บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 877 มีความคิดส่วนตัวหรือ
อ๋องฉีก็ไม่ได้ประสาทหลอนไปเรื่อย เพราะวันนี้หยวนหย่งอี้เริ่มตกเลือด มีอาการแท้งคุกคาม
นางจะต้องพักผ่อนอยู่บนเตียง ต้องฉีดยากันแท้ง เป็นเช่นนี้ทุกวัน
เช่นนี้ทำให้ทุกข์ทรมานอย่างมาก ความไม่สบายตัวทำให้จิตใจหยวนหย่งอี้ค่อนข้างพังทลาย อารมณ์ที่แปรปรวน ยิ่งส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ พรุ่งนี้เลือดตกยังค่อนข้างรุนแรง ฮองเฮาสั่งคนมาเยี่ยม หลังจากกลับไปทูลรายงานสถานการณ์แล้ว ฮองเฮาโกรธอย่างมาก คิดว่าหยวนชิงหลิงตั้งใจไม่ดูแลหยวนหย่งอี้เป็นอย่างดี
ถึงตอนนี้นางยังมีความผิดติดตัว ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ค่อยยอมพบนาง นางจึงตามหยวนชิงหลิงเข้าวังมา ตำหนิไปรอบหนึ่ง ให้นางต้องรักษาทารกในครรภ์ไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับมีความคิดเห็นส่วนตัว
คำพูดที่ฮองเฮาตำหนิหยวนชิงหลิงถูกพูดออกไป แล้วก็รู้ไปถึงหูของฮ่องเต้หมิงหยวน ถึงแม้ฮ่องเต้หมิงหยวนจะรู้สึกว่าฮองเฮาอย่างไร้สาระ แต่ก็ให้ความสนใจอาการของหยวนหย่งอี้อย่างมาก ยังไงเจ้าเจ็ดก็เป็นบุตรที่สืบสายเลือดโดยตรงของเขา และก็เป็นครรภ์แรกของหยวนหย่งอี้ เด็กคนนี้จะต้องคลอดออกมาได้อย่างราบรื่น
ดังนั้น เขาก็ตามหยวนชิงหลิงเข้าวังมาอีกครั้ง
เขาถามถึงอาการของหยวนหย่งอี้ก่อน หยวนชิงหลิงล้วนตอบอย่างละเอียด สุดท้ายก็พูดขึ้นอย่างจนใจว่า “ตอนนี้มีภาวะแทงคุกคามจริง มีอาการตกเลือดมาหลายวันติดต่อกัน ข้าจะพยายามช่วยนางให้ถึงที่สุด แต่เรื่องนี้ ข้าก็ไม่กล้ารับประกัน”
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นว่า “ต้องใช้ยาอะไร ต้องมีชื่อเสียงแพงขนาดไหน ขอเพียงเจ้าพูดมา ภายในวังไม่ขาดแคลนยาที่มีชื่อเสียง ราคาแพง”
หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ยาที่มีอยู่ภายในวัง ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ ตอนนี้นางต้องพักผ่อนอยู่แต่บนเตียง ฉีดยากันแท้งทุกวัน ส่วนอย่างอื่นตอนนี้ยังไม่สามารถช่วยอะไรได้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูนาง ภายในสายตาแฝงไปด้วยแววตาที่ซับซ้อน พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าวางใจ ไม่ว่าครรภ์นี้ของพระชายาอ๋องฉีจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เจ้าห้ายังคงเป็นองค์ชายรัชทายาท”
หยวนชิงหลิงนิ่งอึ้งตะลึงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงเพื่อรับประกันให้เจ้าวางใจ”
ในใจหยวนชิงหลิงมีความรู้สึกอย่างพูดไม่ออก การรับประกันนี้เหมือนดั่งคมดาบ อดกลั้นความขมขื่นในใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่”
“ข้าต้องการไม่ใช่เพียงแค่พยายามอย่าเต็มที่ แต่เจ้าก็ต้องรับประกันกับข้า” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่สามารถรับประกันได้ ทางการแพทย์ไม่เคยมีความแน่นอนอยู่แล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ฟังเช่นนี้แล้ว สีหน้าแสดงถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ดูสีหน้าของเจ้าก็ไม่ค่อยจะดี เจ้าก็อย่าเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ครรภ์ของพระชายาอ๋องฉียกให้หมอหลวงเถอะ หากเจ้ามีเวลาว่างก็ค่อยไปช่วย เลือกการใช้ยาให้หมอหลวงเป็ดคนจัดการก็พอ”
หยวนชิงหลิงก้มหน้าก้มตาลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เพคะ”
หลังจากที่นางทูลลาออกไปแล้ว มองดูท้องฟ้าที่เหมือนฝนจะตก ม่านฝนเริ่มทอขึ้น จิตใจย่ำแย่อย่างมาก
นางรู้ว่าเสด็จพ่องานยุ่ง สามารถหาเวลาว่างเพื่อมาถามอาการของหยวนหย่งอี้ เป็นความห่วงใยในฐานะที่เป็นครอบครัวเดียวกัน เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทางการแพทย์ ไม่รู้ถึงความทุกข์ยากของผู้หญิงตั้งครรภ์ เขาก็อยากที่จะไม่ให้เรื่องนี้ทำให้หงุดหงิดใจ ดังนั้นถึงได้ใช้คำพูดรับประกันเพื่อแลกกับการรับประกันมาพูดกับนาง แต่คำพูดนี้ฟังดูแล้วงี่เง่าจริงๆ
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ คำพูดนี้ได้ทำให้นางเสียใจแล้วจริงๆ
มู่หรูกงกงวิ่งตามออก พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท ท่านรอก่อน”
หยวนชิงหลิงมองดูมู่หรูกงกง พร้อมพูดขึ้นว่า “มีเรื่องอะไร?”
มู่หรูกงกงมองดูดวงตาแดงก่ำของนาง ถอนหายใจพร้อมพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ไม่ได้มีความหมายเป็นอื่น ท่านอย่าเอามาใส่ใจ สีหน้าท่านไม่ค่อยดี พักผ่อนดูแลตัวเองด้วย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ขอบคุณกงกง”
หลังจากออกมาจากวัง หยวนชิงหลิงก็ไปยังจวนอ๋องฉีอีก
อาการหยวนหย่งอี้ไม่ค่อยดี ยังไงก็ยังวางใจไม่ได้
เพียงแต่เพิ่งฉีดยาไปไม่นาน ในวังก็ส่งหมอหลวงมาสองคน บอกว่ามาดูแลรับผิดชอบครรภ์ของพระชายาอ๋องฉีโดยเฉพาะ
นอกจากหมอหลวงแล้ว ในตำหนักฮองเฮาก็ส่งคนมา บอกว่าจะมาอยู่ประจำที่จวนอ๋องฉี คอยดูแลปรนนิบัติพระชายาอ๋องฉีโดยเฉพาะ มามาคนนั้นพูดกับหยวนชิงหลิงด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า “เสด็จฮองเฮามีรับสั่ง พระชายารัชทายาทเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลลูกของตนเอง เห็นใจที่จะให้ท่านต้องไปมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ต่อไปมีหมอหลวงคอยดูแล พระชายารัชทายาทไม่ต้องมาแล้ว”
อ๋องฉีได้ได้ยินเช่นนี้ ก็เดินไปต่อว่ามามาคนนั้นว่า “ตั้งแต่พระชายาตั้งครรภ์ พระชายารัชทายาทก็เป็นคนดูแลมาตลอด และพระชายาก็เชื่อใจพระชายารัชทายาทคนเดียว ยังไงนางก็ต้องมา
มามามิงดูอ๋องฉี พร้อมพูดขึ้นว่า “พระองค์ ในโลกนี้ไม่มีใครดีไปกว่าพ่อแม่ ท่านฮองเฮาทำเช่นนี้ ก็เพราะหวังดีต่อท่าน คนเรายากที่จะคาดเดา โดยเฉพาะมีผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า”
อ๋องฉีพูดขึ้นว่า “ผลประโยชน์อยู่ตรงหน้าอะไร? เรื่องการคลอดบุตรนี้จะมีผลประโยชน์อะไร? ใช่ว่าข้าได้ลูกชาย แล้วจะมีความสามารถเป็นองค์ชายรัชทายาทได้? ข้ามีความสามารถแค่ไหนข้ารู้ตัวเองดี ที่นี่เป็นจวนอ๋องฉี พวกเจ้าอย่าคิดใช้ขนไก่เป็นลูกศร”
มามาไม่เกรงกลัวเลยสักนิด เหมือนก่อนที่จะมา ฮองเฮาได้เคยพูดเช่นนี้แล้ว ยังคงพูดกับอ๋องฉีอย่างตรงไปตรงมาว่า “พระองค์ การประพฤติมิชอบ จะต้องหลีกเลี่ยง เหนียงเหนียงไม่ได้สงสัยฝีมือทางการแพทย์ของพระชายารัชทายาท เพียงแต่พระชายารัชทายาทดูแลมาสักพักใหญ่แล้ว สถานการณ์ของพระชายาไม่ดีขึ้น ลองเปลี่ยนหมอหลวงสองคนมาอยู่ในจวนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
“ไม่เปลี่ยน” อ๋องฉีพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ข้าจะเข้าวังไปหาเสด็จแม่”
หยวนชิงหลิงเห็นว่า ตอนนี้อาการของยัยอี้ไม่ค่อยดีจริงๆ หากตนเองมาไม่ได้ ก็ไม่สามารถวางใจได้ ดังนั้น นางพูดกับอ๋องฉีว่า “หมอหลวงอยู่ที่นี่ก็ดี มีคนช่วยดูแลเพิ่ม ก็จะมีวิธีเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ว่าข้าจะมาทุกวัน เจ้าคิดว่าพูดกับฮองเฮาเช่นนี้เหมาะสมไหม?”
สายตามามามองดูนางอย่างแปลกประหลาดใจ พร้อมหัวเราะเยาะพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท ความคิดของท่านช่างไม่รู้จักหลีกเลี่ยงบ้าง”
หยวนชิงหลิงขี้เกียจสนใจนาง มามาเฒ่าในวังคนหนึ่งสามารถพูดจาเช่นนี้กับนาง แสดงว่าฮองเฮาให้ท้ายอย่างมาก
นางหันตัวเดินเข้าไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพระชายาอ๋องฉี”
หยวนหย่งอี้เพิ่งอาเจียนไปหนึ่งรอบ กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดแรง
หยวนชิงหลิงลูบหน้าผากของนาน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
“ทานอะไรไม่ลง” หยวนหย่งอี้พูดขึ้นด้วยสีหน้าขาวซีดว่า “พี่หยวน ครั้งนั้นท่านทานยาของไทเฮาหลง สามารถระงับอาการอาเจียนได้ ทำไมข้าทานแล้วถึงไม่เป็นผลล่ะ?”
“ความแตกต่างส่วนบุคคลของร่างกาย ยาชนิดเดียวกัน ใช้กับคนไม่เหมือนกันก็จะมีประสิทธิภาพไม่เหมือนกัน เจ้าอย่าคิดมาก พักผ่อนให้ดีก็พอ” หยวนชิงหลิงพูดปลอบ
“เมื่อไหร่ถึงจะผ่านพ้นไปได้” หยวนหย่งอี้พูดขึ้นอย่างท้อแท้หมดแรง
หยวนชิงหลิงนั่งมองดูนางอยู่ข้างเตียง พร้อมพูดขึ้นว่า “มีหมอหลวงมาจากในวัง ต่อไปหมอหลวงจะเป็นคนดูแลเจ้า ข้าค่อนข้างงานยุ่ง จะแอบมาฉีดยาให้กับเจ้าตอนกลางคืน เจ้าว่าแบบนี้ดีไหม?”
หยวนหย่งอี้ไม่รู้เรื่องความใน คิดเพียงว่านางงานยุ่งจริงๆ จึงพูดขึ้นอย่างค่อนข้างรู้สึกผิดว่า “เจ้ามีงานยุ่งมากมายขนาดนี้ ยังต้องมาดูแลข้า ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ”
“ยัยโง่ นี่จะลำบากอะไร? เดี๋ยวเจ้าพูดกับเจ้าเจ็ด หลังจากเที่ยงคืนให้ไปเปิดประตูหลังไว้ให้ข้า ข้าจะแอบเข้ามา บอกเขาว่าอย่าให้ใครรู้” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
ต่อให้หยวนหย่งอี้โง่แค่ไหน ก็ฟังรู้ว่าเกิดปัญหาแล้ว จริงยันร่างกายลุกขึ้นพร้อมพูดขึ้นว่า “มีคนไม่ให้เจ้ามาใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ เพราะมีหมอหลวงอยู่ที่นี่ หากข้าอยู่ในตำแหน่งหมอประจำ นั่นถือเป็นการทำให้หมอหลวงเสียหน้า แบบนี้ไม่ดี ตอนกลางวันหมอหลวงใช้วิธีรักษาอย่างไร ค่ำๆข้าจะพิจารณาใช้ยาให้สอดคล้องกัน ดูแลร่วมกันแบบนี้ เจ้าก็จะได้ดีขึ้นในเร็ววัน ใช่ไหม?”
ในใจหยวนหย่งอี้รู้ดี แต่มองดูสีหน้าเหนื่อยล้าของหยวนชิงหลิงแล้ว นางไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ จับมือของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ต้องมาแล้ว เจ้าเหน็ดเหนื่อยขนาดนั้นแล้ว หากมาตอนกลางคืนอีก แม้แต่เวลานอนเจ้าก็จะไม่ได้นอนแล้ว มีหมอหลวงอยู่ที่นี่ก็พอ”