บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 655 อยู่ใต้นาง
ในใจอะหลูสั่นไหวอย่างหนัก นางไม่คิดว่าวันนี้หรงเยว่จะพูดเช่นนี้ และเรื่องที่นางไปสำนักเหลิ่งหลังก็ไม่มีผู้ใดรู้ ทั้งหมดเป็นความลับ นอกจากคนในสำนักเหลิ่งหลังเปิดโปง มิฉะนั้น ไม่มีทางแอบฟังสิ่งใดได้แน่
นางไปที่สาขาของสำนักเหลิ่งหลังโดยตรง คนทั่วไปไม่รับรู้ แม้คนที่ติดต่อผู้นั้นจะล่วงเกินคนของซาวโถ๋จุ้ย แต่คนของซาวโถ๋จุ้ยเข้าไปในสำนักเหลิ่งหลังไม่ได้
แต่คำพูดเหล่านี้นางวินิจฉัยด้วยตนเองไม่ได้ เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาที่โจ่งแจ้งของหรงเยว่ นางกลับไร้ความสามารถชี้แจงข้อเท็จจริง หลายปีมานี้นอกจากความพ่ายแพ้ในสาขาของสำนักเหลิ่งหลังครั้งนั้น ยังไม่เคยผิดพลาดเช่นนี้มาก่อน
ดังนั้น นางจึงไม่กล้าต่อปากต่อคำกับหรงเยว่ ทำได้เพียงพูดกับหยวนชิงหลิงออกไป โชคดีที่หยวนชิงหลิงในสายตานาง ถือเป็นคนที่อ่อนแอ
น่าเสียดายที่หยวนชิงหลิงวันนี้เห็นสำนักเหลิ่งหลังเพื่อนางไม่คิดห่วงความปลอดภัยของตน ในใจกลับไร้ความกังวลและหวาดกลัว เมื่อได้ฟังคำถามถากถางของอะหลู ยิ้มอย่างเย็นชา “ใส่ความทำร้ายเจ้าหรือ เจ้าต้องไตร่ตรองถึงสถานะของตน ก่อนหน้านี้เจ้าเป็นเพียงสาวใช้ดูแลจัดการจวนอ๋องอาน ข้าอยากกำจัดเจ้า จัดการเจ้า มีวิธีการแน่นอน ต้องลากพระชายาหวยและสำนักเหลิ่งหลังมาทำร้ายเจ้าด้วยหรือ ส่วนเจ้าไปจ้างวานคนสำนักเหลิ่งหลังมาสังหารฆ่าหรือไม่ เรื่องนี้ให้พี่สี่ตรวจสอบจะรู้เอง คิดว่าพี่สี่คงดำเนินการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม”
หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างเย็นชาทันที “พี่สี่ เรื่องนี้จริงหรือโกหก หวังว่าพี่สี่จะตรวจสอบให้ชัดเจน หากใครกล้าจ้างวานนักฆ่ามาสังหารพระชายารัชทายาทจริง ข้าไม่วางมือจากเรื่องนี้แน่”
อะหลูคุกเข่าลงต่อหน้าอ๋องอาน ก่อนเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ขอท่านเชื่ออะหลู อะหลูไม่ได้จ้างวานคนมาสังหารพระชายารัชทายาทแน่นอน อะหลูไม่จำเป็นต้องเช่นนี้เพคะ”
หรงเยว่จึงเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าย่อมจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้ารู้ว่าพระชายารัชทายาทมีตำรับยาที่สามารถรักษาโรคเรื้อนได้ ดังนั้นเจ้าจึงตัดสินใจส่งนักฆ่าไป”
หยวนชิงหลิงได้ยินคำนี้ พลันรู้ทันทีว่าผู้ใดสอนให้หรงเยว่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาในวันนี้ นางกวาดตามองหยู่เหวินเห้าอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง หยู่เหวินเห้านั่งอย่างกังวล ท่าทางไร้เดียงสาอย่างยิ่ง
อ๋องอานกวาดตามองหรงเยว่อย่างเย็นชาแวบหนึ่ง เวลานี้เขาล้วนมีความคิดที่จะฆ่าหรงเยว่จริงในใจ
และหยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงกลับเรียกร้องให้เขาตรวจสอบ อะหลูตอนนี้คือชายารองของเขา ผลการตรวจสอบออกมาเช่นไร ล้วนไม่อาจทำให้ทุกคนเชื่อถือได้ กลับจะถูกสงสัยว่าปกป้องคนผิด
แต่ย่อมไม่อาจมอบให้กรมการพระนครตรวจสอบ ตอนนี้กรมการพระนครอยู่ในการควบคุมของเจ้าห้า เขาพูดสิ่งใดล้วนได้ทั้งนั้น
ตอนนี้ผู้คนจับจ้องมากมายเช่นนี้ หากไม่เอ่ยสิ่งใด ไม่อาจทำให้ผู้คนหายสงสัยได้ เขาขบคิดชั่วขณะ ก่อนเอ่ยว่า “ตอนนี้อะหลูคือชายารองของข้า ให้ข้าตรวจสอบความจริงดูไม่เหมาะสม มอบให้กรมอาญาตรวจสอบเถิด หากตรวจสอบแล้วว่าอะหลูมีความผิดเรื่องนี้จริง จวนอ๋องอานไม่ปล่อยนางไปแน่ และจะจัดการตามกฎหมาย”
เขาเอ่ยจบ มองอ๋องหวย “เจ้าหก เจ้าป่วยหนักมานาน วันนี้ยากที่หายดีขึ้นมา รวมทั้งอากาศวันนี้ก็หนาวเย็น กลับไปพักผ่อนให้เร็วเถิด เผื่อดึกดื่นแล้วหนาวเย็นลงมีน้ำค้าง ต้องลมเย็นอีกครั้งคงไม่ดีแน่”
พิธีสมรสนี้ยังไม่ได้เริ่ม เรียกให้อ๋องหวยกลับไปพักผ่อน กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือเชิญอ๋องหวยออกไป
หรงเยว่ตรงไปประคองอ๋องหวยขึ้น ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “พวกเรากลับกันเถอะ พิธีแต่งงานนี้น่าขายหน้าเสียจริง อ๋องอานก็จริง ๆ ขยะเช่นไรล้วนรับไว้ในท้ายจวน และไม่สะอิดสะเอียน หากรู้เร็วกว่านี้ว่านางสกปรกพวกนั้นในห้องหนังสือ วันนี้ข้าคงไม่มาหรอก ไร้ยางอาย!”
เมื่อครู่หัวข้อสนทนาเน้นไปที่เรื่องไปพบสำนักเหลิ่งหลัง ตอนนี้ถูกหรงเยว่เอ่ยเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องหนังสือขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนพลันรู้สึกชายารองหลูผู้นี้โหดร้ายและไร้ยางอายจริง ๆ หญิงไม่จริงใจไร้ยางอายเช่นนี้ อ๋องอานกลับแต่งเป็นชายารอง ต่อไปกระทู้ซักถามในวังหลวง เกรงว่าทำให้เขาต้องตอบจนคอแห้งแน่นอน
ในใจอ๋องอานโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว ข่มความโมโหทั้งหมดเอาไว้แล้ว แต่หรงเยว่ยังไม่หุบปาก ขณะออกจากประตูหันกลับมาเอ่ยกับพระชายาอานว่า “พระชายาอาน หากท่านอ่อนแอรังแกได้ง่ายเช่นนี้อีก เชื่อหรือไม่ว่าเด็กในครรภ์จะรักษาไว้ได้?”
อ๋องอานได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดทนไม่ไหวตบโต๊ะอย่างรุนแรง จนถ้วยชาสั่นสะเทือนสี่ครั้ง ก่อนตะโกนเสียงเข้ม “พอแล้ว เจ้าหก ดูแลปากของภรรยาเจ้าให้ดี”
สองมืออ๋องหวยสอดอยู่ในแขนเสื้อ แผ่นหลังค่อมเล็กน้อย มองอ๋องอานกลับอย่างสงสารที่สุดแวบหนึ่ง แววตาหวาดกลัว เผยท่าทางของหนุ่มน้อยที่หวาดกลัวภรรยาออกมาอย่างเต็มเปี่ยม “อืม ได้ เช่นนั้นน้องทูลลา!”
จากนั้นดึงชายเสื้อหรงเยว่เบา ๆ “พะ…พวกเราไปกันเถิด อย่าพูดอีกเลย”
หรงเยว่จึงเชื่อฟัง ประคองเขาออกไป
อ๋องหวยสามีและภรรยาจากไป พระชายาซุนก็นั่งไม่ติด ลุกขึ้นก่อนเอ่ยกับอ๋องซุนว่า “พวกเราก็กลับกันเถิด ชานี้ ดื่มหรือไม่ดื่มไม่ต้องสนใจ อนุที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงดูถูกนายหญิง พวกเราไม่ต้อนรับ”
อ๋องซุนมองอ๋องอานอย่างลำบากใจ อ๋องอานสีหน้าเย็นชา “พี่รองกลับไปก่อนเถิด!”
เขากวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง “หากผู้ใดต้องการจากไป จากไปเถิด พิธีแต่งงานในวันนี้ ตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว”
ทุกคนต่างโล่งอก พิธีแต่งงานที่วุ่นวายกลายเป็นเช่นนี้ อยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมาย จึงล้วนพากันลุกขึ้นเอ่ยขอลา
แต่ในใจทุกคนต่างเกิดความสงสัย หรืออ๋องอานจ้างนักฆ่ามาสังหารพระชายารัชทายาทจริง?
หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นก่อนเข้าไปจับมือหยวนชิงหลิง จากนั้นจ้องอะหลูพร้อมเอ่ยเสียงเคร่งครัด “หากเจ้าเจตนาจ้างนักฆ่ามาสังหารพระชายารัชทายาทจริง ข้ารัชทายาทจะเอาชีวิตของเจ้าแน่!”
เอ่ยจบ จูงมือหยวนชิงหลิงจากไปโดยไม่เกรงกลัว
แขกเหรื่อล้วนจากไปหมดอย่างรวดเร็ว งานเลี้ยงด้านนอกอาหารเลิศรสถูกลำเลียงขึ้นโต๊ะแล้ว ทว่ากลับไร้ผู้คนทาน เสียเงินทองไปอย่างสูญเปล่า
บ่าวไพร่ก็ไม่กล้าเก็บกวาด เพียงเฝ้าอยู่ด้านนอก ปล่อยให้ลมเหนือพัดอาหารเมื่อครู่จนเย็นชืด
อ๋องอานนั่งอยู่ที่พนักพิงตลอด ก่อนหันมองพระชายาอานที่ตกใจจนสีหน้าซีดขาว ก่อนกุมมือนางพลางเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะตามไป”
เอ่ยจบ สั่งอะฉ่ายประคองพระชายาอานที่จิตใจล่องลอยกลับไป
พระชายาเพิ่งเดินถึงประตู หันกลับไปมองเขาแวบหนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่สบายใจ อ๋องอานจึงยิ้มให้กับนาง “รีบกลับไปเถิด”
พระชายาอานพยักหน้าเงียบ ๆ ก่อนเดินไปพร้อมอะฉ่าย
อ๋องอานเห็นแผ่นหลังพระชายาเลือนหายไป รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ หุบไป จ้องมองอะหลูนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างดุร้ายเยือกเย็น ทันใดนั้น เขาลุกขึ้นใช้เท้าถีบลงบนหน้าท้องของอะหลู ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าโกรธจัดจนเขียวคล้ำ “เรื่องที่ห้องหนังสือ จริงหรือไม่?”
อะหลูนอนฟุบอยู่บนพื้น มุมปากมีเลือดไหลออกมา ติดตามอ๋องอานมานานหลายปี เขาโมโหเพียงใดไม่เคยลงไม้ลงมือ
อะหลูเห็นแววตาคมกริบของเขาเต็มไปด้วยความโมโห จึงถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ “ท่านอ๋องหากเชื่ออะหลู อะหลูยังปรารถนาที่จะอยู่ในจวนอ๋อง หากท่านอ๋องไม่เชื่ออะหลู โปรดปล่อยอะหลูไปเถิดเจ้าคะ”
อ๋องอานเอ่ยอย่างเย็นชาหนาวเหน็บ “ข้าย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้เจ้าไปยั่วยุพระชายา ข้าทำเรื่องใด ล้วนไม่บอกให้นางรับรู้ ข้าพยายามทุกวิถีทางปกป้องนาง เจ้ากลับตั้งใจเป็นอริกับข้า?”
มุมปากอะหลูยกยิ้มขึ้นมาอย่างหม่นหมอง “ท่านอ๋องปฏิบัติกับพระชายาด้วยใจจริง หากสามารถแบ่งปันครึ่งหนึ่งมาให้อะหลู นั่นจะดีเพียงใด พระชายาช่างมีความสุขยิ่งนัก”
อ๋องอานเอ่ยเย็นชา “เจ้าหยุดเอ่ยคำพูดหึงหวงประชดประชันเหล่านี้ เจ้ารู้สถานะตนดี จะเปรียบเทียบกับพระชายาได้เช่นไร วันหน้าข้าได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ เจ้าก็จะอยู่รองจากนาง”