บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 834 ให้กำเนิดลูกชายก็ถือเป็นความสามารถ
หยู่เหวินอันได้ทำการต้อนรับวันแห่งความอัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของเขา ถูกพี่ชายของตนเองทุบตีจนปางตาย ยังถูกจับมัดไว้บนหลังม้าเดินโคลงเคลงกลับเมืองหลวง
ตอนที่เข้าสู่เมืองหลวง ทหารที่เฝ้าประตูเมืองยังมองไม่ออกว่าเป็นใคร ได้แต่นึกว่าอ๋องเว่ยได้ทำการจับกุมโจรสลัดกลับมาได้คนหนึ่ง ยังเอาแต่แสดงความยินดีอย่างประจบ
อ๋องเว่ยพาเขาตรงไปยังกรมการพระนคร พลิกตัวเขาลงมาจากหลังม้า โยนเข้าไปในศาล เอ่ยเสียงกังวานว่า “ไปรายงานรัชทายาท พาคนที่เขาต้องการมาแล้ว”
อ๋องฉีเดินออกมาก่อน เป็นนานกว่าจะดูออกว่าคนที่นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นนั้นคืออ๋องอัน รู้สึกตกใจมาก “สวรรค์ นี่ยังมีสภาพเป็นคนอยู่หรือไม่”
“เป็นคน มีทั้งดวงตาหูปากจมูก ก็แค่ใหญ่ไปบ้างเท่านั้น”อ๋องเว่ยได้ระบายอารมณ์แล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก คำพูดคำจาก็ไม่ได้อึมครึมเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
อ๋องฉีรู้เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างพวกเขา นึกถึงเรื่องที่พี่สี่ทำกับพี่สามเหล่านั้น การถูกสั่งสอนครั้งนี้ไม่ผิดเลยสักนิด
เขาสั่งให้คนยกตัวอ๋องอันเข้าไปหลังที่ทำการ หยู่เหวินเห้าก็ตามมาติดๆ
เขามองอ๋องอันแวบหนึ่ง ให้ลูกน้องไปตักน้ำร้อน เอายา จากนั้นก็ไล่คนทั้งหมดออกไป เหลือเขาอยู่คนเดียวข้างในเพื่อรักษาบาดแผลให้อ๋องอัน
อ๋องอันเจ็บปวดจนต้องกัดฟัน ดวงตาแทบจะลืมไม่ขึ้น รู้ว่าเป็นหยู่เหวินเห้า เขาพูดด้วยเสียงกัดฟันว่า “น้องห้า นี่เจ้าต้องการจะเอาชีวิตพี่เชียวหรือ”
ในมือของหยู่เหวินเห้าถือผ้าขนหนูร้อนเอาไว้ ช่วยเขาเช็ดคราบเลือดบนใบหน้า พูดเสียงเรียบว่า “ถูกต่อยตีครั้งนี้เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่เร็วก็ช้า ถูกโดนเร็วก็หมดเรื่องเร็ว ไม่เช่นนั้นท่านจะติดค้างเขาตลอดชีวิต”
อ๋องอันฝืนลืมตาขึ้นมาเป็นเส้นตรงเล็กๆเส้นหนึ่ง เอ่ยอย่างเจ็บปวดว่า “ตอนนี้ชกต่อยกันแล้วก็ถือว่าแล้วกันหรือยัง ไม่เสมอไป ภายหน้า ……เจ้าเบาหน่อย ทำข้าเจ็บไปหมดแล้ว……”
หยู่เหวินเห้ามองสภาพเช่นนี้ของเขา ทั้งอยากจะโมโหและอยากจะหัวเราะในเวลาเดียวกันจริงๆ ก่อนหน้านี้ถูกเขาวางยา คิดว่าถ้าจับตัวเขากลับมาได้จะสั่งสอนเขาสักตั้ง เห็นสภาพเช่นนี้ของเขาแล้ว ก็คร้านจะจัดการเขาอีก เพราะว่าประเดี๋ยวยังต้องได้รับความร่วมมือจากเขา ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ค่อยต่อยอีกก็ยังไม่สาย
“พี่สามปฏิบัติกับท่านก็นับว่าไม่เลวแล้ว แม้จะตีท่านไปยกหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำให้ท่านตาย และไม่ได้ทำให้บาดเจ็บภายในมากมาย ด้วยความชิงชังที่เขามีต่อท่าน ตีให้ตายก็ไม่ได้ทำเกินไป”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงเรียบ
“พอแล้ว อย่าพูดแดกดันอีกเลย เจ้าก็ไม่ใช่คนดีอะไร”อ๋องอันซูดปากอย่างเจ็บปวด ไม่บาดเจ็บภายใน เขารู้สึกอวัยวะภายในเคลื่อนที่ไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าต้องพาตนเองกลับมาด้วย เกรงว่าเจ้านักเลงนั่นคงจะตีเขาตายไปนานแล้ว
หยู่เหวินเห้าโยนผ้าขนหนูทิ้ง กรอกยาดองเหล้าให้เขาหนึ่งแก้ว “นี่เป็นยาสลายลิ่มเลือดและห้ามเลือด ดื่มลงไปแล้วก็จะดีขึ้นมาก”
อ๋องอันไม่มีแรงจะขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ถูกบังคับกรอกยาดองเหล้าเข้าปากไป สำลักจนทำให้เขาไอออกมาอย่างรุนแรง เกือบจะไอจนกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
ถูกทรมานจนจบแล้ว หยู่เหวินเห้าจึงนิ่งลงข้างเตียงเขาถามขึ้นว่า “แผนที่ทางการทหารอยู่ไหน”
อ๋องอันเบิกตาแดงก่ำจนกว้าง “ถ้าหากข้ามีแผนที่ทางการทหาร ข้าจะหนีทำไม”
“ท่านไม่มีแผนที่ทางการทหาร ท่านจะหนีทำไม”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงขึ้นจมูก
อ๋องอันแสร้งทำท่าทีราวกับบาดเจ็บหนัก พูดอย่างอ่อนแอว่า “ในเมื่อแผนที่ทางการทหารไม่ได้อยู่ในมือของข้าจริงๆ เจ้าก็อย่าคิดว่าจะงัดอะไรออกมาจากข้าได้ หลายเรื่องตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วจะทำอย่างไรต่อไป”
“จริงหรือ ตัวอย่างเช่นเรื่องอะไรบ้างที่ท่านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พูดออกมาพวกเราลองวิเคราะห์กันดู”
สายตาของอ๋องอันมีแววไหววูบอยู่บ้าง “สรุปไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ตอนนี้ข้าไม่มีความทะเยอทะยานเช่นนั้นแล้ว เรื่องนี้แม้ข้าจะเคยเข้าไปพัวพัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ข้าแค่คิดอยากจะทำงานดีๆ แบ่งเบาภาระเสด็จพ่อ ก่อนหน้านี้พวกเราพี่น้องได้เคยคุยกันไว้ ให้ปล่อยวางความบาดหมางลงก่อน เผชิญกับปัญหาภายนอกด้วยกัน พวกเราอย่าหักหลังกันเองภายใน ร่างกายของเสด็จพ่อไม่ค่อยดี”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “พี่สี่ ในเมื่อท่านบอกว่าพวกเรายังเป็นพี่น้องกัน เช่นนั้นพวกเราก็พูดจากันในความรู้สึกที่เป็นพี่น้องกัน ข้ายินดีจะปกป้องท่านต่อหน้าเสด็จพ่อ แต่ว่า ที่ท่านรู้ทั้งหมดต้องบอกกับข้า ตอนนี้ต้องถือภารกิจตามหาแผนที่ทางการทหารคืนมาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆล้วนคุยง่าย”
อ๋องอันมองเขา นิ่งขรึมไม่พูดจา
หยู่เหวินเห้าพูดต่อไปว่า “ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงอะไร แต่ท่านคิดว่าไม่พูด ข้าก็จะตรวจสอบไม่พบในเรื่องเหล่านั้นที่ท่านเคยทำเอาไว้หรือ ถ้าหากจะตรวจสอบท่านจริงๆ ไม่เกินสามวันก็สามารถกวาดจวนอ๋องอันของท่านจนหมดเกลี้ยงแน่ ต้องค้นทุกซอกทุกมุมของท่านออกมาจนหมด เรื่องเหล่านั้นที่ท่านเคยทำไว้มีเท่าไหร่ที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ท่านเองก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจ ข้านั้นเห็นแก่ความเป็นพี่น้องของพวกเราแท้จริง จึงได้ให้พี่สามจับตัวท่านกลับมาเพื่อถามเป็นการส่วนตัว ถ้าจะทำให้เอิกเกริก ตอนนี้ท่านสมควรจะอยู่ที่ศาลของกรมการพระนครแล้ว ”
อ๋องอันมองเขา ถอนหายใจออกมา “ช่างเป็นการเดินหมากผิดตัวเดียว ทำให้ปั่นป่วนทั้งกระดานจริงๆ มีหลายเรื่องข้าไม่ได้เป็นคนทำ เป็นอะหลูที่กระทำการเอง ไส้ศึกที่อยู่ในจวนอ๋องชินเป่า ก็ล้วนเป็นอะหลูที่จัดการแทรกซึมเข้าไป ภายหลังจากที่เจ้าถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทหนึ่งเดือน จวนอ๋องชินเป่าก็มีการรวบรวมคนมีฝีมือขึ้นมาอย่างกะทันหันและเงียบเชียบ อะหลูรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ธรรมดา หลังจากสืบข่าวแล้วก็ได้ส่งคนบางส่วนเข้าไปในจวนอ๋อง คนเหล่านี้เป็นใคร ข้าเองก็เพิ่งจะมารู้ภายหลังจากที่อะหลูตายแล้วและข้าได้รับรายชื่อมา พวกเขาภักดีต่ออะหลู แต่ไม่ได้ภักดีต่อข้า ภายหลังอะหลูตายไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะกลับมาให้ข้าเป็นผู้ควบคุม แต่การตายของอะหลูทำให้พวกเขาปวดใจ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นการหน้าไหว้หลังหลอก พูดตามจริง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าแผนการของอะหลูจะล้ำลึกขนาดนี้ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าคนที่นางใช้แทรกซึมเข้าไปจะจงรักภักดีเช่นนี้ เจ้าคิดว่าทำไมข้าจึงปล่อยวางการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ คิดว่าข้าจะมีน้ำใจคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องขึ้นมาอย่างกะทันหันจริงหรือ”
เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง มองหยู่เหวินเห้าอย่างจนใจ “เพราะอะหลูตายแล้ว ทำให้พลังในการวางแผนของข้าล่มสลาย ไม่เพียงแต่คนของนาง กระทั่งคนของข้าตั้งแต่เริ่มต้นมีไม่น้อยที่ถูกนางซื้อตัวไป นอกเสียจากคนที่จงรักภักดีและไว้ใจได้ไม่กี่คนเท่านั้น ทุกคนต่างก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมที่สมบูรณ์ของข้า สถานการณ์เช่นนี้ ข้าจะไม่ยอมจำนนต่อเจ้าได้อย่างไร ”
“แต่ว่า คนที่แทรกซึมอยู่ในจวนอ๋องชินเป่า ยังคงยินดีจะส่งข่าวคราวกับท่านเหมือนเดิม ทำไมจึงบอกว่าไม่ภักดีต่อท่านเล่า”
อ๋องอันได้ยินคำพูดนี้ ก็ฉีกยิ้มออกมา ฉีกจนกระทบบาดแผลที่มุมปาก ปวดจนแทบจะร้องไห้ออกมา
หยู่เหวินเห้าเห็นมุมปากของเขามีเลือดออก โยนผ้าเช็ดหน้าให้เขาหนึ่งผืน“เช็ดสักหน่อย ”
อ๋องอันยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดที่มุมปากครู่หนึ่ง “เจ้าพูดอะไร ก็แค่แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน ก็นับว่าเป็นคนจงรักภักดีแล้วหรือ นี่ดีไม่ดีอาจเป็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าได้ จะไม่ให้ระวังได้อย่างไร อีกอย่าง ถ้าหากมีคนที่สามารถใช้งานได้จริง ข้าเองก็คงไม่ต้องลงมือเองในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ ”
“ฉะนั้น ลู่หยวนถูกท่านทำร้ายจริงสินะ”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงเย็น
ดวงตาของอ๋องอันเหม่อลอย “ข้าเองก็ไม่มีทางอื่น เขาจำข้าได้ ไม่ฆ่าเขา ข้าก็คงต้องกลับเข้าไปสู่วังวนที่ถอนตัวไม่ขึ้นอีกครั้ง เดิมทีเสด็จพ่อก็โกรธข้าอยู่แล้ว ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้หากข้ายังมีเรื่องอะไรขึ้นมาอีกแม้แต่นิดเดียว เสด็จพ่อคงจะปลดข้าเป็นแน่ เจ้าดูเขาทำอย่างไรกับพี่ใหญ่ ข้าจะไม่กลัวได้อย่างไร ”
“ลงมือได้โหดเหี้ยมมาก อีกนิดเดียวท่านก็จะเอาชีวิตเขาไปแล้ว แต่ว่าท่านเองก็คงคิดไม่ถึงว่าเขายังมีชีวิตอยู่กระมัง เรื่องนี้ข้าไม่มีทางช่วยท่านปิดบังได้ ท่านไปสารภาพกับตระกูลลู่เองเถอะ”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงเย็น
อ๋องอันเบิกตากว้าง “เจ้าเคยบอกว่า เจ้าจะช่วยข้าปิดเรื่องนี้เอาไว้”
“เกือบจะทำให้คนตายแล้ว ข้าจะช่วยท่านปิดได้อย่างไร นี่มันไม่ยุติธรรมกับตระกูลลู่”
“เจ้ายังมีหน้าพูดเรื่องยุติธรรมอีกหรือ”อ๋องอันรู้สึกโมโหมาก “เจ้าเป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์พูดคำว่ายุติธรรมมากที่สุด ตำแหน่งรัชทายาทของเจ้าได้มาอย่างไร ก็เพราะไท่ซ่างหวงลำเอียง ยังมีบุญวาสนาของลูกชายเจ้าที่คอยค้ำจุน มียางอายหรือไม่ ยังจะพูดเรื่องยุติธรรมกับข้าอีก”
หยู่เหวินเห้ามองเขา สีหน้านิ่งสงบเป็นอย่างยิ่ง “ทำไมจะพูดเรื่องยุติธรรมไม่ได้ สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ก็ถือเป็นความสามารถ ท่านกับข้าล้วนเป็นบุรุษ ท่านกับข้าล้วนแต่งงานมีภรรยา ทำไมข้าให้กำเนิดลูกชายได้แต่ท่านให้กำเนิดลูกชายไม่ได้ ข้ามีบุญวาสนาของลูกชายคอยค้ำจุนแล้วอย่างไร ภายหน้าข้ายังจะเสพสุขของวาสนาของพวกเขา ท่านก็จ้องตาเป็นมันต่อไปเถอะ ”
อ๋องอันโมโหจนปากเบี้ยวไปหมด