บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 914 ล้างมลทินจากการเป็นขโมย
และในตอนนี้ หรงเยว่เรียกอยู่ตรงหน้าประตูว่า “อะซี่ หมันเอ๋อ พวกเจ้ารีบมา”
ทั้งสองคนหันมาตอบ เดินผ่านไหล่แม่นมฉินออกไป
แม่นมฉินนิ่งอึ้ง หันไปมองดูเงาหลังของหมันเอ๋อกับอะซี่ แววตาลึกซึ้ง
ตอนที่หันกลับมา นางถามฉี่หลอว่า “แม่นาง สาวใช้สองคนเมื่อกี้นั่น เป็นคนของจวนไหนหรือ?”
“เจ้าหมายถึงอะซี่กับหมันเอ๋อหรือ?” ฉี่หลอยืนพร้อมตรงถามขึ้น
“ใช่ หมันเอ๋อ……” ปากของนางพูดชื่อนี้ขึ้นมา แววตาแลดูเศร้าเล็กน้อย
“หมันเอ๋อเป็นทาสหนานเจียง ต่ำต้อยอย่างมาก รับใช้ทั่วทุกจวน ทำงานหนัก ใครๆก็สามารถใช้งานได้” ฉี่หลอหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “แต่นางก็สามารถทำได้เพียงงานหนัก อะไรก็ทำไม่เป็น มักทำให้พวกเจ้านายโกรธ ถูกทุบตีไม่น้อย”
“ทุบตี?” สีหน้าแม่นมฉินตึงเครียด
“ไม่ใช่หรือ?” ฉี่หลอมองไปรอบๆ เขาลดเสียงลงและยิ้มพร้อมพูดขึ้นด้วยเจตนาร้ายว่า “หมันเอ๋อคนนี้ สมดังชื่อ มีแรงเยอะ ทนต่อการทุบตี ตอนที่พวกเจ้านายไม่พอใจ ก็จะระบายกับนาง ทุบตีก่อน จากนั้นก็ค่อยให้ทานเนื้อ นางก็ดีใจอย่างที่สุดแล้ว ขอเพียงให้นางได้ทานเนื้อ เจ้าก็สามารถตบนางอย่างไรก็ได้”
แม่นมฉินยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาเบิกโต ยืนนิ่งอยู่กับที่สักพักเหมือนดั่งถูกฟ้าผ่า ท่าทียังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่แววตาประกายไปด้วยความโกรธ พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ใช่ ทาสหนานเจียง ล้วนถูกคนดูถูก”
นางค่อยๆหันตัวไป ร่างกายนางแลดูสั่นเทาเล็กน้อย ไหล่พยายามกดไว้นั้นแลดูแน่น
ภายในกองของฝากนั่น ค้นเจอทองคำสองพันตำลึง ที่ประทับตราสัญลักษณ์ท้องพระคลัง ยังมีสิ่งของขององค์ชายแปดบางส่วน แต่เมื่อตรวจสอบดูรายการบันทึกของฝากในจวน กลับไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา ของที่ถูกส่งมาจากแต่ละตำหนักแต่ละจวน ล้วนถูกบันทึกไว้ มีเพียงกองนี้ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้
คนของฮองเฮารีบพูดขึ้นว่า จะเข้าไปรายงานภายในวัง แต่คนของหวงกุ้ยเฟยกลับเอาเรื่องนี้ไปรายงานหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “นี่เป็นรายการของฝากที่คนในจวนบันทึกเอง ตรวจดูของฝากเสริมที่ส่งมาจากแต่ละตำหนักแต่ละวัง ว่าถูกต้องไหม”
แม่นมหวูที่ฮองเฮาส่งมา พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ได้ ในเมื่อจะตรวจสอบ ก็เร่งรีบหน่อย ของในวังสูญหาย ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ปกติในพระตำหนักฮองเฮา ก็มักจะมีสิ่งของสูญหายบ่อยครั้ง ล้วนได้ตรวจสอบดูแล้ว องค์ชายเก้าเป็นคนเอาไป”
ตอนนั้นฮองเฮาไม่ชอบหยู่เหวิยเทียนเลย ชอบหาความผิดแล้วก็ลงโทษเขา ความผิดฐานชอบลักเล็กขโมยน้อย เป็นการทำลายชื่อเสียงของคนได้อย่างมากที่สุด เลวร้ายอย่างไร้ปณิธาน เป็นสิ่งที่สกปรกที่สุด
ดังนั้น ตอนที่แม่นมหวูพูดประโยคนี้ออกมา คนภายในวังต่างก็เงียบ
หยวนชิงหลิงกวาดสายตามองดูแม่นมหวูอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ความผิดสถานหนักขนาดนั้นของหลอกุ้ยผินที่ผ่านมา สุดท้ายล้วนสืบกระจ่างแล้วว่าเป็นการเข้าใจผิด ตอนนี้เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่า ทองคำกับสิ่งของพวกนี้องค์ชายเก้าเป็นคนขโมย?”
แม่นมหวูเป็นคนของฮองเฮาที่เพิ่งย้ายมาใหม่ แน่นอนว่าต้องการที่จะทำผลงาน ได้ยินหยวนชิงหลิงพูดเช่นนี้ นางตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้ว่า “พระชายารัชทายาท ทองคำพวกนี้กับของเล่นขององค์ชายแปดล้วนค้นพบในจวนอ๋อง หากไม่มีคนขโมย จะมีเท้าเดินมาเองได้หรือ?”
“ข้าบอกแล้ว ในเมื่อจะตรวจสอบ ก็จะต้องสืบรู้ให้ชัดเจน ไปตรวจสอบ รีบไปตรวจสอบของฝากที่ส่งมาจากแต่ละตำหนักแต่ละจวน” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเข้ม
“ได้ ตรวจสอบ” แม่นมหวูยกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นข้าน้อยจะรอดู เชิญพระชายารัชทายาทรีบสั่งคนไปตรวจสอบ”
หยวนชิงหลิงเรียกแม่นมฉินมา พร้อมถามขึ้นว่า “รายการของฝาก ได้เก็บไว้ไหม?”
“เรียนพระชายารัชทายาท ของฝากที่ส่งมาจากแต่ละจวนแต่ละตำหนัก ข้าน้อยล้วนใส่ไว้ในกล่อง ท่านรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปเอามาเดี๋ยวนี้” แม่นมฉินพูดเสร็จ ก็รีบไปเอากล่องผ้ากล่องหนึ่งมาจากในตู้ เอามาเปิดออกตรงหน้าหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงตรวจด้วยตนเอง ดูอย่างละเอียดทีละอัน
แม่นมหวู ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบสบาย ท่าทีค่อนข้างหยิ่งผยอง
“หาเจอแล้ว” หยวนชิงหลิงเปิดใบรายการหนึ่งออก วางอยู่ตรงหน้าทุกคน พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม ส่งมาจากพระตำหนักฮองเฮา ทองสองพันตำลึง ไม่ได้บันทึกไว้ในรายการของฝากชิ้นใหญ่ แต่เขียนไว้กับรายการของฝากขององค์ชายแปด ดูสิ ตราประทับบนใบรายการเป็นตราประทับของฮองเฮา”
แม่นมหวูตกตะลึงอย่างมาก ขยับเข้าไปดูอย่างละเอียด บนใบรายการนั่นเขียนบันทึกทองสองพันตำลึงไว้จริงๆ ยังมีของฝากจากองค์ชายแปดส่วนหนึ่ง บนใบรายการมีตราประทับของฮองเฮา
ทองสามพันตำลึงที่หายจากท้องพระคลัง เจอทางด้านองค์ชายแปดหนึ่งพันตำลึง ที่นี่มีสองพันตำลึง งั้นจำนวนก็หาเจอครบแล้ว
สีหน้าของนางขาวซีด เป็นเช่นนี้ได้อย่าง?
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “กระจ่างชัดเจนแล้ว ข้าขอบพระทัยในความรักความเอ็นดูของอ๋องชุน แทนอ๋องชุน นางรู้ว่าอ๋องชุนเพิ่งออกมาจากวัง ไม่ว่าจะทางด้านไหนก็ต้องใช้เงินไม่น้อย ได้ทำหน้าที่ของแม่ ดูแลรักใคร่ลูกอย่างที่สุด ท่านใจดีมีเมตตายิ่งนัก ข้าซาบซึ้งใจอย่างมาก”
มีใบรายการกับตราประทับเป็นหลักฐาน แม่นมหวูพูดอะไรไม่ออก อธิบายอะไรก็ไม่ได้
คนของหวงกุ้ยเฟยหยิบใบรายการมา ยิ้มย่อตัวพร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นพวกข้าน้อยขอทูลลา”
“ค่อยๆกลับ” หยวนชิงหลิงยิ้มส่ง จากนั้นหันมามองดูแม่นมหวู พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นมยังไม่กลับหรือ?”
แม่นมหวูไม่กล้าวางอำนาจอีก มองดูหยวนชิงหลิงด้วยสายตาซับซ้อน ย่อตัวแล้วจากไป
หยวนชิงหลิงเก็บท่าที มองดูคนของในวังจากไป
หรงเยว่ขมวดคิ้วพูดขึ้นเยือกเย็นชาว่า “อะไรกัน? ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรือ”
“ช่างเถอะ ไม่หาคนไปทำอะไรสักอย่าง ชีวิตของนางก็คงดำรงต่อไปไม่ได้” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“ฮ่าๆ ตอนนี้ถึงเวลาที่นางจะต้อง อธิบายเกี่ยวกับที่มาของทองคำสามพันตำลึงแล้ว” หรงเยว่พูดขึ้น
หยวนชิงหลิงเดินออกไป มองดูหยู่เหวิยเทียนที่ยืนอยู่ภายใต้แสงแดดฤดูใบไม้ร่วง พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องเป็นกังวล ยังไงชีวิตของนางก็หดหู่ ให้นางหาอะไรทำบ้าง”
หยู่เหวิยเทียนมาทำความเคารพ พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบพระทัยพี่สะใภ้ทั้งสองที่ช่วยล้างมลทินให้กับข้า”
หยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างอบอุ่น พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า วันนั้นพี่ห้าของเจ้าเห็นทองคำพวกนั้น ในใจก็พอรู้แล้ว จึงเข้าวังไปหาเจ้าแปด ให้เขาเอาตราประทับแล้วก็เขียนใบรายการของขวัญนี้ แล้วก็รอให้นางมาเดือดร้อนเรื่องนี้”
“พี่แปด……” หยู่เหวิยเทียนพูดขึ้นด้วยแววตายากลำบากว่า “เขาล้วนรู้เรื่องนี้แล้วหรือ?”
“เขารู้ ที่จริงในใจของเขาล้วนเข้าใจ วางใจเถอะ ไม่มีใครแยกความเป็นพี่น้องระหว่างพวกเจ้าได้ ความรักในครอบครัวเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในโลก ตราบใดที่พวกเจ้ายังเชื่อใจกันและกัน ก็จะรักกันตลอดไป”
ฮองเฮาซื่อบื้อ ตอนนี้เจ้าเก้าได้ดีแล้ว นางไม่ควรอิจฉา ยิ่งไม่ควรสร้างความร้าวฉานระหว่างเขากับเจ้าแปดเพราะความอิจฉา เพราะยังไงวันหนึ่งพ่อแม่ก็ต้องไปก่อน นางไม่สามารถดูแลเจ้าแปดไปได้ตลอดชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเจ้าเก้ากับเก้าแปดนั้นลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน หากนางทำร้ายจิตใจเจ้าเก้า ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายจากแปดไม่ใช่หรือ?
เห็นที จะต้องหาคนไปพูดหลักการนี้ให้นางเข้าใจ ไม่เช่นนั้น ต่อไปเรื่องแบบนี้เกรงว่าจะเกิดขึ้นอีกไม่น้อย ใช่ว่าใครๆจะมีเวลาว่าง ต้องมาคอยระวังนางอยู่ทุกวัน
“หมันเอ๋อ เจ้าอยู่ช่วยเก็บจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย จัดการเรียบร้อยแล้วค่อยไปทานข้าว” หลังจากคลี่คลายปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรงเยว่หันไปสั่งหมันเอ๋อ
หมันเอ๋อพูดตอบว่า “ค่ะ”
“เอาล่ะ คนอื่นไปทานข้าวก่อนเถอะ ทานเสร็จแล้วค่อยมาเก็บ” หรงเยว่ปรบมือพูดขึ้น