บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 716 คิดไม่ถึงว่าจะซับซ้อนเพียงนี้
หยวนชิงหลิงกลับไม่เข้าใจ “ตอนนี้เสด็จแม่เสียนถูกกักบริเวณ ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสังคมภายนอก นางจะบอกให้คนของตระกูลซูไปป่าวประกาศข่าวลือด้านนอกได้อย่างไร? ทำไมคนของตระกูลซูถึงไม่ฟังไทเฮาแต่กลับฟังเสด็จแม่เสียนล่ะเพคะ? อีกทั้ง พวกเขาพูดเช่นนี้ มีประโยชน์กับพวกเขาอย่างไรล่ะเพคะ?”
อีกทั้ง เสียนเฟยก่อเรื่องเช่นนี้ ข้อเสียมากกว่าข้อดี ความจริงนางก็ไม่ได้เป็นคนโง่เขลา ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก? โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮ่องเต้เพิ่งจะตัดสินพระทัยต้องการยกฐานะของคนทำการค้า กลับถูกสังคมภายนอกแต่งเติมข้อบกพร่องเช่นนี้ นี่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการซื้อใจคนของราชสำนัก
“เสียนเฟยอยู่ในพระราชวังหลายปี ข้างกายจะไม่มีคนสักสองสามคนที่สามารถเชื่อใจได้ไว้ช่วยเหลือนางในการถ่ายทอดความตั้งใจได้อย่างไร? ตระกูลซูไม่เชื่อไทเฮา เป็นเพราะไทเฮาเป็นห่วงตระกูลซูค่อนข้างน้อย กลับเป็นเสียนเฟยที่วางแผนเพื่อประโยชน์สุขของตระกูลซูมาตลอด บวกกับตอนนี้เจ้าห้าได้เป็นรัชทายาทแล้ว สามารถเห็นความรุ่งโรจน์อย่างไม่สิ้นสุดได้ในอนาคตของเสียนเฟย ตระกูลซูต้องประจบเป็นแน่ สำหรับทำไมเสียนเฟยต้องคัดค้าน เจ้าคิดไม่ถึงหรือ?”
ชายาเฟิงอันพูดจบ มองดูนาง
หยวนชิงหลิงลังเลครู่หนึ่ง “เป็นเพราะนางดูถูกคนทำการค้าหรือเพคะ?”
ชายาเฟิงอันกล่าว: “นี่เป็นเพียงอย่างแรก นางดูถูกคนทำการค้าเป็นแน่ เจ้าหญิงที่สง่างามอภิเษกสมรสกับพ่อค้าในตลาดผู้หนึ่ง นี่เป็นการตบหน้านางฉาดใหญ่ ตอนนี้เจ้าหญิงที่รออภิเษกสมรสไม่เพียงแค่หยู่เหวินหลิงผู้เดียว นางคิดว่าฮ่องเต้สามารถเลือกเจ้าหญิงพระองค์อื่นอภิเษกสมรสไปได้ และสาเหตุที่สำคัญที่สุด กลับเพราะแต่งตั้งรัชทายาทจนถึงวันนี้ นางไม่เพียงแต่ไม่ได้เลื่อนขั้น ยังถูกกักบริเวณอีก นางจะยอมได้อย่างไรล่ะ? ทว่าแม้แต่รัชทายาทและเจ้าก็ไม่สนับสนุนนาง ไม่ช่วยนาง นางต้องการทำสงครามฉากนี้เพื่อพลิกสถานการณ์ให้เป็นฝ่ายชนะ มีเพียงเรื่องการอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเท่านั้นที่ทำให้นางก้าวก่ายได้อย่างเหมาะสม”
หยวนชิงหลิงถูกชายาเฟิงอันชี้แนะเช่นนี้ ก็เข้าใจในพริบตาแล้ว “ดังนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของนางท้ายที่สุดไม่ใช่เพื่อต้องการหยุดยั้งการแต่งงานนี้ เพราะต้องการใช้การแต่งงานนี้มาทำเป็นการขู่เข็ญ นางต้องการเลื่อนขั้นหรือเพื่ออำนาจที่แท้จริงอย่างอื่นบางส่วน คนของตระกูลซูช่วยเหลือนาง ก็เพราะแบบนี้ มีเพียงแค่นางเลื่อนขั้นแล้วควบคุมอำนาจที่แท้จริง จึงจะสามารถเอื้อประโยชน์ที่แท้จริงให้ตระกูลซูได้”
มิน่าล่ะ นางบอกกับเจ้าห้าว่า ต้องการให้นางไม่ก่อเรื่องก็ได้ แต่ต้องการให้เจ้าห้าทำให้ตระกูลซูแข็งแกร่ง นางและตระกูลซูเป็นที่พึ่งซึ่งกันและกัน ตระกูลซูแข็งแกร่ง ก็สามารถกดดันฮ่องเต้ให้เลื่อนขั้นให้นางได้ และนางยิ่งใหญ่ กลับสามารถช่วยเหลือตระกูลซูได้
แม้แต่ลูกชายของตัวเองนางก็ไม่เชื่อแล้ว เชื่อใจเพียงตระกูลซูเท่านั้นแล้ว
ด้วยเหตุนี้ พูดเรื่องนี้จนถึงตอนสุดท้าย ยังเพราะเพื่อตัวนางเอง เพื่อตระกูลซู
ขณะอยู่ในยุคปัจจุบันหยวนชิงหลิงก็เคยได้ยินนิทานที่ครอบครัวยากจนจึงช่วยเหลือน้องชายโดยยอมเสียทุกอย่างและหญิงสาวจากชนบทที่ดั้นด้นเข้ามาเติบโตในเมืองหลวงมาไม่น้อย แต่ว่า พอได้สัมผัสเข้าจริงกลับรู้สึกน่ากลัวถึงเพียงนี้ แม้ลูกชายลูกสาวของตัวเองก็ไม่สนใจได้
“ดังนั้น เมื่อครู่ท่านไปที่ตำหนักชิ่งหยูมาแล้ว?” หยวนชิงหลิงกล่าวถาม
“ไม่ผิด นางเปิดปากก็ต้องการตำแหน่งหวงกุ้ยเฟย บอกว่านี่เป็นสิ่งที่นางควรได้รับ” ชายาเฟิงอันกล่าวเบาๆ
หยวนชิงหลิงจนปัญญาแล้ว ไม่ผิด หากว่าตามกฎการเลื่อนขั้นของสนมนี้ ก่อนเจ้าห้าจะถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท นางก็ตำแหน่งสนมแล้ว และเจ้าห้าถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ตามหลักนางก็เลื่อนขึ้นเป็นกุ้ยเฟยหรือหวงกุ้ยเฟย ข้อกำหนดของราชวงศ์เดิมสามารถมีกุ้ยเฟยได้สองคน นางเปิดปากก็ต้องการตำแหน่งหวงกุ้ยเฟย เพราะต้องการกดกุ้ยเฟยลงไป
หยวนชิงหลิงหนาวจับใจไปครึ่งหนึ่ง “ก็เท่ากับว่า นางต้องการจะก่อเรื่องให้ได้หรือเพคะ?”
“อันที่จริงนางก่อเรื่องไม่ได้กระทบกับการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้ แต่กลับกระทบต่อความเป็นตายของนางเอง ในขณะเดียวกันก็กระทบถึงชื่อเสียงของเหลิ่งซี่แล้ว”
ในใจของหยวนชิงหลิงเป็นความโศกเศร้าที่อธิบายไม่ออกจริงๆ ไม่ได้เพื่อใคร เพื่อเจ้าห้าเท่านั้น
หากว่าเสียนเฟยเกิดเรื่องอะไรขึ้น จิตใจของเจ้าห้าต้องเป็นทุกข์แน่นอน
ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายนางก็เป็นมารดาผู้ให้กำเนิด
ทีแรกหยวนชิงหลิงไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะซับซ้อนเพียงนี้ แต่ก็รู้ว่าจุดประสงค์ที่ฮ่องเต้ทรงพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหญิงอภิเษกสมรสกับท่านชายสี่ เพื่อดึงคนทำการค้ามาเป็นพวก พัฒนาเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน จุดนี้ หลังจากที่จิ่นหนิงของแคว้นต้าโจวมา ก็มีความคิดนี้คร่าวๆแล้ว บวกกับก่อนหน้านี้เจ้าห้าก็เคยพูดคุยแม่แบบการร่วมมือบางส่วนกับท่านชายสี่ ตอนนี้ในท้องพระคลังขัดสนจริงๆ สำหรับเป่ยถังแล้ว เป็นปัญหาใหญ่ระดับที่สำคัญที่สุด
แรกเริ่มนางคิดว่า สุดท้ายอย่างไรเสียนเฟยก็ต้องประนีประนอม อย่างมากก็คำรามอยู่ในตำหนักชิ่งหยูมากขึ้นสองสามที ใครจะรู้ว่านางจะบอกให้คนของตระกูลซูไปก่อความวุ่นวายด้านนอกก่อน คาดว่าครั้งนี้แม้แต่ฮ่องเต้ก็ประเมินเสียนเฟยต่ำไปแล้วสินะ?
เมื่อกล่าวเช่นนี้ ความเป็นตายของเสียนเฟยก็แทบจะสามารถกำหนดได้แล้ว มิน่าไทเฮาถึงได้เชิญชายาเฟิงอันกลับมาอย่างเร่งรีบ
เสียนเฟยขาดสติคลุ้มคลั่งถึงขนาดนี้ ในความไม่รู้ตัว ก็เพราะผลกระทบของอำนาจที่แทรกซึมเข้าไป
นางไตร่ตรอง เสียนเฟยโง่เขลาหรือ? ไม่สักนิด ถ้าหากฮ่องเต้ยังเป็นฮ่องเต้แบบเมื่อก่อน เสียนเฟยจะชนะ เพราะว่าฮ่องเต้มักจะเป็นห่วงไทเฮาและมารดาผู้ให้กำเนิดเจ้าหญิงอยู่เสมอ ยินยอมทนกับไฟขนาดใหญ่ของลานด้านหลัง ก็ไม่ยอมให้ประกายไฟปลิวออกไปด้านนอกแม้แต่น้อย
ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับหน้าตาของราชวงศ์เป็นที่สุด เป็นสามีภรรยามาหลายปี เสียนเฟยเข้าใจฮ่องเต้เป็นอย่างมาก นางคิดว่าจับจุดอ่อนของฮ่องเต้ไว้ได้แล้ว
นางก็เคยคิดโดยคร่าวๆ ทันทีที่ฮ่องเต้ประนีประนอม นางจะเปลี่ยนกลับไปเป็นเสียนเฟยที่เพียบพร้อมจิตใจงดงามรู้จักความเหมาะสมเมื่อก่อนผู้นั้น อย่างมากฮ่องเต้จะคิดถึงความสัมพันธ์ของสามีภรรยา เมตตาต่อนาง และตระกูลซูทางนั้น สุดท้ายคือครอบครัวบ้านเกิดของไทเฮา ฮ่องเต้กตัญญู ก็จะไม่เกินไป รอให้สถานการณ์ผ่านไป ก็สามารถสนับสนุนให้สูงขึ้นมาได้
นางคิดว่าครั้งนี้เป็นเรื่องการแต่งงานของเจ้าหญิง เป็นเรื่องของตระกูล
แต่ไม่รู้ว่าสำหรับฮ่องเต้ทางนั้น กลับเป็นเรื่องใหญ่ในการบริหารบ้านเมือง เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวโยงกับประเทศและราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮ่องเต้อับจนมานานมาก เขาต้องการหาทางออกเส้นหนึ่งเพื่อเป่ยถัง ความวิตกกังวลของคนที่อยู่ระดับสูงบีบบังคับจนเขาจะเป็นต้องมีนิสัยเด็ดขาด ใครขัดขวางใครตาย
“ฮ่องเต้อาจจะมีเมตตาต่อตระกูลซูจริงๆ แต่ว่า สำหรับเสียนเฟยต้นตอของเรื่องราวผู้นี้ คาดว่าเขาจะไม่ให้อภัยโดยไร้หลักการอีก เจ้าก็ดูไว้ ข้ามปีแล้ว เกรงว่าจะต้องประกาศว่าอาการป่วยของเสียนเฟยสาหัสขึ้นแล้ว” ชายาเฟิงอันกล่าว
หยวนชิงหลิงมองดูชายาเฟิงอัน “ท่านเรียกข้าออกมา วิเคราะห์ให้ข้าฟัง คือจะให้ข้าทำอะไรหรือเพคะ?”
ชายาเฟิงอันพยักหน้า “ไม่ผิด ถ้าหากสุดท้ายแล้วฮ่องเต้ต้องการลงมือกับเสียนเฟย เช่นนั้นขอให้เจ้าคิดวิธี หลอกล่อเจ้าห้าออกจากเมืองหลวงไป เขาอยู่ที่เมืองหลวง รู้เรื่องนี้ คนที่เป็นบุตรไม่สามารถดูอยู่เฉยๆได้ แต่หากว่าเขาช่วยเสียนเฟย ก็จะยั่วโมโหฮ่องเต้เป็นแน่ ไม่เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของพ่อลูกฮ่องเต้และขุนนาง”
ในใจของหยวนชิงหลิงใจคอเหี่ยวแห้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน
นางไม่เคยสงสารเสียนเฟย ตั้งแต่ที่รู้การกระทำทุกอย่างของเสียนเฟยกับคนป่วยบนเขาโรคเรื้อน นางก็คิดว่าเสียนเฟยตายก็ไม่คุ้มค่าให้เสียดาย
นางสงสารเจ้าห้าเท่านั้น หากว่าหลอกเจ้าห้าออกจากเมือง เช่นนั้นหลังจากกลับมาเสียนเฟย “เสียชีวิตอย่างฉับพลัน” เขาจะคิดอย่างไร?
“เจ้ากลัวว่าวันข้างหน้าเจ้าห้าจะตำหนิเจ้าหรือ?” ชายาเฟิงอันเห็นนางลำบากใจ ถอนหายใจเบาๆ “ความจริง นี่คือพระประสงค์ของไท่ซ่างหวง เขาเองไม่ได้พูดกับเจ้า รู้ว่าเจ้าลำบากใจ เขาก็แข็งใจทำไม่ได้ ข้ากับอ๋องชินเฟิงอันได้รับข่าวสารจากไท่ซ่างหวงและไทเฮาพร้อมกัน พวกเราจึงตัดสินใจกลับมา เพราะว่าเหลิ่งซี่เป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าไม่สามารถยืนดูเฉยๆได้ ไทเฮาหวังว่าข้าสามารถพูดโน้มน้าวเสียนเฟยได้ แต่ที่ไท่ซ่างหวงคิดกลับเป็นเรื่องหลัง”
หยวนชิงหลิงเดาได้โดยประมาณแล้ว ฮ่องเต้และอ๋องชินเฟิงอันไม่ได้ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ไท่ซ่างหวงก็ไม่มี เกรงว่าเพราะเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ความจริงที่ไท่ซ่างหวงทำเช่นนี้ เพราะไว้หน้าเสียนเฟยเป็นอย่างมากแล้ว เขาไม่ได้สนใจเรื่องในราชสำนักนานมากแล้ว ตอนนี้ยังต้องกังวลพระทัยเรื่องนี้อีก
“ท่านชายสี่…….” หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ “เขาก็รู้อย่างคร่าวๆว่าฮ่องเต้ทรงมีพระประสงค์อนุญาตให้เจ้าหญิงอภิเษกสมรสกับเขาสินะเพคะ? ทำไมเขาถึงยินยอมหมุนเข้ามาในวังวนได้ล่ะเพคะ?”
“เขารู้เป็นแน่ เขาสามารถปฏิเสธได้ แต่หลังจากที่เขาปฏิเสธ คือจะต้องเป็นศัตรูกับราชสำนักเป็นศัตรูกับฮ่องเต้หรือ? เขาเป็นแค่คนทำการค้าผู้หนึ่ง ความสามารถมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเป็นศัตรูกับราชสำนักได้ อาจารย์ของเจ้าไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นเหมือนที่เจ้าคิด เขามองการณ์ไกล วิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าพวกเจ้ามากนัก ขณะเดียวกันเขาก็เกรงว่าจะเกี่ยวโยงถึงข้าอาจารย์ผู้นี้ เขาทำได้เพียงตอบรับ”
การแต่งงานนี้ แรกเริ่มหยวนชิงหลิงคิดว่าง่ายดายมาก กลับคิดไม่ถึงว่าจะซับซ้อนขนาดนี้ กลับสูญเสียความบริสุทธิ์ไปหลายระดับ