บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 902 หยวนเจ้าตื่นขึ้นมาแล้ว
หยู่เหวินเทียนรีบโบกไม้โบกมือทันที “ไม่ใช่ ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น ”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบพูดว่า “เช่นนั้นก็ขอให้อ๋องชินชุนมอบของคืนมา ฮองเฮาตรัสว่า ขอเพียงท่านอ๋องยินยอมมองของกลับคืนมา จะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น จะไม่ให้เรื่องไปถึงหูของฮ่องเต้”
หยู่เหวินเทียนย่อมไม่ยินดี เขารู้ว่าถ้าหากคืนสิ่งของนั้นกลับไป จะยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจพี่แปด ระหว่างพี่น้องก็ยากที่จะกลับไปเป็นเช่นดังเดิม
ฉะนั้น เขาวิงวอนต่อแม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบว่า “ขอให้กลับไปเรียนเสด็จแม่ บอกว่าสิ่งของนี้มีความหมายต่อข้าอย่างไม่ธรรมดา ขอให้เสด็จแม่ทรงอนุญาตให้ข้าได้เก็บมันเอาไว้”
“ไม่ได้ ”แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบปฏิเสธอย่างทันควัน “ท่านอ๋องอย่าทำให้ข้าน้อยต้องลำบากใจเลยจะดีกว่า ข้าน้อยเองก็ทำตามราชโองการ ฮองเฮามีรับสั่งว่าต้องเอาสิ่งของที่รักขององค์ชายแปดกลับคืนมาให้ได้ ตอนนี้องค์ชายแปดได้อาละวาดอยู่ในวังอย่างหนัก ถ้าหากไม่เอากลับคืนไปก็ไม่รู้ว่าจะอาละวาดจนเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถ้าหากท่านอ๋องมีใจสงสารองค์ชายแปด ขอให้ส่งคืนกลับมา”
“นั่นเป็นของที่พี่แปดมอบให้กับข้าจริงๆ นอกจากพี่แปดจะมาทวงถามกับข้าด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่ให้ใครทั้งนั้น”ไม่ว่าจะอย่างไรหยู่เหวินเทียนก็ไม่ส่งคืน บวกกับการไปอยู่ในค่ายทหารมาช่วงหนึ่ง ก็มีนิสัยโกรธง่ายขึ้นมาบ้างแล้ว
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบค่อยๆเหลือบสายตาขึ้นมา สีหน้าฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา ในรอยยิ้มนั้นแฝงแววเยาะเย้ยอยู่หลายส่วน “ท่านอ๋องคิดว่าอยู่ในจวนอ๋องฉู่ ก็สามารถไม่ฟังคำพูดของฮองเฮาได้อย่างนั้นหรือ”
“ไม่ว่ายังไง ข้ายังคงยืนยันคำเดิม เจ้าแค่กลับไปรายงานเสด็จแม่ก็พอ”หยู่เหวินเทียนพูดเสียงเย็น
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบหัวเราะแปลกๆออกมาสองเสียง พูดว่า “ในเมื่อท่านอ๋องขัดราชโองการของฮองเฮา เช่นนั้นก็รบกวนคนของจวนอ๋องฉู่นำทาง ให้ทหารรักษาพระองค์ไปค้นเรือนที่อ๋องชินชุนพักอาศัยอยู่ พวกเราเองก็สามารถกลับไปมอบหมายงานที่ได้รับมา”
ทังหยางมองดูอยู่ในเหตุการณ์ รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง
เพราะว่าแม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบคนนี้บอกว่าเป็นราชโองการของฮองเฮา พวกเขาที่เป็นขุนนางไหนเลยจะสามารถขัดราชโองการของ
ฮองเฮาได้
เพียงแต่ ถ้าหากปล่อยให้พวกเขาตรวจค้นจวนเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการเสียหน้าจวนอ๋องฉู่ ยังทำให้อ๋องชินชุนอึดอัดใจด้วย
และองค์รัชทายาทก็ไม่อยู่เสียด้วย ในจวนไร้เจ้านาย พูดอะไรไม่ได้เลย
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบมองไปยังทังหยาง “เอ๋ นี่มันอะไรกัน ลำบากใจขนาดนั้นเชียว ในจวนอ๋องฉู่ยังบังอาจมีคนที่ไม่เคารพราชโองการของฮองเฮาด้วยหรือ”
คำหนึ่งก็ราชโองการของฮองเฮาสองคำก็ราชโองการของฮองเฮา ทำให้ทังหยางรู้สึกลำบากใจจริงๆ ทังหยางประสานมือขึ้นพูดว่า“แม่นมท่านนี้ ฮองเฮามีราชโองการ ตามหลักแล้วขุนนางอย่างพวกเราไม่ควรจะขัดขวาง แต่ว่า พระชายารัชทายาทกำลังไม่สบาย พักฟื้นอย่างสงบอยู่ในลานด้านหลัง ถ้าหากมีการตรวจค้นจวน เกรงว่าจะเป็นการรบกวนให้นางต้องตื่นตกใจ”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “เอ๋ อ๋องชินชุนคงไม่ได้อยู่ในเรือนเดียวกับพระชายารัชทายาทกระมัง ทำไมการตรวจค้นห้องรับแขกของอ๋องชินชุนจึงกระทบต่อพระชายารัชทายาทได้ ต่างก็พูดกันว่าหลังจากที่รัชทายาทสร้างผลงานแล้วก็หยิ่งยโสโอหังไม่เห็นหัวใคร ตอนนี้เห็นแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริง แม้แต่บ่าวรับใช้ในจวนคนหนึ่งยังกล้าขัดราชโองการฮองเฮา”
“ฮองเฮามีราชโองการ ก็เชิญเอาราชโองการออกมา”นอกประตูมีเสียงใสกังวานดังขึ้น จากนั้น เงาร่างสีขาวที่อยู่ภายใต้การประคับประคองของอะซี่กับหมันเอ๋อ ค่อยๆเดินเข้ามา ด้านหลังยังมีแม่นมสี่ตามมาด้วย
ทังหยางเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความดีใจ ทำให้น้ำเสียงสะอึกสะอื้นขึ้นมา “พระชายารัชทายาท”
“พี่สะใภ้ห้า”สายตาของหยู่เหวินเทียนก็มีแต่ความดีใจอย่างลิงโลด
หยวนชิงหลิงหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก หลังจากที่ยืนอย่างมั่นคงแล้วก็หันไปพยักหน้าเบาๆกับทังหยางและหยู่เหวินเทียน นางดูอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง เสื้อที่หลวมโคร่งปิดบังหน้าท้องที่นูนขึ้นมา การเคลื่อนไหวก็ยากลำบากมาก
อะซี่กับหมันเอ๋อประคองนางให้นูงลง ใบหน้าของทั้งสองมีน้ำตาแห่งความดีใจที่ยากจะซ่อนเอาไว้ได้ ต่างก็ยืนอยู่อย่างพร้อมเพรียงกันทั้งซ้ายขวา
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบรู้สึกคาดไม่ถึง ไหนบอกว่าพระชายารัชทายาทสลบไสลแล้วมิใช่หรือ ทำไมจึงตื่นขึ้นมาแล้ว
“เจ้าเป็นคนในวังของฮองเฮาหรือ”หยวนชิงหลิงมองนางและถามขึ้น
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบเดินเข้าไปข้างหน้าย่อตัวคำนับ “ข้าน้อยคำนับพระชายารัชทายาท ”
แม่นมสี่ใบหน้าเย็นชา พูดเสียงดุดันว่า “คุกเข่าลง”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบนิ่งอึ้ง พูดเสียงเรียบๆว่า “ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักในวังหลัง ไม่จำเป็นต้องคำนับอย่างเต็มพิธีการ อีกอย่าง ข้าน้อยเป็นคนในวังของฮองเฮา เป็นแม่นมชั้นรอง”
แม่นมสี่พูดอย่างโมโหว่า “บ่าวรับใช้ก็คือบ่าวรับใช้ ต่อหน้าเจ้านาย ยังจะพูดถึงชั้นอะไรกัน เป็นไปได้หรือที่ต่อหน้าองค์ฮ่องเต้ ก็ต้องพร่ำบอกว่าเจ้ามีตำแหน่งชั้นอะไรก่อนค่อยคำนับ”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบได้ยินนางเอ่ยถึงฮ่องเต้ แม้จะไม่ยินดี ก็ได้แต่คุกเข่าลง “ข้าน้อยคำนับพระชายารัชทายาท ”
หยวนชิงหลิงรู้สึกโมโหนางที่เมื่อครู่ทำอำนาจบาตรใหญ่ แม้จะไม่ชอบเอะอะอะไรก็ให้คนคุกเข่า แต่ก็ยังคงอาศัยอำนาจน่าเกรงขามของแม่นมสี่ที่แสดงออกไป นางถามขึ้นมาว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า จะตรวจค้นจวนอ๋องฉู่หรือ”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบได้ยินน้ำเสียงของหยวนชิงหลิงที่ดูอบอุ่น จึงพูดว่า “พระชายารัชทายาท ข้าน้อยได้รับราชโองการมาจากฮองเฮา”
“ราชโองการเล่า”หยวนชิงหลิงถาม
“นี้เป็น การรับสั่งปากเปล่า”
“จะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าไม่ได้ปลอมแปลงคำสั่งมา”หยวนชิงหลิงพูดเสียงเรียบ
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบเงยหน้าขึ้นพูดว่า “มีทหารรักษาพระองค์เป็นพยาน พวกเขาล้วนได้ยินกันถ้วนหน้า”
มีทหารรักษาพระองค์หลายนายยืนออกมา “พระชายารัชทายาท พวกกระหม่อมต่างก็ได้ยินรับสั่งของฮองเฮา ทรงให้อ๋องชินชุนส่งมอบของที่ขโมยไปจากองค์ชายแปดจริงพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าขโมยของอะไรของน้องแปด”หยวนชิงหลิงถามหยู่เหวินเทียน
หยู่เหวินเทียนพูดอย่างลำบากใจว่า“พี่สะใภ้ห้า ข้าไม่ได้ขโมย เป็นพี่แปดที่มอบให้ข้าเอง ”
หยวนชิงหลิงยิ้มบางๆ ส่งสายตาปลอบใจให้เขา จากนั้นก็มองไปทางแม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบ “ฮองเฮาให้เขาส่งมอบของที่ขโมยมาจากองค์ชายแปด แต่เขาไม่เคยขโมยของขององค์ชายแปด บางทีฮองเฮาอาจถูกคนอื่นหลอกลวง ส่วนการตรวจค้นจวนอ๋องฉู่……”
ทันใดนั้นสีหน้าของหยวนชิงหลิงก็เย็นชาขึ้นมา พูดด้วยเสียงดุว่า “ใครใช้ให้พวกเจ้าบังอาจกำเริบนัก ถึงกับกล้าตรวจค้นจวนขององค์รัชทายาท ฮองเฮาเป็นคนสง่างามมีเหตุผล ไม่มีทางที่จะใช้ให้พวกเจ้าทำเรื่องหยามเกียรติรัชทายาทเช่นนี้อย่างเด็ดขาด เป็นความคิดของใครกันแน่ สารภาพความจริงออกมา ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบคิดไม่ถึงว่าหยวนชิงหลิงจะเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วเช่นนี้ นางลังเลอยู่ชั่วครู่ “เรื่องนี้ ความหมายของฮองเฮาไม่ได้ต้องการจะตรวจค้นจวนอ๋องฉู่ ฮองเฮาเพียงต้องการให้อ๋องชินชุนส่งคืน……”
หยวนชิงหลิงตัดบทคำพูดของนาง “เมื่อครู่อ๋องชินชุนบอกไปแล้ว ไม่เคยขโมยสิ่งของใดๆทั้งสิ้น เจ้ากลับไปรายงานฮองเฮาตามคำพูดของเขาก็พอ
“จะขโมยหรือไม่ ก็ไม่สามารถฟังที่อ๋องชินชุนพูดฝ่ายเดียวได้”แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบยังคงไม่พอใจ พูดตอบโต้กลับไป
แม่นมสี่หัวเราะเสียงเย็นหนึ่งเสียง“ถ้าไม่ฟังคำพูดของอ๋องชินชุน แล้วให้ฟังเจ้าหรืออย่างไร เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบทำสีหน้าเย็นชา “ข้าน้อยไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นใคร ข้าน้อยเป็นคนในวังของฮองเฮา ย่อมตั้งทำตามคำสั่งของเจ้านาย
“เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ในวังของฮองเฮา อ๋องชินชุนเป็นลูกชายของฮ่องเต้เชียวนะ ทำไม บ่าวรับใช้ในวังของฮองเฮาน่าเกรงขามกว่าลูกชายของฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ ”หมันเอ๋อฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว พูดประชดขึ้นเสียงเย็น
อะซี่ได้ยินหมันเอ๋อก็ปริปากพูดแล้ว ทันใดนั้นก็เลิกแขนเสื้อขึ้นยกมือชี้ไปทางแม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบครู่หนึ่ง “เจ้าจะไปไม่ไป ไม่ไปข้าจะตบหน้าเจ้าให้คว่ำ”
แม่นมผู้ดูแลรับผิดชอบตกใจจนล้มไปด้านหลัง ศีรษะโขกไปกับพื้นจนเกิดเสียง“โป๊ก”ดังขึ้นหนึ่งเสียง รีบลุกขึ้นมา ทั้งอายทั้งโมโหแต่ก็ไม่กล้าจะแสดงอารมณ์ออกมา ได้แต่กัดฟันตัวเอง “ได้ ในเมื่อพระชายารัชทายาทปกป้องอ๋องชินชุนขนาดนี้ ประเดี๋ยวทางด้านองค์ชายแปดอาละวาดจนเกิดเรื่องขึ้นมา อย่าหาว่าข้าน้อยไม่เตือน ”
พูดจบ ก็ย่อตัวคำนับอย่างไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่งและจากไป
ทหารรักษาพระองค์ก็คำนับต่อหยวนชิงหลิง หนึ่งในนั้นพูดว่า “เห็นพระชายารัชทายาทดีขึ้นแล้ว กระหม่อมก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งพระชายารัชทายาทโปรดรักษาตัวด้วย กระหม่อมทูลลา”
“ทุกท่านเดินทางปลอดภัย”หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆ