ก็ก้าวเข้าไปอีกก้าวผลักอะฉ่ายออกพูดว่า “ก่อนหน้านี้พระชายายังเคยเอ่ยถึงเรื่องที่จะแต่งตั้งอะหลูเป็นรองพระชายา แม้แต่สถานะท่านก็ยังยินดีจะมอบให้ข้า แต่กลับถือสาเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องหนังสืออย่างนั้นหรือ หรือว่าพระชายาจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ ที่จริงก็ไม่ยินดีจะให้หญิงอื่นอยู่ข้างกายท่านอ๋อง ในใจก็รับไม่ได้ ใช่หรือไม่ ”
“ยังมี ตอนนี้พระชายาตั้งครรภ์แล้ว อย่างน้อยสามเดือนแรกท่านอ๋องคงแตะต้องท่านไม่ได้ ในห้องของท่านอ๋องก็ไม่ได้มีนางบำเรอหรืออนุ พระชายาต้องการให้ท่านอ๋องรักษาเนื้อรักษาตัวเพื่อท่านสามเดือนหรือไม่ก็หนึ่งปีเชียวหรือ ระหว่างนั้นไม่ให้มีหญิงใดคอยปรนนิบัติรับใช้หรือ ”
พระชายาอันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “เจ้าพูดจาเหลวไหล”
ถ้าหากเป็นอย่างที่อะหลูพูด เช่นนั้นก็เท่ากับนางอิจฉาริษยาต้องการได้รับความรักแต่เพียงผู้เดียว สูญเสียความประพฤติอันดีงามของคนเป็นภรรยา ฉะนั้นพระชายาอันจะยอมรับไม่ได้เด็ดขาด
สายตาของอะหลูมีแววไม่พอใจวาบผ่าน แต่ใบหน้ายังคงสีหน้าเศร้าเสียใจ “ในเมื่อไม่ใช่ ทำไมพระชายาจึงเป็นเช่นนี้ อีกอย่าง แม้จะรู้สึกน้อยใจ ก็ควรเป็นอะหลูที่ต้องรู้สึกน้อยใจจึงจะถูกต้อง อะหลูไม่มีสถานะอะไร ได้แต่ติดตามท่านอ๋องเช่นนี้ คนในจวนพูดจาไม่น่าฟังตั้งเท่าไหร่ ข้าไม่เชื่อว่าพระชายาจะไม่เคยได้ยิน อะหลูก็มีหัวใจ และรู้สึกถือสา รู้สึกเสียใจ แต่เพื่อท่านอ๋องแล้ว อะหลูจะกัดฟันอดทนต่อเรื่องที่ทำให้ลำบากใจต่างๆนานา ถ้าหากพระชายาทนอะหลูไม่ได้จริงๆ อะหลูจะเก็บข้าวของจากไปทันที จะได้ไม่เป็นการทำให้พระชายาอึดอัดใจ”
พูดจบ นางหมุนตัวจากไปทันที
พระชายาอันลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน “หยุดก่อน”
อะหลูยืนนิ่ง ค่อยๆหันร่างกลับมา ในดวงตามีน้ำตารื้นขึ้นมา “พระชายา ท่านก็เป็นผู้หญิง ถ้าหากท่านเป็นเหมือนอะหลูที่ได้มอบกายถวายชีวิตให้กับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว แต่กลับไม่มีสถานะ ไม่ได้รับความสนใจ ยังถูกเมียหลวงคอยหาเรื่อง ท่านจะทุกข์ใจหรือไม่ อะหลูอับอาย แต่ก็ใส่ใจแค่ท่านอ๋องเท่านั้น ”
หัวใจของพระชายาอันรู้สึกวุ่นวายขึ้นมาทันที ที่อะหลูพูดล้วนเป็นความจริง คนในจวนต่างก็วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของเขาทั้งสองคนเป็นอย่างมาก นางเองก็ได้ยิน
แต่ว่า อะหลูก็มีท่าทีอวดดีเช่นนั้น ได้ใจเช่นนั้น ไหนเลยจะเคยได้รับความอยุติธรรม นางเคยคิดอยากให้นางเป็นรองพระชายา แต่นางไม่เอา นางไปเอาความรู้สึกไม่ยุติธรรมมาจากไหน
แต่อะหลูที่อยู่ตรงหน้านี้ ร้องไห้พลางร้องเรียน ราวกับว่านางต่างหากที่เป็นคนผิด
อีกอย่าง ท่านอ๋องเคยบอกว่าอะหลูสามารถช่วยงานได้ ถ้านางไปแล้วก็เท่ากับท่านอ๋องได้สูญเสียคนที่เป็นเสมือนแขนขาของเขาไป
“เจ้าอย่าไปเลย ถือเสียว่าวันนี้ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งนั้น ”พระชายาอันอดกลั้นความทุกข์ในใจ พูดขึ้น
อะฉ่ายไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะได้ยินคำนี้ “พระชายา……”
“หุบปาก”พระชายาอันหลับตาลง น้ำตาสองสายไหลออกมา ผ่านไปชั่วครู่ จากนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปยังอะหลูที่ยืนเผชิญหน้ากับนางอยู่ “ในเมื่อเจ้าพูดได้น่าสงสารมากขนาดนี้ เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปขอให้แต่งตั้งเจ้าเป็นรองพระชายา โทษในการอยากจะครอบครองเป็นที่รักเพียงคนเดียวโดยขัดต่อหลักแห่งการเป็นภรรยาที่ดีนั้น ข้าแบกรับไม่ไหว”
อะหลูกลับส่ายหน้า “ไม่ พระชายา อะหลูไม่อยากจะทำลายความรู้สึกระหว่างท่านกับท่านอ๋อง และความรู้สึกที่ท่านอ๋องมีต่ออะหลูนั้นก็แค่ความสงสารเห็นใจ ไม่มีอย่างอื่นเจือปน ถ้าหากจะพูดมากอีกหน่อย นั่นก็คือหลงใหลในเรือนร่างของอะหลู รอให้ท่านอ๋องเบื่อหน่ายอาหลูแล้ว คงจะไล่อะหลูออกไป อะหลูไม่อยากจะใช้ตำแหน่งรองพระชายามัดตัวท่านอ๋องเอาไว้ ขอเพียงพระชายาอย่างทำเช่นนี้อีก ถ้าหากท่านเป็นอะไรขึ้นมา อะหลูก็แบกรับไม่ไหวเช่นกัน ”
พระชายาอันเอ่ยด้วยเสียงสะอื้นว่า “เจ้าวางใจ ภายหน้าข้าจะไม่ไปที่ห้องหนังสืออีก”
อะหลูมองนาง เหลือบสายตาขึ้น “แต่เรื่องในวันนี้ ถ้าท่านอ๋องรู้คงต้องตำหนิอะหลูแน่ อะหลูอยู่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้ท่านอ๋องโกรธ ไม่สู้ให้อะหลูกล่าวลาจากไปเอง พระชายาวางใจได้ ท่านอ๋องอยู่ข้างนอกมีชื่อเสียงดีมาก แม้ว่าอะหลูจะไปแล้ว ก็ยังมีคนมีความสามารถมากมายมาช่วยท่านอ๋อง”
พระชายาอันพูดอย่างร้อนใจว่า “ข้าบอกแล้ว เรื่องวันนี้ก็ให้จบแค่นี้ ถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีคนไปรายงานท่านอ๋องแน่ เจ้าอยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ”
อะหลูมองนางอยู่นาน ถอนหายใจเบาๆว่า “พระชายา ท่านมีวาสนามาก แต่ท่านไม่รู้ตัวเท่านั้น ท่านอ๋องเห็นความสำคัญของท่านเป็นอย่างยิ่ง แต่ท่านกลับเอาแต่สนใจว่าข้างกายเขาจะมีหญิงอื่นหรือไม่ ไม่เป็นห่วงหน้าที่การงานในอนาคตของเขาสักนิด พระชายา โปรดอภัยหากอะหลูจะพูดประโยคหนึ่ง ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น รู้ว่าสามีของตนเองนั้นมีความสามารถโดดเด่น ต้องช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างไม่รู้สึกเสียดาย แม้จะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ก็คงไม่ขัดขวางเขา อะหลูขอพูดแค่นี้ ขอพระชายาไตร่ตรองด้วย”
อะหลูหมุนตัวจากไป
แต่พระชายาอันกลับรู้สึกเป็นทุกข์เพราะคำพูดของนางเป็นอย่างยิ่ง นางไม่ใช่ภรรยาที่มีความสามารถจริงๆ รู้ตัวดีว่าตนเองมีความสามารถแค่ไหน นางช่วยท่านอ๋องไม่ได้
นางรู้ถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่ของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้ตำแหน่งรัชทายาทได้ถูกกำหนดแล้ว ท่านอ๋องไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ฉันพี่น้องเพียงเพื่อตำแหน่งนั้นได้
ถ้าหากการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาททำให้ความสมัครสมานสามัคคีระหว่างพี่น้องต้องถูกทำลาย เช่นนั้นไม่เท่ากับได้ไม่คุ้มเสียหรือ
อะฉ่ายเห็นอะหลูไปแล้ว จึงช่วยพระชายาอันร้องขอความเป็นธรรม “พระชายา ทำไมท่านต้องยอมนางทุกเรื่องด้วยเล่า นางจะพูดได้น่าสงสารแค่ไหน แต่ใครๆต่างก็รู้ว่าตำแหน่งของนางอยู่ในจวนอ๋องนี้เกินหน้าเกินตาไปแล้ว บ่าวไพร่วิจารณ์ ก็แค่พูดลับหลังนาง ใครจะกล้าพูดต่อหน้านาง ก็ไม่รู้ว่านางน่าสงสารตรงไหน ถ้าหากไม่ยินดีจะปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋อง ก็แค่บอกปัดไป ท่านอ๋องก็คงไม่บังคับ”
ในใจของพระชายาอันอัดอั้นจนทรมาน “พอแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว”
อะฉ่ายยังคงไม่พอใจ พูดว่า “อีกอย่าง ให้ตำแหน่งรองพระชายากับนาง นางก็ไม่รับเอง จากนั้นก็มาพูดราวกับว่าพระชายาไม่ปฏิบัติต่อนางดีๆ ตอนนี้ข้างนอกใครเลยจะรู้ว่านางต่างหากที่เป็นคนโปรดของท่านอ๋อง แต่ไม่ยอมให้ตำแหน่งสถานะ บอกว่านางพูดไม่น่าฟังแค่ไหนก็ไม่สู้พระชายาที่พูดได้ไม่น่าฟัง ทุกคนต่างก็คิดว่าพระชายาท่านกดนางเอาไว้ไม่ให้นางได้เสนอหน้าออกมา นางน่าสงสารอะไรกัน ไม่แน่วันนี้อาจเป็นนางก็ได้ที่เรียกให้ท่านไปยังห้องหนังสือ ท่านอ๋องคงทำร้ายจิตใจท่านเช่นนี้ไม่ลง ”
พระชายาอันมองอะฉ่าย ในหัวใจสับสนมาก “อะฉ่าย หลายปีมานี้ เจ้าเห็นท่านอ๋องปฏิบัติต่อข้าอย่างไรบ้าง”
อะฉ่ายพูดว่า “นั่นย่อมดีมากแน่นอน บ่าวไพร่ในจวนต่างก็พูดกันว่าท่านอ๋องนั้นรักท่านดุจลูกสาว ล้ำค่ามากที่สุด”
พระชายาอันจึงเอ่ยขึ้นว่า “ใช่แล้ว เขาปฏิบัติต่อข้าดีเช่นนี้ ข้าต้องแบกรับความทุกข์ใจเพื่อเขาบ้างเล็กน้อยก็ถือว่าคุ้มค่า”
อะฉ่ายแบะปาก “ไม่ได้หมายความเช่นนี้ ท่านแบกรับความทุกข์เพื่อท่านอ๋องนั้นคุ้มค่า แต่ไม่สามารถแบกรับความทุกข์เพื่ออะหลู นางนับเป็นตัวอะไร เรื่องในวันนี้ ท่านต้องบอกท่านอ๋องให้ทราบ เพื่อให้ท่านอ๋องลงโทษนางสักครั้ง”
พระชายาอันถอนหลายใจหนึ่งเฮือกอย่างกลัดกลุ้มใจ พูดว่า “เรื่องในวันนี้ อย่าคิดจะเอ่ยขึ้นต่อหน้าท่านอ๋องแม้แต่น้อย เป็นอย่างตอนนี้ก็ดีมากแล้ว ข้าตั้งท้อง ข้างกายท่านอ๋องย่อมต้องมีหญิงคอยปรนนิบัติ ให้อะหลูคอยปรนนิบัติเถอะ จะได้ไม่ต้องไปคัดเลือกคนอื่นๆ และอีกอย่างคนอื่นก็ไม่รู้มีจิตใจเช่นไร มากขึ้นหนึ่งเรื่องไม่สู้น้อยลงหนึ่งเรื่อง ช่างเถอะ ช่างเถอะ อดทนหน่อยก็พอ”
อะฉ่ายรู้ว่านางอ่อนแอ แต่ไม่เคยคิดว่าจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ แต่เห็นนางได้ตัดสินใจไปแล้ว ก็ไม่ได้พูดขอร้องอะไรอีก ประคองนางไปพักผ่อน
พระชายาอันพูดเช่นนี้ แต่ที่สุดก็ยังคงปล่อยวางไม่ได้ หลังจากนอนลงแล้ว ก็รู้สึกหดหู่ใจมาก อาการเจ็บท้องยิ่งอยู่ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
อะฉ่ายรีบให้คนไปต้มยา หลังจากให้นางดื่มลงไปแล้ว ก็ปลอบใจอีกหลายคำ แต่พระชายาอันเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าอย่างไรก็ทำใจให้ผ่อนคลายลงไม่ได้
อ๋องอันกลับมาตอนค่ำ นางก็แสร้งมีรอยยิ้มบนใบหน้า ถือว่าเรื่องในวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระทั่งยังเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพถึงเรื่องที่ให้แต่งตั้งอะหลูเป็นรองพระชายา
อ๋องอันยังคงไม่เห็นด้วย ตอนนี้เขายังไม่มีความคิดที่จะแต่งรองพระชายา ให้นางได้ดูแลรักษาครรภ์อย่างสบายใจ ให้ถือเรื่องลูกในท้องเป็นหลัก
พระชายาอันตั้งครรภ์ อ๋องอันนั้นดีใจเป็นที่สุด แต่ตอนนี้จิตใจของเขาเอาแต่มุ่งมั่นเป็นปรปักษ์กับหยู่เหวินเห้า จึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของพระชายาอัน